"การลดราคารับจำนำทำให้ชาวนาได้เงินลดลงไปอีก แต่ค่าใช้จ่ายในโครงการยังเท่าเดิม ซึ่งเท่ากับว่าส่วนที่เสียค่าโง่ยังไม่ได้ลดลง
การแก้ไขโครงการรับจำนำข้าวจะต้องหาทางออกที่ดี อยากให้ใช้สมองคิดให้มากกว่านี้" ม.ร.ว.ปรีดิยาธร กล่าว

โครงการจำนำข้าวขาดทุนรวมปีละประมาณ 2.1 แสนล้าน / ปี แบ่งเป็น
1. ชาวนาจะได้ประโยชน์ประมาณ 90,000 ล้านบาท     
2. เป็นค่าดำเนินการและทุจริตประมาณ 40,000 ล้านบาท
3. เป็นค่าโง่จากการขายข้าวเก่าประมาณ 80,000 ล้านบาท
ดูรายละเอียดที่    http://ppantip.com/topic/30591032

แม้ว่าการทุจริตในโครงการจำนำข้าว จะเป็นปัญหาสำคัญซึ่งเกิดการทุจริตเกือบทุกขั้นตอน
แต่ปัญหาใหญ่ที่สุดคือ ค่าโง่ จากการเอาข้าวมาเก็บไว้เยอะๆ แล้วขายไม่ได้ เพราะรัฐไม่มีความสามารถในการขาย

วิธีที่ดีที่สุดคือ ปล่อยให้มันเป็นไปตามกลไกตลาด ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตต่อไร่ บริหารจัดการน้ำให้ดี
ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว แต่ก็ไม่ทันใจรัฐบาลที่ต้องการคะแนนเสียง
แต่ถ้าจะลากโครงการจำนำต่อไป ก็เป็นปัญหาใหญ่ต่องบประมาณ และจะกระทบต่อโครงการอื่นๆของรัฐบาลด้วย

การแก้ปัญหาระยะสั้นมีประเด็นสำคัญที่ต้องยึดถือไว้ 2 ข้อ
1. ชาวนาได้ประโยชน์เท่าเดิม
2. ให้การขายข้าวเป็นไปตามกลไกตลาด
ผมอยากเสนอว่า ในเมื่อรู้ว่าชาวนาได้กำไรประมาณ 3,000 บาท / ตัน ก็ให้ชาวนาขายข้าวให้โรงสีในราคาตลาดตามปกติ
ปล่อยให้กลไกตลาดทำงานไป เมื่อชาวนาขายข้าวก็ให้โรงสีออกใบเสร็จรับรอง แล้วเอาใบเสร็จไปเบิกเงินกับรัฐ ที่ราคาตันละ 3,000 บาท
ถ้าข้าวเปลือกทั้งหมดมี 30 ล้านตัน x 3,000 = 90,000 ล้านบาท ชาวนาได้ประโยชน์เท่าเดิม แต่รัฐขาดทุนน้อยลงมาก
วิธีนี้อาจไม่ได้แก้ปัญหาการทุจริต แต่ก็ไม่ต้องเสียค่าโง่ แต่ถ้าคุณมีวิธีที่ดีกว่าก็ขอให้เสนอมาครับ