เทวทูตที่รัก บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 13 ปีกแห่งแสง
http://ppantip.com/topic/30548835
บทที่ 14 เพลิงพิโรธ
ภายในห้องบนชั้นที่ยี่สิบของคอนโดหรู ลูซิเฟอร์ยืนมองความสวยงามของแสงไฟยามราตรีด้วยความเกลียดชัง แน่นอนว่าจอมปิศาจชื่นชอบความเจริญ เพราะวัตถุนิยมทำให้มนุษย์ทุกคนเกิดความโลภจนยอมทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง หนึ่งในนั้นก็คือการทำสัญญากับเหล่าปิศาจ ถึงจะไม่มากเท่าในสมัยก่อน แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของจ้าวนรก คนเหล่านั้นจึงตกหลุมพรางและก้าวเดินบนเส้นทางแห่งหายนะได้อย่างง่ายดาย
แต่สิ่งที่สร้างความชิงชังต่อเขาก็คือ แสงสว่างในหัวใจของมนุษย์ มันเป็นสัญลักษณ์อันดีงามที่น่ารังเกียจเพียงอย่างเดียวของพระเจ้าที่มอบให้กับสิ่งมีชีวิตอันต่ำต้อย แม้จะไม่ปรากฏในทุกคน แต่แค่เพียงหนึ่งก็สามารถทำลายความชั่วร้ายที่จอมปิศาจอุตส่าห์เพียรพยายามสร้างขึ้นจนพินาศวอดวาย หลายครั้งที่ความมืดเกือบจะครอบครองโลกทั้งใบได้สำเร็จ แต่หัวใจแห่งแสงสว่างกลับปัดเป่าหมอกมรณะเหล่านั้นให้หายวับไปภายในชั่วข้ามคืน
แน่นอนว่าตัวเขาและบริวารปิศาจทุกตนแค้นใจคนผู้นั้นจนอยากจะฉีกร่างให้เป็นชิ้น แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะเหล่าเทวทูตคอยวนเวียนช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะราฟาเอลซึ่งดูเหมือนจะเอาใจใส่ดูแลมนุษย์จำพวกนี้มากเป็นพิเศษ และอัครเทวทูตผู้นี้เองที่เป็นผู้สร้างแสงสว่างนำทางดวงวิญญาณของคนพวกนั้นขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ทันทีเมื่อสิ้นลม
ลูซิเฟอร์เคียดแค้นความเมตตาที่ว่านี้เป็นอย่างมาก มากเสียจนอยากจะจับราฟาเอลมาเด็ดปีก ตอกตรึงร่างเขาไว้ด้วยหมุดที่สร้างจากไฟนรกแล้วแขวนเอาไว้เหนือประตูแห่งอเวจี เพิ่มความทรมานด้วยการจับมนุษย์ไปไว้ตรงหน้าแล้วลงมือฉีกแขนขาออกทีละชิ้นพร้อมกับสร้างบาดแผลลงบนหัวใจอันแสนงดงามด้วยถ้อยคำเสียดสีที่เจ็บแสบ ให้เทวดาผู้นี้ต้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทุกวันจนกว่าจะตาย
อำนาจแห่งความแค้นถูกขับออกจากร่างกลายเป็นคลื่นแผ่กระจายออกมาโดยรอบ บริวารปิศาจที่คอยรับคำบัญชาต่างขยับถอยออกห่างด้วยความหวาดกลัว มีเพียงกฤตชัยเท่านั้นที่ยังนั่งดื่มเหล้าอย่างไม่รู้สึกรู้สา นานครั้งเขาจะหันหน้ามามองแล้วยักไหล่เมื่อเห็นจอมปิศาจยังคงยืนนิ่งอยู่ในท่าเดิม
พอเหล้าราคาแพงขวดที่สองหมดลง ชายหนุ่มซึ่งตกอยู่ในอาการเมามายจึงเริ่มพล่ามถึงหญิงสาวที่ตัวเองหมายปอง ลูซิเฟอร์ชำเลืองตามองเขาด้วยความรำคาญแต่เพราะกฤตชัยยังพอมีประโยชน์อยู่ เขาจึงทำเป็นหูทวนลมและมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างอย่างไม่สนใจ
ตอนที่กำลังวางแผนจัดการกับราฟาเอล จู่ๆจอมปิศาจก็สัมผัสถึงคลื่นพลังบางอย่าง แม้จะห่างไกลและบางเบา แต่ความผ่องแผ้วอันแสนบริสุทธิ์ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่คืออำนาจของเทวดา
รอยยิ้มแห่งความสมใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาดั่งเทพบุตรแต่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอำมหิต แสดงว่าอาการบาดเจ็บของราฟาเอลได้รับความช่วยเหลือจนหายเป็นปรกติดีแล้วและตอนนี้เขากับหญิงสาวผู้เป็นนางในดวงใจกำลังเดินทางมายังเมืองแห่งนี้เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากอำนาจมืด แน่นอนว่ารวมถึงการเผชิญหน้ากับเขา
ดวงตาสีเขียวปีกแมลงทับแสนเจ้าเล่ห์เหลือบไปยังกฤตชัย ราฟาเอลอาจจะช่วยคนเหล่านั้นได้แต่ตัวเขาเองต่างหากที่จะต้องสูญเสียของสำคัญ และบางทีอาจจะมากยิ่งกว่านั้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ จอมปิศาจหมุนกายเดินไปหยุดยืนตรงหน้ากฤตชัย อีกฝ่ายปรือตาและเงยศีรษะที่ส่ายงอกแงกไปมาขึ้น
“อะไร”
เขาถามเสียงยานคาง และหงุบหน้าลงอีกครั้ง ลูซิเฟอร์มองอย่างดูแคลนก่อนตอบเสียงต่ำ
“ราฟาเอลกลับมาแล้ว” เขาเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อรอดูว่าอีกฝ่ายมีสติพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่กำลังพูดหรือไม่ กฤตชัยจึงโบกมือ
“แล้วไง”
“เขาพาผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์กลับมาด้วย”
สิ่งที่ได้ยินแทบจะทำให้ชายหนุ่มหายเมาแป็นปลิดทิ้ง ดวงตาหรี่ปรือเบิกกว้างอย่างกระตือรือล้น
“ว่าไงนะ หมอนั่นพาทิพย์กลับมาด้วยเหรอ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน นายพามาหาฉันเดี๋ยวนี้เลยได้หรือเปล่า”
เขายิงคำถามใส่ถี่ยิบโดยลืมไปว่าคนที่กำลังยืนฟังเป็นใคร โชคดีที่ลูซิเฟอร์ไม่ถือเป็นอารมณ์นักเพราะความกระหยิ่มใจในแผนการนั้นมีมากกว่า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังจ้องด้วยดวงตาที่ทำให้คนตรงหน้าต้องหุบปากนั่งนิ่ง
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่กับราฟาเอล”
จอมปิศาจพูดเน้นย้ำทีละคำเหมือนจะบอกเป็นนัยว่า ไม่มีทางชิงตัวเธอมามอบให้กับกฤตชัยได้ ชายหนุ่มจึงกระแทกตัวกับพนักเก้าอี้และขบกราม
“หมายความว่าทิพย์ต้องขลุกอยู่กับไอ้หมอนั่นอีกคืน” เขาทุบเท้าแขนเก้าอี้เพื่อระบายอารมณ์ ลูซิเฟอร์อมยิ้มอย่างรู้ทัน
“เทวดาไม่มีความต้องการแบบมนุษย์ ผู้หญิงคนนั้นยังบริสุทธิ์สำหรับคุณ”
คำชี้แจงของจอมปิศาจทำให้กฤตชัยยิ้มกว้าง
“จริงเหรอ” เขาชะงักคำพูดค้าง รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าและขมวดคิ้วครุ่นคิด “แต่ผมคงไม่มีวันสมหวังถ้าเจ้าเทวดานั่นยังอยู่กับน้ำทิพย์ ท่านพอจะมีวิธีกำจัดมันบ้างไหม”
ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มถามเชิงอ้อนวอน ลูซิเฟอร์ยิ้มในหน้า
“ผมมีวิธีดีกว่านั้น” เขาพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือให้ “ทำตามที่ผมแนะนำ ผู้หญิงคนนั้นจะวิ่งมาหาคุณเอง”
“แล้วเทวดาคนนั้นล่ะ” กฤตชัยถาม จอมปิศาจจึงจ้องเขาด้วยดวงตาที่มีแสงลุกโชน
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะกันเขาเอาไว้ให้ คุณสนุกกับผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์นั่นให้สบายใจเถอะ”
ความลิงโลดเต้นอย่างเริงร่าอยู่ในหัวอก ลูซิเฟอร์แสยะยิ้มอย่างลำพองขณะนึกถึงภาพใบหน้าระทมทุกข์ของราฟาเอล
อยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะทำยังไง ถ้าหญิงที่เจ้าคอยปกป้องถูกทำลายจนยับเยิน”
*/*/*/*/*
เทวทูตที่รัก บทที่ 14 เพลิงพิโรธ
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 13 ปีกแห่งแสง
http://ppantip.com/topic/30548835
บทที่ 14 เพลิงพิโรธ
ภายในห้องบนชั้นที่ยี่สิบของคอนโดหรู ลูซิเฟอร์ยืนมองความสวยงามของแสงไฟยามราตรีด้วยความเกลียดชัง แน่นอนว่าจอมปิศาจชื่นชอบความเจริญ เพราะวัตถุนิยมทำให้มนุษย์ทุกคนเกิดความโลภจนยอมทำทุกอย่างเพื่อสนองความต้องการของตัวเอง หนึ่งในนั้นก็คือการทำสัญญากับเหล่าปิศาจ ถึงจะไม่มากเท่าในสมัยก่อน แต่ด้วยเล่ห์เหลี่ยมของจ้าวนรก คนเหล่านั้นจึงตกหลุมพรางและก้าวเดินบนเส้นทางแห่งหายนะได้อย่างง่ายดาย
แต่สิ่งที่สร้างความชิงชังต่อเขาก็คือ แสงสว่างในหัวใจของมนุษย์ มันเป็นสัญลักษณ์อันดีงามที่น่ารังเกียจเพียงอย่างเดียวของพระเจ้าที่มอบให้กับสิ่งมีชีวิตอันต่ำต้อย แม้จะไม่ปรากฏในทุกคน แต่แค่เพียงหนึ่งก็สามารถทำลายความชั่วร้ายที่จอมปิศาจอุตส่าห์เพียรพยายามสร้างขึ้นจนพินาศวอดวาย หลายครั้งที่ความมืดเกือบจะครอบครองโลกทั้งใบได้สำเร็จ แต่หัวใจแห่งแสงสว่างกลับปัดเป่าหมอกมรณะเหล่านั้นให้หายวับไปภายในชั่วข้ามคืน
แน่นอนว่าตัวเขาและบริวารปิศาจทุกตนแค้นใจคนผู้นั้นจนอยากจะฉีกร่างให้เป็นชิ้น แต่ก็ไม่อาจทำได้เพราะเหล่าเทวทูตคอยวนเวียนช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะราฟาเอลซึ่งดูเหมือนจะเอาใจใส่ดูแลมนุษย์จำพวกนี้มากเป็นพิเศษ และอัครเทวทูตผู้นี้เองที่เป็นผู้สร้างแสงสว่างนำทางดวงวิญญาณของคนพวกนั้นขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ทันทีเมื่อสิ้นลม
ลูซิเฟอร์เคียดแค้นความเมตตาที่ว่านี้เป็นอย่างมาก มากเสียจนอยากจะจับราฟาเอลมาเด็ดปีก ตอกตรึงร่างเขาไว้ด้วยหมุดที่สร้างจากไฟนรกแล้วแขวนเอาไว้เหนือประตูแห่งอเวจี เพิ่มความทรมานด้วยการจับมนุษย์ไปไว้ตรงหน้าแล้วลงมือฉีกแขนขาออกทีละชิ้นพร้อมกับสร้างบาดแผลลงบนหัวใจอันแสนงดงามด้วยถ้อยคำเสียดสีที่เจ็บแสบ ให้เทวดาผู้นี้ต้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวดทุกวันจนกว่าจะตาย
อำนาจแห่งความแค้นถูกขับออกจากร่างกลายเป็นคลื่นแผ่กระจายออกมาโดยรอบ บริวารปิศาจที่คอยรับคำบัญชาต่างขยับถอยออกห่างด้วยความหวาดกลัว มีเพียงกฤตชัยเท่านั้นที่ยังนั่งดื่มเหล้าอย่างไม่รู้สึกรู้สา นานครั้งเขาจะหันหน้ามามองแล้วยักไหล่เมื่อเห็นจอมปิศาจยังคงยืนนิ่งอยู่ในท่าเดิม
พอเหล้าราคาแพงขวดที่สองหมดลง ชายหนุ่มซึ่งตกอยู่ในอาการเมามายจึงเริ่มพล่ามถึงหญิงสาวที่ตัวเองหมายปอง ลูซิเฟอร์ชำเลืองตามองเขาด้วยความรำคาญแต่เพราะกฤตชัยยังพอมีประโยชน์อยู่ เขาจึงทำเป็นหูทวนลมและมองทิวทัศน์นอกหน้าต่างอย่างไม่สนใจ
ตอนที่กำลังวางแผนจัดการกับราฟาเอล จู่ๆจอมปิศาจก็สัมผัสถึงคลื่นพลังบางอย่าง แม้จะห่างไกลและบางเบา แต่ความผ่องแผ้วอันแสนบริสุทธิ์ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่านี่คืออำนาจของเทวดา
รอยยิ้มแห่งความสมใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลาดั่งเทพบุตรแต่เย็นชาและเต็มไปด้วยความอำมหิต แสดงว่าอาการบาดเจ็บของราฟาเอลได้รับความช่วยเหลือจนหายเป็นปรกติดีแล้วและตอนนี้เขากับหญิงสาวผู้เป็นนางในดวงใจกำลังเดินทางมายังเมืองแห่งนี้เพื่อช่วยเหลือมนุษย์ให้หลุดพ้นจากอำนาจมืด แน่นอนว่ารวมถึงการเผชิญหน้ากับเขา
ดวงตาสีเขียวปีกแมลงทับแสนเจ้าเล่ห์เหลือบไปยังกฤตชัย ราฟาเอลอาจจะช่วยคนเหล่านั้นได้แต่ตัวเขาเองต่างหากที่จะต้องสูญเสียของสำคัญ และบางทีอาจจะมากยิ่งกว่านั้น ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้ จอมปิศาจหมุนกายเดินไปหยุดยืนตรงหน้ากฤตชัย อีกฝ่ายปรือตาและเงยศีรษะที่ส่ายงอกแงกไปมาขึ้น
“อะไร”
เขาถามเสียงยานคาง และหงุบหน้าลงอีกครั้ง ลูซิเฟอร์มองอย่างดูแคลนก่อนตอบเสียงต่ำ
“ราฟาเอลกลับมาแล้ว” เขาเว้นระยะเล็กน้อยเพื่อรอดูว่าอีกฝ่ายมีสติพอที่จะเข้าใจในสิ่งที่กำลังพูดหรือไม่ กฤตชัยจึงโบกมือ
“แล้วไง”
“เขาพาผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์กลับมาด้วย”
สิ่งที่ได้ยินแทบจะทำให้ชายหนุ่มหายเมาแป็นปลิดทิ้ง ดวงตาหรี่ปรือเบิกกว้างอย่างกระตือรือล้น
“ว่าไงนะ หมอนั่นพาทิพย์กลับมาด้วยเหรอ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน นายพามาหาฉันเดี๋ยวนี้เลยได้หรือเปล่า”
เขายิงคำถามใส่ถี่ยิบโดยลืมไปว่าคนที่กำลังยืนฟังเป็นใคร โชคดีที่ลูซิเฟอร์ไม่ถือเป็นอารมณ์นักเพราะความกระหยิ่มใจในแผนการนั้นมีมากกว่า แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังจ้องด้วยดวงตาที่ทำให้คนตรงหน้าต้องหุบปากนั่งนิ่ง
“ผู้หญิงคนนั้นอยู่กับราฟาเอล”
จอมปิศาจพูดเน้นย้ำทีละคำเหมือนจะบอกเป็นนัยว่า ไม่มีทางชิงตัวเธอมามอบให้กับกฤตชัยได้ ชายหนุ่มจึงกระแทกตัวกับพนักเก้าอี้และขบกราม
“หมายความว่าทิพย์ต้องขลุกอยู่กับไอ้หมอนั่นอีกคืน” เขาทุบเท้าแขนเก้าอี้เพื่อระบายอารมณ์ ลูซิเฟอร์อมยิ้มอย่างรู้ทัน
“เทวดาไม่มีความต้องการแบบมนุษย์ ผู้หญิงคนนั้นยังบริสุทธิ์สำหรับคุณ”
คำชี้แจงของจอมปิศาจทำให้กฤตชัยยิ้มกว้าง
“จริงเหรอ” เขาชะงักคำพูดค้าง รอยยิ้มหายไปจากใบหน้าและขมวดคิ้วครุ่นคิด “แต่ผมคงไม่มีวันสมหวังถ้าเจ้าเทวดานั่นยังอยู่กับน้ำทิพย์ ท่านพอจะมีวิธีกำจัดมันบ้างไหม”
ประโยคสุดท้ายชายหนุ่มถามเชิงอ้อนวอน ลูซิเฟอร์ยิ้มในหน้า
“ผมมีวิธีดีกว่านั้น” เขาพูดพร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือให้ “ทำตามที่ผมแนะนำ ผู้หญิงคนนั้นจะวิ่งมาหาคุณเอง”
“แล้วเทวดาคนนั้นล่ะ” กฤตชัยถาม จอมปิศาจจึงจ้องเขาด้วยดวงตาที่มีแสงลุกโชน
“ไม่ต้องเป็นห่วง ผมจะกันเขาเอาไว้ให้ คุณสนุกกับผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์นั่นให้สบายใจเถอะ”
ความลิงโลดเต้นอย่างเริงร่าอยู่ในหัวอก ลูซิเฟอร์แสยะยิ้มอย่างลำพองขณะนึกถึงภาพใบหน้าระทมทุกข์ของราฟาเอล
อยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะทำยังไง ถ้าหญิงที่เจ้าคอยปกป้องถูกทำลายจนยับเยิน”
*/*/*/*/*