''เจค'' ศตวรรษ ดุลยวิจิตร แจงกรณี ''ภีม'' ภาคิน บวรศิริลักษณ์ ลูกชายออกมาแฉว่าไม่ยอมรับเป็นลูก เผยหากไม่ยอมรับคงไปทำแท้งตั้งแต่วันแรกแล้ว ส่วนที่บอกว่าไม่เคยให้ค่าเลี้ยงดูนั้นไม่เป็นเรื่องจริง เนื่องจากให้ผ่านอดีตผู้กำกับ ละครดังนำไปให้ หลังจากนี้ก็พร้อมช่วยเหลือเท่าที่ทำได้
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 2556 ดาราเจ้าบทบาท ''เจค'' ศตวรรษ ดุลยวิจิตร ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีที่ ''ภีม'' ภาคิน บวรศิริลักษณ์ ลูกชายที่เกิดกับอดีตนางแบบชื่อดัง ''แอน'' กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ ออกมาแฉว่าผู้เป็นพ่อว่า
ไม่รับผิดชอบและไม่เคยรับว่าตนเป็นลูก ซึ่งเรื่องนี้เจคว่า ถ้าหากไม่รับเป็นลูกคงเอาไปทำแท้งตั้งแต่วันแรกแล้ว ตนรับเป็นลูกทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าท้องกับตนจริงหรือไม่
''คือถ้าไม่นับเป็นลูกเค้าก็คงเกิดมาไม่ได้หรอก คงให้ไปทำแท้งตั้งแต่วันนั้นแล้ว เพราะว่านับตั้งแต่วันแรกที่แม่เค้าอุ้มท้องมา ผมก็รับแล้วก็ให้เค้าอุ้มท้องต่อ เพราะหลังจากที่เรามีอะไรกันแล้ว เค้าก็หายไปสามเดือน เค้าก็ท้องมา เราก็รับตั้งแต่
วันนั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่ได้สนใจว่าเค้าท้องจากใคร เพราะเค้าหายไปสามเดือน แล้วคุณโผล่มาแบบนี้ มีอะไรกันครั้งเดียว โผล่มาบอกว่าท้อง ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รับ แต่ผมก็รับ การตรวจดีเอ็นเอจะตรวจทำไม ถึงใช่หรือไม่ใช่ก็เป็นลูกผมตั้งแต่
วันแรกแล้ว เพราะผมประกาศตั้งแต่ผมเป็นพระเอกแล้ว ผมยอมเสียความเป็นพระเอกตรงนั้นไป เพราะตอนนั้นเราก็เป็นพระเอกอยู่ เราก็ไม่สนใจอะไรตรงนี้ ตอนที่เค้าคลอดมาเราก็เอาไปถ่ายแบบคู่กันด้วยทั้งสองคน ซึ่งผมก็งงเหมือนกันว่า
ไม่ยอมรับ เพียงแค่ไม่ไปออกรายการก็กลายเป็นว่าไม่ยอมรับ มันตลกอ่ะ''
"ถ้าหากว่าผมไม่ส่งเสีย ต้องถาม พี่มานพ สัมมาบัต อดีตผู้กำกับฯ ของดาราวีดีโอ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว คือเวลาเค้าจะขออะไร เค้าก็จะขอผ่าน พี่มานพ สัมมาบัต เราก็ให้ผ่านตรงนั้นไป คือเค้าขออะไรมาเราก็พร้อมหยิบยื่นให้"
เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าชีวิต ภีม-ภาคิน ลำบากเพราะต้องเลี้ยงหลายชีวิต เรื่องนี้เจคเผยว่า ก็คงจะลำบากอยู่ เพราะตอนที่ตนอยู่ก็ลำบากที่ต้องเลี้ยงดูนับสิบชีวิตเช่นกัน ตอกกลับ...ไม่ทำมาหากินกันเลยหรืออย่างไร
''มันก็น่าจะลำบากนะครับ เพราะว่าตอนที่ผมอยู่ด้วยก็ลำบากเหมือนกัน เพราะว่าผมต้องเลี้ยงดูเค้าเป็นสิบชีวิตในตอนนั้น และตอนนี้ผมก็คิดว่าสงสารภีม ที่ต้องดูแลเป็นสิบชีวิตเหมือนกัน ถามว่าเค้าไม่ทำมาหากินอะไรเลยเหรอ ต้องมาเกาะ
เด็กกินเหรอ ตั้งแต่สมัยพ่อจนถึงสมัยลูก ทำไมเค้าไม่ทำงานกัน เค้าไม่น่าน้อยใจเพราะว่าการเป็นเด็กเนี่ย จะมาหาพ่อแม่ พ่อแม่ยอมรับอยู่แล้ว แต่จะให้พ่อแม่ไปทำร้ายลูกนั้นมันยากมาก ผมส่งเสริมเค้าหากจะทำอะไร สร้างผลงานอะไรมากกว่าที่
จะมาพูดด่ากันมันไม่ดี''
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อถามว่าเคยใช้ชีวิตคู่ ''แอน'' กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ หรือไม่ เจคยอมรับว่าเคย แต่ไปกันไม่รอด
''มันไม่ได้เกิดจากการเป็นแฟนที่รักกันมาแล้วมาอยู่ด้วยกัน แต่มันเกิดจากการที่ผมรับเป็นพ่อตรงนั้น แล้วก็มาอยู่ด้วยกัน แล้วก็ไปกันไม่ได้''
ถามว่าได้รับผลกระทบกับข่าวนี้อย่างไรบ้าง เจคเผยว่า ผลกระทบคงจะเกิดกับแฟนตนมากกว่า ซึ่งเรื่องมันจบไปนานแล้วจะรื้อฟื้นขึ้นมาทำไม
"ข่าวนี้ไม่กระทบตัวผม แต่กระทบแฟนผม ซึ่งตอนนี้ก็ตั้งท้องเหมือนกัน คนจะมองว่าผมดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่เค้า ดีใจที่เค้าออกมา แต่ถ้าออกมาในด้านผลงานจะดีใจมากกว่า ไม่รู้จะรื้อฟื้นอะไร เรื่องมันจบไปยี่สิบกว่าปีแล้ว รื้อฟื้นให้มันได้
อะไรขึ้นมา คือ สงสารเด็กที่ไม่รู้เรื่องทั้งสองฝ่าย เค้าเป็นเหมือนผ้าขาว"
เมื่อถามว่าหากอีกฝ่ายจะมาขอความช่วยเหลือนั้น ยินดีหรือไม่ เจคเผยว่า ยินดีช่วยเท่าที่ช่วยได้ เพราะตอนนี้ตนก็มีครอบครัวใหม่มีภาระที่ต้องเลี้ยงดู
"หากจะมาขอค่าเลี้ยงดูก็มาถามแฟนใหม่ผม เพราะตอนนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียว ผมอยู่กับแฟนใหม่ผมแล้วก็มีลูกอีกสองคน มาขอให้ช่วยนั่นช่วยนี่หน่อยก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้" เจค-ศตวรรษ กล่าว
http://www.siamdara.com/hotnews/130610_25414.html
'ศตวรรษ''ซัดกลับ''ภีม''ไม่รับเป็นลูกทำแท้งไปแล้ว ต้องเลี้ยงดูญาติฝ่ายแอนนับสิบชีวิต
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มิ.ย. 2556 ดาราเจ้าบทบาท ''เจค'' ศตวรรษ ดุลยวิจิตร ได้เปิดเผยเกี่ยวกับกรณีที่ ''ภีม'' ภาคิน บวรศิริลักษณ์ ลูกชายที่เกิดกับอดีตนางแบบชื่อดัง ''แอน'' กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ ออกมาแฉว่าผู้เป็นพ่อว่า
ไม่รับผิดชอบและไม่เคยรับว่าตนเป็นลูก ซึ่งเรื่องนี้เจคว่า ถ้าหากไม่รับเป็นลูกคงเอาไปทำแท้งตั้งแต่วันแรกแล้ว ตนรับเป็นลูกทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าท้องกับตนจริงหรือไม่
''คือถ้าไม่นับเป็นลูกเค้าก็คงเกิดมาไม่ได้หรอก คงให้ไปทำแท้งตั้งแต่วันนั้นแล้ว เพราะว่านับตั้งแต่วันแรกที่แม่เค้าอุ้มท้องมา ผมก็รับแล้วก็ให้เค้าอุ้มท้องต่อ เพราะหลังจากที่เรามีอะไรกันแล้ว เค้าก็หายไปสามเดือน เค้าก็ท้องมา เราก็รับตั้งแต่
วันนั้นเป็นต้นมา ผมก็ไม่ได้สนใจว่าเค้าท้องจากใคร เพราะเค้าหายไปสามเดือน แล้วคุณโผล่มาแบบนี้ มีอะไรกันครั้งเดียว โผล่มาบอกว่าท้อง ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่รับ แต่ผมก็รับ การตรวจดีเอ็นเอจะตรวจทำไม ถึงใช่หรือไม่ใช่ก็เป็นลูกผมตั้งแต่
วันแรกแล้ว เพราะผมประกาศตั้งแต่ผมเป็นพระเอกแล้ว ผมยอมเสียความเป็นพระเอกตรงนั้นไป เพราะตอนนั้นเราก็เป็นพระเอกอยู่ เราก็ไม่สนใจอะไรตรงนี้ ตอนที่เค้าคลอดมาเราก็เอาไปถ่ายแบบคู่กันด้วยทั้งสองคน ซึ่งผมก็งงเหมือนกันว่า
ไม่ยอมรับ เพียงแค่ไม่ไปออกรายการก็กลายเป็นว่าไม่ยอมรับ มันตลกอ่ะ''
"ถ้าหากว่าผมไม่ส่งเสีย ต้องถาม พี่มานพ สัมมาบัต อดีตผู้กำกับฯ ของดาราวีดีโอ ซึ่งได้เสียชีวิตไปแล้ว คือเวลาเค้าจะขออะไร เค้าก็จะขอผ่าน พี่มานพ สัมมาบัต เราก็ให้ผ่านตรงนั้นไป คือเค้าขออะไรมาเราก็พร้อมหยิบยื่นให้"
เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าชีวิต ภีม-ภาคิน ลำบากเพราะต้องเลี้ยงหลายชีวิต เรื่องนี้เจคเผยว่า ก็คงจะลำบากอยู่ เพราะตอนที่ตนอยู่ก็ลำบากที่ต้องเลี้ยงดูนับสิบชีวิตเช่นกัน ตอกกลับ...ไม่ทำมาหากินกันเลยหรืออย่างไร
''มันก็น่าจะลำบากนะครับ เพราะว่าตอนที่ผมอยู่ด้วยก็ลำบากเหมือนกัน เพราะว่าผมต้องเลี้ยงดูเค้าเป็นสิบชีวิตในตอนนั้น และตอนนี้ผมก็คิดว่าสงสารภีม ที่ต้องดูแลเป็นสิบชีวิตเหมือนกัน ถามว่าเค้าไม่ทำมาหากินอะไรเลยเหรอ ต้องมาเกาะ
เด็กกินเหรอ ตั้งแต่สมัยพ่อจนถึงสมัยลูก ทำไมเค้าไม่ทำงานกัน เค้าไม่น่าน้อยใจเพราะว่าการเป็นเด็กเนี่ย จะมาหาพ่อแม่ พ่อแม่ยอมรับอยู่แล้ว แต่จะให้พ่อแม่ไปทำร้ายลูกนั้นมันยากมาก ผมส่งเสริมเค้าหากจะทำอะไร สร้างผลงานอะไรมากกว่าที่
จะมาพูดด่ากันมันไม่ดี''
เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อถามว่าเคยใช้ชีวิตคู่ ''แอน'' กัญญารัตน์ บ่อสันเที๊ยะ หรือไม่ เจคยอมรับว่าเคย แต่ไปกันไม่รอด
''มันไม่ได้เกิดจากการเป็นแฟนที่รักกันมาแล้วมาอยู่ด้วยกัน แต่มันเกิดจากการที่ผมรับเป็นพ่อตรงนั้น แล้วก็มาอยู่ด้วยกัน แล้วก็ไปกันไม่ได้''
ถามว่าได้รับผลกระทบกับข่าวนี้อย่างไรบ้าง เจคเผยว่า ผลกระทบคงจะเกิดกับแฟนตนมากกว่า ซึ่งเรื่องมันจบไปนานแล้วจะรื้อฟื้นขึ้นมาทำไม
"ข่าวนี้ไม่กระทบตัวผม แต่กระทบแฟนผม ซึ่งตอนนี้ก็ตั้งท้องเหมือนกัน คนจะมองว่าผมดีหรือไม่ดีก็แล้วแต่เค้า ดีใจที่เค้าออกมา แต่ถ้าออกมาในด้านผลงานจะดีใจมากกว่า ไม่รู้จะรื้อฟื้นอะไร เรื่องมันจบไปยี่สิบกว่าปีแล้ว รื้อฟื้นให้มันได้
อะไรขึ้นมา คือ สงสารเด็กที่ไม่รู้เรื่องทั้งสองฝ่าย เค้าเป็นเหมือนผ้าขาว"
เมื่อถามว่าหากอีกฝ่ายจะมาขอความช่วยเหลือนั้น ยินดีหรือไม่ เจคเผยว่า ยินดีช่วยเท่าที่ช่วยได้ เพราะตอนนี้ตนก็มีครอบครัวใหม่มีภาระที่ต้องเลี้ยงดู
"หากจะมาขอค่าเลี้ยงดูก็มาถามแฟนใหม่ผม เพราะตอนนี้ผมไม่ได้อยู่คนเดียว ผมอยู่กับแฟนใหม่ผมแล้วก็มีลูกอีกสองคน มาขอให้ช่วยนั่นช่วยนี่หน่อยก็ช่วยเท่าที่ช่วยได้" เจค-ศตวรรษ กล่าว
http://www.siamdara.com/hotnews/130610_25414.html