พัทยา – วันนี้ (6 มิ.ย. 56) เมื่อเวลา 00.10 น. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ มั่นศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก MR.RAJKUMAR RAMACHAN DRAN อายุ 27 ปี สัญชาติอินเดีย และ MR.PRABHAKAR TAMILMARAN อายุ 22 สัญชาติอินเดีย 2 นักศึกษาแพทย์ ว่าได้ถูกผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกี ขูดรีดเงินค่าเสียหายจากเรือที่กระแทกกัน โดยได้พากลุ่มเด็กเรือกว่า 5-6 คนมารุมล้อมเพื่อเรียกเงิน พวกตนจึงเกิดความกลัวจึงได้จ่ายเงินไป
ทั้งคู่ยังให้การอีกว่า ได้ไปเช่าเรือเจ็ทสกีที่บริเวณชายหาดหน้าไมค์คนละครึ่งชั่วโมง โดยผู้ประกอบการคิดค่าเช่าลำละ 150 บาท เป็นเงิน 300 บาท จากนั้นตนทั้ง 2 คนก็ได้เล่นเรือตามปกติ หลังจากนำเรือมาส่งคืนและจอดเรือที่บริเวณหาด และมีคลื่นแรงจนทำให้เรือทั้ง 2 ลำเกิดการกระทบกับ หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของเรือก็เรียกตนทั้ง 2 ให้มาชดใช้ค่าเสียหายของเรือ ตนจึงได้พูดคุยอธิบายถึงสาเหตุว่าไม่ได้ไปขับชนกันแต่อย่างใดและแค่จอดเรือแล้วเรือเกิดถูกคลื่นซัดจนกระทบกันเท่านั้นเองไม่น่าเสียหายมากมาย ต่อมาก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คนได้เดินลงมาเคลียร์กับตนทั้ง 2 และบอกให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000 ดอลล่าร์ แต่ตนทั้ง 2 มีเงินรวมกันแค่ 1,400 ดอลล่าร์ เท่านั้นเจ้าของเรือจึงได้ตกลงให้จ่าย 1,400 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงิน 42,000 บาท ตนจึงได้นำเงินมาเคลียร์ค่าเสียหายด้วยความกลัวที่จะถูกทำร้ายทั้งที่ตนทั้ง 2 คนเหลือเงินอยู่แค่นั้นหลังจากที่มาเที่ยวเมืองพัทยา ภายหลังจากเกิดเหตุแล้วจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ภายหลังจากการสอบสวนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ทำการเรียกเจ้าของเรือเจ็ทสกีดังกล่าวมาทำการสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงและตรวจสอบร่องรอยบาดแผลของเรือว่าสมเหตุสมผลกับค่าเสียหายหรือไม่ หากพบว่าผู้ประกอบการเรือเช่าเจ็ทสกีหรือเจ้าของเรือเจ็ตสกีนั้น ทำการเรียกเอาผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวมากเกินไปก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายและทำให้เสียภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยว
ฉาวอีก ! เจ้าของเรือเจ็ทสกีพัทยาเรียกค่าเสียหายเกินจริง / มีทุกวันจริงๆแต่ไม่เคยมีอะไรเปลี่ยนแปลง
พัทยา – วันนี้ (6 มิ.ย. 56) เมื่อเวลา 00.10 น. พ.ต.ท.ประสิทธิ์ มั่นศรี พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งจาก MR.RAJKUMAR RAMACHAN DRAN อายุ 27 ปี สัญชาติอินเดีย และ MR.PRABHAKAR TAMILMARAN อายุ 22 สัญชาติอินเดีย 2 นักศึกษาแพทย์ ว่าได้ถูกผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกี ขูดรีดเงินค่าเสียหายจากเรือที่กระแทกกัน โดยได้พากลุ่มเด็กเรือกว่า 5-6 คนมารุมล้อมเพื่อเรียกเงิน พวกตนจึงเกิดความกลัวจึงได้จ่ายเงินไป
ทั้งคู่ยังให้การอีกว่า ได้ไปเช่าเรือเจ็ทสกีที่บริเวณชายหาดหน้าไมค์คนละครึ่งชั่วโมง โดยผู้ประกอบการคิดค่าเช่าลำละ 150 บาท เป็นเงิน 300 บาท จากนั้นตนทั้ง 2 คนก็ได้เล่นเรือตามปกติ หลังจากนำเรือมาส่งคืนและจอดเรือที่บริเวณหาด และมีคลื่นแรงจนทำให้เรือทั้ง 2 ลำเกิดการกระทบกับ หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของเรือก็เรียกตนทั้ง 2 ให้มาชดใช้ค่าเสียหายของเรือ ตนจึงได้พูดคุยอธิบายถึงสาเหตุว่าไม่ได้ไปขับชนกันแต่อย่างใดและแค่จอดเรือแล้วเรือเกิดถูกคลื่นซัดจนกระทบกันเท่านั้นเองไม่น่าเสียหายมากมาย ต่อมาก็มีชายฉกรรจ์ประมาณ 5-6 คนได้เดินลงมาเคลียร์กับตนทั้ง 2 และบอกให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2,000 ดอลล่าร์ แต่ตนทั้ง 2 มีเงินรวมกันแค่ 1,400 ดอลล่าร์ เท่านั้นเจ้าของเรือจึงได้ตกลงให้จ่าย 1,400 ดอลล่าร์ คิดเป็นเงิน 42,000 บาท ตนจึงได้นำเงินมาเคลียร์ค่าเสียหายด้วยความกลัวที่จะถูกทำร้ายทั้งที่ตนทั้ง 2 คนเหลือเงินอยู่แค่นั้นหลังจากที่มาเที่ยวเมืองพัทยา ภายหลังจากเกิดเหตุแล้วจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ภายหลังจากการสอบสวนในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ทำการเรียกเจ้าของเรือเจ็ทสกีดังกล่าวมาทำการสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงและตรวจสอบร่องรอยบาดแผลของเรือว่าสมเหตุสมผลกับค่าเสียหายหรือไม่ หากพบว่าผู้ประกอบการเรือเช่าเจ็ทสกีหรือเจ้าของเรือเจ็ตสกีนั้น ทำการเรียกเอาผลประโยชน์จากนักท่องเที่ยวมากเกินไปก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายและทำให้เสียภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยว