เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - เจ้าพ่อสื่อสารมวลชนชื่อก้องโลกวัย 82 ปี รูเพิร์ต เมอร์ด็อก ได้ยื่นฟ้องขอหย่าขาดกับ นางเวนดี้ เติ้ง เมอร์ด็อก ศรีภรรยาเชื้อสายจีน วัย 44 ปี เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากอยู่กินกันมาตั้งแต่ ปี 1999 โดยอ้างเหตุผล มีทัศนคติในการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันเกินไป จึงเป็นเหตุให้ชีวิตคู่ล่มสลาย
ซีอีโอผู้มีอิทธิพลในวงการสื่อสารมวลชนของโลกคนดังเชื้อสายออสเตรเลียของกลุ่ม “นิวส์ คอร์ป” ตกเป็นข่าวว่า เขาตัดสินใจฟ้องหย่าจาก นางเติ้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเอกสารฟ้องหย่าซึ่งมีความยาว 1 หน้ากระดาษได้ถูกส่งถึงศาลสูงรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯในย่านแมนฮัตตันแล้ว ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (13) ที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกของนิวส์ คอร์ป ก็ออกมายืนยันความถูกต้องของข่าวดังกล่าว โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม มีเพียงการยืนยันว่า การหย่าร้างจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานและกิจการของกลุ่มนิวส์ คอร์ป ที่เป็นหนึ่งในองค์กรสื่อที่ใหญ่ที่สุดของโลก
การตัดสินของเมอร์ด็อก ในการยื่นฟ้องหย่าจากภรรยาสาวเชื้อสายจีนซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 3 ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่ทางนิวส์ คอร์ปจะมีการแยกกิจการเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ดูแลธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย กับส่วนที่โฟกัสงานทางด้านสถานีโทรทัศน์และธุรกิจภาพยนตร์
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000071898
“รูเพิร์ต เมอร์ด็อก” เจ้าพ่อสื่อโลก ฟ้องหย่าภรรยาสาวเชื้อสายจีน อ้างเหตุ “เข้ากันไม่ได้” หลังอยู่กินเกือบ 14 ปี
ซีอีโอผู้มีอิทธิพลในวงการสื่อสารมวลชนของโลกคนดังเชื้อสายออสเตรเลียของกลุ่ม “นิวส์ คอร์ป” ตกเป็นข่าวว่า เขาตัดสินใจฟ้องหย่าจาก นางเติ้ง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเอกสารฟ้องหย่าซึ่งมีความยาว 1 หน้ากระดาษได้ถูกส่งถึงศาลสูงรัฐนิวยอร์กของสหรัฐฯในย่านแมนฮัตตันแล้ว ตั้งแต่วันพฤหัสบดี (13) ที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกของนิวส์ คอร์ป ก็ออกมายืนยันความถูกต้องของข่าวดังกล่าว โดยไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติม มีเพียงการยืนยันว่า การหย่าร้างจะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริหารงานและกิจการของกลุ่มนิวส์ คอร์ป ที่เป็นหนึ่งในองค์กรสื่อที่ใหญ่ที่สุดของโลก
การตัดสินของเมอร์ด็อก ในการยื่นฟ้องหย่าจากภรรยาสาวเชื้อสายจีนซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 3 ในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพียงสัปดาห์เดียวก่อนที่ทางนิวส์ คอร์ปจะมีการแยกกิจการเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่ดูแลธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงธุรกิจในประเทศออสเตรเลีย กับส่วนที่โฟกัสงานทางด้านสถานีโทรทัศน์และธุรกิจภาพยนตร์
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000071898