รายงานจาก อบีฮุรอยเราะห์ กล่าวว่า ท่านร่อซูล กล่าวว่า :
เมื่อสามีเรียกภรรยาให้ไปที่ที่นอน แต่นางไม่ยอมไปหาเขาคืนนั้น สามีนอนหลับไปด้วยความโกรธนาง เช่นนี้แล้ว มะลาอีกะห์จะสาปแช่งนางจนกระทั่งสว่าง
บันทึกโดย บุคคอรีย์ และ มุสลิม
(ในบุคคอรีย์ เล่ม 9 หน้า 258 ดูในมุสลิม หะดีษเลขที่ 1436 , 121 , 122)
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษนี้
1. ภรรยาจำเป็นจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามสามี เมื่อสามีเรียกให้ไปหาที่ที่นอน
2. ภรรยาจะต้องแสวงหาสิ่งที่จะทำให้สามีพึงพอใจ ตราบใดที่สิ่งนั้นไม่ผิดหลักการศาสนา
3. สามีมักจะมีความอดทน ในเรื่องงดร่วมเพศได้น้อยกว่าภรรยา
4. การขอดุอาอฺของบรรดามะลาอิกะห์นั้น อัลเลาะห์จะทรงรับไม่ว่าจะขอดุอาอฺให้ลงโทษ หรือขอดุอาอฺให้ตอบแทนผู้ทำดีก็ตาม
...................................................
รายงานจากอบี อาลี ฏ็อลกฺ อิบนิ อาลี ว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า :
เมื่อสามีเรียกภรรยาให้มาหา เพื่อให้ทำธุระให้เขา ภรรยาก็จงมาหาเขาเถิด ถึงแม้ว่ากำลังอยู่ที่เตาอบขนมปังก็ตาม
บันทึกโดยติรมิซีย์ และนะซาอีย์ ติรมิซีย์ กล่าวว่า หะดีษ หะซัน
(ดูในติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 1160)
คำอธิบาย
ความรู้สึกทางเพศนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ อัลเลาะห์ทรงมอบไว้ให้แก่ทุกๆคน อิสลามอนุญาตให้มีความสัมพันธ์ทางเพศได้เฉพาะชายหญิงที่สมรสกันอย่างถูกต้องตามหลักการศาสนาเท่านั้น และอิสลามให้สิทธิ์สามีจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับภรรยาได้ทุกเวลา คราใดที่เขามีความปรารถนา ภรรยาจะต้องสนองตอบตามต้องการ และภรรยาจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ยิ่งกว่าการงานที่กระทำอยู่ ถึงแม้ว่าเขากำลังปิ้งขนมปังอยู่บนเตาก็ตาม ก็จะต้องปล่อยไว้ก่อน ขนมปังจะไหม้ก็ไม่สำคัญ เพราะภรรยานั้นจะปล่อยให้สามีมีอารมณ์ โดยที่นางไม่สนองตอบไม่ได้
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษนี้
1. สิทธิ์ของสามีมีความสำคัญมาก ภรรยาต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับตอบสนองความปรารถนาของสามีอยู่เสมอ
2. ชอบให้ภรรยาปฏิบัติตามความพึงพอใจของสามี เพราะสามีนั้นเป็นผู้ที่อยู่ในฐานะสูงส่ง เป็นผู้ปกครองและดูแลครอบครัวของเขาให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
3. การงานแต่ละอย่างนั้น มีระดับความสำคัญเร่งด่วน แตกต่างกันออกไป สิ่งใดสำคัญกว่าให้รีบกระทำก่อนเสมอ
อย่าลืมนะครับ การมีภรรยาคนที่สองไม่ต้องขออนุญาติภรรยาคนรก
ถ้าดื้อ และไม่ยอม เสร้จแน่
บทเรียนภรรยาที่ดี
เมื่อสามีเรียกภรรยาให้ไปที่ที่นอน แต่นางไม่ยอมไปหาเขาคืนนั้น สามีนอนหลับไปด้วยความโกรธนาง เช่นนี้แล้ว มะลาอีกะห์จะสาปแช่งนางจนกระทั่งสว่าง
บันทึกโดย บุคคอรีย์ และ มุสลิม
(ในบุคคอรีย์ เล่ม 9 หน้า 258 ดูในมุสลิม หะดีษเลขที่ 1436 , 121 , 122)
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษนี้
1. ภรรยาจำเป็นจะต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตามสามี เมื่อสามีเรียกให้ไปหาที่ที่นอน
2. ภรรยาจะต้องแสวงหาสิ่งที่จะทำให้สามีพึงพอใจ ตราบใดที่สิ่งนั้นไม่ผิดหลักการศาสนา
3. สามีมักจะมีความอดทน ในเรื่องงดร่วมเพศได้น้อยกว่าภรรยา
4. การขอดุอาอฺของบรรดามะลาอิกะห์นั้น อัลเลาะห์จะทรงรับไม่ว่าจะขอดุอาอฺให้ลงโทษ หรือขอดุอาอฺให้ตอบแทนผู้ทำดีก็ตาม
...................................................
รายงานจากอบี อาลี ฏ็อลกฺ อิบนิ อาลี ว่า ท่านรอซูล กล่าวว่า :
เมื่อสามีเรียกภรรยาให้มาหา เพื่อให้ทำธุระให้เขา ภรรยาก็จงมาหาเขาเถิด ถึงแม้ว่ากำลังอยู่ที่เตาอบขนมปังก็ตาม
บันทึกโดยติรมิซีย์ และนะซาอีย์ ติรมิซีย์ กล่าวว่า หะดีษ หะซัน
(ดูในติรมิซีย์ หะดีษเลขที่ 1160)
คำอธิบาย
ความรู้สึกทางเพศนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติ อัลเลาะห์ทรงมอบไว้ให้แก่ทุกๆคน อิสลามอนุญาตให้มีความสัมพันธ์ทางเพศได้เฉพาะชายหญิงที่สมรสกันอย่างถูกต้องตามหลักการศาสนาเท่านั้น และอิสลามให้สิทธิ์สามีจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับภรรยาได้ทุกเวลา คราใดที่เขามีความปรารถนา ภรรยาจะต้องสนองตอบตามต้องการ และภรรยาจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้ยิ่งกว่าการงานที่กระทำอยู่ ถึงแม้ว่าเขากำลังปิ้งขนมปังอยู่บนเตาก็ตาม ก็จะต้องปล่อยไว้ก่อน ขนมปังจะไหม้ก็ไม่สำคัญ เพราะภรรยานั้นจะปล่อยให้สามีมีอารมณ์ โดยที่นางไม่สนองตอบไม่ได้
สิ่งที่ได้รับจากหะดีษนี้
1. สิทธิ์ของสามีมีความสำคัญมาก ภรรยาต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมสำหรับตอบสนองความปรารถนาของสามีอยู่เสมอ
2. ชอบให้ภรรยาปฏิบัติตามความพึงพอใจของสามี เพราะสามีนั้นเป็นผู้ที่อยู่ในฐานะสูงส่ง เป็นผู้ปกครองและดูแลครอบครัวของเขาให้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น
3. การงานแต่ละอย่างนั้น มีระดับความสำคัญเร่งด่วน แตกต่างกันออกไป สิ่งใดสำคัญกว่าให้รีบกระทำก่อนเสมอ
อย่าลืมนะครับ การมีภรรยาคนที่สองไม่ต้องขออนุญาติภรรยาคนรก
ถ้าดื้อ และไม่ยอม เสร้จแน่