คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
วิธีที่ 1 :
+ หาหลักฐานให้เค้ายอมรับสภาพหนี้ เช่น คุยโทรศัพท์อัดเสียง บอกว่าเป็นหนี้เรากี่บาทไว้ก่อน
+ คุยกับเขาว่าให้ผ่อนจ่าย หากเบี้ยว ก็บอกว่าจะไปคุยกับหัวหน้างาน และจะทำการยื่นเรื่องเพื่อขอให้หักเงินเดือน(อันนี้เคยได้ยินว่าพอทำได้)
+ แกล้งขู่ไปว่าจะหาทนาย หาเรื่องฟ้องร้อง ค่าทนายก็ขู่ไปว่าจะบังคับให้เขาเป็นคนจ่าย
+ ขู่ไปว่าถ้าเรื่องถึงศาล จะติดเครดิตบูโร ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้
+ ขู่ไปว่าจะเอาชื่อ นามสกุลไปเผยทางอินเตอร์เนต เอารูปเผยแพร่ด้วย
ขู่ไปว่าจะตามประจานให้ทุกคนรู้ว่าเธอเหนียวหนี้ อย่าให้ยืมเป็นอันขาด
วิธีที่ 2 :
+ ไม่ใช้คืนก็ต้อง…บังคับชำระหนี้ >>> พูดก็แล้ว ขอร้องก็แล้วลูกหนี้ก็ยังเฉย คุณก็ต้องอาศัยอำนาจของศาลตาม กม.แพ่งและพาณิชย์มาตรา 213ที่ว่า “ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้” ศาลจะพิจารณาตัดสินตามหลักฐานการเป็นหนี้เป็นสินระหว่างกัน ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจน ศาลก็จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้
+ บังคับคดี…ยึดทรัพย์ลูกหนี้ >>> เมื่อศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้วว่าให้ลูกหนี้ชำระหนี้ แต่คุณลูกหนี้จอมเหนียวหนี้ก็ยังไม่ใช้หนี้คืนอีก (เจ้าหนี้อย่าเพิ่งเหนื่อย) คุณต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการบังคับคดีไม่ว่าจะเป็นการยึด อายัดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนก็แล้วแต่สถานการณ์ของลูกหนี้ว่าเขามีหลักทรัพย์ ทรัพย์สินหรือเงินเดือนมากเพียงพอที่จะให้คุณอายัดหรือไม่ ซึ่งโดยปกติเจ้าหนี้ก็มักจะขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ไว้เผื่อหรือเกินมูลหนี้ตามคำพิพากษา เพราะมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคตอาจมีมูลค่าลดน้อยลง และถ้าหากมูลค่าทรัพย์ที่เจ้าหนี้ยึดไว้เกินกว่ามูลหนี้ที่เกิดขึ้น เจ้าหนี้ก็ต้องคืนเงินหรือมูลค่าในส่วนที่เกินให้ลูกหนี้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
+ ขายทอดตลาด… >>> หากเจ้าหนี้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ (จาก + ที่ 2) ซึ่งหมายถึงการเอาทรัพย์สินของลูกหนี้ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้ให้เพียงพอกับมูลค่าจำนวนหนี้ตามคำพิพากษา ทรัพย์สินของลูกหนี้ ถ้าจะให้ดีคุณต้องพยายามขายทอดตลาดทรัพย์สินที่คุณยึดจากลูกหนี้ให้หมดก่อนระยะเวลา 10 ปี เพราะหากคุณขายทรัพย์สินนั้นๆ ในปีที่ 11 และัปรากฏว่าไม่เพียงพอกับมูลค่าหนี้ ถึงเวลานั้นคุณก็ไม่สามารถร้องขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์เพิ่มเติมได้อีก เพราะเกินเวลา 10 ปีแห่งคดีความแล้ว
+ หาหลักฐานให้เค้ายอมรับสภาพหนี้ เช่น คุยโทรศัพท์อัดเสียง บอกว่าเป็นหนี้เรากี่บาทไว้ก่อน
+ คุยกับเขาว่าให้ผ่อนจ่าย หากเบี้ยว ก็บอกว่าจะไปคุยกับหัวหน้างาน และจะทำการยื่นเรื่องเพื่อขอให้หักเงินเดือน(อันนี้เคยได้ยินว่าพอทำได้)
+ แกล้งขู่ไปว่าจะหาทนาย หาเรื่องฟ้องร้อง ค่าทนายก็ขู่ไปว่าจะบังคับให้เขาเป็นคนจ่าย
+ ขู่ไปว่าถ้าเรื่องถึงศาล จะติดเครดิตบูโร ทำธุรกรรมทางการเงินไม่ได้
+ ขู่ไปว่าจะเอาชื่อ นามสกุลไปเผยทางอินเตอร์เนต เอารูปเผยแพร่ด้วย
ขู่ไปว่าจะตามประจานให้ทุกคนรู้ว่าเธอเหนียวหนี้ อย่าให้ยืมเป็นอันขาด
วิธีที่ 2 :
+ ไม่ใช้คืนก็ต้อง…บังคับชำระหนี้ >>> พูดก็แล้ว ขอร้องก็แล้วลูกหนี้ก็ยังเฉย คุณก็ต้องอาศัยอำนาจของศาลตาม กม.แพ่งและพาณิชย์มาตรา 213ที่ว่า “ถ้าลูกหนี้ละเลยเสียไม่ชำระหนี้ของตน เจ้าหนี้จะร้องขอต่อศาลให้สั่งบังคับชำระหนี้ก็ได้ เว้นแต่สภาพแห่งหนี้จะไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้” ศาลจะพิจารณาตัดสินตามหลักฐานการเป็นหนี้เป็นสินระหว่างกัน ซึ่งหากมีหลักฐานชัดเจน ศาลก็จะบังคับให้ลูกหนี้ชำระหนี้
+ บังคับคดี…ยึดทรัพย์ลูกหนี้ >>> เมื่อศาลตัดสินคดีถึงที่สุดแล้วว่าให้ลูกหนี้ชำระหนี้ แต่คุณลูกหนี้จอมเหนียวหนี้ก็ยังไม่ใช้หนี้คืนอีก (เจ้าหนี้อย่าเพิ่งเหนื่อย) คุณต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี ดำเนินการบังคับคดีไม่ว่าจะเป็นการยึด อายัดทรัพย์หรืออายัดเงินเดือนก็แล้วแต่สถานการณ์ของลูกหนี้ว่าเขามีหลักทรัพย์ ทรัพย์สินหรือเงินเดือนมากเพียงพอที่จะให้คุณอายัดหรือไม่ ซึ่งโดยปกติเจ้าหนี้ก็มักจะขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ไว้เผื่อหรือเกินมูลหนี้ตามคำพิพากษา เพราะมูลค่าของทรัพย์สินในอนาคตอาจมีมูลค่าลดน้อยลง และถ้าหากมูลค่าทรัพย์ที่เจ้าหนี้ยึดไว้เกินกว่ามูลหนี้ที่เกิดขึ้น เจ้าหนี้ก็ต้องคืนเงินหรือมูลค่าในส่วนที่เกินให้ลูกหนี้โดยอัตโนมัติเช่นกัน
+ ขายทอดตลาด… >>> หากเจ้าหนี้ยึดทรัพย์ลูกหนี้ (จาก + ที่ 2) ซึ่งหมายถึงการเอาทรัพย์สินของลูกหนี้ไปขายทอดตลาด เพื่อนำเงินมาชดใช้หนี้ให้เพียงพอกับมูลค่าจำนวนหนี้ตามคำพิพากษา ทรัพย์สินของลูกหนี้ ถ้าจะให้ดีคุณต้องพยายามขายทอดตลาดทรัพย์สินที่คุณยึดจากลูกหนี้ให้หมดก่อนระยะเวลา 10 ปี เพราะหากคุณขายทรัพย์สินนั้นๆ ในปีที่ 11 และัปรากฏว่าไม่เพียงพอกับมูลค่าหนี้ ถึงเวลานั้นคุณก็ไม่สามารถร้องขอให้ศาลสั่งยึดทรัพย์เพิ่มเติมได้อีก เพราะเกินเวลา 10 ปีแห่งคดีความแล้ว
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
จ้างพวกรับจ้างทวงหนี้ครับ
ราวๆ 20%
โหดมาก เค้ามีทีมพร้อมครับ
ที่ผมเคยจ้าง
แรกๆไปยืนด่าหน้าบ้าน
ยิงปืนขู่
ปีนเข้าบ้านไปฆ่าหมา ตัดหัววางที่หน้าบ้าน
เอาเลือดหมู สาดใส่บ้าน (แดงเถือก เป็นกะละมัง)
เอา อุจจาระ ผสมกาวสาดใส่บ้าน (เป็นถัง)
ตามไปด่าที่ทำงาน พ่อแม่
ด่าลูกที่โรงเรียน
ไม่เกินเดือนได้คืนครับ
และไม่ต้องห่วง
มีทีมติดคุกแทนเรา
เริ่มต้นน่าจะ 2แสนค่าทวง
เบอหาในหน้าเหลือหรือ google เลย
ถามเค้าก่อนว่ามีมาตรการยังไง
รับรองคุณฟังแล้วอยากจ้างแน่ๆครับ
ราวๆ 20%
โหดมาก เค้ามีทีมพร้อมครับ
ที่ผมเคยจ้าง
แรกๆไปยืนด่าหน้าบ้าน
ยิงปืนขู่
ปีนเข้าบ้านไปฆ่าหมา ตัดหัววางที่หน้าบ้าน
เอาเลือดหมู สาดใส่บ้าน (แดงเถือก เป็นกะละมัง)
เอา อุจจาระ ผสมกาวสาดใส่บ้าน (เป็นถัง)
ตามไปด่าที่ทำงาน พ่อแม่
ด่าลูกที่โรงเรียน
ไม่เกินเดือนได้คืนครับ
และไม่ต้องห่วง
มีทีมติดคุกแทนเรา
เริ่มต้นน่าจะ 2แสนค่าทวง
เบอหาในหน้าเหลือหรือ google เลย
ถามเค้าก่อนว่ามีมาตรการยังไง
รับรองคุณฟังแล้วอยากจ้างแน่ๆครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำเเนะนำค่ะ วิธีจัดการ พวกไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย
เป็นลูกน้องเก่าของ คุณเเม่
หลักทรัพย์ไม่คุ้มที่จะยึด มันใช้วิธีค่อยๆมาขอเพิ่ม
สืบมาเเล้วมันมีเงินเเต่ เหนียวหนี้
พูดดีด้วยเเล้ว ก็ไม่คืน อ้างว่าไม่มี
มีวิธีไหนบ้าง ที่จะได้คืน(มีค่าใช้จ่ายได้ค่ะ)
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ