8 ชั่วโมงที่แล้ว เกิดเหตุการณ์อลหม่านมากมายผู้คนประท้วงการบริหารงานของรัฐบาล ผู้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงมีมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนต่างมาเพื่อได้สิ่งที่ตัวเองต้องการ ในขณะนั้นเหล่าซอมบี้บ้าคลั่งวิ่งกรูกันมายังกลุ่มผู้ชุมนุม พวกมันหิวกระหายและโหดร้ายมากกว่าที่ใครๆคิด ประชาชนต่างหนีตาย กรีดร้อง และหาอาวุธเพื่อป้องกันตัว ทหาร ตำรวจ ต่างช่วยกันระดมยิงฝูงซอมบี้ที่บ้าคลั่ง เสียงระเบิดและเสียงปืนดังสนั่นกึกก้อง
“พวกมันมาจากไหนกันเนี่ย ดูสิคนตายเยอะแยะเลย ตัวอะไรวะเนี่ย” ทหารคนหนึ่งตะโกนคุยกับเพื่อน
“มาจากไหนข้าไม่รู้แล้ว แต่ตอนนี้ไอ้ไวกคนที่ตายไปอยู่ๆมันก็ลุกเดินขึ้นมาได้เฉยเลย” ทหารอีกคนตกใจ
“ไอ้พวกบ้า ไม่เคยดูหนังกันหรือไง ซอมบี้ไงมันกัดใครคนนั้นก็เป็นเหมือนมัน” ทหารอีกคนพูด
เหล่าผู้รอดชีวิตต่างป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกกัด และพยายามส่งข่าวให้กับเพื่อน ญาติพี่น้อง ครอบครัว ได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แต่ไม่มีใครเชื่อเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างคิดกันว่าคนพวกนี้คงเครียดจากการมาชุมนุมมาก
เวลา 22.00 น.ใจกลางกรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้า “โซโกลเด้น” ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
สายป่าน CEO และลูกสาวเจ้าของศูนย์ฯแห่งนี้ เรียกประชุมพนักงานทุกแผนกอย่างเร่งด่วน เมื่อเธอทราบข่าวจากญาติของเธอที่อยู่เมืองนอกว่าเกิดการจลาจลขึ้นตามที่ต่างๆทั่วโลก เธอให้ลูกน้องรายงานยอดรวมสินค้าที่มีในศูนย์ฯแห่งนี้เพื่อที่จะสรุปจำนวนสินค้าทั้งหมดได้ถูก เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงการประชุมที่เคร่งเครียดก็ถูกเบรกด้วยเสียงปืนและระเบิด เสียงผู้คนกรีดร้องมากมาย สายป่านสั่งให้ลูกน้องไปเช็คดูที่ห้องควบคุมระบบวงจรปิด
ครู่ใหญ่พนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็กลับมารายงานสถานการณ์พร้อมเปิดไฟล์ที่ได้เก็บข้อมูลไว้มาเปิดให้สายป่านดู เธอแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหมือนเธอกำลังดูหนังสยองขวัญ ของฮอลีวูด เหล่าซอมบี้กำลังฉีกร่างเหยื่อของมันอย่างเหี้ยมโหด ทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมต่างเริ่มหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตนเองเห็นเช่นกัน สายป่านตั้งสติและอยากลงไปดูเหล่าซอมบี้ให้เห็นกับตาของตัวเอง เธอเลือกเดินไปยังชั้นสองของตึกเพื่อที่เห็นจะเห็นได้ชัด เนื่องจากชั้นสองของตึกเป็นระเบียงกระจกยาวและสามารถมองเห็นบรรยากาศด้านนอกได้ชัดเจน แต่ด้านนอกจะไม่สามารถมองเห็นด้านในตึกได้เลย
สายป่านกับลูกน้องต่างยืนมองเหตุการณ์ด้านนอกกันอย่างหดหู่และหวาดกลัว ในใจของป่านภาวนาให้เป็นแค่ความฝัน เธอกลัวมากแต่ก็พยายามตั้งสติให้มากที่สุดเพราะเธอมีลูกน้องที่เธอต้องรับผิดชอบ ป่านรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนติดอยู่ที่นี่ แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
ผ่านไป 24 ชั่วโมง ภายนอกเงียบสงัด มีเพียงเสียงของซอมบี้ที่เดินเพ่นพ่านกันไปมาและเสียงชิ้นเนื้อถูกฉีกกินอย่างเหี้ยมโหด “ชาย” พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งยืนประจำจุดที่ตนเองได้รับมอบหมาย เขาเฝ้าประตูด้านหน้าของศูนย์การค้าแห่งนี้ เขามองเหล่าซอมบี้ที่เดินผ่านหน้าประตูไปมา พวกมันไม่สามารถเข้ามาได้เนื่องจากมีประตูเหล็กที่แน่นหนา เขาได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาออกไปจากที่นี่พร้อมกับทุกๆคนได้โดยไวที่สุด
ป่านเริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด พนักงานคนอื่นๆก็เช่นกันแต่ทุกคนก็ไม่อยากทิ้งคนอื่นๆเพื่อไปนอนได้ “เชน” ผู้จัดการศูนย์การค้า เดินถือน้ำมาให้ป่าน
“ดื่มน้ำก่อนนะป่าน เราว่าป่านควรไปนอนพักก่อนนะ เวลานี้น่ะถ้าป่านเป็นอะไรไปเดี๋ยวทุกๆคนจะเสียขวัญเอานะ ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวเชนกับคุณทีจะช่วยกันจัดเวรยามให้” เชนมองป่านด้วยความเป็นห่วง เขาเป็นเพื่อนกับป่านตั้งแต่สมัยเด็ก ทำให้เขารู้นิสัยของเพื่อนตัวเองเป็นอย่างดี
“ป่านน่าเรียกประชุมเลยเชน ถ้าป่านย้อนเวลาไปได้ ป่านจะไม่ทำมันเด็ดขาด ทุกคนน่าจะได้อยู่กับครอบครัวที่ตัวเองรัก ได้มีชีวิตรอด ไม่ใช่ติดอยู่ในนี้โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ไหม ซอมบี้มันจะเข้ามาในนี้ได้ไหม ป่านเสียใจ ป่านอยากขอโทษทุกคน” ป่านน้ำตาคลอ
“ฟังเชนนะ ไม่มีใครโทษป่านเลย เลิกคิดแทนคนอื่นได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดป่านเลย ใครจะไปรู้ล่วงหน้าว่าอยู่ๆจะมีซอมบี้ที่นี่ ป่านรู้หรอ เชนรู้หรอ ถ้าเรารู้ป่านนี้เราคงหนีไปไกลแล้ว ทุกคนเป็นห่วงป่านนะ ป่านทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าป่านคือผู้นำของพวกเขาจริงๆ สิ่งที่ควรทำเวลานี้คือป่านควรจะพักผ่อน กลางวันน่ะเชนยกให้ป่านเป็นหัวหน้าเลย แต่กลางคืนเชนขอเป็นหัวหน้าแล้วกันนะ” เชนยิ้มและดึงมือป่านมากุมให้กำลังใจ
ป่านยิ้มรับและยอมไปพักแต่โดยดี เขาไว้ใจเชนมาก เพราะเชนคือคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอตลอดยามเธอมีปัญหา เธอเป็นห่วงที่เชนต้องเฝ้ายามเวลากลางคืน เพราะเธอไม่รู้ว่าเหล่าซอมบี้ด้านนอกสามารถทำอะไรได้บ้าง หากพวกมันรู้ว่าในตึกแห่งนี้มีคนอยู่ พวกมันจะบุกเข้ามาหรือไม่ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้รับการช่วยเหลือจากภายนอก การติดต่อถูกตัดขาดทุกทาง ภายในศูนย์การค้าก็มืดสนิทเนื่องจากเชนและป่านเห็นตรงกันว่าหากยิ่งเปิดไฟหรือส่งเสียงใดก็ตามจะยิ่งดึงดูดให้ซอมบี้เข้ามา พวกเขาต้องอยู่กันด้วยความมืด มีเพียงไฟฉายและแสงเทียนคอยให้แสงสว่าง ป่านคิดเรื่องต่างๆมากมายจนตัวเองเพลียหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากรวบรวมจำนวนคนแล้วมีพนักงานที่ติดอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 10 คน ตามลิสต์รายชื่อที่ป่านได้เขียนไว้ “ป่าน เชน อ๊อด แนน ดวง ที ชาย เจนนี่ เต่า และนพ” คือผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน แนนและดวงอาสาเป็นแม่ครัวทำกับข้าว ป่านหลังจากที่ทำกิจส่วนตัวเสร็จเธอก็ขอเดินสำรวจดูรอบๆ ไม่มีวี่แววซอมบี้จะลดลงเลย และไม่เห็นวี่แววของผู้ที่จะมาช่วยเหลือ ภายนอกห้างเงียบสงัด ระบบน้ำไฟของห้างไม่ถูกตัด หรือหากถูกตัดทางศูนย์การค้าของเธอก็มีหม้อแปลงสำรองไว้อยู่แล้ว เธอค่อนข้างอุ่นใจขึ้นเพราะภายในศูนย์ฯแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยจำนวนคนที่ติดอยู่กับจำนวนอาหารและสิ่งของจำเป็นก็คงเพียงพอให้อยู่ได้เป็นปี แต่เธอเองก็ไม่ได้ต้องการอยู่แบบนี้ตลอดไป เธอพยายามหาช่องทางติดต่อกับภายนอกทุกทาง แต่ดูเหมือนไร้ผลระบบโทรศัพท์และอินเตอร์เนทล่มหมด เธอจึงเดินไปสมทบกับคนอื่นๆที่ชั้นฟู๊ดคอร์ท
แนนกับดวงหาสิ่งของในตู้เย็นของร้านอาหารในฟู๊ดคอร์ท และเริ่มลงมือทำ ทุกคนช่วยกันจัดโต๊ะเสิร์ฟน้ำ วางช้อนส้อมตามที่ของแต่ละคน เจนนี่PR สาวสวยเดินสำรวจร้านอาหารต่างๆ
“แหม ดีจัง มีอาหารให้เลือกตั้งเยอะก็ดีนะ จะได้ไม่เบื่อ มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะเลยห้างเรา นี่ชั้นเป็นPR ที่นี่มาตั้งหลายปี พรีเซนท์งานขายก็ตั้งเยอะแยะ เพิ่งได้มาสำรวจอย่างจริงจังก็คงจะตอนนี้แหละ” เจนนี่มองไปรอบๆบริเวณ
“คุณเชน อ๊อด เต่า นพ ตอนนี้กำลังพักผ่อน เราเก็บข้าวไว้ให้เขาแล้วกันนะดวง” แนนพูดพลางผัดอาหารไปด้วย
ดวงพยักหน้ารับ พร้อมกับหั่นเนื้อสัตว์และผักเป็นลูกมือให้แนน ดวงมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสต๊อคของศูนย์การค้าแห่งนี้ เธอเป็นคนเก่งและเคารพป่านมาก ครอบครัวของป่านมีบุญคุณกับเธอ และป่านเองเคยช่วยชีวิตเธอไว้ เธอตอบแทนป่านด้วยการตั้งใจทำงานและช่วยเหลือป่านทุกอย่างเท่าที่เธอจะทำได้ ส่วนแนนซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการผัดอาหารนั้น เป็นน้องสาวของดวงเธอมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีและการเงิน ด้วยความที่แนนเป็นคนตรงทำให้หลายๆคนที่ไม่รู้จักเธอ จะคิดว่าเธอเป็นคนปากร้าย คนเดียวที่เธอจะยอมให้คือเจ้านายของเธอท่านั้น
เวลาผ่านไปหลังจากทุกคนอิ่มกับอาหารเช้าแล้ว ดวง แนน เจนนี่และป่าน อยากเดินไปสำรวจรอบๆ ชายกับทีจึงอาสาขอไปเป็นบอดี้การ์ดให้สาวๆด้วย ทั้งหมดเริ่มสำรวจจากบริเวณทางเข้าของห้างก่อนเนื่องจากเป็นจุดที่น่าจะถูกพังเข้ามาได้ง่ายที่สุด
Zombie's BKK Part 2
“พวกมันมาจากไหนกันเนี่ย ดูสิคนตายเยอะแยะเลย ตัวอะไรวะเนี่ย” ทหารคนหนึ่งตะโกนคุยกับเพื่อน
“มาจากไหนข้าไม่รู้แล้ว แต่ตอนนี้ไอ้ไวกคนที่ตายไปอยู่ๆมันก็ลุกเดินขึ้นมาได้เฉยเลย” ทหารอีกคนตกใจ
“ไอ้พวกบ้า ไม่เคยดูหนังกันหรือไง ซอมบี้ไงมันกัดใครคนนั้นก็เป็นเหมือนมัน” ทหารอีกคนพูด
เหล่าผู้รอดชีวิตต่างป้องกันตัวเองไม่ให้ถูกกัด และพยายามส่งข่าวให้กับเพื่อน ญาติพี่น้อง ครอบครัว ได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา แต่ไม่มีใครเชื่อเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างคิดกันว่าคนพวกนี้คงเครียดจากการมาชุมนุมมาก
เวลา 22.00 น.ใจกลางกรุงเทพฯ ณ ศูนย์การค้า “โซโกลเด้น” ซึ่งเป็นแหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ
สายป่าน CEO และลูกสาวเจ้าของศูนย์ฯแห่งนี้ เรียกประชุมพนักงานทุกแผนกอย่างเร่งด่วน เมื่อเธอทราบข่าวจากญาติของเธอที่อยู่เมืองนอกว่าเกิดการจลาจลขึ้นตามที่ต่างๆทั่วโลก เธอให้ลูกน้องรายงานยอดรวมสินค้าที่มีในศูนย์ฯแห่งนี้เพื่อที่จะสรุปจำนวนสินค้าทั้งหมดได้ถูก เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงการประชุมที่เคร่งเครียดก็ถูกเบรกด้วยเสียงปืนและระเบิด เสียงผู้คนกรีดร้องมากมาย สายป่านสั่งให้ลูกน้องไปเช็คดูที่ห้องควบคุมระบบวงจรปิด
ครู่ใหญ่พนักงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยก็กลับมารายงานสถานการณ์พร้อมเปิดไฟล์ที่ได้เก็บข้อมูลไว้มาเปิดให้สายป่านดู เธอแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง เหมือนเธอกำลังดูหนังสยองขวัญ ของฮอลีวูด เหล่าซอมบี้กำลังฉีกร่างเหยื่อของมันอย่างเหี้ยมโหด ทุกคนที่อยู่ในที่ประชุมต่างเริ่มหวาดกลัวและไม่อยากเชื่อสิ่งที่ตนเองเห็นเช่นกัน สายป่านตั้งสติและอยากลงไปดูเหล่าซอมบี้ให้เห็นกับตาของตัวเอง เธอเลือกเดินไปยังชั้นสองของตึกเพื่อที่เห็นจะเห็นได้ชัด เนื่องจากชั้นสองของตึกเป็นระเบียงกระจกยาวและสามารถมองเห็นบรรยากาศด้านนอกได้ชัดเจน แต่ด้านนอกจะไม่สามารถมองเห็นด้านในตึกได้เลย
สายป่านกับลูกน้องต่างยืนมองเหตุการณ์ด้านนอกกันอย่างหดหู่และหวาดกลัว ในใจของป่านภาวนาให้เป็นแค่ความฝัน เธอกลัวมากแต่ก็พยายามตั้งสติให้มากที่สุดเพราะเธอมีลูกน้องที่เธอต้องรับผิดชอบ ป่านรู้สึกผิดที่ทำให้ทุกคนติดอยู่ที่นี่ แต่เธอก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน
ผ่านไป 24 ชั่วโมง ภายนอกเงียบสงัด มีเพียงเสียงของซอมบี้ที่เดินเพ่นพ่านกันไปมาและเสียงชิ้นเนื้อถูกฉีกกินอย่างเหี้ยมโหด “ชาย” พนักงานรักษาความปลอดภัยคนหนึ่งยืนประจำจุดที่ตนเองได้รับมอบหมาย เขาเฝ้าประตูด้านหน้าของศูนย์การค้าแห่งนี้ เขามองเหล่าซอมบี้ที่เดินผ่านหน้าประตูไปมา พวกมันไม่สามารถเข้ามาได้เนื่องจากมีประตูเหล็กที่แน่นหนา เขาได้แต่ภาวนาว่าขอให้เขาออกไปจากที่นี่พร้อมกับทุกๆคนได้โดยไวที่สุด
ป่านเริ่มอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด พนักงานคนอื่นๆก็เช่นกันแต่ทุกคนก็ไม่อยากทิ้งคนอื่นๆเพื่อไปนอนได้ “เชน” ผู้จัดการศูนย์การค้า เดินถือน้ำมาให้ป่าน
“ดื่มน้ำก่อนนะป่าน เราว่าป่านควรไปนอนพักก่อนนะ เวลานี้น่ะถ้าป่านเป็นอะไรไปเดี๋ยวทุกๆคนจะเสียขวัญเอานะ ทางนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก เดี๋ยวเชนกับคุณทีจะช่วยกันจัดเวรยามให้” เชนมองป่านด้วยความเป็นห่วง เขาเป็นเพื่อนกับป่านตั้งแต่สมัยเด็ก ทำให้เขารู้นิสัยของเพื่อนตัวเองเป็นอย่างดี
“ป่านน่าเรียกประชุมเลยเชน ถ้าป่านย้อนเวลาไปได้ ป่านจะไม่ทำมันเด็ดขาด ทุกคนน่าจะได้อยู่กับครอบครัวที่ตัวเองรัก ได้มีชีวิตรอด ไม่ใช่ติดอยู่ในนี้โดยที่ไม่รู้ว่าจะได้ออกไปจากที่นี่ไหม ซอมบี้มันจะเข้ามาในนี้ได้ไหม ป่านเสียใจ ป่านอยากขอโทษทุกคน” ป่านน้ำตาคลอ
“ฟังเชนนะ ไม่มีใครโทษป่านเลย เลิกคิดแทนคนอื่นได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดป่านเลย ใครจะไปรู้ล่วงหน้าว่าอยู่ๆจะมีซอมบี้ที่นี่ ป่านรู้หรอ เชนรู้หรอ ถ้าเรารู้ป่านนี้เราคงหนีไปไกลแล้ว ทุกคนเป็นห่วงป่านนะ ป่านทำให้ทุกคนเห็นแล้วว่าป่านคือผู้นำของพวกเขาจริงๆ สิ่งที่ควรทำเวลานี้คือป่านควรจะพักผ่อน กลางวันน่ะเชนยกให้ป่านเป็นหัวหน้าเลย แต่กลางคืนเชนขอเป็นหัวหน้าแล้วกันนะ” เชนยิ้มและดึงมือป่านมากุมให้กำลังใจ
ป่านยิ้มรับและยอมไปพักแต่โดยดี เขาไว้ใจเชนมาก เพราะเชนคือคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอตลอดยามเธอมีปัญหา เธอเป็นห่วงที่เชนต้องเฝ้ายามเวลากลางคืน เพราะเธอไม่รู้ว่าเหล่าซอมบี้ด้านนอกสามารถทำอะไรได้บ้าง หากพวกมันรู้ว่าในตึกแห่งนี้มีคนอยู่ พวกมันจะบุกเข้ามาหรือไม่ แล้วเมื่อไหร่ถึงจะได้รับการช่วยเหลือจากภายนอก การติดต่อถูกตัดขาดทุกทาง ภายในศูนย์การค้าก็มืดสนิทเนื่องจากเชนและป่านเห็นตรงกันว่าหากยิ่งเปิดไฟหรือส่งเสียงใดก็ตามจะยิ่งดึงดูดให้ซอมบี้เข้ามา พวกเขาต้องอยู่กันด้วยความมืด มีเพียงไฟฉายและแสงเทียนคอยให้แสงสว่าง ป่านคิดเรื่องต่างๆมากมายจนตัวเองเพลียหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากรวบรวมจำนวนคนแล้วมีพนักงานที่ติดอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 10 คน ตามลิสต์รายชื่อที่ป่านได้เขียนไว้ “ป่าน เชน อ๊อด แนน ดวง ที ชาย เจนนี่ เต่า และนพ” คือผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน แนนและดวงอาสาเป็นแม่ครัวทำกับข้าว ป่านหลังจากที่ทำกิจส่วนตัวเสร็จเธอก็ขอเดินสำรวจดูรอบๆ ไม่มีวี่แววซอมบี้จะลดลงเลย และไม่เห็นวี่แววของผู้ที่จะมาช่วยเหลือ ภายนอกห้างเงียบสงัด ระบบน้ำไฟของห้างไม่ถูกตัด หรือหากถูกตัดทางศูนย์การค้าของเธอก็มีหม้อแปลงสำรองไว้อยู่แล้ว เธอค่อนข้างอุ่นใจขึ้นเพราะภายในศูนย์ฯแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยจำนวนคนที่ติดอยู่กับจำนวนอาหารและสิ่งของจำเป็นก็คงเพียงพอให้อยู่ได้เป็นปี แต่เธอเองก็ไม่ได้ต้องการอยู่แบบนี้ตลอดไป เธอพยายามหาช่องทางติดต่อกับภายนอกทุกทาง แต่ดูเหมือนไร้ผลระบบโทรศัพท์และอินเตอร์เนทล่มหมด เธอจึงเดินไปสมทบกับคนอื่นๆที่ชั้นฟู๊ดคอร์ท
แนนกับดวงหาสิ่งของในตู้เย็นของร้านอาหารในฟู๊ดคอร์ท และเริ่มลงมือทำ ทุกคนช่วยกันจัดโต๊ะเสิร์ฟน้ำ วางช้อนส้อมตามที่ของแต่ละคน เจนนี่PR สาวสวยเดินสำรวจร้านอาหารต่างๆ
“แหม ดีจัง มีอาหารให้เลือกตั้งเยอะก็ดีนะ จะได้ไม่เบื่อ มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะเลยห้างเรา นี่ชั้นเป็นPR ที่นี่มาตั้งหลายปี พรีเซนท์งานขายก็ตั้งเยอะแยะ เพิ่งได้มาสำรวจอย่างจริงจังก็คงจะตอนนี้แหละ” เจนนี่มองไปรอบๆบริเวณ
“คุณเชน อ๊อด เต่า นพ ตอนนี้กำลังพักผ่อน เราเก็บข้าวไว้ให้เขาแล้วกันนะดวง” แนนพูดพลางผัดอาหารไปด้วย
ดวงพยักหน้ารับ พร้อมกับหั่นเนื้อสัตว์และผักเป็นลูกมือให้แนน ดวงมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าสต๊อคของศูนย์การค้าแห่งนี้ เธอเป็นคนเก่งและเคารพป่านมาก ครอบครัวของป่านมีบุญคุณกับเธอ และป่านเองเคยช่วยชีวิตเธอไว้ เธอตอบแทนป่านด้วยการตั้งใจทำงานและช่วยเหลือป่านทุกอย่างเท่าที่เธอจะทำได้ ส่วนแนนซึ่งกำลังง่วนอยู่กับการผัดอาหารนั้น เป็นน้องสาวของดวงเธอมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายบัญชีและการเงิน ด้วยความที่แนนเป็นคนตรงทำให้หลายๆคนที่ไม่รู้จักเธอ จะคิดว่าเธอเป็นคนปากร้าย คนเดียวที่เธอจะยอมให้คือเจ้านายของเธอท่านั้น
เวลาผ่านไปหลังจากทุกคนอิ่มกับอาหารเช้าแล้ว ดวง แนน เจนนี่และป่าน อยากเดินไปสำรวจรอบๆ ชายกับทีจึงอาสาขอไปเป็นบอดี้การ์ดให้สาวๆด้วย ทั้งหมดเริ่มสำรวจจากบริเวณทางเข้าของห้างก่อนเนื่องจากเป็นจุดที่น่าจะถูกพังเข้ามาได้ง่ายที่สุด