ลีลาปัญญาชน ณ มหาวิทยาลัยรังสิต หน้ากากขาว
บทบาทของมหาวิทยาลัยรังสิต อันมี
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ทรงความหมายสูงยิ่งในทางการเมือง
อาจเพราะ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นนักการเมืองมาก่อน
ไม่เพียงแต่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังใหม่กับ นพ.กระแส ชนะวงศ์ ในห้วงประชาธิปไตยเบ่งบานหลังสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516
หากยังเคยขับเคี่ยวกับบุคคลระดับ นายธรรมนูญ เทียนเงิน มาแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ยังเคยมีบทบาทในพรรคเสรีธรรม พรรคชาติประชาธิปไตย พรรคกิจสังคม พรรคสามัคคีธรรม และฟื้นพรรคเสรีธรรมอีกครั้งหลังสถานการณ์เดือนพฤษภาคม 2535
ก่อนจะเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์
ยิ่งกว่านั้น ระหว่างอยู่พรรคประชาธิปัตย์ยัง
เคยอาสาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแล้ว
การเมืองเข้มข้น ฝังลึกในกระดูก
ถามว่าแล้วเหตุปัจจัยอันใดจึงมีบทสรุปว่า บทบาททางการเมืองของมหาวิทยาลัยรังสิต ยุค ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ทรงความหมาย
เห็นได้จาก
การเข้าร่วมกับกระแสอย่างคึกคัก เข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นกระแส
การปลุกแนวคิดชาตินิยมอันเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ไม่ว่าจะเป็นกระแส
การสวมใส่หน้ากากขาว
ถึงกับ
ประกาศแจกหน้ากากขาวในวันรับน้องใหม่
ถึงกับ
จัดเวทีทางการเมืองผ่านวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม อันมี ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดี ระดมคนหน้าเดิมๆ อย่าง นายสุริยะใส กตะศิลา อย่าง นายสำราญ รอดเพชร ขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียง
เดินหน้าหนุน หน้ากากขาว สะพรึบ
ในกาลอดีต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาจประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า ทุกตารางนิ้วของธรรมศาสตร์เปี่ยมด้วยเสรีภาพ
ก่อนหน้านี้ไม่นาน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ก็เคยเป็นกองหน้า
เห็นได้จากลีลาของ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เห็นได้จากการประกาศจัดตั้งของกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์จากปัญญาชนนักวิชาการหลายสถาบัน
เป้าหมายอยู่ที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพียงแต่เมื่อความเข้มข้นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผ่อนคลาย ความเข้มข้นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ผ่อนคลาย
รังสิต ก็เข้ามา แทนที่
บทบาทของมหาวิทยาลัยรังสิตในฐานะเป็น
กองหน้าในการชนกับรัฐบาลจึงน่าจับตาเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะมองผ่าน
ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ซึ่งเป็นอธิการบดี ไม่ว่าจะมองผ่าน
ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ซึ่งเป็นคณบดีคณะนวัตกรรมสังคม
เป็นบทบาทของเวที เป็น
บทบาทของฐานที่มั่น
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01EazJNemc1TlE9PQ==§ionid=
็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็
".....ถึงกับ
จัดเวทีทางการเมืองผ่านวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม อันมี ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดี ระดมคนหน้าเดิมๆ อย่าง
นายสุริยะใส กตะศิลา อย่าง นายสำราญ รอดเพชร ขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียง
เดินหน้าหนุน หน้ากากขาว สะพรึบ....."
เปิดหน้าออกมาให้หมด
จะได้ร่วมด้วยช่วยกัน...อวย.....
ใครเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย
ใครเป็นลิ่วล้อทาสเผด็จการที่ปล่อยไม่ไป
เมื่อเปิดหน้าออกมาก็เห็นกันแล้ว......ชัดเจน....
ข่าวสดอวย"ลีลาปัญญาชน ณ มหาวิทยาลัยรังสิต หน้ากากขาว"..เราก็มาร่วมอวย ม.รังสิตกันเต้อะ อย่าตกเทรนด์กันเรยยยย
บทบาทของมหาวิทยาลัยรังสิต อันมี ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดี ทรงความหมายสูงยิ่งในทางการเมือง
อาจเพราะ ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นนักการเมืองมาก่อน
ไม่เพียงแต่เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังใหม่กับ นพ.กระแส ชนะวงศ์ ในห้วงประชาธิปไตยเบ่งบานหลังสถานการณ์เมื่อเดือนตุลาคม 2516
หากยังเคยขับเคี่ยวกับบุคคลระดับ นายธรรมนูญ เทียนเงิน มาแล้ว
ยิ่งกว่านั้น ยังเคยมีบทบาทในพรรคเสรีธรรม พรรคชาติประชาธิปไตย พรรคกิจสังคม พรรคสามัคคีธรรม และฟื้นพรรคเสรีธรรมอีกครั้งหลังสถานการณ์เดือนพฤษภาคม 2535
ก่อนจะเข้าสู่พรรคประชาธิปัตย์
ยิ่งกว่านั้น ระหว่างอยู่พรรคประชาธิปัตย์ยังเคยอาสาชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน และ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มาแล้ว
การเมืองเข้มข้น ฝังลึกในกระดูก
ถามว่าแล้วเหตุปัจจัยอันใดจึงมีบทสรุปว่า บทบาททางการเมืองของมหาวิทยาลัยรังสิต ยุค ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ทรงความหมาย
เห็นได้จากการเข้าร่วมกับกระแสอย่างคึกคัก เข้มข้น
ไม่ว่าจะเป็นกระแสการปลุกแนวคิดชาตินิยมอันเกี่ยวกับปราสาทพระวิหาร ไม่ว่าจะเป็นกระแสการสวมใส่หน้ากากขาว
ถึงกับประกาศแจกหน้ากากขาวในวันรับน้องใหม่
ถึงกับจัดเวทีทางการเมืองผ่านวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม อันมี ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดี ระดมคนหน้าเดิมๆ อย่าง นายสุริยะใส กตะศิลา อย่าง นายสำราญ รอดเพชร ขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียง
เดินหน้าหนุน หน้ากากขาว สะพรึบ
ในกาลอดีต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อาจประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า ทุกตารางนิ้วของธรรมศาสตร์เปี่ยมด้วยเสรีภาพ
ก่อนหน้านี้ไม่นาน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ก็เคยเป็นกองหน้า
เห็นได้จากลีลาของ ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เห็นได้จากการประกาศจัดตั้งของกลุ่มสยามประชาภิวัฒน์จากปัญญาชนนักวิชาการหลายสถาบัน
เป้าหมายอยู่ที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เพียงแต่เมื่อความเข้มข้นของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ผ่อนคลาย ความเข้มข้นของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ผ่อนคลาย
รังสิต ก็เข้ามา แทนที่
บทบาทของมหาวิทยาลัยรังสิตในฐานะเป็นกองหน้าในการชนกับรัฐบาลจึงน่าจับตาเป็นพิเศษ
ไม่ว่าจะมองผ่าน ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ซึ่งเป็นอธิการบดี ไม่ว่าจะมองผ่าน ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ซึ่งเป็นคณบดีคณะนวัตกรรมสังคม
เป็นบทบาทของเวที เป็นบทบาทของฐานที่มั่น
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNM01EazJNemc1TlE9PQ==§ionid=
็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็็
".....ถึงกับจัดเวทีทางการเมืองผ่านวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม อันมี ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ดำรงตำแหน่งเป็นคณบดี ระดมคนหน้าเดิมๆ อย่าง นายสุริยะใส กตะศิลา อย่าง นายสำราญ รอดเพชร ขึ้นเวทีอย่างพร้อมเพรียง
เดินหน้าหนุน หน้ากากขาว สะพรึบ....."
เปิดหน้าออกมาให้หมด
จะได้ร่วมด้วยช่วยกัน...อวย.....
ใครเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย
ใครเป็นลิ่วล้อทาสเผด็จการที่ปล่อยไม่ไป
เมื่อเปิดหน้าออกมาก็เห็นกันแล้ว......ชัดเจน....