ไม่ชอบ
+การเล่าเรื่อง ช่วงแรก พระเอกตามหาว่าตัวเองมาจากไหน ดูไม่มีเหตุผลและจุดหมายมากเลย หาปลาแล้้วก็ไปช่วยคน ไปทำงานร้านเบียร์ สุดท้ายขั้วโลก
คงเป็นเพราะการเล่าเรื่องถ้าเล่าเป็นสเต็ปให้รู้ความเป็นไปของพี่เอสในวัยเด็กที่รู้สึกแปลกแยก อยากรู้ความหมายของการมีชีวิตของเข้า
อยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง ช่วยใครได้บ้าง สามารถกลายเป็นใครได้บ้าง ดูจะเข้าท่ามากกว่า เหมือนช่วงที่บรู๊ซ เวนย์ กลายเป็นแบทแมน
ในแบทแมน บิกินส์ ถ้าเป็นสเต็ปแบบปกติ เด็กแปลกแยก > อยากพิสูจน์ตัวเงด้วยการทำดี > เห็นพ่อตาย > ออกหาความหมายของชีวิต
แบบนี้น่าจะสร้างอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้มากกว่า ภาคนี้เลยทำให้ผมเข้าใจตัวพี่เอสได้ค่อนข้างเอ๋อๆ พลอยลดความเข้มข้นของหนังด้วย
+ตัวละครไม่โดดเด่นเลย ตัวละครออกแบบมาดี นักแสดงก็เล่นดี แต่การเฉลี่ยบทเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมดูลอยๆ ลูอิสโผล่ แม่โผล่ บกโผล่
ทหารโผล่ ดร.โผล่ ผลุบๆโผล่ๆ เลยไม่ค่อยเห็นภาพรวมของตัวละครที่จะช่วยกันหยุดแผนร้ายหรือดูมีความหมายกับฉากมากมายนัก
+ความง่ายของเนื้อเรื่อง ตั้งแต่ไปเจอยานจนถึงเอเลี่ยนบุกโลก ไปเจอยานใต้น้ำแข็งแล้วยานก็หนีไปแถมหาม่เจอ สักหน่อยเอเลี่ยนปราศัย
ก็ดูคนไม่เดือดเนื้อร้อนใจกันเท่าไหร่ Jor-El ถ้าผมตามหาความเป็นมาของตัวเองขนาดนั้น ผมคงถามอะไรมากกว่าที่มีในหนัง
พี่เอสตัดสินใจมอบตัว น่าจะความเชื่อของพ่อที่สอนมาบวกกับคำพูดบาทหลวงแล้วตัดสินใจมอบตัว ตอนที่ส่งตัวร้ายลงขุมนรก
กุญแจที่เสียบเข้ารูไม่ได้ ผมก็นึกว่า Zod ทำลายระบบของ Jor-El แล้วผลกับเครื่องนี้ได้ แต่ก็แค่แกนมันเอียงเลยเสียบเข้าไม่ได้
เรื่องทำใจยากในการฆ่าตัวร้ายดูไม่มากพอที่จะเสียใจแล้วมาคิดอีกทีก็น่าจะหักคอมันไปตั้งแต่แรก ดูแล้วมันลุ้นได้ไม่สุดเลย
ชอบ
+นักแสดง บทอาจไม่โดดเด่นแต่ก็เล่นดีและมีสเน่ห์ให้เอาใจช่วยทั้ง Henry Cavill ไม่ได้โชว์อะไรมาก แต่ก็คิดว่าดีกว่าซุปคนก่อนที่นุ่มนิ่มๆ
Amy Adams น่ารั๊ก น่ารัก และตัวละครอื่นสมบทอื่นซึ่งก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องด้วย งาน
+ฉากแอคชั่น อัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นแบบไม่พักกันเลยทีเดียว ดูสนุกและลืมๆข้อเสียไปด้วยขณะดู เละดีแท้ Michael Bay กับอาหลองเห็นคงภูมิใจ แต่อย่างที่บอกลุ้นไม่ค่อยสุด
สรุปยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ รอดูภาคหน้าแล้วกันว่าจะไปได้แค่ไหน 6.5/10
วะฮ้าย! ไปดูมาแล้ว Man of Steel มาคุยกันๆ Spoil
+การเล่าเรื่อง ช่วงแรก พระเอกตามหาว่าตัวเองมาจากไหน ดูไม่มีเหตุผลและจุดหมายมากเลย หาปลาแล้้วก็ไปช่วยคน ไปทำงานร้านเบียร์ สุดท้ายขั้วโลก
คงเป็นเพราะการเล่าเรื่องถ้าเล่าเป็นสเต็ปให้รู้ความเป็นไปของพี่เอสในวัยเด็กที่รู้สึกแปลกแยก อยากรู้ความหมายของการมีชีวิตของเข้า
อยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้าง ช่วยใครได้บ้าง สามารถกลายเป็นใครได้บ้าง ดูจะเข้าท่ามากกว่า เหมือนช่วงที่บรู๊ซ เวนย์ กลายเป็นแบทแมน
ในแบทแมน บิกินส์ ถ้าเป็นสเต็ปแบบปกติ เด็กแปลกแยก > อยากพิสูจน์ตัวเงด้วยการทำดี > เห็นพ่อตาย > ออกหาความหมายของชีวิต
แบบนี้น่าจะสร้างอารมณ์ร่วมกับตัวละครได้มากกว่า ภาคนี้เลยทำให้ผมเข้าใจตัวพี่เอสได้ค่อนข้างเอ๋อๆ พลอยลดความเข้มข้นของหนังด้วย
+ตัวละครไม่โดดเด่นเลย ตัวละครออกแบบมาดี นักแสดงก็เล่นดี แต่การเฉลี่ยบทเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมดูลอยๆ ลูอิสโผล่ แม่โผล่ บกโผล่
ทหารโผล่ ดร.โผล่ ผลุบๆโผล่ๆ เลยไม่ค่อยเห็นภาพรวมของตัวละครที่จะช่วยกันหยุดแผนร้ายหรือดูมีความหมายกับฉากมากมายนัก
+ความง่ายของเนื้อเรื่อง ตั้งแต่ไปเจอยานจนถึงเอเลี่ยนบุกโลก ไปเจอยานใต้น้ำแข็งแล้วยานก็หนีไปแถมหาม่เจอ สักหน่อยเอเลี่ยนปราศัย
ก็ดูคนไม่เดือดเนื้อร้อนใจกันเท่าไหร่ Jor-El ถ้าผมตามหาความเป็นมาของตัวเองขนาดนั้น ผมคงถามอะไรมากกว่าที่มีในหนัง
พี่เอสตัดสินใจมอบตัว น่าจะความเชื่อของพ่อที่สอนมาบวกกับคำพูดบาทหลวงแล้วตัดสินใจมอบตัว ตอนที่ส่งตัวร้ายลงขุมนรก
กุญแจที่เสียบเข้ารูไม่ได้ ผมก็นึกว่า Zod ทำลายระบบของ Jor-El แล้วผลกับเครื่องนี้ได้ แต่ก็แค่แกนมันเอียงเลยเสียบเข้าไม่ได้
เรื่องทำใจยากในการฆ่าตัวร้ายดูไม่มากพอที่จะเสียใจแล้วมาคิดอีกทีก็น่าจะหักคอมันไปตั้งแต่แรก ดูแล้วมันลุ้นได้ไม่สุดเลย
ชอบ
+นักแสดง บทอาจไม่โดดเด่นแต่ก็เล่นดีและมีสเน่ห์ให้เอาใจช่วยทั้ง Henry Cavill ไม่ได้โชว์อะไรมาก แต่ก็คิดว่าดีกว่าซุปคนก่อนที่นุ่มนิ่มๆ
Amy Adams น่ารั๊ก น่ารัก และตัวละครอื่นสมบทอื่นซึ่งก็ช่วยเพิ่มสีสันให้กับเรื่องด้วย งาน
+ฉากแอคชั่น อัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นแบบไม่พักกันเลยทีเดียว ดูสนุกและลืมๆข้อเสียไปด้วยขณะดู เละดีแท้ Michael Bay กับอาหลองเห็นคงภูมิใจ แต่อย่างที่บอกลุ้นไม่ค่อยสุด
สรุปยังไม่ถูกใจเท่าไหร่ รอดูภาคหน้าแล้วกันว่าจะไปได้แค่ไหน 6.5/10