แรกเริ่มยังเข้าใจว่าคำว่า “สลิ่ม”นั้นเป็นเพียงกลุ่มคนที่ไม่กล้าใส่เสื้อเหลือง แต่ก็กลัวจะมีมวลชนน้อยเกินไป จึงพยายามใช้คำว่า เสื้อหลากสี เพื่อโมเมและเหมารวมประชาชนธรรมดาที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มให้เป็นเสื้อหลากสีโดยปริยาย จึงได้ถูกขนานนามว่าเป็น “สลิ่ม” ซึ่งคงจะนำไปเปรียบเปรยกับขนมไทยซ่าหลิ่มที่มีหลากสีสัน แค่นั้นเอง
แต่วันนี้ผมพึ่งจะถึงบางอ้อ “สลิ่ม”ไม่ใช่แค่ใส่เสื้อหลากสีสัน แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นอีกมากมายเลยครับ การจะเป็น “สลิ่ม” จึงไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว เพราะ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะแสดงอุดมการณ์ที่มั่นคงไม่ได้อย่างเด็ดขาด ต้องรู้จักเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ วันนี้อาจเป็นสีเหลือง พวกนี้อาจเป็นสีชมพู อีกวันอาจเป็นหลากสี ผ่านไปอาจต้องใส่หน้ากาก นั่นเป็นการแสดงแนวคิดอย่างหัวก้าวหน้า วันหนึ่งอาจอยากได้นายกฯจากการเลือกตั้ง อีกวันก็พร้อมจะสนับสนุนนายกฯจากการปฏิวัติ ถ้ากลับไปกลับมาอย่างนี้ได้ ก็มีคุณสมบัติพอที่จะเป็น “สลิ่ม”ได้แล้ว
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะต้องแสดงจุดยืนชัดเจนว่าคุณเกลียดคอรัปชั่นเข้ากระดูกดำ เพราะคุณเป็นคนรักชาติรักแผ่นดิน ดังนั้นคุณต้องร่วมแสดงพลังขับไล่รัฐบาลที่มาจากการคัดเลือกของประชาชนงี่เง่าทั้งหลาย เพื่อนำการปกครองนั้นๆ มาให้กับพรรคคนดีของ “สลิ่ม”ที่พิสูจน์แล้วว่า หลังจากแย่งอำนาจพวกนั้นมาแล้ว บริหารกันอย่างโปร่งใสไปเสียทุกโครงการ สร้างสันติสุขให้กับประเทศอย่างมากมาย
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะต้องแสดงความเกลียดอย่างมากมายต่อคุณทักษิณ ตระกูลชินวัตรและเหล่าผู้สนับสนุนทุกๆคน เพราะพวกนี้ต้องการล้มการปกครอง ต้องการเป็นประธานาธิบดี ต้องการจะทำลายชาติ ต้องการขายชาติ และยังต้องการอีกอื่นๆมากมายที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ดังนั้นการจะเป็น “สลิ่ม”ให้ได้นั้น ต้องพยายามอย่าให้คนส่วนใหญ่ที่ยังขาดสติปัญญาเข้ามาครอบครองประเทศอย่างเด็ดขาด
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม”ได้นั้น แน่นอนครับ ต้องมีความพยายามแสดงให้หลายต่อหลายฝ่ายรับรู้ให้ได้ว่า มีแต่ “สลิ่ม”เท่านั้นที่รักสถาบันที่สุด ปกป้องสถาบันที่สุด ดังนั้นคนที่ไม่เป็น “สลิ่ม” จึงไม่ใช่คนที่รักสถาบัน ดังนั้นถ้ารักจะเป็น “สลิ่ม”ล่ะก้อ ต้องพยายามขับไล่คนที่ไม่ได้เป็น “สลิ่ม”ให้ออกไปจากประเทศไทย เพื่อให้เหลือแต่พวก “สลิ่ม”ผู้จงรักเพียงพวกเดียวเท่านั้น
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะต้องมีเวลาให้กับข้อมูลข่าวสารให้มากที่สุด วันๆต้องขยันหมั่นดูข้อมูลที่พวก “สลิ่ม”ด้วยกันส่งมาให้ แล้วต้องไม่ลืมกดไลค์โดยเด็ดขาด แล้วก็ส่งต่อให้พวก “สลิ่ม”ให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงถึงความสามัคคี ความเป็นเอกภาพและยังเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของความเป็น “สลิ่ม”ได้อย่างมั่นคงอีกด้วย
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” ต้องรู้จักการจุดประเด็นใหม่ๆขึ้นมาเรื่อยๆ เรื่องนี้ไม่เวิร์ค เราก็หาอีกประเด็น เรื่องโน้นไม่ประสบผล เราก็ต้องหาอีกประเด็นมากลบประเด็นนี้ให้ได้ ถ้าหมดมุกเล่น เราก็ต้องพยายามขุดเรื่องเก่าเอามาเป็นประเด็นใหม่ และเมื่อจนตรอกจริงๆ เราต้องรู้จักโบ้ยให้เป็นความผิดของทักษิณ นี่จึงจะเป็น “สลิ่ม” ขนานแท้
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณต้องหัดให้มีความอดทนเหนือกว่ากลุ่มสีอื่นๆให้ได้ เพราะการเป็น “สลิ่ม”จะเงิบไม่ได้อย่างเด็ดขาด เมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้ว่าข้อมูลผิดพลาด เราต้อง “เถียง”เอาไว้ก่อน ถ้าเถียงสู้ไม่ได้ ค่อยมา “แถ” ถ้ายังแถไม่ออก เราค่อยเล็มไปถึง “ทักษิณ” ถ้ายังไม่สำเร็จ เราค่อย “ข้าม” แล้วก็ไปตั้งประเด็นใหม่ เพื่อให้ลืมประเด็นเก่าซะ อย่างนี้แล้วเราเริ่มจะได้เป็น “สลิ่ม”กับเขาแล้วล่ะ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” จะต้องรักษามาตรฐานทางปัญญาให้เหนือกว่าคนอื่น แล้วพยายามถ่ายทอดความรู้ทางปัญญาให้กับกลุ่มโง่เขลาทั้งหลาย เพื่อให้ประเทศไทยมีแต่คนฉลาดๆเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเสียรู้ให้กับประเทศอื่นๆได้โดยง่าย อย่างเช่น ความพยายามทวงคืนประเทศไทยงี้ ทวงคืนเขาพระวิหารงี้ ทวงคืน ปตท.งี้ ทวงคืนรัฐประหารงี้ อ้อ แต่ไม่ต้องทวงคืนข้าวผัดกระเพรา เพราะบางครั้งข้าวผัดใบกระเพราใส่ถั่วฝักยาวด้วย มันก็อร่อยไปอีกแบบ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม”คุณจะต้องขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดจากประเทศไทยให้ได้ อย่าไปสนใจเลยว่าระบอบทักษิณคืออะไรให้เสียสมอง ให้รู้แค่ระบอบทักษิณไม่ดีก็พอแล้ว ให้รู้แค่ความเลวของทักษิณก็พอแล้ว ส่วนนโยบายดีๆที่ทักษิณทำไว้ ถ้า “สลิ่ม”ได้ประโยชน์ ต้องอย่าไปพูดถึงเป็นอันขาด เดี๋ยวจะขัดใจกับเพื่อนสลิ่มด้วยกันนะครับ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” ทางการเมืองจะต้องรักษาไว้ซึ่งความเป็นกลาง จะไปแอ๊บเหลืองหรือแอ๊บแดงคงไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียมาตรฐานของความเป็น “สลิ่ม”ไป ดังนั้นการจะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง จะต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง เพราะจุดยืนของความเป็น “สลิ่ม”นั่นคือจะต้องไม่เอาประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน สีเดียวที่ “สลิ่ม”สนับสนุนจึงมีแค่สีเดียวนั้นคือ “สีเขียว”เพียงสีเดียวเท่านั้น
ดังนั้น ถ้า “สีแดง”เป็นได้แค่คี่ข้าทักษิณ
“สีฟ้า”เป็นได้แค่แมลงสาป
“สลิ่ม”ก็จะเป็นบันไดทองไว้ให้กลุ่มสีเขียวเหยียบขึ้นสู่อำนาจ เพราะรักจะเป็น “สลิ่ม” จะต้องรู้ว่า มีแต่กองทัพเท่านั้นที่จะนำพาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น
สุดท้ายที่สำคัญที่สุดสำหรับคนที่จะเป็น “สลิ่ม”ได้ จะต้องให้คนอื่นช่วยคิดแทนให้ ถ้าขาดคุณสมบัติข้อนี้ ต่อให้กระทำเรื่องต่างๆดังกล่าวข้างต้นจนครบถ้วน คุณก็ไม่มีทางจะเป็น “สลิ่ม”ได้เต็มสมบูรณ์แบบหรอกนะครับ ขอบอก
ถึงวันนี้ ผมจึงรู้ความหมายของคำว่า “สลิ่ม”อย่างเข้าใจถ่อยแท้ครับ
แต่วันนี้ผมพึ่งจะถึงบางอ้อ “สลิ่ม”ไม่ใช่แค่ใส่เสื้อหลากสีสัน แต่มันมีอะไรมากกว่านั้นอีกมากมายเลยครับ การจะเป็น “สลิ่ม” จึงไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิดเสียแล้ว เพราะ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะแสดงอุดมการณ์ที่มั่นคงไม่ได้อย่างเด็ดขาด ต้องรู้จักเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ วันนี้อาจเป็นสีเหลือง พวกนี้อาจเป็นสีชมพู อีกวันอาจเป็นหลากสี ผ่านไปอาจต้องใส่หน้ากาก นั่นเป็นการแสดงแนวคิดอย่างหัวก้าวหน้า วันหนึ่งอาจอยากได้นายกฯจากการเลือกตั้ง อีกวันก็พร้อมจะสนับสนุนนายกฯจากการปฏิวัติ ถ้ากลับไปกลับมาอย่างนี้ได้ ก็มีคุณสมบัติพอที่จะเป็น “สลิ่ม”ได้แล้ว
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะต้องแสดงจุดยืนชัดเจนว่าคุณเกลียดคอรัปชั่นเข้ากระดูกดำ เพราะคุณเป็นคนรักชาติรักแผ่นดิน ดังนั้นคุณต้องร่วมแสดงพลังขับไล่รัฐบาลที่มาจากการคัดเลือกของประชาชนงี่เง่าทั้งหลาย เพื่อนำการปกครองนั้นๆ มาให้กับพรรคคนดีของ “สลิ่ม”ที่พิสูจน์แล้วว่า หลังจากแย่งอำนาจพวกนั้นมาแล้ว บริหารกันอย่างโปร่งใสไปเสียทุกโครงการ สร้างสันติสุขให้กับประเทศอย่างมากมาย
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะต้องแสดงความเกลียดอย่างมากมายต่อคุณทักษิณ ตระกูลชินวัตรและเหล่าผู้สนับสนุนทุกๆคน เพราะพวกนี้ต้องการล้มการปกครอง ต้องการเป็นประธานาธิบดี ต้องการจะทำลายชาติ ต้องการขายชาติ และยังต้องการอีกอื่นๆมากมายที่ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ ดังนั้นการจะเป็น “สลิ่ม”ให้ได้นั้น ต้องพยายามอย่าให้คนส่วนใหญ่ที่ยังขาดสติปัญญาเข้ามาครอบครองประเทศอย่างเด็ดขาด
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม”ได้นั้น แน่นอนครับ ต้องมีความพยายามแสดงให้หลายต่อหลายฝ่ายรับรู้ให้ได้ว่า มีแต่ “สลิ่ม”เท่านั้นที่รักสถาบันที่สุด ปกป้องสถาบันที่สุด ดังนั้นคนที่ไม่เป็น “สลิ่ม” จึงไม่ใช่คนที่รักสถาบัน ดังนั้นถ้ารักจะเป็น “สลิ่ม”ล่ะก้อ ต้องพยายามขับไล่คนที่ไม่ได้เป็น “สลิ่ม”ให้ออกไปจากประเทศไทย เพื่อให้เหลือแต่พวก “สลิ่ม”ผู้จงรักเพียงพวกเดียวเท่านั้น
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณจะต้องมีเวลาให้กับข้อมูลข่าวสารให้มากที่สุด วันๆต้องขยันหมั่นดูข้อมูลที่พวก “สลิ่ม”ด้วยกันส่งมาให้ แล้วต้องไม่ลืมกดไลค์โดยเด็ดขาด แล้วก็ส่งต่อให้พวก “สลิ่ม”ให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงถึงความสามัคคี ความเป็นเอกภาพและยังเป็นการรักษาเอกลักษณ์ของความเป็น “สลิ่ม”ได้อย่างมั่นคงอีกด้วย
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” ต้องรู้จักการจุดประเด็นใหม่ๆขึ้นมาเรื่อยๆ เรื่องนี้ไม่เวิร์ค เราก็หาอีกประเด็น เรื่องโน้นไม่ประสบผล เราก็ต้องหาอีกประเด็นมากลบประเด็นนี้ให้ได้ ถ้าหมดมุกเล่น เราก็ต้องพยายามขุดเรื่องเก่าเอามาเป็นประเด็นใหม่ และเมื่อจนตรอกจริงๆ เราต้องรู้จักโบ้ยให้เป็นความผิดของทักษิณ นี่จึงจะเป็น “สลิ่ม” ขนานแท้
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” คุณต้องหัดให้มีความอดทนเหนือกว่ากลุ่มสีอื่นๆให้ได้ เพราะการเป็น “สลิ่ม”จะเงิบไม่ได้อย่างเด็ดขาด เมื่อถูกฝ่ายตรงข้ามจับได้ว่าข้อมูลผิดพลาด เราต้อง “เถียง”เอาไว้ก่อน ถ้าเถียงสู้ไม่ได้ ค่อยมา “แถ” ถ้ายังแถไม่ออก เราค่อยเล็มไปถึง “ทักษิณ” ถ้ายังไม่สำเร็จ เราค่อย “ข้าม” แล้วก็ไปตั้งประเด็นใหม่ เพื่อให้ลืมประเด็นเก่าซะ อย่างนี้แล้วเราเริ่มจะได้เป็น “สลิ่ม”กับเขาแล้วล่ะ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” จะต้องรักษามาตรฐานทางปัญญาให้เหนือกว่าคนอื่น แล้วพยายามถ่ายทอดความรู้ทางปัญญาให้กับกลุ่มโง่เขลาทั้งหลาย เพื่อให้ประเทศไทยมีแต่คนฉลาดๆเท่านั้น ไม่อย่างนั้นเราอาจจะเสียรู้ให้กับประเทศอื่นๆได้โดยง่าย อย่างเช่น ความพยายามทวงคืนประเทศไทยงี้ ทวงคืนเขาพระวิหารงี้ ทวงคืน ปตท.งี้ ทวงคืนรัฐประหารงี้ อ้อ แต่ไม่ต้องทวงคืนข้าวผัดกระเพรา เพราะบางครั้งข้าวผัดใบกระเพราใส่ถั่วฝักยาวด้วย มันก็อร่อยไปอีกแบบ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม”คุณจะต้องขับไล่ระบอบทักษิณให้หมดจากประเทศไทยให้ได้ อย่าไปสนใจเลยว่าระบอบทักษิณคืออะไรให้เสียสมอง ให้รู้แค่ระบอบทักษิณไม่ดีก็พอแล้ว ให้รู้แค่ความเลวของทักษิณก็พอแล้ว ส่วนนโยบายดีๆที่ทักษิณทำไว้ ถ้า “สลิ่ม”ได้ประโยชน์ ต้องอย่าไปพูดถึงเป็นอันขาด เดี๋ยวจะขัดใจกับเพื่อนสลิ่มด้วยกันนะครับ
ถ้าจะเป็น “สลิ่ม” ทางการเมืองจะต้องรักษาไว้ซึ่งความเป็นกลาง จะไปแอ๊บเหลืองหรือแอ๊บแดงคงไม่ได้ เดี๋ยวจะเสียมาตรฐานของความเป็น “สลิ่ม”ไป ดังนั้นการจะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง จะต้องยืนอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง เพราะจุดยืนของความเป็น “สลิ่ม”นั่นคือจะต้องไม่เอาประชาธิปไตยที่อำนาจเป็นของประชาชน สีเดียวที่ “สลิ่ม”สนับสนุนจึงมีแค่สีเดียวนั้นคือ “สีเขียว”เพียงสีเดียวเท่านั้น
ดังนั้น ถ้า “สีแดง”เป็นได้แค่คี่ข้าทักษิณ
“สีฟ้า”เป็นได้แค่แมลงสาป
“สลิ่ม”ก็จะเป็นบันไดทองไว้ให้กลุ่มสีเขียวเหยียบขึ้นสู่อำนาจ เพราะรักจะเป็น “สลิ่ม” จะต้องรู้ว่า มีแต่กองทัพเท่านั้นที่จะนำพาประเทศไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วเท่านั้น
สุดท้ายที่สำคัญที่สุดสำหรับคนที่จะเป็น “สลิ่ม”ได้ จะต้องให้คนอื่นช่วยคิดแทนให้ ถ้าขาดคุณสมบัติข้อนี้ ต่อให้กระทำเรื่องต่างๆดังกล่าวข้างต้นจนครบถ้วน คุณก็ไม่มีทางจะเป็น “สลิ่ม”ได้เต็มสมบูรณ์แบบหรอกนะครับ ขอบอก