ที่บ้านเซ้งต่อตึกแถวพร้อมที่ดินด้านหลังตึกแถวมาค่ะ
ตึกแถวนั้นมีขนาดแค่ห้องเดียว แต่ด้านหลังทะลุที่ดินเปล่า ซึ่งมีทางออกในซอยได้อีกทาง
ส่วนบ้านที่มีปัญหาคือตึกแถวห้องติดๆกัน ซึ่งด้านหลังติดกับที่ดินผืนนี้ โดยที่ทั้งหมด ทั้งตึกแถวและที่ดินเปล่าเป็นที่วัด
อาคารตึกแถวหมดสัญญาเซ้งไปแล้ว ตอนนี้กลายเป็นเช่าปีต่อปี โดยเราต้องเซ้งสิทธิ์ต่อจากเจ้าของเก่า แล้วมาเสียค่าเช่าวัดรายเดือน
ที่ดินเปล่านี้ เดิม เจ้าของคนเก่าๆ ได้สร้างรั้วล้อมเอาไว้ แต่พอเรามาทำการรังวัด ปรากฎว่า ที่ดินที่ตรงตามสัญญาเช่าวัด มีขนาดใหญ่กว่ารั้วที่ล้อม
จึงให้ทางกรรมการผู้ดูแลทรัพย์สินของวัด และเจ้าหน้าที่รังวัดมาตรวจสอบ พบว่า ที่ดินสวนที่อยู่นอกรั้วนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา เราเสียทั้งค่าเซ้งต่อ(เป็นจำนวนหลายล้าน) และค่าเช่าเต็มราคา
เนื่องจากเราต้องการปรับปรุงที่ดินเป็นที่จอดรถ และอาคารเก็บสินค้าชั่วคราว ประกอบกับรั้วเดิมเริ่มผุพังแล้ว เราจึงมีแผนจะทุบรั้วสร้างใหม่ และถมที่ใหม่
ส่วนตึกแถวด้านหน้าที่มีปัญหา 2 หลัง ในปัจจุบัน คงสถานะเป็นผู้เช่าเช่นเดียวกับเรา เนื่องจากหมดสัญญเช่าแล้ว
ปัญหาคือ ตึกแถวหลังแรก วางแท็งก์น้ำไว้ในเขตที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราตามสัญญาเช่า ตึกหลังที่ 2 สร้างส่วนต่อเติมออกมา ล้ำในที่เราโดยสร้างเป็นส่วนต่อเติมสามชั้น และชานหลังบ้านชั้นล่างยื่นจากอาคารอีกเมตรกว่าๆ และยังก่อกระถางต้นไม้ออกมา รวมแล้วเกินออกมาประมาณ 4-5 เมตร
เราได้ให้ทางกรรมการที่ดูแลทรัพย์สินไปเจรจา โดยแจ้งว่า เค้าไม่มีสิทธิ์ในที่ดินสวนนี้ เพราะเราเซ้งต่อและเสียค่าเช่าแล้ว พวกเค้าอ้างว่า เค้าอยู่อย่างงี้มานานแล้ว ที่ต้องเป็นสิทธิของเค้า (แต่เคาไม่ได้เสียค่าเช่า หรือค่าเซ้งสิทธิต่อ ในที่ส่วนนั้น)
สุดท้ายเรายอมลดขนาดที่ดินเราลงมา โดยไม่ทุบในส่วนอาคารที่เค้าต่อเติม แต่ขอคืนสวนที่เป็นชนที่ยื่นออกมา พร้อมกับกระถางต้นไม้ที่เค้าก่อ โดยเราจะสร้างรั้วรบในที่ของเรา แต่เค้าก็ไม่ยอม พูดตลอดเวลาว่านี่มันที่ของเค้า ทั้งๆที่กรรมการวัดก็เรียกคนมารังวัดชี้จุดเรียบร้อย
ตอนนี้เรากำลังดำเนินการก็สร้าง เนื่องจากไม่ต้องการปะทะกับเพื่อนบ้าน จึงให้กรรมการคนเดิมไปแจ้งว่าราจะทำการปรับพื้นที่สร้างกำแพงใหม่ ขอให้เค้าย้ายต้นไม้ ออกไป เราจำเป็นจะต้องทุบชานหลังบ้านเค้า(ในส่วนที่เกินมาในที่ดินเรา แต่สวนอาคารเรายอมให้)
ปรากฎว่าเค้าไม่ยอม ทั้งสองหลัง โดยหลังแรกอ้างว่า ถ้าเราไปย้ายแท็งค์น้ำ เค้าจะแจ้งความว่าเราบุกรุก หลังที่สองก็ขู่ว่าจะแจ้งความเหมือนกัน
เครียดมากค่ะ จะยกที่ให้ฟรีๆ ก็ทำใจไม่ได้ มูลค่ามันก็หลายแสน พ่อเราไม่มีทางยอม จะไปทุบ ก็กลัวปะทะ แถมโดนแจ้งความ
คำถามค่ะ
1. เค้ามีสิทธิแจ้งความรึเปล่าคะ ?ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าเป็นที่ที่เราเช่า เป็นกรรมสิทธิ์เราตามสัญญา
2. ถ้าเราไม่มีสิทธิไปแตะต้องทรัพย์สินเค้าแล้วเราจะเอาที่เราคืนมาได้ยังไงคะ?
3. เราควรจะทำยังไงกับกรณีนี้ดีคะ?
ขอบคุณมากค่ะ
ปล.จริงๆอยากถามเผื่อปัญหาตึกแถวที่ติดกันอีกด้าน เราเห็นส่วนต่อเติม(4ชั้น) เค้ากำลังจะพังลงมา เสาหักหลายจุดแล้ว แจ้งให้เค้ามาแก้ก็เฉย ไม่รู้มันจะถบ่มเมื่อไหร่ ...
ปรึกษาผู้รู้กฎหมายค่ะ ที่ดินที่เซ้งต่อมาถูกบ้านข้างเคียงบุกรุก พอไปบอกให้ย้ายของออกกลับโดนขู่ว่าจะแจ้งความ
ตึกแถวนั้นมีขนาดแค่ห้องเดียว แต่ด้านหลังทะลุที่ดินเปล่า ซึ่งมีทางออกในซอยได้อีกทาง
ส่วนบ้านที่มีปัญหาคือตึกแถวห้องติดๆกัน ซึ่งด้านหลังติดกับที่ดินผืนนี้ โดยที่ทั้งหมด ทั้งตึกแถวและที่ดินเปล่าเป็นที่วัด
อาคารตึกแถวหมดสัญญาเซ้งไปแล้ว ตอนนี้กลายเป็นเช่าปีต่อปี โดยเราต้องเซ้งสิทธิ์ต่อจากเจ้าของเก่า แล้วมาเสียค่าเช่าวัดรายเดือน
ที่ดินเปล่านี้ เดิม เจ้าของคนเก่าๆ ได้สร้างรั้วล้อมเอาไว้ แต่พอเรามาทำการรังวัด ปรากฎว่า ที่ดินที่ตรงตามสัญญาเช่าวัด มีขนาดใหญ่กว่ารั้วที่ล้อม
จึงให้ทางกรรมการผู้ดูแลทรัพย์สินของวัด และเจ้าหน้าที่รังวัดมาตรวจสอบ พบว่า ที่ดินสวนที่อยู่นอกรั้วนั้น เป็นกรรมสิทธิ์ของเรา เราเสียทั้งค่าเซ้งต่อ(เป็นจำนวนหลายล้าน) และค่าเช่าเต็มราคา
เนื่องจากเราต้องการปรับปรุงที่ดินเป็นที่จอดรถ และอาคารเก็บสินค้าชั่วคราว ประกอบกับรั้วเดิมเริ่มผุพังแล้ว เราจึงมีแผนจะทุบรั้วสร้างใหม่ และถมที่ใหม่
ส่วนตึกแถวด้านหน้าที่มีปัญหา 2 หลัง ในปัจจุบัน คงสถานะเป็นผู้เช่าเช่นเดียวกับเรา เนื่องจากหมดสัญญเช่าแล้ว
ปัญหาคือ ตึกแถวหลังแรก วางแท็งก์น้ำไว้ในเขตที่เป็นกรรมสิทธิ์ของเราตามสัญญาเช่า ตึกหลังที่ 2 สร้างส่วนต่อเติมออกมา ล้ำในที่เราโดยสร้างเป็นส่วนต่อเติมสามชั้น และชานหลังบ้านชั้นล่างยื่นจากอาคารอีกเมตรกว่าๆ และยังก่อกระถางต้นไม้ออกมา รวมแล้วเกินออกมาประมาณ 4-5 เมตร
เราได้ให้ทางกรรมการที่ดูแลทรัพย์สินไปเจรจา โดยแจ้งว่า เค้าไม่มีสิทธิ์ในที่ดินสวนนี้ เพราะเราเซ้งต่อและเสียค่าเช่าแล้ว พวกเค้าอ้างว่า เค้าอยู่อย่างงี้มานานแล้ว ที่ต้องเป็นสิทธิของเค้า (แต่เคาไม่ได้เสียค่าเช่า หรือค่าเซ้งสิทธิต่อ ในที่ส่วนนั้น)
สุดท้ายเรายอมลดขนาดที่ดินเราลงมา โดยไม่ทุบในส่วนอาคารที่เค้าต่อเติม แต่ขอคืนสวนที่เป็นชนที่ยื่นออกมา พร้อมกับกระถางต้นไม้ที่เค้าก่อ โดยเราจะสร้างรั้วรบในที่ของเรา แต่เค้าก็ไม่ยอม พูดตลอดเวลาว่านี่มันที่ของเค้า ทั้งๆที่กรรมการวัดก็เรียกคนมารังวัดชี้จุดเรียบร้อย
ตอนนี้เรากำลังดำเนินการก็สร้าง เนื่องจากไม่ต้องการปะทะกับเพื่อนบ้าน จึงให้กรรมการคนเดิมไปแจ้งว่าราจะทำการปรับพื้นที่สร้างกำแพงใหม่ ขอให้เค้าย้ายต้นไม้ ออกไป เราจำเป็นจะต้องทุบชานหลังบ้านเค้า(ในส่วนที่เกินมาในที่ดินเรา แต่สวนอาคารเรายอมให้)
ปรากฎว่าเค้าไม่ยอม ทั้งสองหลัง โดยหลังแรกอ้างว่า ถ้าเราไปย้ายแท็งค์น้ำ เค้าจะแจ้งความว่าเราบุกรุก หลังที่สองก็ขู่ว่าจะแจ้งความเหมือนกัน
เครียดมากค่ะ จะยกที่ให้ฟรีๆ ก็ทำใจไม่ได้ มูลค่ามันก็หลายแสน พ่อเราไม่มีทางยอม จะไปทุบ ก็กลัวปะทะ แถมโดนแจ้งความ
คำถามค่ะ
1. เค้ามีสิทธิแจ้งความรึเปล่าคะ ?ถ้าเราพิสูจน์ได้ว่าเป็นที่ที่เราเช่า เป็นกรรมสิทธิ์เราตามสัญญา
2. ถ้าเราไม่มีสิทธิไปแตะต้องทรัพย์สินเค้าแล้วเราจะเอาที่เราคืนมาได้ยังไงคะ?
3. เราควรจะทำยังไงกับกรณีนี้ดีคะ?
ขอบคุณมากค่ะ
ปล.จริงๆอยากถามเผื่อปัญหาตึกแถวที่ติดกันอีกด้าน เราเห็นส่วนต่อเติม(4ชั้น) เค้ากำลังจะพังลงมา เสาหักหลายจุดแล้ว แจ้งให้เค้ามาแก้ก็เฉย ไม่รู้มันจะถบ่มเมื่อไหร่ ...