ประวัติของนายเอกยุทธ อัญชันบุตร ไม่ธรรมดาขอให้เหลือง หลากสี หน้าขาว วิเคราะห์ข้อมูลก่อนอย่าเพิ่งสรุปคดีด้วยตนเอง

ปิดตำนานนักธุรกิจจอมแฉฝีปากกล้า  เอกยุทธ อัญชันบุตร ที่กล้าท้าชนแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ทำให้คำว่า ว.5 "โฟร์ซีซัน" ลือลั่นทั่วประเทศ แต่สุดท้ายต้องมาตายน้ำตื้นด้วยการถูกคนขับรถลวงไปฆ่าเพื่อเงิน 5 ล้านบาท !!

เอกยุทธ อัญชันบุตร หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า จอร์จ ตัน นักธุรกิจการเงินและอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของเว็บไซต์ ไทยอินไซเดอร์ ซึ่งต่อต้านรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ในอดีตเคยต้องคดีแชร์ชาร์เตอร์ และกบฏ 9 กันยา เมื่อ พ.ศ. 2528 และหลบหนีคดีออกนอกประเทศ เพิ่งจะเดินทางกลับประเทศไทยหลังจากคดีหมดอายุความแล้ว


เอกยุทธ อัญชันบุตร เกิดเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2502 เป็นบุตรของ ร้อยโทแปลก อัญชันบุตร นายทหารคนสนิทจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ อดีตนายกรัฐมนตรี จบด้านเศรษฐศาสตร์การเงิน การคลังที่มหาวิทยาลัยแปซิฟิก ฮาวาย เมื่อเรียนจบ นายเอกยุทธ เริ่มทำธุรกิจซื้อขายคอมมอดิตี้ส์ และซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า จากนั้นจึงเปิดบริษัทนายหน้าซื้อขายคอมมอดิตี้ส์ และเงินตราต่างประเทศ ชื่อ "ชาร์เตอร์อินเวสต์เมนต์" เมื่อ พ.ศ. 2525

ช่วงรุ่งเรืองที่สุดของเอกยุทธอยู่ในช่วง พ.ศ. 2526 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศสูงถึงร้อยละ 12 เอกยุทธในวัยเพียง 24 ปี กู้เงินจากต่างประเทศด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ประมาณร้อยละ 3 มาฝากในสถาบันการเงินในประเทศเพื่อทำกำไร และนำกำไรที่ได้ไปลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม

ส่วนบริษัทนายหน้าของนายเอกยุทธเองก็มีเงินลงทุนจากนายทหาร นักการเมือง รวมถึงประชาชนทั่วไปเข้ามาร่วมลงทุนจำนวนมาก แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2527 รัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประกาศลดค่าเงินบาท และออก พระราชบัญญัติการกู้ยืมเงิน อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มีการดำเนินการทางกฎหมายกับเจ้าของแชร์ดังหลายราย อาทิ นางชม้อย ทิพยโส หรือ "แม่ชม้อย" หัวหน้าวงแชร์แม่ชม้อย รวมถึงนายเอกยุทธทำให้เขาต้องเดินทางออกนอกประเทศเมื่อกลางปี พ.ศ. 2528

ในระหว่างที่นายเอกยุทธ หลบคดีแชร์ชาร์เตอร์ อยู่ในประเทศเยอรมนีตะวันตก ก็ได้พบกับพันเอกมนูญ รูปขจร โดยการประสานงานกับกลุ่มผู้นำสหภาพแรงงาน และร่วมกันก่อการกบฏ 9 กันยา เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2528 เพื่อล้มล้างรัฐบาลพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ แต่ไม่สำเร็จ ในเหตุการณ์ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นผู้สื่อข่าวต่างประเทศชาวอเมริกันและชาวออสเตรเลีย หลังเหตุการณ์ นายเอกยุทธหลบหนีกลับไปอยู่ที่เยอรมนีตะวันตกอีกครั้ง แล้วย้ายไปกรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "จอร์จ ตัน"

นายเอกยุทธ อัญชันบุตร

กลับมาเป็นข่าวคราวอีกครั้งหลังกลับเมืองไทยได้ไม่นาน โดยในกลางปี พ.ศ. 2547 โดยร่วมกับกลุ่มประชาชนเพื่อชาติและราชบัลลังก์จัดปราศรัยขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขึ้นที่ท้องสนามหลวงในเดือนกันยายน จากนั้น นายเอกยุทธจึงได้ออกข่าวเป็นระยะ ๆ วิพากษ์และโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่อยมา และได้เปิดเว็บไซต์ส่วนตัวชื่อ ไทยอินไซเดอร์ อีกทั้งในบางครั้งบางช่วงก็ได้วิพากษ์และโจมตี นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำผู้หนึ่งของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยด้วย

นอกจากนั้นนายเอกยุทธ ยังมีคดีฟ้องหมิ่นประมาท พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับพวกรวม 5 คน กรณีที่มีความขัดแย้งกันก่อนหน้านั้น ถึงเรื่องกรณีทำร้ายร่างกายกันที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง อีกทั้งยังมีเรื่องที่นายเอกยุทธเป็นผู้เปิดเผยว่าได้พบเห็น นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ว่าไปพบปะกับนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายคน ทั้งที่อยู่ในเวลาราชการ อันเป็นข่าวครึกโครมอื้อฉาว เป็นที่มาของวลี "ว.5 โฟร์ซีซัน"

จนล่าสุด และเมื่อในวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2556 ญาติ ๆ ของนายเอกยุทธได้เข้าแจ้งความที่กองบังคับการปราบปราม ว่านายเอกยุทธหายตัวไปตั้งแต่เวลา 20.00 น. ของวันพฤหัสบดีที่ 6 มิถุนายน หลังจากนั้นทราบว่าในวันที่ต่อมา นายเอกยุทธโทรศัพท์ติดต่อพี่สาว ให้นำเช็คเงินสดจำนวน 5 ล้านบาทไปให้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าพี่สาวได้พบกับนายเอกยุทธ หรือไม่ ก่อนหายตัวไปและไม่สามารถติดต่อได้

ทางญาติเดินทางไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของบริษัท ย่านทาวอินทาวน์ อันเป็นที่พักของนายเอกยุทธ เพื่อตรวจสอบภาพของนายเอกยุทธครั้งล่าสุด แต่ระบบเซิฟเวอร์ของกล้องวงจรปิดกลับถูกถอดออกไป ญาติจึงเกรงว่านายเอกยุทธอาจถูกลักพาตัว จึงเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง ก่อนที่จะเดินทางมาร้องเรียนดังกล่าว เพื่อให้ช่วยติดตามตัวนายเอกยุทธเพิ่มอีกทางหนึ่ง

ในที่สุดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 11 มิ.ย. คดีก็คลี่คลายเมื่อตำรวจเค้น นายสันติภาพ เพ็งด้วง คนขับรถของนายเอกยุทธจนรับสารภาพว่าเป็นมือฆ่า เนื่องจากต้องการชิงทรัพย์ 5 ล้านบาท และโกรธแค้นที่แฟนตนเองถูกนายเอกยุทธไล่ออกจากงาน

เป็นการปิดคดีอันโด่งดังอีกคดีของเมืองไทย ท่ามกลางความเคลือบแคลงสงสัยที่ยังติดอยู่ในใจหลายคน!!

http://news.sanook.com/1190935/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%A3-%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%9B-2-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%9E/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่