สิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ที่เล่าออกมาให้ฟังเท่านั้น คงต้องอยู่ในดุลยพินิจของผู้อ่านแต่ละท่าน จะพิจารณาไตร่ตรอง
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ใครที่เคยเล่นหุ้นตอนปี 51 ซึ่งต่อมา เลห์แมน บราเดอร์ ประกาศล้มละลาย กลายเป็นวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ มาจนทุกวันนี้ก็ยังไม่ปกติดี

เปล่าผมไม่ได้บอกว่า จะเกิดวิกฤตรอบใหม่

สิ่งที่ผมกำลังจะเล่าคือ บรรยากาศตอนนั้น

ในตอนต้นปี มีข่าวออกมามากมายเหลือเกิน สิ่งที่เกิดกับตลาดหลักทรัพย์คือ นักลงทุนต่างประเทศขายอย่างเดียวเป็นเวลานานหลายเดือนมาก ตลาดหลักทรัพย์ค่อยๆทรุดลง เรื่อยๆ จนเลห์แมนล้ม ตลาดทรุดฮวบเหมือนถูกหมัดน๊อก แล้วสหรัฐฯก็มี มาตรา QE ออกมานั่นแหละ

ตลาดทรุดลงมาอยูแถว 400 จุดเห็นจะได้

บรรยากาศในสถานการณ์ตอนนั้น ก็เหมือนในตอนนี้ คือ ไม่รู้ว่า ทำไมนักลงทุนต่างประเทศขายทุกวัน เหตุผลมาเฉลยตอนหลังว่าต้องการเงินไปพยุงบริษัท อันเนื่องมาจากปัญหาตราสารหนี้ด้อยคุณภาพ

คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน คือ นักลงทุนต่างประเทศขายอย่างเดียว ถ้าให้ผมเดาและหวังว่าผมคงเดาผิด ผมคงต้องเดาว่า คงเตรียมเงินกลับไปคืน ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตอนที่เฟดดึงเงินออกจากตลาด ซึ่งคงไม่ใช่ตอนนี้ แต่ใกล้มากแล้ว  หลังจากนั้นแล้วระบบเศรษฐกิจคงต้องเดินไปด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาเงินจากเฟดอีก

และสิ่งที่่ผมไม่รู้คือ เขาจะขายเอาเงินกลับไปเท่าไหร่ และระยะเวลาขายเท่าไหร่ แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ เขาต้องการขายให้ได้ราคา ดังนั้น จะขายไปเรื่อยๆ

ผมจึงไม่คืดว่า จะลงไปขนาดนั้น แต่คงไม่น้อย คงต้องรอดูเฉลยเท่านั้นครับ

ส่วนผมผ่านตอนนั้นมา และด้วยสมมุติฐานของผมดังที่เล่าให้ฟัง ผมหวาดเสียวครับ ผมจึงขายออกไปเกือบหมด เพราะ การไม่รู้อย่างชัดเจน เป็นการเสี่ยงมาก

และอย่าบอกว่า นักลงทุนวีไอ ไม่ขายล้างพอร์ตนะครับ เพราะเท่าที่ผมรู้บางท่านล้างพอร์ตตอนนั้นครับ

โชคดีกับการลงทุนครับ