ถึงเธอ.....แว่นหนาตาหยี คนนั้น
กว่า 3 ปีแล้วสินะ ที่เราต้องจากกัน ด้วยความโกรธ และไม่เข้าใจ
พี่เองก็ยังคิดถึงเราเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พร้อมกับความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจ
จากเรื่องราวในอดีต ซึ่งคงไม่อาจลบออกจากความรู้สึกของน้องได้
ที่ผ่านมาพี่พยายามติดต่อน้องมาโดยตลอด ตามช่องทางที่น้องบอกพี่ไว้ครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน
พี่ส่งหาเราตลอด แต่ก็เหมือนการโยนหินลงอ่างแก้ว ที่โยนแล้วก็หายไป ไม่ได้ติดต่อกลับมา
สิ่งที่พอจะรับรู้ได้ คือ ความเคลื่อนไหวที่ผ่าน FB ของเพื่อนๆน้องๆ จากรูปถ่ายที่ผ่านเข้ามา
ที่ยังทำให้พี่ได้รับรู้ว่า น้องยังคงสุขสบายดีตามอัตภาพ ถึงแม้ว่าบางครั้งงานที่น้องรับผิดชอบ
อาจหนักจนน้องต้องเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาลบ้างก็ตาม ก็อดห่วงไม่ได้
แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะถึงโทรไป ก็คงไม่อยากรับสาย ได้แต่ส่งข้อความหาน้องไป
บางทีพี่มาเชียงใหม่ ก็เจอน้องทุกครั้งที่มา แต่.................ได้เพียงมองผ่านไป แม้เพียงห่างแค่เอื้อมมือ
ไม่กล้าที่จะทัก เพราะกลัวว่า น้องจะกลัวพี่ แล้วหนีไป หรือเฉยชาเมื่อเจอกัน
อยากบอกตรงนี้ว่า พี่ชายคนนี้ยังรัก และห่วงใยแว่นหนาตาหยีอยู่เสมอ
ไม่ว่าน้องจะเปลี่ยนไปอย่างไร เวลาจะผ่านไปกี่ปี ใจของพี่ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
อีกอย่าง"พี่ขอโทษ" ในสิ่งที่เคยทำให้น้องรู้สึกแย่ เสียความรู้สึก จนไม่อาจจะทำใจได้
แม้อาจจะแก้ไขเหตุการณ์ในอตีตไม่ได้ แต่อย่างน้อย หากได้มีโอกาสกลับเป็นเพื่อน เป็นพี่ที่น้องไว้ใจ
พี่จะรักษามิตรภาพที่มีต่อกันไว้ให้ยืนยาว ไม่ทำให้น้องเสียใจอีก
แต่ตอนนี้พี่ขอห่วงใยเรา อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ไม่ขอรบกวนความรู้สึกของน้อง
ได้เห็นน้องมีรอยยิ้ม มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ และได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจ พี่เองก็มีความสุขมากเกินพอแล้ว
ก็ได้แต่หวังว่า หากน้องรู้สึกดีๆ แล้ว คงจะนึกถึงคนไกลๆที่ห่วงใยเราเสมอนะครับ
ขอฝากความรัก ความห่วงใย และความคิดถึงแว่นหนาตาหยีคนนี้ผ่านสายลม
หวังว่าคงจะสัมผัสได้นะ..........
"ฝาก"ความคิดถึง ไปยังสาวแว่นหนาตาหยี มช. คนหนึ่ง
กว่า 3 ปีแล้วสินะ ที่เราต้องจากกัน ด้วยความโกรธ และไม่เข้าใจ
พี่เองก็ยังคิดถึงเราเสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พร้อมกับความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจ
จากเรื่องราวในอดีต ซึ่งคงไม่อาจลบออกจากความรู้สึกของน้องได้
ที่ผ่านมาพี่พยายามติดต่อน้องมาโดยตลอด ตามช่องทางที่น้องบอกพี่ไว้ครั้งสุดท้ายที่เราพบกัน
พี่ส่งหาเราตลอด แต่ก็เหมือนการโยนหินลงอ่างแก้ว ที่โยนแล้วก็หายไป ไม่ได้ติดต่อกลับมา
สิ่งที่พอจะรับรู้ได้ คือ ความเคลื่อนไหวที่ผ่าน FB ของเพื่อนๆน้องๆ จากรูปถ่ายที่ผ่านเข้ามา
ที่ยังทำให้พี่ได้รับรู้ว่า น้องยังคงสุขสบายดีตามอัตภาพ ถึงแม้ว่าบางครั้งงานที่น้องรับผิดชอบ
อาจหนักจนน้องต้องเจ็บป่วย เข้าโรงพยาบาลบ้างก็ตาม ก็อดห่วงไม่ได้
แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะถึงโทรไป ก็คงไม่อยากรับสาย ได้แต่ส่งข้อความหาน้องไป
บางทีพี่มาเชียงใหม่ ก็เจอน้องทุกครั้งที่มา แต่.................ได้เพียงมองผ่านไป แม้เพียงห่างแค่เอื้อมมือ
ไม่กล้าที่จะทัก เพราะกลัวว่า น้องจะกลัวพี่ แล้วหนีไป หรือเฉยชาเมื่อเจอกัน
อยากบอกตรงนี้ว่า พี่ชายคนนี้ยังรัก และห่วงใยแว่นหนาตาหยีอยู่เสมอ
ไม่ว่าน้องจะเปลี่ยนไปอย่างไร เวลาจะผ่านไปกี่ปี ใจของพี่ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลง
อีกอย่าง"พี่ขอโทษ" ในสิ่งที่เคยทำให้น้องรู้สึกแย่ เสียความรู้สึก จนไม่อาจจะทำใจได้
แม้อาจจะแก้ไขเหตุการณ์ในอตีตไม่ได้ แต่อย่างน้อย หากได้มีโอกาสกลับเป็นเพื่อน เป็นพี่ที่น้องไว้ใจ
พี่จะรักษามิตรภาพที่มีต่อกันไว้ให้ยืนยาว ไม่ทำให้น้องเสียใจอีก
แต่ตอนนี้พี่ขอห่วงใยเรา อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ ไม่ขอรบกวนความรู้สึกของน้อง
ได้เห็นน้องมีรอยยิ้ม มีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ และได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจ พี่เองก็มีความสุขมากเกินพอแล้ว
ก็ได้แต่หวังว่า หากน้องรู้สึกดีๆ แล้ว คงจะนึกถึงคนไกลๆที่ห่วงใยเราเสมอนะครับ
ขอฝากความรัก ความห่วงใย และความคิดถึงแว่นหนาตาหยีคนนี้ผ่านสายลม
หวังว่าคงจะสัมผัสได้นะ..........