เรียบร้อยกันไปแล้วสำหรับบทสรุปที่สุดของที่สุดของยุโรปในฤดูกาลนี้ และก็เป็นบาเยิร์น มิวนิคที่สามารถเบียดเอาชนะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปได้ 2-1 คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครอง



เสียดายแทนดอร์ทมุนด์เหมือนกันนะครับที่อุตส่าห์ฟันฝ่าทั้ง มาลาก้า และ เรอัล มาดริด มาได้สุดท้ายต้องมาจอดเพราะคนบ้านเดียวกัน แต่ถ้ามองในมุมของบาเยิร์น ถ้าปีนี้ชวดอีกจะน่าสงสารมาก เพราะเข้าชิงมาก็หลายครั้งแล้ว แต่มักจะชอบมาแพ้แบบไม่น่าแพ้ หรือแพ้แบบเล่นดีกว่าตั้งแต่สมัยยุคแมนฯ ยูฯ คว้า 3 แชมป์ เกมนั้นบาเยิร์นนำมาทั้งเกมจาก มาริโอ บาสเลอร์ แต่มาโดน 2ลูกรวดช่วงทดเจ็บชวดแชมป์ไป มาปีที่แล้ว โขยกเชลซีอยู่ทั้งเกมสุดท้ายไปแพ้จุดโทษ อดไปอีก



มาปีนี้ถือว่าสมศักดิ์ศรีที่สุดแล้ว ผ่านด่านอรหันต์ผ่านทีมสุดแกร่งมาเพียบ ไล่มาตั้งแต่เฉือนอาร์เซน่อลไปแบบเฉียดฉิว ต่อด้วยอัดยูเวนตุส ไป-กลับนัดละสองลูกผ่านเบอร์หนึ่งโลกลูกหนังอย่างบาร์เซโลน่ามารวมสองนัดอัดไปเจ็ดเม็ด สุดท้ายเผด็จศึกเสือเหลืองไป 2-1 ก็เป็นแชมป์ยุโรปสมัยที่ 5 ของเสือใต้ทำสถิติขึ้นมาเทียบเท่าลิเวอร์พูลแล้วนะครับ

แต่เส้นทางเกียรติยศของบาเยิร์นในฤดูกาลนี้ยังไม่จบ ถ้าในวันที่ 1 มิ.ย. นี้ สามารถคว้าชัยชนะในศึกเดเอฟเบ โพคาล ที่จะต้องเจอกับสตุ๊ตการ์ท ถ้าคว้าแชมป์ได้อีก จะเป็นทีมแรกของเยอรมันเลยนะครับ ที่สามารถคว้า 3 แชมป์ใหญ่ได้ ภายในปีเดียว เหมือนที่แมนฯยูฯ คว้าสามแชมป์ปี 99 หรืออินเตอร์ที่คว้า 3 แชมป์สมัยโชเซ่ มูรินโญ่ คุม



ส่วนโค้ช จุ๊ปป์ ไฮย์เกส ก็เป็นกุนซือคนที่สามที่สามารถพาทีมที่มาจากคนละประเทศกัน คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ ซึ่งครั้งก่อนของแกก็ตั้งแต่สมัยคุมเรอัลมาดริด เมื่อปี 1998

มีข่าวแว่วๆ มาว่า ถึงแม้แกจะปาเข้าไป 68 ขวบแล้ว แต่ก็ยังไม่คิดจะวางมือ ถ้าโครงการดึง คาร์โล อันเชลอตติ มาคุมมาดริดไม่ประสบผลสำเร็จ แว่วๆ มาว่าทางปารีสก็จะไม่ยอมปล่อยมาเหมือนกัน ก็อาจจะเป็นแกนี่แหละที่จะอาสาเข้าไปคุมมาดริดอีกรอบ



พูดถึงกุนซือมาดริด ก็นึกถึงกุนซือคนปัจจุบันถึงแม้จะแถลงข่าวแยกทางกันไปแล้ว แต่ ณ บัดนาว ก็ยังถือว่าเป็นกุนซือของมาดริดอยู่ ไม่แปลกใจเลยนะครับว่า ทำไมแมนฯ ยูฯ ถึงไม่เอามูรินโญ่มาสานงานต่อจากป๋า เพราะบอกตรงๆ เลยว่า "คนละสไตล์" ครับ

แมนฯ ยูฯ เน้นโค้ชที่อยู่กันในระยะยาวเน้นสร้างมากกว่าซื้อ ไม่ใช่เป็นทีมแนวที่มีมหาเศรษฐีเป็นเจ้าของ ตัดสินใจอะไรได้คนเดียว มีเรื่องอะไรทีก็ต้องเข้าประชุม เข้าบอร์ดบริหาร เน้นผูกพันกันยาวนาน แต่มูรินโญ่สังเกตดู ว่าเป็นแนวซื้อความสำเร็จในระยะสั้นๆ อยู่ทีมไหนไม่ค่อยได้นาน ทะเลาะกับเค้าไปทั่ว ตั้งแต่กับเสี่ยหมีที่เชลซีแล้ว

โอเคนะครับ เราก็รู้ๆ กันว่า อบราโมวิชอาจมีลูกก้าวก่าย ล้วงลูกกับทางโค้ชบ้าง อย่างกรณีซื้อนักเตะที่ตัวเองชื่นชอบ แต่ว่าโค้ชไม่ได้อยากได้อย่าง อังเดร เชฟเชนโก้,มิชาเอล บัลลัค หรือจะเป็น เฟร์นานโด ตอร์เรส เองก็ตามแต่ก็ไม่ถึงขั้นลงมาคุมแท็กติกหรือสั่งเปลี่ยนตัวเอง เหมือนทีมในไทยลีกบางทีม 555

หรืออย่างไปมาดริดก็ไปทะเลาะกับเค้าหมด เริ่มจาก ผอ.สโมสรอย่าง ฮอร์เก้ บัลดาโน่ จนเค้าต้องลาออกไป ทั้งกับสื่อในสเปนที่ดูแล้วไม่ค่อยจะชอบขี้หน้าเค้าซักเท่าไหร่ ทั้งกับลูกทีมตัวเอง แม้แต่กับแก๊งโปรตุเกสด้วยกันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เปเป้ หรือที่เป็นข่าวดังที่สุด ก็กัปตันทีม อีเกร์ กาซียาสที่ทีแรกก็อ้างว่าเป็นเรื่องของแท็กติก แต่สุดท้ายมาหลุดซะเองดันไปให้สัมภาษณ์ว่า อยากซื้อ ดีเอโก้ โลเปซ มาตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาคุมทีมแล้ว อย่างนี้ก็วงแตกสิครับผลงานก็ไม่ได้โดดเด่น แชมป์ก็ไม่ได้ สำหรับทีมอื่นอาจจะโอเค แต่สำหรับมาดริดแล้ว เท่านี้มันไม่เพียงพอก็ต้องเดินออกมาแบบเจ็บแต่จบล่ะครับ



ก็คิดว่าถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดแบบสุดๆ ปีหน้าก็จะได้เห็นเค้ากลับมาสร้างสีสันให้พรีเมียร์ลีกกันอีกครั้งกับเชลซี ก็รอชมครับว่าจะมีอะไรแปลกๆ มาให้เราได้เห็นกันอีก แค่คิดก็มันส์แล้ว กับความเป็นไปต่างๆ ของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า

แท็กติกฟุตบอล จิตวิทยาของ เดวิด มอยส์ กับแมนฯ ยูฯ ยุคใหม่หลังจาก 26 ปีของป๋า

รีเทิร์นรอบ 2 ของมูรินโญ่ กับเชลซี

เวนเกอร์กับปีที่ 9 ที่ไร้แชมป์ ซึ่งห้ามพลาดอีกต่อไปแล้ว (ตอน 4-5 ปีแรกก็พูดแบบนี้ล่ะครับ 555)

มานูเอล เปเยกรีนี่ กับเรือใบ ที่เงินเยอะเหลือเกิน

สเปอร์สของเอวีบี ปีนี้จะทำได้หรือยังกับโควตายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พลาดแล้วพลาดอีก

สุดท้าย "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ของร็อดเจอร์สที่เดาไม่ออกจริงๆ ว่าจะมาแนวไหนครับ 5555



credit : www.siamsport.co.th  โดย คอลัมน์ : ป้องส่องเกม โดย.. น้าวัด