ลูกสาว 2.2 ขวบ เริ่มไปโรงเรียนเมื่อต้นเดือน พ.ค. มีอาการงอแง ร้องไห้ ก่อนไปทุกเช้าจนกระทั่งส่งถึงมือครู
ไปได้ 3 สัปดาห์ อาการร้องไห้งอแงที่โรงเรียนลดลง เหลือแค่ร้องไห้ตอนที่ไปส่งเท่านั้น กลับมาถึงบ้านก็มักจะพูดว่าครูใจดี ร้องเพลง เล่านิทานให้ฟัง สนุกดี เล่นกับเพื่อน แม่ได้ยินลูกพูดแบบนั้นก็ดีใจมากๆ คิดว่าลูกคงเริ่มปรับตัวได้ดีแล้ว พอผ่านเสาร์อาทิตย์ไปเท่านั้นเอง
เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ...วันจันทร์... สิ่งที่พ่อแม่นึกไม่ถึงก็เกิดขึ้น...
ลูกไม่ยอมทำกิจวัตรประจำวันใดๆ เลย ตั้งแต่เช้า ไม่ยอมลุกจากที่นอน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ล้างหน้า และที่หนักสุดคือ ไม่ยอมแปรงฟัน
สิ่งที่่เกิดขึ้นทำให้พ่อ
งมากๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ลูกไม่เคยอิดออดอะไรเลย การอาบน้ำและแปรงฟันคือสิ่งที่ลูกชอบมาก หลายๆ ครั้งยังแย่งแปรงสีฟันไปแปรงฟันเอง (สอนลูกว่าถ้าไม่แปรงจะฟันผุ ปวดมาก ฟันเหลือง ปากเหม็น แมลงสาบชอบมาตอมปากเด็กที่ไม่ยอมแปรงฟัน)
....อนิจจา...เหมือนลูกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เพียงแค่สองวันที่โรงเรียนหยุด พ่อแม่ได้แต่เปิดคลิปเก่าที่เคยอัดไว้ ดูคลิปลูกอาบน้ำ สระผม แปรงฟันอย่างหรรษา คงจะกลายเป็นอดีตอย่างถาวรไปแล้ว คิดๆ แล้วเศร้าใจค่ะ เพราะกิจวัตรเหล่านี้เราปลูกฝังมาสม่ำเสมอตั้งแต่ลูกยังไม่ขวบ ไม่เคยละเลย
หลังจากลูกต่อต้าน เราก็คอยหลอกล่อสารพัดวิธี จนยอมตื่นนอนมาอาบน้ำ ล้างหน้า (โดยลูกไม่เต็มใจนัก ใช้เวลาหลอกล่อนานมาก) แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ยอมแปรงฟันอยู่ดี ทั้งตอนตื่นนอนและก่อนเข้านอน ใช้ทั้งวิธีเล่านิทาน เปิดการ์ตูนเรื่องแมงกินฟัน เอารางวัลมาล่อ บอกว่าจะพาไปเที่ยวบ้านของเล่น ถึงขั้นชวนแปรงแข่งกันและให้ลูกแปรงให้พ่อ เป็นการผลัดกันแปรง แต่ไม่ได้ผลเลย แม่ตัดสินใจล็อคตัวลูกเพื่อแปรงฟันให้ เพราะอยากให้ลูกรู้ว่า เป็นสิ่งสำคัญ ยังไงก็ต้องทำ หวังว่าลูกจะชินในสักวัน ผลคือ ลูกดิ้นขัดขืนแรงมากแทบล็อคไม่อยู่ ส่วนพ่อไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นมาให้เราลองทำ จนเมื่อวานเย็น พ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องนี้แรงมากแทบไม่มองหน้ากัน ก่อนนอนมาตกลงกันว่าจะไม่ล็อคตัวลูก จะค่อยๆ หลอกล่อชักชวน ...เช้านี้อีกแล้ว ใช้เวลาหลอกล่อชักชวนอยู่ 1 ชั่วโมงเต็มๆ แต่ยังไม่ได้ผลจนต้องล็อคตัวแปรง กลายเป็นศึกแปรงฟัน ร้องลั่นบ้านและหงุดหงิดกันทั้งสามคน พ่อ แม่ ลูก
ขอคำแนะนำค่ะ
1> แม่เคยฝึกลูกบอกฉี่บอกอึได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่พอลูกไปโรงเรียนซึ่งคุณครูจำเป็นต้องให้ใส่แพมเพิร์สตลอด ทำให้ลูกไม่ยอมบอกอีกต่อไป อึใส่แพมเพิร์สไว้อย่างนั้นจนส่งกลิ่นออกมาให้รู้ แก้ไข ปรับยังไงดีคะ
2> ลูกไม่ยอมอาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า สระผม เกี่ยวเนื่องกับการปรับตัวเรื่องไปโรงเรียนหรือเปล่าคะ โดยเฉพาะเรื่องแปรงฟัน การล็อคตัว จะทำให้ลูกยิ่งเครียด ยิ่งต่อต้านหนักขึ้นหรือไม่ วิธีที่ถูกต้องทำยังไง
3> ลูกบอกว่าไปโรงเรียนสนุก มีเพื่อนเยอะ มีของเล่นเยอะ เล่าเรื่องคุณครู ร้องเพลงที่ครูสอนมาให้พ่อแม่ฟัง ดูเหมือนจะมีความสุข แต่กลับต่อต้านการไปโรงเรียน พรากจากอกแม่มา 5 สัปดาห์แล้ว น่าจะปรับตัวได้มากขึ้น เหตุใดจึงแย่ลง ตอนนี้เพื่อนๆ ไม่มีใครร้องไห้แล้ว เหลือลูกเราคนเดียวที่ยังร้องไห้และร้องหนักกว่าตอนไปแรกๆ อีกค่ะ จะทำยังไงดี
ช่วยด้วยค่ะ อดทนต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์แล้ว และเริ่มเครียดมากขึ้นทุกที คิดว่าอาจแก้ไขไม่ถูกวิธีก็ได้ พยายามจะแก้ไขปัญหาก่อนจะกลายเป็นเรื่องเรื้อรัง ก่อนที่พ่อกับแม่จะทะเลาะกันจนเบื่อขี้หน้ากันกว่านี้
แก้ไขอย่างไรดีคะ : พฤติกรรมต่อต้านของลูก 2.2 ขวบ ปฏิเสธกิจวัตรประจำวันทุกอย่าง
ไปได้ 3 สัปดาห์ อาการร้องไห้งอแงที่โรงเรียนลดลง เหลือแค่ร้องไห้ตอนที่ไปส่งเท่านั้น กลับมาถึงบ้านก็มักจะพูดว่าครูใจดี ร้องเพลง เล่านิทานให้ฟัง สนุกดี เล่นกับเพื่อน แม่ได้ยินลูกพูดแบบนั้นก็ดีใจมากๆ คิดว่าลูกคงเริ่มปรับตัวได้ดีแล้ว พอผ่านเสาร์อาทิตย์ไปเท่านั้นเอง
เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ...วันจันทร์... สิ่งที่พ่อแม่นึกไม่ถึงก็เกิดขึ้น...
ลูกไม่ยอมทำกิจวัตรประจำวันใดๆ เลย ตั้งแต่เช้า ไม่ยอมลุกจากที่นอน ไม่ยอมอาบน้ำ ไม่ล้างหน้า และที่หนักสุดคือ ไม่ยอมแปรงฟัน
สิ่งที่่เกิดขึ้นทำให้พ่องมากๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ลูกไม่เคยอิดออดอะไรเลย การอาบน้ำและแปรงฟันคือสิ่งที่ลูกชอบมาก หลายๆ ครั้งยังแย่งแปรงสีฟันไปแปรงฟันเอง (สอนลูกว่าถ้าไม่แปรงจะฟันผุ ปวดมาก ฟันเหลือง ปากเหม็น แมลงสาบชอบมาตอมปากเด็กที่ไม่ยอมแปรงฟัน)
....อนิจจา...เหมือนลูกเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เพียงแค่สองวันที่โรงเรียนหยุด พ่อแม่ได้แต่เปิดคลิปเก่าที่เคยอัดไว้ ดูคลิปลูกอาบน้ำ สระผม แปรงฟันอย่างหรรษา คงจะกลายเป็นอดีตอย่างถาวรไปแล้ว คิดๆ แล้วเศร้าใจค่ะ เพราะกิจวัตรเหล่านี้เราปลูกฝังมาสม่ำเสมอตั้งแต่ลูกยังไม่ขวบ ไม่เคยละเลย
หลังจากลูกต่อต้าน เราก็คอยหลอกล่อสารพัดวิธี จนยอมตื่นนอนมาอาบน้ำ ล้างหน้า (โดยลูกไม่เต็มใจนัก ใช้เวลาหลอกล่อนานมาก) แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ยอมแปรงฟันอยู่ดี ทั้งตอนตื่นนอนและก่อนเข้านอน ใช้ทั้งวิธีเล่านิทาน เปิดการ์ตูนเรื่องแมงกินฟัน เอารางวัลมาล่อ บอกว่าจะพาไปเที่ยวบ้านของเล่น ถึงขั้นชวนแปรงแข่งกันและให้ลูกแปรงให้พ่อ เป็นการผลัดกันแปรง แต่ไม่ได้ผลเลย แม่ตัดสินใจล็อคตัวลูกเพื่อแปรงฟันให้ เพราะอยากให้ลูกรู้ว่า เป็นสิ่งสำคัญ ยังไงก็ต้องทำ หวังว่าลูกจะชินในสักวัน ผลคือ ลูกดิ้นขัดขืนแรงมากแทบล็อคไม่อยู่ ส่วนพ่อไม่เห็นด้วย แต่ก็ไม่มีวิธีอื่นมาให้เราลองทำ จนเมื่อวานเย็น พ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องนี้แรงมากแทบไม่มองหน้ากัน ก่อนนอนมาตกลงกันว่าจะไม่ล็อคตัวลูก จะค่อยๆ หลอกล่อชักชวน ...เช้านี้อีกแล้ว ใช้เวลาหลอกล่อชักชวนอยู่ 1 ชั่วโมงเต็มๆ แต่ยังไม่ได้ผลจนต้องล็อคตัวแปรง กลายเป็นศึกแปรงฟัน ร้องลั่นบ้านและหงุดหงิดกันทั้งสามคน พ่อ แม่ ลูก
ขอคำแนะนำค่ะ
1> แม่เคยฝึกลูกบอกฉี่บอกอึได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่พอลูกไปโรงเรียนซึ่งคุณครูจำเป็นต้องให้ใส่แพมเพิร์สตลอด ทำให้ลูกไม่ยอมบอกอีกต่อไป อึใส่แพมเพิร์สไว้อย่างนั้นจนส่งกลิ่นออกมาให้รู้ แก้ไข ปรับยังไงดีคะ
2> ลูกไม่ยอมอาบน้ำ แปรงฟัน ล้างหน้า สระผม เกี่ยวเนื่องกับการปรับตัวเรื่องไปโรงเรียนหรือเปล่าคะ โดยเฉพาะเรื่องแปรงฟัน การล็อคตัว จะทำให้ลูกยิ่งเครียด ยิ่งต่อต้านหนักขึ้นหรือไม่ วิธีที่ถูกต้องทำยังไง
3> ลูกบอกว่าไปโรงเรียนสนุก มีเพื่อนเยอะ มีของเล่นเยอะ เล่าเรื่องคุณครู ร้องเพลงที่ครูสอนมาให้พ่อแม่ฟัง ดูเหมือนจะมีความสุข แต่กลับต่อต้านการไปโรงเรียน พรากจากอกแม่มา 5 สัปดาห์แล้ว น่าจะปรับตัวได้มากขึ้น เหตุใดจึงแย่ลง ตอนนี้เพื่อนๆ ไม่มีใครร้องไห้แล้ว เหลือลูกเราคนเดียวที่ยังร้องไห้และร้องหนักกว่าตอนไปแรกๆ อีกค่ะ จะทำยังไงดี
ช่วยด้วยค่ะ อดทนต่อเนื่องมา 2 สัปดาห์แล้ว และเริ่มเครียดมากขึ้นทุกที คิดว่าอาจแก้ไขไม่ถูกวิธีก็ได้ พยายามจะแก้ไขปัญหาก่อนจะกลายเป็นเรื่องเรื้อรัง ก่อนที่พ่อกับแม่จะทะเลาะกันจนเบื่อขี้หน้ากันกว่านี้