ปอร์โต้
ฤดูกาล 2002-2003
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และ แชมป์ยูฟ่าคัพ
ฤดูกาล 2003-2004
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และ แชมป์ UCL (รอบนอคเอาท์เอาชนะ แมนยู ลีบง เดปอ และโมนาโก ตามลำดับ)
- หลังจบฤดูกาล กลายเป็นกุนซือที่เนื้อหอมที่สุดในวงการฟุตบอลบุโรปสองคนคู่กับเบนิเตซ (พาบาเลนเซียคว้าแชมป์ลาลีกา กับยูฟ่าคัพ) มูรินโย่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากคุมทีมลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายช่วงซัมเมอร์เป็นเบนิเตซที่ได้ไปคุมลิเวอร์พูล ส่วนมูรินโย่ได้คุมเชลซี
เชลซี
ฤดูกาล 2004-2005
- แถลงข่าวครั้งแรกปั๊บก็เปิดตัวด้วยวาทกรรม I am a special one
- พาเชลซีคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 50 ปี
- ตกรอบ UCL ด้วยลูกยิงปัญหาของหลุยส์ การ์เซีย (ที่ส่งลิเวอร์พูลเข้าไปคว้าแชมป์ในที่สุด)
ฤดูกาล 2005-2006
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โยนเหรียญแชมป์ให้คนดูด้วย
ฤดูกาล 2006-2007
- ข่าวลือว่าทะเลาะกับอับราโมวิชเจ้าของทีมเริ่มหนักขึ้น เหตุผลหลักคาดว่าเป็นเรื่องระบบการซื้อขายผู้เล่นด้วย director of football ที่ทำหน้าที่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเรื่องการซื้อขายผู้เล่นแทนที่จะเป็นผู้จัดการทีม
- อับราโมวิชผลักดันให้ซื้อตัวอังเดร เชฟเชนโก สุดยอดดาวยิงของโลกในขณะนั้นมาได้สำเร็จ แต่เมื่อคนใช้ไม่ได้เลือกเอง ผลงานเชฟเชนโกก็ออกมาแย่ สุดท้ายมูรินโย่ก็เลือกดร็อปเชฟเชนโกในนัดสำคัญมากๆ อย่างเลกที่สองรอบรอง UCL ซึ่งเจอกับลิเวอร์พูลของราฟา (อีกแล้ว) โดยไม่ใส่ชื่อแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง ผลคือเชลซีแพ้ดวลจุดโทษตกรอบไป (ส่งลิเวอร์พูลเข้าไปโดนมิลานล้างแค้น) เหตุการณ์นี้เชื่อว่าทำให้อับราโมวิชโกรธมูรินโย่มาก
ฤดูกาล 2007-2008
- อับราโมวิชตั้งอัพราม แกรนท์มาเป็น director of football คนใหม่เริ่มผลงานแรกด้วยการขายรอบเบ็นให้รีล มาดริดและเซ็นมาลูด้าเข้ามาเป็นตัวแทน
- ปลายเดือนกันยายน หลังเปิดฤดูกาลมาได้เดือนกว่าๆ มูรินโย่ตัดสินใจลาออก ปิดตำนานบทแรกกับเชลซี
อินเตอร์ มิลาน
ฤดูกาล 2008-2009
- พาทีมคว้าแชมป์ซีรีอา ทิ้งห่างอันดับสองร่วมอย่างยูเว่และมิลานไปสิบแต้ม
- แพ้แมนยูตกรอบ UCL รอบ 16 ทีม
- ด้วยสไตล์ฝีปากกล้าปะทะกับเขาไปทั่ว แถมช่วงนั้นกุนซือคู่แข่งแย่งแชมป์ที่มูรินโย่ปะทะคารมผ่านสื่อด้วยมีแต่รุ่นใหญ่ชาวอิตาลีอย่าง อัลเชลอตติ (มิลาน) สปัลเลตติ (โรม่า) และรานิเอรี่ (ยูเว่) เลยไม่เป็นที่ชื่นชอบของสื่ออิตาลีและแฟนบอล(ทีมอื่น) มากนัก
ฤดูกาล 2009–2010
- ให้สัมภาษณ์ว่าอยากคุมแมนยูหากเซอร์อเล็กวางมือ
- ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กับมาเซโล่ ลิปปี้ กุนซืออิตาลีในขณะนั้นซึ่งทำนายว่ายูเวนตุสจะเป็นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ โดยกล่าวว่า ลิปปี้ไม่เคารพอินเตอร์เลย
- ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กับคันนาวาโร่ ที่ยุให้เดวิด ซันตอน (แบ็คซ้ายดาวรุ่งของอินเตอร์ ณ ตอนนั้น) โดยแขวะว่าคันนาวาโร่ทำตัวเหมือนกับเป็นโค้ชซะเอง
- ช่วงเดือนตุลาคม โดนไล่ออกจากสนามเพราะไปตบมือประชดผู้ตัดสินในนัดที่แพ้ยูเว่ไป 2-1
- โดนแบนสามนัด เหตุจากไปโชว์ท่าโดนใส่กุญแจมือใส่กล้อง หลังผู้เล่นอินเตอร์โดนไล่ออกสองคนตั้งแต่ครึ่งแรกในนัดที่เจอกับซามพ์โดเรีย
- พาทีมเข้าชิง UCL โดยรอบน็อคเอาท์ผ่าน เชลซี (เอาชนะทีมเก่าได้อย่างสะใจเจ้าตัวมาก) ซีเอสเคเอมอสโก และบาร์เซโลน่า (เลกสองแพ้ไป 1-0 แต่เข้ารอบ เปิดตำนานแผนรับแหลกเพื่อเน้นผล ที่กลายเป็นลายเซ็นของมูรินโย่ในยุคหลัง ๆ)
- พาทีมคว้าแชมป์ซีรีอา และโคปาอิตาเลีย
- พาทีมคว้าแชมป์ UCL
รีล มาดริด
ฤดูกาล 2010-2011
- เจอบาร์เซโลนา เอลกลาซิโกนัดแรกในชีวิตกุนซือโดนบาซ่าอัดคาคัมป์นูไป 5-0 ประธานสโมสรเปเรซ กับ Sporting director ฮอร์เก้ บัลดาโน่ออกมาวิจารณ์มูรินโย่กันยกใหญ่ (ทั้งๆที่เพิ่งเซ็นเข้ามาเอง)
- โดนยูฟ่าปรับเงิน โทษฐานสั่งให้อลอนโซ่กับรามอสถ่วงเวลาเพื่อรับใบเหลืองในเกม UCL ที่เจอกับอาแจ็กซ์
- พาทีมคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ ได้สำเร็จ จากการเอาชนะบาร์ซ่าไป 1 - 0
- แต่ก็ไปแพ้บาร์ซ่าใน UCL รอบรอง (ซึ่งบาร์ซ่าก็เข้าไปปราบแมนยูคว้าแชมป์ไปในนัดชิง)
ฤดูกาล 2011-2012
- พาทีมชนะรวด 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม UCL
- พาทีมเอาชนะบาร์ซ่าในลาลีกาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี และส่งผลให้ทีมคว้าแชมป์ลาลีกาไปในท้ายที่สุด
- แพ้จุดโทษบาร์เยิร์นในรอบรอง UCL (แต่บาร์เยิร์นก็ไปแพ้จุดโทษเชลซีของ ดิ มัตติโอไปในนัดชิง)
ฤดูกาล 2012-2013
- เซ็นสัญญาคุมมาดริดต่อไปอีก 4 ปีจนถึงปี 2016
- พาทีมเข้ารอบรอง UCL ได้เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน (สี่ ถ้านับอินเตอร์ด้วย) แต่ไปแพ้ดอร์ทมุนของเจอร์เก้น คล็อปป์ (ซึ่งก็เข้าไปแพ้บาร์เยิร์นในนัดชิง)
- ลือกันว่ามูรินโย่มีปัญหากับนักเตะตัวหลักของทีมอย่าง รามอส คาซิยาส และโรนัลโด้ โดยเฉพาะโรนัลโด้ที่มูรินโย่ให้สัมภาษณ์ออกสื่อในทำนองที่ว่าทำตัวเหมือนน้ำเต็มแก้ว
- พาทีมจบที่สองในลาลีกา ตามหลังบาร์ซ่า 15 แต้ม (ปีนั้นคงต้องยอม บาร์ซากดไป 100 แต้ม)
- พาทีมแพ้แอต มาดริดในนัดชิงโคปาเดลเรย์
เชลซี (รอบสอง)
ฤดูกาล 2013-2014
- พาทีมจบที่สามในลีก ตามหลังแมนซิตี้สี่แต้ม ไฮไลท์คือเอาชนะลิเวอร์พูลได้ในช่วงท้ายของฤดูกาล ดับความหวังคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบยี่สิบกว่าปีของลิเวอร์พูลไป
- พาทีมเข้ารอบรอง UCL (อีกแล้ว) แต่ไปแพ้แอตเลติโก้ มาดริด
ฤดูกาล 2014-2015
- แพ้แบร็ดฟอร์ดตกรอบสี่ FA Cup
- พาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ โดยเอาชนะสเปอร์ไปได้ในนัดชิง
- แพ้ PSG ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน UCL ยุติสถิติพาทีมเข้ารอบรอง UCL ได้ติดต่อกันของมูรินโย่ไว้ที่ห้าครั้ง
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ทิ้งห่างอันดับสองอย่างแมนซิตี้ไป 8 แต้ม
ฤดูกาล 2015-2016
- เซ็นสัญญาใหม่ 4 ปี โดยจะทำให้เขาคุมทีมไปจนถึงปี 2019
- นัดแรกของฤดูกาลทำได้แค่เสมอกับซวอนซีไป 2-2 โดยคูร์กตัวร์โดยไล่ออก
- นัดนี้เกิดเรื่องดังที่เป็นเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียวของเชลซีในฤดูกาลนี้ หลังเหลือผู้เล่นสิบคนแล้วแข่งต่อไป ช่วงท้ายเกม อาซาร์ได้รับบาดเจ็บ ผู้ตัดสินเลยเรียกให้ทีมแพทย์เชลซีประกอบด้วยหัวหน้าทีมแพทย์จอห์น เฟิร์น และหมอสาวสวยเอวา คาเนโร่ เข้าสนามมาดูอาการของอาซาร์ ซึ่งพอทั้งสองคนวิ่งลงสนามไปมูรินโย่ก็โมโหมาก ตะโกนด่าทั้งคู่อย่างหยาบคาย สาเหตุที่มูรินโย่โมโหไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดว่าคงเพราะคิดว่าอาซาร์ไม่ได้เจ็บอะไรมากขนาดนั้น การลงไปของทีมแพทย์ทำให้เชลซีเสียเวลาในการพยายามยิงประตูขึ้นนำโดยใช่เหตุ
- เรื่องบานปลายขึ้น เมื่อทีมแพทย์ทั้งสองไม่ได้ทำหน้าที่ในเกมต่อ ๆ มา
- จุดจบของเรื่องหลายเดือนต่อมาคือ หมอเอวาไปฟ้องศาล ก่อนจะเรียกร้องค่ายอมความจากสโมสรเชลซีได้ถึง 5 ล้านปอนด์
- อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อชื่อเสียงของตัวมูรินโย่ และส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของเชลซีอย่างไม่น่าเชื่อ (วลีที่ว่าเล่นไล่โค้ชถูกพูดถึงบ่อยมาก)
- หลังจากนั้น ก็เริ่มฤดูกาลในลีกได้อย่างน่าผิดหวัง โดยเก็บได้แค่ 11 แต้มจาก 12 นัด
- ยังไม่พอตกรอบลีกคัพตั้งแต่รอบแรกๆด้วยการแพ้จุดโทษต่อสโต๊ก
- ลาออกจากเชลซีในที่สุด หลังจากทำทีมแพ้ 9 นัดจาก 16 นัดในลีกฤดูกาลนี้ ทั้งๆที่ 7 เดือน 14 วันก่อนหน้านี้เพิ่งฉลองแชมป์ลีกร่วมกับทีม
แมนยู
ฤดูกาล 2016-2017
- พาทีมคว้าแชมป์แรกได้ทันทีในนัดอย่างเป็นทางการนัดแรก คือถ้วยคอมมิวนิตี้ชิลด์
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ เป็นผู้จัดการทีมแมนยูคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาทีมคว้าถ้วยสำคัญได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก
- พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
- ในลีกจบที่ 5 แต่ได้ไป UCL เพราะคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก
ฤดูกาล 2017-2018
- พาทีมจบอันดับสองในลีก ตามหลังอันดับหนึ่งอย่างแมนซิตี้ 19 แต้ม (ปล่อยเขาไปเถอะ)
- UCL พ่ายเซบีย่าตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างพลิกความคาดหมาย จากผลงานในรอบนี้ เสียงวิจารณ์เรื่องรูปแบบการเล่นแบบตั้งรับเกินเหตุของมูรินโย่เริ่มหนาหูขึ้น
- ตกรอบถ้วย EFL โดยไปแพ้ทีมแชมเปี้ยนชิพอย่างบริสตอล ซิตี้
- ได้เข้าชิง FA Cup แต่ก็แพ้เชลซีของคอนเต้ไป
ฤดูกาล 2018-2019
...(ลุ้นกันต่อไป)
ประวัติและไฮไลท์ในบทบาทผู้จัดการทีมของโฆเซ่ มูรินโย่
ฤดูกาล 2002-2003
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และ แชมป์ยูฟ่าคัพ
ฤดูกาล 2003-2004
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกโปรตุเกส และ แชมป์ UCL (รอบนอคเอาท์เอาชนะ แมนยู ลีบง เดปอ และโมนาโก ตามลำดับ)
- หลังจบฤดูกาล กลายเป็นกุนซือที่เนื้อหอมที่สุดในวงการฟุตบอลบุโรปสองคนคู่กับเบนิเตซ (พาบาเลนเซียคว้าแชมป์ลาลีกา กับยูฟ่าคัพ) มูรินโย่เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่าอยากคุมทีมลิเวอร์พูล แต่สุดท้ายช่วงซัมเมอร์เป็นเบนิเตซที่ได้ไปคุมลิเวอร์พูล ส่วนมูรินโย่ได้คุมเชลซี
เชลซี
ฤดูกาล 2004-2005
- แถลงข่าวครั้งแรกปั๊บก็เปิดตัวด้วยวาทกรรม I am a special one
- พาเชลซีคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 50 ปี
- ตกรอบ UCL ด้วยลูกยิงปัญหาของหลุยส์ การ์เซีย (ที่ส่งลิเวอร์พูลเข้าไปคว้าแชมป์ในที่สุด)
ฤดูกาล 2005-2006
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โยนเหรียญแชมป์ให้คนดูด้วย
ฤดูกาล 2006-2007
- ข่าวลือว่าทะเลาะกับอับราโมวิชเจ้าของทีมเริ่มหนักขึ้น เหตุผลหลักคาดว่าเป็นเรื่องระบบการซื้อขายผู้เล่นด้วย director of football ที่ทำหน้าที่ตัดสินใจขั้นสุดท้ายเรื่องการซื้อขายผู้เล่นแทนที่จะเป็นผู้จัดการทีม
- อับราโมวิชผลักดันให้ซื้อตัวอังเดร เชฟเชนโก สุดยอดดาวยิงของโลกในขณะนั้นมาได้สำเร็จ แต่เมื่อคนใช้ไม่ได้เลือกเอง ผลงานเชฟเชนโกก็ออกมาแย่ สุดท้ายมูรินโย่ก็เลือกดร็อปเชฟเชนโกในนัดสำคัญมากๆ อย่างเลกที่สองรอบรอง UCL ซึ่งเจอกับลิเวอร์พูลของราฟา (อีกแล้ว) โดยไม่ใส่ชื่อแม้กระทั่งเป็นตัวสำรอง ผลคือเชลซีแพ้ดวลจุดโทษตกรอบไป (ส่งลิเวอร์พูลเข้าไปโดนมิลานล้างแค้น) เหตุการณ์นี้เชื่อว่าทำให้อับราโมวิชโกรธมูรินโย่มาก
ฤดูกาล 2007-2008
- อับราโมวิชตั้งอัพราม แกรนท์มาเป็น director of football คนใหม่เริ่มผลงานแรกด้วยการขายรอบเบ็นให้รีล มาดริดและเซ็นมาลูด้าเข้ามาเป็นตัวแทน
- ปลายเดือนกันยายน หลังเปิดฤดูกาลมาได้เดือนกว่าๆ มูรินโย่ตัดสินใจลาออก ปิดตำนานบทแรกกับเชลซี
อินเตอร์ มิลาน
ฤดูกาล 2008-2009
- พาทีมคว้าแชมป์ซีรีอา ทิ้งห่างอันดับสองร่วมอย่างยูเว่และมิลานไปสิบแต้ม
- แพ้แมนยูตกรอบ UCL รอบ 16 ทีม
- ด้วยสไตล์ฝีปากกล้าปะทะกับเขาไปทั่ว แถมช่วงนั้นกุนซือคู่แข่งแย่งแชมป์ที่มูรินโย่ปะทะคารมผ่านสื่อด้วยมีแต่รุ่นใหญ่ชาวอิตาลีอย่าง อัลเชลอตติ (มิลาน) สปัลเลตติ (โรม่า) และรานิเอรี่ (ยูเว่) เลยไม่เป็นที่ชื่นชอบของสื่ออิตาลีและแฟนบอล(ทีมอื่น) มากนัก
ฤดูกาล 2009–2010
- ให้สัมภาษณ์ว่าอยากคุมแมนยูหากเซอร์อเล็กวางมือ
- ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กับมาเซโล่ ลิปปี้ กุนซืออิตาลีในขณะนั้นซึ่งทำนายว่ายูเวนตุสจะเป็นแชมป์ลีกในฤดูกาลนี้ โดยกล่าวว่า ลิปปี้ไม่เคารพอินเตอร์เลย
- ให้สัมภาษณ์ตอบโต้กับคันนาวาโร่ ที่ยุให้เดวิด ซันตอน (แบ็คซ้ายดาวรุ่งของอินเตอร์ ณ ตอนนั้น) โดยแขวะว่าคันนาวาโร่ทำตัวเหมือนกับเป็นโค้ชซะเอง
- ช่วงเดือนตุลาคม โดนไล่ออกจากสนามเพราะไปตบมือประชดผู้ตัดสินในนัดที่แพ้ยูเว่ไป 2-1
- โดนแบนสามนัด เหตุจากไปโชว์ท่าโดนใส่กุญแจมือใส่กล้อง หลังผู้เล่นอินเตอร์โดนไล่ออกสองคนตั้งแต่ครึ่งแรกในนัดที่เจอกับซามพ์โดเรีย
- พาทีมเข้าชิง UCL โดยรอบน็อคเอาท์ผ่าน เชลซี (เอาชนะทีมเก่าได้อย่างสะใจเจ้าตัวมาก) ซีเอสเคเอมอสโก และบาร์เซโลน่า (เลกสองแพ้ไป 1-0 แต่เข้ารอบ เปิดตำนานแผนรับแหลกเพื่อเน้นผล ที่กลายเป็นลายเซ็นของมูรินโย่ในยุคหลัง ๆ)
- พาทีมคว้าแชมป์ซีรีอา และโคปาอิตาเลีย
- พาทีมคว้าแชมป์ UCL
รีล มาดริด
ฤดูกาล 2010-2011
- เจอบาร์เซโลนา เอลกลาซิโกนัดแรกในชีวิตกุนซือโดนบาซ่าอัดคาคัมป์นูไป 5-0 ประธานสโมสรเปเรซ กับ Sporting director ฮอร์เก้ บัลดาโน่ออกมาวิจารณ์มูรินโย่กันยกใหญ่ (ทั้งๆที่เพิ่งเซ็นเข้ามาเอง)
- โดนยูฟ่าปรับเงิน โทษฐานสั่งให้อลอนโซ่กับรามอสถ่วงเวลาเพื่อรับใบเหลืองในเกม UCL ที่เจอกับอาแจ็กซ์
- พาทีมคว้าแชมป์โคปา เดล เรย์ ได้สำเร็จ จากการเอาชนะบาร์ซ่าไป 1 - 0
- แต่ก็ไปแพ้บาร์ซ่าใน UCL รอบรอง (ซึ่งบาร์ซ่าก็เข้าไปปราบแมนยูคว้าแชมป์ไปในนัดชิง)
ฤดูกาล 2011-2012
- พาทีมชนะรวด 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม UCL
- พาทีมเอาชนะบาร์ซ่าในลาลีกาได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี และส่งผลให้ทีมคว้าแชมป์ลาลีกาไปในท้ายที่สุด
- แพ้จุดโทษบาร์เยิร์นในรอบรอง UCL (แต่บาร์เยิร์นก็ไปแพ้จุดโทษเชลซีของ ดิ มัตติโอไปในนัดชิง)
ฤดูกาล 2012-2013
- เซ็นสัญญาคุมมาดริดต่อไปอีก 4 ปีจนถึงปี 2016
- พาทีมเข้ารอบรอง UCL ได้เป็นครั้งที่สามติดต่อกัน (สี่ ถ้านับอินเตอร์ด้วย) แต่ไปแพ้ดอร์ทมุนของเจอร์เก้น คล็อปป์ (ซึ่งก็เข้าไปแพ้บาร์เยิร์นในนัดชิง)
- ลือกันว่ามูรินโย่มีปัญหากับนักเตะตัวหลักของทีมอย่าง รามอส คาซิยาส และโรนัลโด้ โดยเฉพาะโรนัลโด้ที่มูรินโย่ให้สัมภาษณ์ออกสื่อในทำนองที่ว่าทำตัวเหมือนน้ำเต็มแก้ว
- พาทีมจบที่สองในลาลีกา ตามหลังบาร์ซ่า 15 แต้ม (ปีนั้นคงต้องยอม บาร์ซากดไป 100 แต้ม)
- พาทีมแพ้แอต มาดริดในนัดชิงโคปาเดลเรย์
เชลซี (รอบสอง)
ฤดูกาล 2013-2014
- พาทีมจบที่สามในลีก ตามหลังแมนซิตี้สี่แต้ม ไฮไลท์คือเอาชนะลิเวอร์พูลได้ในช่วงท้ายของฤดูกาล ดับความหวังคว้าแชมป์ลีกครั้งแรกในรอบยี่สิบกว่าปีของลิเวอร์พูลไป
- พาทีมเข้ารอบรอง UCL (อีกแล้ว) แต่ไปแพ้แอตเลติโก้ มาดริด
ฤดูกาล 2014-2015
- แพ้แบร็ดฟอร์ดตกรอบสี่ FA Cup
- พาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ โดยเอาชนะสเปอร์ไปได้ในนัดชิง
- แพ้ PSG ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายใน UCL ยุติสถิติพาทีมเข้ารอบรอง UCL ได้ติดต่อกันของมูรินโย่ไว้ที่ห้าครั้ง
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จ ทิ้งห่างอันดับสองอย่างแมนซิตี้ไป 8 แต้ม
ฤดูกาล 2015-2016
- เซ็นสัญญาใหม่ 4 ปี โดยจะทำให้เขาคุมทีมไปจนถึงปี 2019
- นัดแรกของฤดูกาลทำได้แค่เสมอกับซวอนซีไป 2-2 โดยคูร์กตัวร์โดยไล่ออก
- นัดนี้เกิดเรื่องดังที่เป็นเหมือนน้ำผึ้งหยดเดียวของเชลซีในฤดูกาลนี้ หลังเหลือผู้เล่นสิบคนแล้วแข่งต่อไป ช่วงท้ายเกม อาซาร์ได้รับบาดเจ็บ ผู้ตัดสินเลยเรียกให้ทีมแพทย์เชลซีประกอบด้วยหัวหน้าทีมแพทย์จอห์น เฟิร์น และหมอสาวสวยเอวา คาเนโร่ เข้าสนามมาดูอาการของอาซาร์ ซึ่งพอทั้งสองคนวิ่งลงสนามไปมูรินโย่ก็โมโหมาก ตะโกนด่าทั้งคู่อย่างหยาบคาย สาเหตุที่มูรินโย่โมโหไม่เป็นที่เปิดเผย แต่คาดว่าคงเพราะคิดว่าอาซาร์ไม่ได้เจ็บอะไรมากขนาดนั้น การลงไปของทีมแพทย์ทำให้เชลซีเสียเวลาในการพยายามยิงประตูขึ้นนำโดยใช่เหตุ
- เรื่องบานปลายขึ้น เมื่อทีมแพทย์ทั้งสองไม่ได้ทำหน้าที่ในเกมต่อ ๆ มา
- จุดจบของเรื่องหลายเดือนต่อมาคือ หมอเอวาไปฟ้องศาล ก่อนจะเรียกร้องค่ายอมความจากสโมสรเชลซีได้ถึง 5 ล้านปอนด์
- อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อชื่อเสียงของตัวมูรินโย่ และส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของเชลซีอย่างไม่น่าเชื่อ (วลีที่ว่าเล่นไล่โค้ชถูกพูดถึงบ่อยมาก)
- หลังจากนั้น ก็เริ่มฤดูกาลในลีกได้อย่างน่าผิดหวัง โดยเก็บได้แค่ 11 แต้มจาก 12 นัด
- ยังไม่พอตกรอบลีกคัพตั้งแต่รอบแรกๆด้วยการแพ้จุดโทษต่อสโต๊ก
- ลาออกจากเชลซีในที่สุด หลังจากทำทีมแพ้ 9 นัดจาก 16 นัดในลีกฤดูกาลนี้ ทั้งๆที่ 7 เดือน 14 วันก่อนหน้านี้เพิ่งฉลองแชมป์ลีกร่วมกับทีม
แมนยู
ฤดูกาล 2016-2017
- พาทีมคว้าแชมป์แรกได้ทันทีในนัดอย่างเป็นทางการนัดแรก คือถ้วยคอมมิวนิตี้ชิลด์
- พาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพ เป็นผู้จัดการทีมแมนยูคนแรกในประวัติศาสตร์ที่พาทีมคว้าถ้วยสำคัญได้ตั้งแต่ซีซั่นแรก
- พาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร
- ในลีกจบที่ 5 แต่ได้ไป UCL เพราะคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก
ฤดูกาล 2017-2018
- พาทีมจบอันดับสองในลีก ตามหลังอันดับหนึ่งอย่างแมนซิตี้ 19 แต้ม (ปล่อยเขาไปเถอะ)
- UCL พ่ายเซบีย่าตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายไปอย่างพลิกความคาดหมาย จากผลงานในรอบนี้ เสียงวิจารณ์เรื่องรูปแบบการเล่นแบบตั้งรับเกินเหตุของมูรินโย่เริ่มหนาหูขึ้น
- ตกรอบถ้วย EFL โดยไปแพ้ทีมแชมเปี้ยนชิพอย่างบริสตอล ซิตี้
- ได้เข้าชิง FA Cup แต่ก็แพ้เชลซีของคอนเต้ไป
ฤดูกาล 2018-2019
...(ลุ้นกันต่อไป)