จากการที่เห็นพวกนิยม SOTUS ตั้งกระทู้ปกป้อง SOTUS มากๆ ผมก็เลยแอบคิดอะไรบางอย่าง
ในฐานะที่ผมเองก็ยอมรับแนวคิดเสรีนิยมมากกว่าอนุรักษ์นิยม ผมค่อนข้างมองว่าการรับน้อง
มันกดทับคุณค่าหลายอย่างในวิธีคิดแบบเสรีนิยมใหม่หลายๆอย่าง ทั้งสิทธิ, ความเป็นปัจเจก,
เหตุผล, ความเท่าเทียมกัน ฯลฯ ผมเองก็เลยอยากชวนคนที่รัก SOTUS มากๆมาถกกันบ้าง
ว่าทำไมถึงเห็นด้วยกับวิธีคิดแบบนี้ ทั้งที่เมืองนอกเมืองนาเค้าเองก็เลิกทำกันไปแล้ว
ลองมาคุยกันถึงนิยามของ SOTUS กันนะครับ (เอาแบบที่แปลตรงๆ ไม่ irony อะไรละกัน)
SOTUS = Seniority+Order+Tradition+Unity+Spirit
ผมมีมุมมองกับนิยามของแต่ละองค์ประกอบของ SOTUS ตามนี้
1) Seniority: อันนี้ผมมองว่าไร้สาระ พี่ๆเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าน้องเท่าไหร่เลย เรียนก่อนแค่ไม่กี่ปี
แถมวิธีคิดเรื่องอาวุโสนิยมมันสร้างปัญหาให้เอะอะจะทำอะไรคนแก่กว่าก็ถูกหมด เด็กไม่มีสิทธิข้ามหัวได้ต่อให้รุ่นพี่
มันจะกะโหลกกะลาแค่ไหนก็ตาม สังคมไทยเลยมัวแต่ต้องให้เกียรติคนแก่กว่าแทนที่จะดูตามความสามารถเป็นหลัก
แถมที่ร้ายกว่าคือการที่มีระบบอุปถัมภ์รุ่นน้องจากรุ่นพี่อีก ถ้าเห็นว่าเป็นน้องคณะน้องภาคน้องรหัสตัวเองก็จะดันมาก
กว่าคนอื่นทั้งที่ความจริงไม่ควรดัน ควรดันคนมีความสามารถเป็นหลักมากกว่าครับ ดีต่อองค์กรมากกว่าด้วย
2) Order: ทำไมต้องมี Order เวลาคนจะทำอะไรควรให้เค้าทำเพราะเห็นด้วยกับเหตุผลตัวนั้นโดยไม่ต้องสั่ง
ถ้าอยากให้เค้าทำก็อธิบายเหตุผลและหลักการของสิ่งที่อยากให้ทำสิครับ และถ้าเค้าไม่เห็นด้วยเค้าก็มีสิทธิที่ไม่รับคำสั่ง
ที่ดูไม่ฉลาดเหมือนกัน
3) Tradition: ในหลายๆกรณีตัวประเพณีเองก็ไม่ได้จำเป็นกับองค์กรเลย ยิ่งประเพณีที่คร่ำครึยิ่งถ่วงองค์กรให้ช้าลง
4) Unity: การมีความเป็นหนึ่งเดียวในระดับที่เข้มข้นมากๆมันก็ทำลายคนคิดต่าง(แต่อาจกว่าคนส่วนใหญ่)ด้วยคำพูดประเภท
"ทีมต้องมาก่อน", "องค์กรควรไปทางเดียวกันหมด" ฯลฯ วิธีคิดนี้ผมเลยมองว่าไม่ต่างจากเผด็จการประเภทหนึ่งเหมือนกัน
โลกสมัยใหม่คุณค่าเชิงปัจเจกสำคัญครับ บางครั้งการที่องค์กรคิดไปคนละทางมันทำให้ได้มุมมองที่หลากหลายกว่า ได้ภาพกว้าง
กว่าการพยายามยัดเยียดความเป็นหนึ่งเดียวกันเยอะ
5) Spirit: เอาแบบโลกไม่สวยละกันว่า การที่สอนให้คนมีความกล้าทำเพื่ออะไรโดยที่ไม่ดูความคุ้มได้คุ้มเสียเป็นการยัดเยียด
ความโง่ให้เด็กอย่างนึง การมี spirit เต้นเพลงบ้าๆบอๆไร้สาระ การมี spirit ทำตามคำสั่งของรุ่นพี่ที่มันน่าอายมันไม่มีประโยชน์เลย
ควรจะสอนให้อายเวลาทำเรื่องบ้าๆมากกว่าด้วยซ้ำ
และนี่คือสิ่งที่รับน้องไทยไม่ได้สอน
1) การตระหนักในสิทธิของตนเอง: ในทางประชาธิปไตยมนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำในสิ่งที่ไม่เดือนร้อนใคร ขณะเดียวกันก็
ไม่มีใครละเมิดสิทธิของเราได้ แต่การรับน้องสอนให้มองว่าคนอาวุโสมักเหนือกว่าเด็กเสมอ มีสิทธิมากกว่าเด็ก ทั้งที่
มันก็เท่ากัน
2) การกล้าสู้กับความไม่มีเหตุผล: คนรัก SOTUS ร้อยทั้งร้อยมักอ้างว่าสังคมข้างนอกมันโหดร้าย ผมเองก็เห็นด้วย
แต่แทนที่จะสอนให้ทนกับความโหดร้ายข้างนอก เช่นความไร้เหตุผลของเจ้านาย, ลูกค้า ฯลฯ ควรจะสอนให้ลุกขึ้นสู้
ลุกขึ้นทำลายความไร้เหตุผล เช่น แย้งเจ้านายเป็นบ้าง ถ้าเจ้านายห่วยมากก็ลาออกเป็น, เจอลูกค้าห่วยๆก็ต้องปกป้อง
สิทธิของตัวเองเป็น
3) การยอมรับในความแตกต่างเชิงปัจเจก: คนทุกคนไม่ได้เหมือนกัน แนวคิดต่างกันได้ แต่คำว่า Unity ของรับน้อง
ค่อนข้างกีดกันความต่างออกไป คนกล้าต่างจากชาวบ้านมักโดนมองว่าบ้า เพี้ยน ทั้งที่ความจริงคนแบบนี้หลายคน
มักเป็นคนที่เก่งกว่าคนที่เหมือนๆกันคนอื่นๆด้วยซ้ำ
ถ้าจะแย้งอะไรก็แย้งได้ครับ จะกลับมาอ่านกระทู้บ่อยๆ
ป.ล. และสำหรับผม อย่ามาอ้างว่าเดินผู้ใหญ่(?)หมาไม่กัด คนเราทุกคนเกิดมามีสมองคิดเองได้ ไม่ต้องไปคิดแทนเด็ก
หรอกว่าอันโน้นดีอันนั้นไม่ดี
มาถกถึงความจำเป็นของ SOTUS ในโลกสมัยใหม่และวิธีคิดแบบเสรีนิยมใหม่กันครับ
ในฐานะที่ผมเองก็ยอมรับแนวคิดเสรีนิยมมากกว่าอนุรักษ์นิยม ผมค่อนข้างมองว่าการรับน้อง
มันกดทับคุณค่าหลายอย่างในวิธีคิดแบบเสรีนิยมใหม่หลายๆอย่าง ทั้งสิทธิ, ความเป็นปัจเจก,
เหตุผล, ความเท่าเทียมกัน ฯลฯ ผมเองก็เลยอยากชวนคนที่รัก SOTUS มากๆมาถกกันบ้าง
ว่าทำไมถึงเห็นด้วยกับวิธีคิดแบบนี้ ทั้งที่เมืองนอกเมืองนาเค้าเองก็เลิกทำกันไปแล้ว
ลองมาคุยกันถึงนิยามของ SOTUS กันนะครับ (เอาแบบที่แปลตรงๆ ไม่ irony อะไรละกัน)
SOTUS = Seniority+Order+Tradition+Unity+Spirit
ผมมีมุมมองกับนิยามของแต่ละองค์ประกอบของ SOTUS ตามนี้
1) Seniority: อันนี้ผมมองว่าไร้สาระ พี่ๆเองก็ไม่ได้มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่าน้องเท่าไหร่เลย เรียนก่อนแค่ไม่กี่ปี
แถมวิธีคิดเรื่องอาวุโสนิยมมันสร้างปัญหาให้เอะอะจะทำอะไรคนแก่กว่าก็ถูกหมด เด็กไม่มีสิทธิข้ามหัวได้ต่อให้รุ่นพี่
มันจะกะโหลกกะลาแค่ไหนก็ตาม สังคมไทยเลยมัวแต่ต้องให้เกียรติคนแก่กว่าแทนที่จะดูตามความสามารถเป็นหลัก
แถมที่ร้ายกว่าคือการที่มีระบบอุปถัมภ์รุ่นน้องจากรุ่นพี่อีก ถ้าเห็นว่าเป็นน้องคณะน้องภาคน้องรหัสตัวเองก็จะดันมาก
กว่าคนอื่นทั้งที่ความจริงไม่ควรดัน ควรดันคนมีความสามารถเป็นหลักมากกว่าครับ ดีต่อองค์กรมากกว่าด้วย
2) Order: ทำไมต้องมี Order เวลาคนจะทำอะไรควรให้เค้าทำเพราะเห็นด้วยกับเหตุผลตัวนั้นโดยไม่ต้องสั่ง
ถ้าอยากให้เค้าทำก็อธิบายเหตุผลและหลักการของสิ่งที่อยากให้ทำสิครับ และถ้าเค้าไม่เห็นด้วยเค้าก็มีสิทธิที่ไม่รับคำสั่ง
ที่ดูไม่ฉลาดเหมือนกัน
3) Tradition: ในหลายๆกรณีตัวประเพณีเองก็ไม่ได้จำเป็นกับองค์กรเลย ยิ่งประเพณีที่คร่ำครึยิ่งถ่วงองค์กรให้ช้าลง
4) Unity: การมีความเป็นหนึ่งเดียวในระดับที่เข้มข้นมากๆมันก็ทำลายคนคิดต่าง(แต่อาจกว่าคนส่วนใหญ่)ด้วยคำพูดประเภท
"ทีมต้องมาก่อน", "องค์กรควรไปทางเดียวกันหมด" ฯลฯ วิธีคิดนี้ผมเลยมองว่าไม่ต่างจากเผด็จการประเภทหนึ่งเหมือนกัน
โลกสมัยใหม่คุณค่าเชิงปัจเจกสำคัญครับ บางครั้งการที่องค์กรคิดไปคนละทางมันทำให้ได้มุมมองที่หลากหลายกว่า ได้ภาพกว้าง
กว่าการพยายามยัดเยียดความเป็นหนึ่งเดียวกันเยอะ
5) Spirit: เอาแบบโลกไม่สวยละกันว่า การที่สอนให้คนมีความกล้าทำเพื่ออะไรโดยที่ไม่ดูความคุ้มได้คุ้มเสียเป็นการยัดเยียด
ความโง่ให้เด็กอย่างนึง การมี spirit เต้นเพลงบ้าๆบอๆไร้สาระ การมี spirit ทำตามคำสั่งของรุ่นพี่ที่มันน่าอายมันไม่มีประโยชน์เลย
ควรจะสอนให้อายเวลาทำเรื่องบ้าๆมากกว่าด้วยซ้ำ
และนี่คือสิ่งที่รับน้องไทยไม่ได้สอน
1) การตระหนักในสิทธิของตนเอง: ในทางประชาธิปไตยมนุษย์ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพที่จะทำในสิ่งที่ไม่เดือนร้อนใคร ขณะเดียวกันก็
ไม่มีใครละเมิดสิทธิของเราได้ แต่การรับน้องสอนให้มองว่าคนอาวุโสมักเหนือกว่าเด็กเสมอ มีสิทธิมากกว่าเด็ก ทั้งที่
มันก็เท่ากัน
2) การกล้าสู้กับความไม่มีเหตุผล: คนรัก SOTUS ร้อยทั้งร้อยมักอ้างว่าสังคมข้างนอกมันโหดร้าย ผมเองก็เห็นด้วย
แต่แทนที่จะสอนให้ทนกับความโหดร้ายข้างนอก เช่นความไร้เหตุผลของเจ้านาย, ลูกค้า ฯลฯ ควรจะสอนให้ลุกขึ้นสู้
ลุกขึ้นทำลายความไร้เหตุผล เช่น แย้งเจ้านายเป็นบ้าง ถ้าเจ้านายห่วยมากก็ลาออกเป็น, เจอลูกค้าห่วยๆก็ต้องปกป้อง
สิทธิของตัวเองเป็น
3) การยอมรับในความแตกต่างเชิงปัจเจก: คนทุกคนไม่ได้เหมือนกัน แนวคิดต่างกันได้ แต่คำว่า Unity ของรับน้อง
ค่อนข้างกีดกันความต่างออกไป คนกล้าต่างจากชาวบ้านมักโดนมองว่าบ้า เพี้ยน ทั้งที่ความจริงคนแบบนี้หลายคน
มักเป็นคนที่เก่งกว่าคนที่เหมือนๆกันคนอื่นๆด้วยซ้ำ
ถ้าจะแย้งอะไรก็แย้งได้ครับ จะกลับมาอ่านกระทู้บ่อยๆ
ป.ล. และสำหรับผม อย่ามาอ้างว่าเดินผู้ใหญ่(?)หมาไม่กัด คนเราทุกคนเกิดมามีสมองคิดเองได้ ไม่ต้องไปคิดแทนเด็ก
หรอกว่าอันโน้นดีอันนั้นไม่ดี