Forget me not
ดอกไม้ขนาดเล็ก ไม่สิ ขนาดจิ๋วที่อยู่ในกระถางดินเผาข้างหน้าต่างยังคงคอยย้ำเตือนให้นึกถึงคนให้
ท่าทางเกร็งๆของเขา กับแว่นกรอบดำที่โดนเจ้าของขยับแล้วขยับอีกแก้เขิน ก่อนจะยื่นกระถางดินเผา
พร้อมกับต้นไม้จิ๋วในนั้นมาให้ กับคำพูดที่ทำเอาคนฟังแอบเขินตาม
"แค่คิดถึงผมบ้างเวลาที่เห็นมันออกดอกนะครับ"
.
.
.
จากวันนั้นก็สามปีแล้วสินะ ที่เราได้รู้จักกัน เจ้าของต้นไม้ทำทีโทรมาถามไถ่ความเป็นอยู่เจ้าต้นไม้จิ๋วนี่
อยู่บ่อยครั้ง
ถ้าห่วงนักจะให้มาทำไม ฮึ อยากจะบอกไปอย่างนี้จริงๆ แต่นึงถึงท่าทางขยับแว่นนั่นแล้วกลับยิ้มออกมาเสียนี่
ใจหนอใจ
จากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของต้นไม้จิ๋วนี่แล้ว สักพักก็เผื่อแผ่มาถึงคนดูแลต้นไม้ด้วย ค่อยยังชั่วหน่อย
ทุกครั้งเขาจะเป็นคนโทรมาเสมอ แต่วันนั้นฉันกลับเป็นฝ่ายโทรไปหลังจากที่เขาหายไปเกือบสัปดาห์
พร้อมๆกับที่ต้นไม้จิ๋วมีดอกสีม่วงมาแต่งแต้มใบเขียวๆให้สดใส
"จะโทรมาบอกว่า forget me not ออกดอกแล้ว" ฉันแสร้งหาเรื่องคุย รู้สึกหัวใจตัวเองเต้นตุบ ตุบ
เสียงปลายทางเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะทำคนโทรหามือไม้อ่อน
"ถ้างั้นคุณก็คิดถึงผมแล้วใช่มั้ย"
คนบ้า ไม่รู้หรอกว่าแม้ forget me not จะไม่ออกดอก ฉันก็คิดถึงคุณ
.
.
.
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้ว ฉันรับสายพร้อมกับเขี่ยดอกไม้จิ๋วสีม่วงในกระถางเล่น
"คิดถึงผมอยู่ใช่ไหม" คนเจ้าเล่ห์ถามมาตามสาย
"ไม่" ฉันแกล้งตอบ
"โกหก " เขาว่า
"forget me not ออกดอกอีกแล้ว ไม่คิดถึงผมได้ยังไง"
ทำเอาคนที่เขี่ยดอกไม้อยู่ต้องหมุนกระถางดินเผาเล่นแก้เขิน
"คุณแม่ผมบอกว่าในงานหมั้น คุณสวยมาก อยากให้เร่งงานแต่งเร็วๆ คุณเห็นด้วยมั้ย?"
กระถางดินเผาใบเล็กถูกเขี่ยไปมาหลายรอบแล้ว แต่คนฟังกลับไม่ตอบอย่างใจ
"เห็นด้วยข้อไหนคะ ฉันสวยมาก หรือให้แต่งงานเร็วๆ"
"เอาข้อหลังก็ได้ ข้อแรกผมมั่นใจอยู่แล้ว"
อึกฝั่งสรุปเองเสร็จสรรพ ฉันจำไม่ได้ว่าตอบอะไรเขาไป รู้แต่ว่า forget me not ช่อจิ๋วดูเหมือนจะยิ้มให้ฉัน
ดอกสีม่วงดูสดใสในแสงแดดอ่อน เหมือนจะบอกใครต่อใครที่ได้เห็น
..อย่าลืมฉันนะ..
โดย กลิ่นกาแฟ
Forget Me Not
ดอกไม้ขนาดเล็ก ไม่สิ ขนาดจิ๋วที่อยู่ในกระถางดินเผาข้างหน้าต่างยังคงคอยย้ำเตือนให้นึกถึงคนให้
ท่าทางเกร็งๆของเขา กับแว่นกรอบดำที่โดนเจ้าของขยับแล้วขยับอีกแก้เขิน ก่อนจะยื่นกระถางดินเผา
พร้อมกับต้นไม้จิ๋วในนั้นมาให้ กับคำพูดที่ทำเอาคนฟังแอบเขินตาม
"แค่คิดถึงผมบ้างเวลาที่เห็นมันออกดอกนะครับ"
.
.
.
จากวันนั้นก็สามปีแล้วสินะ ที่เราได้รู้จักกัน เจ้าของต้นไม้ทำทีโทรมาถามไถ่ความเป็นอยู่เจ้าต้นไม้จิ๋วนี่
อยู่บ่อยครั้ง
ถ้าห่วงนักจะให้มาทำไม ฮึ อยากจะบอกไปอย่างนี้จริงๆ แต่นึงถึงท่าทางขยับแว่นนั่นแล้วกลับยิ้มออกมาเสียนี่
ใจหนอใจ
จากถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของต้นไม้จิ๋วนี่แล้ว สักพักก็เผื่อแผ่มาถึงคนดูแลต้นไม้ด้วย ค่อยยังชั่วหน่อย
ทุกครั้งเขาจะเป็นคนโทรมาเสมอ แต่วันนั้นฉันกลับเป็นฝ่ายโทรไปหลังจากที่เขาหายไปเกือบสัปดาห์
พร้อมๆกับที่ต้นไม้จิ๋วมีดอกสีม่วงมาแต่งแต้มใบเขียวๆให้สดใส
"จะโทรมาบอกว่า forget me not ออกดอกแล้ว" ฉันแสร้งหาเรื่องคุย รู้สึกหัวใจตัวเองเต้นตุบ ตุบ
เสียงปลายทางเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะทำคนโทรหามือไม้อ่อน
"ถ้างั้นคุณก็คิดถึงผมแล้วใช่มั้ย"
คนบ้า ไม่รู้หรอกว่าแม้ forget me not จะไม่ออกดอก ฉันก็คิดถึงคุณ
.
.
.
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้ว ฉันรับสายพร้อมกับเขี่ยดอกไม้จิ๋วสีม่วงในกระถางเล่น
"คิดถึงผมอยู่ใช่ไหม" คนเจ้าเล่ห์ถามมาตามสาย
"ไม่" ฉันแกล้งตอบ
"โกหก " เขาว่า
"forget me not ออกดอกอีกแล้ว ไม่คิดถึงผมได้ยังไง"
ทำเอาคนที่เขี่ยดอกไม้อยู่ต้องหมุนกระถางดินเผาเล่นแก้เขิน
"คุณแม่ผมบอกว่าในงานหมั้น คุณสวยมาก อยากให้เร่งงานแต่งเร็วๆ คุณเห็นด้วยมั้ย?"
กระถางดินเผาใบเล็กถูกเขี่ยไปมาหลายรอบแล้ว แต่คนฟังกลับไม่ตอบอย่างใจ
"เห็นด้วยข้อไหนคะ ฉันสวยมาก หรือให้แต่งงานเร็วๆ"
"เอาข้อหลังก็ได้ ข้อแรกผมมั่นใจอยู่แล้ว"
อึกฝั่งสรุปเองเสร็จสรรพ ฉันจำไม่ได้ว่าตอบอะไรเขาไป รู้แต่ว่า forget me not ช่อจิ๋วดูเหมือนจะยิ้มให้ฉัน
ดอกสีม่วงดูสดใสในแสงแดดอ่อน เหมือนจะบอกใครต่อใครที่ได้เห็น
..อย่าลืมฉันนะ..
โดย กลิ่นกาแฟ