สมัยพุทธกาลยังไม่มีการบันทึกพระธรรมคำสอนเป็นตัวอักษรลงในสิ่งใด ๆ
จึงใช้การจดจำ และการท่องบ่น ที่ปัจจุบันเรียกว่าการสวด เป็นวิธีการรักษา
พระธรรมคำสอนให้ดำรงคงอยู่ต่อ ๆ มา แต่ปัจจุบันได้มีการบันทึกเป็นหนังสือ
และสื่อบันทึกอื่น ๆ ตามยุคตามสมัย แต่การสวดก็ยังมีอยู่จนกลายมาเป็นการสวดมนต์ในปัจจุบัน
แต่ที่น่าสงสัยคือการสวดมนต์ได้กลายเป็นการสวดเพื่อให้ได้บุญ เป็นมงคล เป็นศิริ
ขจัดเสนียดจังไร ทำให้ปลอดภัยจากภูติผีปีศาจ ความชั่วร้ายต่าง ๆ การยืดอายุ
การขจัดเคราะห์กรรม ความแคล้วคลาด ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยในทางโลก
จะเห็นว่าการสวดเพื่อการรักษา การคงอยู่ของพระธรรมคำสอน ได้ถูกเหล่าสาวกในปัจจุบัน
แปรเปลี่ยนให้กลายเป็น อวิชาไปเสียแล้ว
อวิชาคือความไม่รู้ความจริง
จึงใช้การจดจำ และการท่องบ่น ที่ปัจจุบันเรียกว่าการสวด เป็นวิธีการรักษา
พระธรรมคำสอนให้ดำรงคงอยู่ต่อ ๆ มา แต่ปัจจุบันได้มีการบันทึกเป็นหนังสือ
และสื่อบันทึกอื่น ๆ ตามยุคตามสมัย แต่การสวดก็ยังมีอยู่จนกลายมาเป็นการสวดมนต์ในปัจจุบัน
แต่ที่น่าสงสัยคือการสวดมนต์ได้กลายเป็นการสวดเพื่อให้ได้บุญ เป็นมงคล เป็นศิริ
ขจัดเสนียดจังไร ทำให้ปลอดภัยจากภูติผีปีศาจ ความชั่วร้ายต่าง ๆ การยืดอายุ
การขจัดเคราะห์กรรม ความแคล้วคลาด ทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ร่ำรวยในทางโลก
จะเห็นว่าการสวดเพื่อการรักษา การคงอยู่ของพระธรรมคำสอน ได้ถูกเหล่าสาวกในปัจจุบัน
แปรเปลี่ยนให้กลายเป็น อวิชาไปเสียแล้ว