ความหมาย

                สิทธิ    หมายถึง อำนาจหรือผลประโยชน์ของของบุคคลที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง เช่น สิทธิเลือกตั้ง กฎหมายกำหนดให้บุคคลที่มีอายุ 18 ปี บริบูรณ์มีคุณสมบัติถูกต้องตามกฎหมายมีสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
               เสรีภาพ  หมายถึง ความีอิสระในการกระทำของบุคคลที่อยู่ในเขตของกฎหมาย เช่น เสรีภาพในการพูด การเขียน  เป็นต้น
               หน้าที่  หมายถึง ภาระรับผิดชอบของบุคคลที่จะต้องปฏิบัติ เช่น หน้าที่ของบิดามารดาที่มีต่อบุตร เป็นต้น
สิทธิและเสรีภาพของพลเมืองไทย
               1. สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย   การคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่น ห้ามทรมาน  ทารุน  กรรม หรือลงโทษด้วยวิธีโหดร้าน หรือไร้มนุษยธรรม
               2. สิทธิในครอบครัวและความเป็นอยู่ส่วนตัว  รัฐธรรมนูญห้ามกล่าวหรือเผยแพร่ข้อความหรือภาพไปสู่สาธารณชน  ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิในครอบครัว  เกียรติยศ  ชื่อเสียง  และความเป็นอยู่ส่วนตัว เช่น แอบถ่ายภาพผู้อื่นขณะอยู่ในบ้านแล้วนำไปพิมพ์จำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต
               3. เสรีภาพในเคหสถาน  บ้านเป็นสถานที่อยู่อาศัยสามารถอยู่อย่างสงบสุข  ปราศจากสิ่งใด ๆ มารบกวน แม้แต่อำนาจของรัฐ ผู้อื่นจะเข้าไปภายในบ้าน โดยผู้อาศัยในบ้านไม่ยินยอมไม่ได้
               4. เสรีภาพในการเดินทาง  และเลือกถิ่นที่อยู่  ประชาชนมีสิทธิเดินทางไปที่ใด  หรือตั้งถิ่นฐานอยู่ที่ใดในราชอาณาจักรก็ได้  และจะเนรเทศผู้มีสัญชาติไทยออกนอกราชอาณาจักร หรือห้ามผู้มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรไม่ได้  อย่างไรก็ดีอาจออกกฎหมายเฉพาะจำกัดเสรีภาพนี้              
               5. เสรีภาพในการสื่อสาร  รัฐธรรมนูญคุ้มครองการติดต่อสื่อสารถึงกัน โดยที่คนอื่นไม่อาจล่วงรู้ข้อความได้  ดังนั้น จึงห้ามตรวจ กัก เปิดเผยสิ่งสื่อสารที่มีผู้ติดต่อถึงกันหรือทำวิธีการต่าง ๆ เพื่อให้รู้ข้อความ เช่น เจ้าหน้าที่ของรัฐจะอ่านจดหมายที่ประชาชนส่งถึงกัน  หรือดักฟังโทรศัพท์ไม่ได้  เว้นแต่มีกฎหมายเฉพาะอนุญาตให้ทำได้
               6. เสรีภาพในการถือศาสนา   พลเมืองไทยมีเสรีภาพที่จะนับถือศาสนาใดก็ได้  แม้เป็นเพียงนิกาย หรือลัทธินิยมในทางศาสนา
               7.  สิทธิในการไม่ถูกเกณฑ์แรงงาน  รัฐธรรมนูญห้าเกณฑ์แรงงานประชาชนไปขุดคลอง  หรือก่อสร้าง  เว้นแต่มีกฎหมายเฉพาะอำนาจไว้  เช่น ป้องกันภัยพิบัติสาธารณะที่เกิดขึ้นอย่างฉุกเฉิน  หรือประเทศอยู่ในภาวะสงคราม
               8. เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น  ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ  ไม่ว่าโดยการพูด  หรือการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการ  เท่าที่ไม่ขัดต่อหน้าที่พลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
               9. เสรีภาพในทางวิชาการ  รัฐธรรมนูญส่งเสริมการทำงานวิชาการ โดยคุ้มครองการศึกษาอบรม  การเรียนการสอน การวิจัย หรือการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการ เท่าที่ไม่ขัดต่อหน้าที่พลเมืองดีหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
               10. เสรีภาพในการชุมนุม   การชุมนุมที่กระทำได้ต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

จุดเริ่มต้นของการใช้สิทธิ์ตามระบอบรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

กิจกรรมต่อมา

นี่คือชนวนเหตุใช่หรือไม่?

เวลา 17.00 น.   วันนี้(14 มิ.ย.)  กลุ่มหน้ากากขาวเชียงใหม่ ได้นัดหมายกันผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อมาชุมนุมที่สวนสุขภาพข้างมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะเดียวกัน วิทยุชุมชนหลายสถานีของกลุ่มเสื้อแดงเชียงใหม่ ก็ปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านคัดค้านกลุ่มหน้ากากขาว โดยกลุ่มเสื้อแดงได้รวมตัวกันมาประมาณ 300 คน นำรถติดเครื่องขยายเสียง 2 คัน มายึดพื้นที่ข้างสวนสุขภาพเอาไว้ ก่อนที่กลุ่มหน้ากากขาวจะมาชุมนุม โดยมี พ.ต.อ.ดุลย์เดชา อาชวะมิตระกูล ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พ.ต.ท.บุญรักษ์ คำประพันธ์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พูนทรัพย์ รวมสุข สว.สส. นำกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ คอยดูแลความเรียบร้อย ต่อมากลุ่มหน้ากากขาว ประมาณ 50 คน ได้เปลี่ยนสถานที่นัดหมาย เป็นหน้าฮิลไซด์ 2 คอนโด ถ.นิมมานเหมินทร์ ห่างจากสวนสุขภาพ ประมาณ 100 เมตร

เหตุการณ์ต่อมา

ก่อนหน้านั้น ตามคลิป

http://www.oknation.net/blog/canthai/2013/06/14/entry-3

โปรดอ่านที่ขีดเส้นใต้ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับบ้านเมืองนี้

จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น.กลุ่มเสื้อแดงได้เข้าปะทะกับกลุ่มหน้ากากขาวเชียงใหม่ โดยกลุ่มคนเสื้อแดงบางคนได้ใช้ไม้ไล่ตีคนที่สวมหน้ากากขาวอย่างป่าเถื่อนได้รับบาดเจ็บไปหลายราย จนเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายขึ้น    ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุไม่ได้มีการสะกัดกั้นแต่อย่างใด??

คลิปประกอบบางส่วน
http://www.tnews.co.th/html/clip/clip_201306140747_1816.flv

สิ่งที่เกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่ขัดต่อประชาธิปไตยดั่งที่แดงถามหา เราขอประนามต่อการกระทำเยี่ยงนี้กับกลุ่มคนดังในภาพเท่านั้น

สำหรับการแสดงออกต่อการกระทำที่ป่าเถื่อน เช่น

พระนักเทศน์ดังสุดทน!!! เสื้อแดง" ทำร้าย "หน้ากากขาว" ในตัวเมืองเชียงใหม่  เตือนระวังพลังสะท้อนกลับ  พร้อมระบุ ความดิบ ถ่อย เถื่อน นั้นไม่เคยเป็นคุณกับใคร???

วันนี้ ( 14 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ได้รุมทำร้ายหน้ากากขาว จนทำให้มีผู้บาดเจ็บจำนวน 4 คนนั้น เกี่ยวกับเรื่องนี้ ในเฟซบุคของ พระกิตติศักดิ์ กิตติโสภโณ  "Phra Kittisak Kittisobhano" ได้โพสต์แสดงความเห็นต่อเรื่องกล่าว โดยระบุว่า " ติดตามข่าว "เสื้อแดง" ทำร้าย "หน้ากากขาว" ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งไม่ว่าจะมีสาเหตุ หรือมาจากสาเหตุใดก็ตาม อยากฝากบอกไปถึง "คนใหญ่คนโตเสื้อแดง" ว่า หากท่านไม่เร่งพิจารณาปรากฏการณ์ประเภทนี้อย่างจริงจัง ในที่สุด "พลังสะท้อนกลับ" จะย้อนมารบกวน "เป้าหมาย" ของท่าน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายจริง หรือเป้าหมายลวง เป้าหมายดี หรือเป้าหมายร้าย; ความดิบ ถ่อย เถื่อน นั้นไม่เคยเป็นคุณกับใคร และไม่เคยมีความถูกต้องดีงามใดๆ ที่จะสามารถสร้างขึ้นได้ด้วยความดิบ ถ่อย เถื่อน เช่นที่มักจะเกิดขึ้นถี่ๆ และรุนแรงขึ้น นับตั้งแต่ฝ่าย "เสื้อแดง" มีอำนาจรัฐอยู่ในมือ. #บันทึกปรากฏการณ์"

หวัดดีทุกท่าน

สงสัยแดงที่ชั่วๆ คงใกล้แล้วมั้ง หมายถึงรัดบานนะเฟ้ยยยย

ทำไมเด็กช่างมันถึงตีกันก็ไม่ต้องสงสัยแล้ว มันเป็นนิสัยติดตัวคนบางประเภทนั่นแหละ

ถ้าตำรวจห้ามเสื้อแดงไม่ได้ ผมว่าต่อไปการชุมนุมต้องเตรียมอุปกรณ์ป้องกันตัวไปด้วยแล้วล่ะ

นั่นมันแดงเทียมครับ พวกฝ่ายตรงข้าม จัดจ้างมาทำการจัดฉาก แดงแท้ เครพทุกๆคนที่จะัออกแสดงความคิดเห็น
ทางประชาธิปไตยในทุกๆด้าน   พวกนี้แดงเทียม แดงเก้ มั่วซั่วทั้งนั้นครับ ชายชุดดำปลอมตัวมา

คือยังไงที่เห็นมันก็แดงเก้ครับ แดงปลอม

































แต่ สันดานที่ทำลงไปอ่ะ   แดงแท้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!