จากที่เคยไปดูเรื่อง แม่เบี้ย ดิ โรติก อาร์ต มิวสิคัล เมื่อปีที่แล้ว สนุกมากๆ พอปีนี้อินเด็กซ์ บอกว่าจะทำละครเวทีเรื่องใหม่ว่าเรื่อง ละครแฟนตาซี 3 มิติครั้งแรกของเมืองไทย ก็ตื่นเต้น อดใจรอดูไม่ไหว เพราะส่วนตัวชอบหนัง 3 มิติเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้บัตรรอบสื่อมวลชนมาจึงไม่รอช้ารีบไปดูทันที ทุกคนคึกคัก แหม ใครๆก็อยากดูละครเวที 3 มิติ ด้านหน้าโรงละคร มีแว่นตา3 มิติ แจกให้สวม แหม เหมือนอยู่ในโรงภาพยนตร์ เห็นเขาบอกว่างานนี้ทุ่มทุน ติดตั้งจอภาพยนตร์พิเศษขนาดใหญ่ยักษ์เท่าตึก 2 ชั้น โหว งานนี้คงเห็นเทคนิคเต็มอิ่มแน่ๆ
เนื้อเรื่อง
ดูเหมือนว่าเรื่องโชคลาง เรื่องลี้ลับ และเรื่องการใบ้หวยจะอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ไม่เว้นแม้แต่ละครเวทีทันสมัย ที่นำเอาเรื่องของหวย มาผูกติดอยู่กับชีวิตของผู้คน ให้กลายเป็นละครเวทีแฟนตาซี หรือที่จริงแล้ว ความตื่นเต้น ความลุ้นระทึกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน นั่นคงเป็นความหรรษา ความบันเทิง ความคาดหวัง การลุ้นระทึก เป็นแฟนตาซีในอีกรสชาติหนึ่งของชีวิตมนุษย์ชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่น่าเชื่อว่าในสังคมสมัยใหม่ ดีไซนเนอร์นำสมัยอย่างตัวละครเอก นภัค จากคนที่หัวทันสมัย นำยุค นำแฟชั่น กลับกลายถูกดูด เข้าสู่วังวนของความเชื่อไร้สาระ ว่าเลขเพียง 3 ตัวจะพลิกชะตาชีวิตเธอได้
จากที่ไม่เคยเชื่อ ก็ต้องเชื่อ เมื่อผีหนุ่มโอม ปรากฏตัวพร้อมช่วยเธอเมื่อวันที่เธอถึงคราวตกอับของชีวิต ความรักนำพาผีหนุ่มมาที่นี่ แต่สุดท้ายแล้ว ความจริงก็ปรากฏว่าคนกับผีไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องจากไปทิ้งไว้กับความจริงที่ว่า คนรักไม่อยู่ โชคชะตาไม่สามารถช่วยเธอได้อีกต่อไป สิ่งที่จะอยู่กับเธอไปตลอดไม่ใช่โชค แต่เป็นสติต่างหาก
นักแสดง
นภัค แสดงโดย ก้อย รัชวิน ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ไฟแรง ที่ตกอับเพราะไม่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเอง สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการลอกเลียนแบบของสังคมไทย ที่ไม่มีเอกลักษณ์ไม่โดดเด่น จนถูกกลืนหายทางวัฒนธรรม เมื่อ2มือไม่อาจช่วยเธอได้ เธอจึงเลือกใช้ทางลัด ใช้มนตร์ดำเข้ามาช่วย ซึ่งมันก็ไม่ยั่งยืนอะไร การแสดงละครเวทีครั้งแรกของก้อย รัชวิน ถือว่าน่าสนใจทีเดียว ด้วยความที่คาแรกเตอร์ค่อนข้างตรงกับตัวเธอแล้ว ทำให้ไม่ใช่เรื่องยาก เธออาจจะผ่านการแสดงมาเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เธอพาคนดูไปไม่ถึงฝั่งฝัน ไม่มีเห็นความหมดหวัง ไม่เห็นหัวใจแตกสลาย และเมื่อรู้ความจริงว่าโอมเป็นคนรักก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง บทไม่ได้ส่งให้เธอเกิด บทไม่ได้วางให้คนดูลุ้นตาม หากพัฒนาตรงจุดนี้ คนดูจะสงสารและเอาใจช่วยเธอมากกว่านี้
เกจิหมู แสดงโดย เดฟ เดวิด ทรงพลัง บ้า ทะเล้น ดูราวจะน่าเกรงขาม แต่ก็ขี้เล่น เลยไม่รู้ว่าตกลงจะให้เป็นเกจิน่ากลัวหรือน่ารักกันแน่ การเปิดตัวยิ่งใหญ่ อลังการพร้อมทีมนักเต้น การร้องเพลงเปิดตัวช่วยส่งให้เขาเป็นเกจิที่มีพลัง มีอำนาจแต่อาจจะร้องเร็ว รวบคำไปหน่อยทำให้ฟังไม่ทันว่าเนื้อเพลงมีเนื่อหาว่าอย่างไร การพูดของเขาก็พูดเร็ว รัว รวบคำ จนทำให้จับใจความสำคัญไม่ค่อยได้ ทำให้รู้สึกว่าไม่น่ากลัวเท่าที่ควร
โอม แสดงโดย โทนี่ รากแก่น การปรากฏตัวของโอมยังไม่น่าสนใจเท่าที่ควร เป็นผีแต่ปรากฏตัวแบบคนธรรมดา คาแรกเตอร์เป็นผู้ชายอบอุ่น ขี้เล่น กวนๆ ดูจะเข้าทางโทนี่ที่ทำได้ดีในเรื่องความน่ารัก ทะเล้น แต่ยังขาดไปในความสื่อถึงคนดูว่าเขารักนภัคมากแค่ไหน ยังไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกได้ว่าว่าทุ่มเทเพื่อผู้หญิงที่รักจนไม่ยอมไปเกิด การเล่นละครเวทีครั้งแรกของ
โทนี่ยังไม่น่าดึงดูดใจใจเท่าที่ควร
เพลง
เพลงมนตร์ดำ คอมเพล็กซ์ เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่ สมกับเป็น Opening Scene ดนตรีเสียงหนักแต่เสียงนักร้องสู้ไม่ไหว เพลง มีความเข้ากับเนื้อเรื่อง เห็นว่าใช้ระบบเสียงลำโพงรอบทิศทางมาตรฐานเดียวแบบละครเวทีโปรดักชั่นใหญ่ๆของเมืองนอก ก็ไม่ได้ทำผิดหวัง เพราะเสียงดังกระหึ่มจริงๆ ฉากที่ต้องตกใจ เสียงเอฟเฟ็กซ์ก็ทำให้เราตกใจจริงๆ
ฉาก
Scene Design ถือว่าทำได้ดีมาก มีรสนิยมในการออกแบบได้ยิ่งใหญ่สวยงาม รู้สึกว่าครั้งนี้อินเด็กซ์ลงทุนไปกับฉากมาก มีการออกแบบให้สอดคล้องกับเนื้อหาได้ดี ในฉากที่เป็นแฟนตาซีก็ออกแบบได้สอดคล้อง เช่น ฉากความฝันของเกจิหมู
มีความเหนือจริง ประกอบกับการใช้แสงทำให้บางฉากมีความลึกลับ น่าค้นหา เช่น ในฉากที่เป็นด้านหน้าของมนตร์ดำ คอมเพล็กซ์ ดูยิ่งใหญ่ น่ากลัว หรือแม้กระทั่งฉากร้านค้าของนภัคก็มีความสวยงามกลมกลืนกัน การเลื่อนการเปลี่ยนฉากอาจยังมีจังหวะที่ติดขัดนิดหน่อยบ้าง แต่ก็ถือว่ามีการใช้เหลี่ยมมุม ปรับเปลี่ยนองศา ปรับมุมมองในการวางฉากได้อย่างหลากหลาย
เทคนิคมัลติมีเดีย
เรื่องนี้มีความโดดเด่นด้านเทคนิคการใช้มัลติมีเดียเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นจุดเด่น จุดขาย ของละครเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ประกอบกับเป็นละครแฟนตาซี ยิ่งเข้าทาง เทคนิคยิ่งส่งให้เรื่องดูเป็น Magic ดูน่าตื่นเต้น ดู Wow โดยการใช้เทคนิคมาสื่อสารให้เห็นเวทย์มนตร์ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ยิ่งทำให้เรื่องน่าตื่นตาตื่นใจ
เทคนิคการฉายวีดีโอลงมาที่ประตูร้านของโอม แล้วเห็นเป็นตัวโอมยื่นออกมาจากประตู ทำให้ดูเหมือนเขาหายตัวออกมาจากประตูได้จริงๆ ดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก ทำให้เชื่อได้ว่าโอมเป็นผีจริงๆ
เทคนิคมายากล เนื่องจากเป็นเรื่องอภินิหาริย์ เทคนิคมายากลจึงช่วยให้เรื่องสมจริงมากยิ่งขึ้น เช่นเทคนิคเปลี่ยนชุด ก็ทำให้เรื่องมีสันสันได้ดี เทคนิคที่คนเอนตัวลงเพื่อหลบมีด ก็ใช้เทคนิคมายากลที่ทำได้ดีจนเหลือเชื่อ ก่อให้เกิดภาพสโลว์โมชั่นเหมือนคนลอยตัวอยู่ในอากาศได้จริงๆ ลวงตา
เทคนิคสามมิติ ที่มีมาตั้งแต่วีดีโอเปิดต้นเรื่อง ทำได้ดีออกมาได้ดี เหมือนเราเข้าไปดูหนัง 3 มิติจริงๆ และในฉากที่แสดงอิทธิฤทธิ์ของเกจิหมู ที่ฉายวีดีโอ 3 มิติ ก็ทำให้รู้สึกว่าของอาคมทั้งหลาย พุ่งเข้าใส่ตัวเราจริงๆ เอียงตัวหลบวูบกันเป็นแถว กลัวของเข้าตัว 55
เทคนิคเลเซอร์ ที่นำมาใช้เยอะมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา ก็ถือว่าเป็นความน่าสนใจใหม่ๆ ที่นำแสงเลเซอร์ที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์มาสร้างความหวือหวาให้ละครได้เป็นอย่างมาก เกจิหมูเสกกรงขังเลเซอร์ ดูทันสมัยและเท่มากจริงๆ ทำให้เห็นว่าการใช้เวทมนตร์นั้นสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า พร้อมกับกับฉายเลเซอร์ไปรอบๆห้อง ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนโดนขังไปด้วย สร้างอารมณ์ร่วมได้ดี น่าเสียดายที่มีแค่ฉากเดียว น่าจะมีเยอะๆจะยิ่งทำให้อินได้มากกว่านี้
ละครเรื่องนี้ถือเป็นการพลิกรูปแบบละครเวทีแบบใหม่ มีการนำเสนอเทคนิคใหม่ๆที่น่าสนใจ ถ้าใครชอบละครตลก คอเมดี้ และเทคนิคทันสมัยก็ช่วยกันไปดูเยอะๆนะ รับรองไม่ผิดหวัง!
ขอบคุณรูปสวยๆจาก Facebook.com/IndexCreative
[SR] มนตร์ดำ คอมเพล็กซ์ ละครเวที 3 มิติ เรื่องแรกของเมืองไทย
เนื้อเรื่อง
ดูเหมือนว่าเรื่องโชคลาง เรื่องลี้ลับ และเรื่องการใบ้หวยจะอยู่คู่กับสังคมไทยมาช้านาน ไม่เว้นแม้แต่ละครเวทีทันสมัย ที่นำเอาเรื่องของหวย มาผูกติดอยู่กับชีวิตของผู้คน ให้กลายเป็นละครเวทีแฟนตาซี หรือที่จริงแล้ว ความตื่นเต้น ความลุ้นระทึกทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน นั่นคงเป็นความหรรษา ความบันเทิง ความคาดหวัง การลุ้นระทึก เป็นแฟนตาซีในอีกรสชาติหนึ่งของชีวิตมนุษย์ชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่น่าเชื่อว่าในสังคมสมัยใหม่ ดีไซนเนอร์นำสมัยอย่างตัวละครเอก นภัค จากคนที่หัวทันสมัย นำยุค นำแฟชั่น กลับกลายถูกดูด เข้าสู่วังวนของความเชื่อไร้สาระ ว่าเลขเพียง 3 ตัวจะพลิกชะตาชีวิตเธอได้
จากที่ไม่เคยเชื่อ ก็ต้องเชื่อ เมื่อผีหนุ่มโอม ปรากฏตัวพร้อมช่วยเธอเมื่อวันที่เธอถึงคราวตกอับของชีวิต ความรักนำพาผีหนุ่มมาที่นี่ แต่สุดท้ายแล้ว ความจริงก็ปรากฏว่าคนกับผีไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องจากไปทิ้งไว้กับความจริงที่ว่า คนรักไม่อยู่ โชคชะตาไม่สามารถช่วยเธอได้อีกต่อไป สิ่งที่จะอยู่กับเธอไปตลอดไม่ใช่โชค แต่เป็นสติต่างหาก
นักแสดง
นภัค แสดงโดย ก้อย รัชวิน ดีไซน์เนอร์รุ่นใหม่ไฟแรง ที่ตกอับเพราะไม่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตัวเอง สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการลอกเลียนแบบของสังคมไทย ที่ไม่มีเอกลักษณ์ไม่โดดเด่น จนถูกกลืนหายทางวัฒนธรรม เมื่อ2มือไม่อาจช่วยเธอได้ เธอจึงเลือกใช้ทางลัด ใช้มนตร์ดำเข้ามาช่วย ซึ่งมันก็ไม่ยั่งยืนอะไร การแสดงละครเวทีครั้งแรกของก้อย รัชวิน ถือว่าน่าสนใจทีเดียว ด้วยความที่คาแรกเตอร์ค่อนข้างตรงกับตัวเธอแล้ว ทำให้ไม่ใช่เรื่องยาก เธออาจจะผ่านการแสดงมาเยอะ แต่ก็ต้องยอมรับว่า เธอพาคนดูไปไม่ถึงฝั่งฝัน ไม่มีเห็นความหมดหวัง ไม่เห็นหัวใจแตกสลาย และเมื่อรู้ความจริงว่าโอมเป็นคนรักก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง บทไม่ได้ส่งให้เธอเกิด บทไม่ได้วางให้คนดูลุ้นตาม หากพัฒนาตรงจุดนี้ คนดูจะสงสารและเอาใจช่วยเธอมากกว่านี้
เกจิหมู แสดงโดย เดฟ เดวิด ทรงพลัง บ้า ทะเล้น ดูราวจะน่าเกรงขาม แต่ก็ขี้เล่น เลยไม่รู้ว่าตกลงจะให้เป็นเกจิน่ากลัวหรือน่ารักกันแน่ การเปิดตัวยิ่งใหญ่ อลังการพร้อมทีมนักเต้น การร้องเพลงเปิดตัวช่วยส่งให้เขาเป็นเกจิที่มีพลัง มีอำนาจแต่อาจจะร้องเร็ว รวบคำไปหน่อยทำให้ฟังไม่ทันว่าเนื้อเพลงมีเนื่อหาว่าอย่างไร การพูดของเขาก็พูดเร็ว รัว รวบคำ จนทำให้จับใจความสำคัญไม่ค่อยได้ ทำให้รู้สึกว่าไม่น่ากลัวเท่าที่ควร
โอม แสดงโดย โทนี่ รากแก่น การปรากฏตัวของโอมยังไม่น่าสนใจเท่าที่ควร เป็นผีแต่ปรากฏตัวแบบคนธรรมดา คาแรกเตอร์เป็นผู้ชายอบอุ่น ขี้เล่น กวนๆ ดูจะเข้าทางโทนี่ที่ทำได้ดีในเรื่องความน่ารัก ทะเล้น แต่ยังขาดไปในความสื่อถึงคนดูว่าเขารักนภัคมากแค่ไหน ยังไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกได้ว่าว่าทุ่มเทเพื่อผู้หญิงที่รักจนไม่ยอมไปเกิด การเล่นละครเวทีครั้งแรกของ
โทนี่ยังไม่น่าดึงดูดใจใจเท่าที่ควร
เพลง
เพลงมนตร์ดำ คอมเพล็กซ์ เปิดตัวได้ยิ่งใหญ่ สมกับเป็น Opening Scene ดนตรีเสียงหนักแต่เสียงนักร้องสู้ไม่ไหว เพลง มีความเข้ากับเนื้อเรื่อง เห็นว่าใช้ระบบเสียงลำโพงรอบทิศทางมาตรฐานเดียวแบบละครเวทีโปรดักชั่นใหญ่ๆของเมืองนอก ก็ไม่ได้ทำผิดหวัง เพราะเสียงดังกระหึ่มจริงๆ ฉากที่ต้องตกใจ เสียงเอฟเฟ็กซ์ก็ทำให้เราตกใจจริงๆ
ฉาก
Scene Design ถือว่าทำได้ดีมาก มีรสนิยมในการออกแบบได้ยิ่งใหญ่สวยงาม รู้สึกว่าครั้งนี้อินเด็กซ์ลงทุนไปกับฉากมาก มีการออกแบบให้สอดคล้องกับเนื้อหาได้ดี ในฉากที่เป็นแฟนตาซีก็ออกแบบได้สอดคล้อง เช่น ฉากความฝันของเกจิหมู
มีความเหนือจริง ประกอบกับการใช้แสงทำให้บางฉากมีความลึกลับ น่าค้นหา เช่น ในฉากที่เป็นด้านหน้าของมนตร์ดำ คอมเพล็กซ์ ดูยิ่งใหญ่ น่ากลัว หรือแม้กระทั่งฉากร้านค้าของนภัคก็มีความสวยงามกลมกลืนกัน การเลื่อนการเปลี่ยนฉากอาจยังมีจังหวะที่ติดขัดนิดหน่อยบ้าง แต่ก็ถือว่ามีการใช้เหลี่ยมมุม ปรับเปลี่ยนองศา ปรับมุมมองในการวางฉากได้อย่างหลากหลาย
เทคนิคมัลติมีเดีย
เรื่องนี้มีความโดดเด่นด้านเทคนิคการใช้มัลติมีเดียเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นจุดเด่น จุดขาย ของละครเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ ประกอบกับเป็นละครแฟนตาซี ยิ่งเข้าทาง เทคนิคยิ่งส่งให้เรื่องดูเป็น Magic ดูน่าตื่นเต้น ดู Wow โดยการใช้เทคนิคมาสื่อสารให้เห็นเวทย์มนตร์ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ ยิ่งทำให้เรื่องน่าตื่นตาตื่นใจ
เทคนิคการฉายวีดีโอลงมาที่ประตูร้านของโอม แล้วเห็นเป็นตัวโอมยื่นออกมาจากประตู ทำให้ดูเหมือนเขาหายตัวออกมาจากประตูได้จริงๆ ดูน่าตื่นตาตื่นใจมาก ทำให้เชื่อได้ว่าโอมเป็นผีจริงๆ
เทคนิคมายากล เนื่องจากเป็นเรื่องอภินิหาริย์ เทคนิคมายากลจึงช่วยให้เรื่องสมจริงมากยิ่งขึ้น เช่นเทคนิคเปลี่ยนชุด ก็ทำให้เรื่องมีสันสันได้ดี เทคนิคที่คนเอนตัวลงเพื่อหลบมีด ก็ใช้เทคนิคมายากลที่ทำได้ดีจนเหลือเชื่อ ก่อให้เกิดภาพสโลว์โมชั่นเหมือนคนลอยตัวอยู่ในอากาศได้จริงๆ ลวงตา
เทคนิคสามมิติ ที่มีมาตั้งแต่วีดีโอเปิดต้นเรื่อง ทำได้ดีออกมาได้ดี เหมือนเราเข้าไปดูหนัง 3 มิติจริงๆ และในฉากที่แสดงอิทธิฤทธิ์ของเกจิหมู ที่ฉายวีดีโอ 3 มิติ ก็ทำให้รู้สึกว่าของอาคมทั้งหลาย พุ่งเข้าใส่ตัวเราจริงๆ เอียงตัวหลบวูบกันเป็นแถว กลัวของเข้าตัว 55
เทคนิคเลเซอร์ ที่นำมาใช้เยอะมากที่สุดเท่าที่เคยดูมา ก็ถือว่าเป็นความน่าสนใจใหม่ๆ ที่นำแสงเลเซอร์ที่เราเคยเห็นในภาพยนตร์มาสร้างความหวือหวาให้ละครได้เป็นอย่างมาก เกจิหมูเสกกรงขังเลเซอร์ ดูทันสมัยและเท่มากจริงๆ ทำให้เห็นว่าการใช้เวทมนตร์นั้นสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า พร้อมกับกับฉายเลเซอร์ไปรอบๆห้อง ทำให้คนดูรู้สึกเหมือนโดนขังไปด้วย สร้างอารมณ์ร่วมได้ดี น่าเสียดายที่มีแค่ฉากเดียว น่าจะมีเยอะๆจะยิ่งทำให้อินได้มากกว่านี้
ละครเรื่องนี้ถือเป็นการพลิกรูปแบบละครเวทีแบบใหม่ มีการนำเสนอเทคนิคใหม่ๆที่น่าสนใจ ถ้าใครชอบละครตลก คอเมดี้ และเทคนิคทันสมัยก็ช่วยกันไปดูเยอะๆนะ รับรองไม่ผิดหวัง!
ขอบคุณรูปสวยๆจาก Facebook.com/IndexCreative