ตอนนี้ไปไหนๆ ใครๆ ก็พูดถึง "สร้อยฟ้า" จากละคร "คุณชายรัชชานนท์" ที่ "แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์" สวมบทบาทได้เนียนเหลือเกิน
ทั้งสีหน้า ท่าทาง ทั้งยังรวมไปถึง "ภาษาเวียง" ที่ใครได้ยินก็ทึ่ง ว่าคนกรุงแท้ๆไฉนถึงพูดอีสานได้ดีนัก
"ได้เพื่อนคุณแม่ช่วยค่ะ" สาววัย 24 ที่แม้จะเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ แต่ว่ามาเอาดีกับงานแสดงบอก
เล่าด้วยว่าก่อนจะมาเป็นสาวบ้านป่าผู้เก่งกล้าอย่างที่เห็นเธอต้องหัดอะไรหลายๆ อย่าง ภาษาอย่างที่บอกหนึ่งละ ขณะเดียวกันยังต้องเรียนรู้กิริยาห้าวๆ แข็ง กระด้าง รวมทั้งการแสดงบทบู๊
เทียบกับเรื่องอื่นๆ แล้ว นี่จึงเป็นงานที่หนักหนาสาหัสที่สุด
"ความจริงแต้วก็ไม่ได้เรียบร้อย เราไม่ได้หวานอะไรนะ" เธอบอก
ตอนนี้ไปไหนๆ ใครๆ ก็พูดถึง "สร้อยฟ้า" จากละคร "คุณชายรัชชานนท์" ที่ "แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์" สวมบทบาทได้เนียนเหลือเกิน
ทั้งสีหน้า ท่าทาง ทั้งยังรวมไปถึง "ภาษาเวียง" ที่ใครได้ยินก็ทึ่ง ว่าคนกรุงแท้ๆไฉนถึงพูดอีสานได้ดีนัก
"ได้เพื่อนคุณแม่ช่วยค่ะ" สาววัย 24 ที่แม้จะเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ แต่ว่ามาเอาดีกับงานแสดงบอก
เล่าด้วยว่าก่อนจะมาเป็นสาวบ้านป่าผู้เก่งกล้าอย่างที่เห็นเธอต้องหัดอะไรหลายๆ อย่าง ภาษาอย่างที่บอกหนึ่งละ ขณะเดียวกันยังต้องเรียนรู้กิริยาห้าวๆ แข็ง กระด้าง รวมทั้งการแสดงบทบู๊
เทียบกับเรื่องอื่นๆ แล้ว นี่จึงเป็นงานที่หนักหนาสาหัสที่สุด
"ความจริงแต้วก็ไม่ได้เรียบร้อย เราไม่ได้หวานอะไรนะ" เธอบอก
เพียงแต่ออกจะเป็นคนเนิบๆ "เป็นสบายชิลชิล" ไม่ได้ชอบออกกำลังกาย แต้วสาธยายถึงตัวเองแบบยิ้มๆ
ดังนั้นพอมาเป็น "สร้อยฟ้า" ที่เดี๋ยวต้องวิ่ง เดี๋ยวต้องปีน เดี๋ยวต้องบู๊จึง "ยากค่ะ ยาก"
"แต่เราก็ต้องพยายามสร้างความเชื่อตั้งแต่ตอนมาที่กอง ว่าเราเป็นสร้อยฟ้านะ เป็นลูกหัวหน้าหมู่บ้าน จะอ่อนแอไม่ได้"
ด้วยเหตุนี้พอผู้กำกับสั่งแอ๊กชั่น เธอก็เล่นเต็มที่ ก่อนจะกลับไปโอดโอยปวดเนื้อตัวตอนถึงบ้านอยู่เป็นประจำ
"แต้วกับสร้อยฟ้าจะเหมือนกันในเรื่องของความคิดมากกว่าค่ะ คือเป็นคนเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง เหมือนเราเชื่อว่าต้องเป็นแบบนี้ ก็ยากที่ใครจะมาเปลี่ยน"
"ไม่ได้เป็นสาวมั่น แต่ก็มีจุดยืนประมาณหนึ่ง"
และแน่นอนว่าไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่คนอื่นมอง-อันนี้เธอบอกพร้อมเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ
"เราก็มีมุมสนุกของเราบ้างเวลาอยู่กับเพื่อน"
แบบว่าเฮฮาไปตามประสาผู้หญิงทั่วไปนั่นล่ะ
ขณะเดียวกันก็ "คิดเยอะ"
"เราเป็นคนไม่ติดเพื่อน อยู่กับตัวเองได้ แล้วก็คิดโน่นคิดนี่ไป"
"บางทีไปทำงาน ไปถ่ายละคร ก็จะกลับมาคิดว่ามันดีหรือยัง ถามตัวเอง อยู่นิ่งๆ แล้วลองมองย้อนไป"
เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงต่อ
อย่างไรก็ดี ช่วงหลังๆ มานี่มีเวลาคุยกับตัวเองน้อยลง ด้วยการรับโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหลายเข้ามาในชีวิต รวมถึงการเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงที่ทำให้ต้องเจอกันเยอะ ต้องติดต่อกับผู้คนเป็นจำนวนมาก
แต้วเลยว่าทุกวันนี้คนที่มีโลกส่วนตัวสูงอย่างเธอจึงพยายามรักษาสมดุลระหว่างสิ่งที่ตัวเองเป็นและสิ่งที่ต้องเป็นเมื่ออยู่ในสังคม
เพื่อให้ "คนชอบความสบายใจ ชอบความที่ไม่ต้องพยายามเป็นใคร แล้วก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย" อย่างเธอมีความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่
"จุดยืนของเราคือ สบายใจตรงไหน เราก็ยืนตรงนั้น ถ้าไปยืนในจุดที่ไม่สบายใจ ก็ไม่เอาแล้ว ไม่โอเค"
ทุกวันนี้ยามที่ไม่ได้อยู่ในสปอตไลต์ "เราใช้ชีวิตเหมือนเราไม่ได้อยู่ในวงการเลย" แต้วบอกพลางหัวเราะเสียงใส
"เพราะถ้าให้แต้วเป็นซุปตาร์ก็เป็นไม่ได้นะ คงอึดอัด"
"คือมันก็ดีนะ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ไม่รู้สิ เรานึกภาพเราเป็นตรงนั้นไม่ออก ก็เลยเป็นของเราแบบนี้ พอมีงานแสดงเราก็ทำให้เต็มที่ ฟีดแบ๊กดีบ้างไม่ดีบ้าง ซึ่งก็ยอมรับทั้งคำติ และคำชม"
"เพราะบางทีเรามองเห็นตัวเองไม่ครบ ก็ต้องให้คนอื่นช่วยมองให้"
ถึงวันนี้แต้วบอกว่าเธออยู่ในวงการมาได้ 8-9 ปีแล้ว หากก็ยังรู้สึกว่ามีประสบการณ์ไม่มากพอ ทั้งไม่ได้เก่งกาจอะไร
"เลขปีมันดูเยอะ แต่เรารู้สึกว่าเรายังไม่เก่ง ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ"
"แต้วไม่ได้เป็นคนมีพรสวรรค์ขนาดนั้น มีสิ่งที่ต้องแก้อีกตั้งเยอะ เรียกง่ายๆเราไม่ได้ บอร์น ทู บี ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ"
แล้วรอดูว่าอนาคตไกลๆ จะเป็นอย่างไร
"แต้วกลัวเรื่องการวางเป้า มันเหมือนสร้างความกดดันหรือบางทีทำให้มีความคาดหวังสูงขึ้น แล้วถ้าผิดหวังมันก็เศร้า"
ด้วยเหตุนี้่สิ่งที่เธอเลือกทำแทนการวางเป้าคือ "จะพยายามเต็มที่" แล้วอีก 3 ปี 5 ปี คงได้คำตอบว่า อีก 10 ปีข้างหน้านักแสดงที่ชื่อแต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ จะเป็นอย่างไร
"การแสดงมันไม่สิ้นสุดหรอกค่ะ มันมีอะไรใหม่ๆ อีกเยอะ ท้าทายไปเรื่อยๆ ให้เราได้เรียนรู้ ท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง"
"แต่ก็จะทำเต็มที่"
พยายามอย่างที่เห็นใน"คุณชายรัชชานนท์" รวมถึง "เวียงร้อยดาว" ที่แสดงกับ "สมาร์ท-กฤษดา พรเวโรจน์" และ "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน" กับ "มาริโอ้ เมาเร่อ" ละครอีก 2 เรื่องที่รับไว้
"แต้วต้องพัฒนาอีกหลายๆ อย่างในตัวเอง"
"เพราะเราไม่ได้ บอร์น ทู บี มาเป็นอย่างนี้"
"เราจึงต้องพยายาม"
หน้า 24,มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371010442&grpid=01&catid=&subcatid= 
ที่"สร้อยฟ้า"สปีคภาษา"เวียง" ไฟแล่บ "แต้ว" ไม่ได้"บอร์น ทู บี" แต่นี่คือ"ความพยายาม"
ทั้งสีหน้า ท่าทาง ทั้งยังรวมไปถึง "ภาษาเวียง" ที่ใครได้ยินก็ทึ่ง ว่าคนกรุงแท้ๆไฉนถึงพูดอีสานได้ดีนัก
"ได้เพื่อนคุณแม่ช่วยค่ะ" สาววัย 24 ที่แม้จะเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ แต่ว่ามาเอาดีกับงานแสดงบอก
เล่าด้วยว่าก่อนจะมาเป็นสาวบ้านป่าผู้เก่งกล้าอย่างที่เห็นเธอต้องหัดอะไรหลายๆ อย่าง ภาษาอย่างที่บอกหนึ่งละ ขณะเดียวกันยังต้องเรียนรู้กิริยาห้าวๆ แข็ง กระด้าง รวมทั้งการแสดงบทบู๊
เทียบกับเรื่องอื่นๆ แล้ว นี่จึงเป็นงานที่หนักหนาสาหัสที่สุด
"ความจริงแต้วก็ไม่ได้เรียบร้อย เราไม่ได้หวานอะไรนะ" เธอบอก
ตอนนี้ไปไหนๆ ใครๆ ก็พูดถึง "สร้อยฟ้า" จากละคร "คุณชายรัชชานนท์" ที่ "แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์" สวมบทบาทได้เนียนเหลือเกิน
ทั้งสีหน้า ท่าทาง ทั้งยังรวมไปถึง "ภาษาเวียง" ที่ใครได้ยินก็ทึ่ง ว่าคนกรุงแท้ๆไฉนถึงพูดอีสานได้ดีนัก
"ได้เพื่อนคุณแม่ช่วยค่ะ" สาววัย 24 ที่แม้จะเรียนจบจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาฯ แต่ว่ามาเอาดีกับงานแสดงบอก
เล่าด้วยว่าก่อนจะมาเป็นสาวบ้านป่าผู้เก่งกล้าอย่างที่เห็นเธอต้องหัดอะไรหลายๆ อย่าง ภาษาอย่างที่บอกหนึ่งละ ขณะเดียวกันยังต้องเรียนรู้กิริยาห้าวๆ แข็ง กระด้าง รวมทั้งการแสดงบทบู๊
เทียบกับเรื่องอื่นๆ แล้ว นี่จึงเป็นงานที่หนักหนาสาหัสที่สุด
"ความจริงแต้วก็ไม่ได้เรียบร้อย เราไม่ได้หวานอะไรนะ" เธอบอก
เพียงแต่ออกจะเป็นคนเนิบๆ "เป็นสบายชิลชิล" ไม่ได้ชอบออกกำลังกาย แต้วสาธยายถึงตัวเองแบบยิ้มๆ
ดังนั้นพอมาเป็น "สร้อยฟ้า" ที่เดี๋ยวต้องวิ่ง เดี๋ยวต้องปีน เดี๋ยวต้องบู๊จึง "ยากค่ะ ยาก"
"แต่เราก็ต้องพยายามสร้างความเชื่อตั้งแต่ตอนมาที่กอง ว่าเราเป็นสร้อยฟ้านะ เป็นลูกหัวหน้าหมู่บ้าน จะอ่อนแอไม่ได้"
ด้วยเหตุนี้พอผู้กำกับสั่งแอ๊กชั่น เธอก็เล่นเต็มที่ ก่อนจะกลับไปโอดโอยปวดเนื้อตัวตอนถึงบ้านอยู่เป็นประจำ
"แต้วกับสร้อยฟ้าจะเหมือนกันในเรื่องของความคิดมากกว่าค่ะ คือเป็นคนเชื่อมั่นในความคิดตัวเอง เหมือนเราเชื่อว่าต้องเป็นแบบนี้ ก็ยากที่ใครจะมาเปลี่ยน"
"ไม่ได้เป็นสาวมั่น แต่ก็มีจุดยืนประมาณหนึ่ง"
และแน่นอนว่าไม่ได้เรียบร้อยอย่างที่คนอื่นมอง-อันนี้เธอบอกพร้อมเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ
"เราก็มีมุมสนุกของเราบ้างเวลาอยู่กับเพื่อน"
แบบว่าเฮฮาไปตามประสาผู้หญิงทั่วไปนั่นล่ะ
ขณะเดียวกันก็ "คิดเยอะ"
"เราเป็นคนไม่ติดเพื่อน อยู่กับตัวเองได้ แล้วก็คิดโน่นคิดนี่ไป"
"บางทีไปทำงาน ไปถ่ายละคร ก็จะกลับมาคิดว่ามันดีหรือยัง ถามตัวเอง อยู่นิ่งๆ แล้วลองมองย้อนไป"
เพื่อจะได้นำมาปรับปรุงต่อ
อย่างไรก็ดี ช่วงหลังๆ มานี่มีเวลาคุยกับตัวเองน้อยลง ด้วยการรับโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้งหลายเข้ามาในชีวิต รวมถึงการเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงที่ทำให้ต้องเจอกันเยอะ ต้องติดต่อกับผู้คนเป็นจำนวนมาก
แต้วเลยว่าทุกวันนี้คนที่มีโลกส่วนตัวสูงอย่างเธอจึงพยายามรักษาสมดุลระหว่างสิ่งที่ตัวเองเป็นและสิ่งที่ต้องเป็นเมื่ออยู่ในสังคม
เพื่อให้ "คนชอบความสบายใจ ชอบความที่ไม่ต้องพยายามเป็นใคร แล้วก็ใช้ชีวิตเรียบง่าย" อย่างเธอมีความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่
"จุดยืนของเราคือ สบายใจตรงไหน เราก็ยืนตรงนั้น ถ้าไปยืนในจุดที่ไม่สบายใจ ก็ไม่เอาแล้ว ไม่โอเค"
ทุกวันนี้ยามที่ไม่ได้อยู่ในสปอตไลต์ "เราใช้ชีวิตเหมือนเราไม่ได้อยู่ในวงการเลย" แต้วบอกพลางหัวเราะเสียงใส
"เพราะถ้าให้แต้วเป็นซุปตาร์ก็เป็นไม่ได้นะ คงอึดอัด"
"คือมันก็ดีนะ ไม่ใช่ไม่ดี แต่ไม่รู้สิ เรานึกภาพเราเป็นตรงนั้นไม่ออก ก็เลยเป็นของเราแบบนี้ พอมีงานแสดงเราก็ทำให้เต็มที่ ฟีดแบ๊กดีบ้างไม่ดีบ้าง ซึ่งก็ยอมรับทั้งคำติ และคำชม"
"เพราะบางทีเรามองเห็นตัวเองไม่ครบ ก็ต้องให้คนอื่นช่วยมองให้"
ถึงวันนี้แต้วบอกว่าเธออยู่ในวงการมาได้ 8-9 ปีแล้ว หากก็ยังรู้สึกว่ามีประสบการณ์ไม่มากพอ ทั้งไม่ได้เก่งกาจอะไร
"เลขปีมันดูเยอะ แต่เรารู้สึกว่าเรายังไม่เก่ง ยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกเยอะ"
"แต้วไม่ได้เป็นคนมีพรสวรรค์ขนาดนั้น มีสิ่งที่ต้องแก้อีกตั้งเยอะ เรียกง่ายๆเราไม่ได้ บอร์น ทู บี ก็ต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆ"
แล้วรอดูว่าอนาคตไกลๆ จะเป็นอย่างไร
"แต้วกลัวเรื่องการวางเป้า มันเหมือนสร้างความกดดันหรือบางทีทำให้มีความคาดหวังสูงขึ้น แล้วถ้าผิดหวังมันก็เศร้า"
ด้วยเหตุนี้่สิ่งที่เธอเลือกทำแทนการวางเป้าคือ "จะพยายามเต็มที่" แล้วอีก 3 ปี 5 ปี คงได้คำตอบว่า อีก 10 ปีข้างหน้านักแสดงที่ชื่อแต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ จะเป็นอย่างไร
"การแสดงมันไม่สิ้นสุดหรอกค่ะ มันมีอะไรใหม่ๆ อีกเยอะ ท้าทายไปเรื่อยๆ ให้เราได้เรียนรู้ ท้อบ้าง เหนื่อยบ้าง"
"แต่ก็จะทำเต็มที่"
พยายามอย่างที่เห็นใน"คุณชายรัชชานนท์" รวมถึง "เวียงร้อยดาว" ที่แสดงกับ "สมาร์ท-กฤษดา พรเวโรจน์" และ "รอยรักหักเหลี่ยมตะวัน" กับ "มาริโอ้ เมาเร่อ" ละครอีก 2 เรื่องที่รับไว้
"แต้วต้องพัฒนาอีกหลายๆ อย่างในตัวเอง"
"เพราะเราไม่ได้ บอร์น ทู บี มาเป็นอย่างนี้"
"เราจึงต้องพยายาม"
หน้า 24,มติชนรายวัน ฉบับวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1371010442&grpid=01&catid=&subcatid=