ขอความเห็น/คำแนะนำหน่อยนะคะ (จะขอคำแนะนำทั้งในแง่สุขภาพ/และด้านกฏหมาย หรือ ในแง่ของความเป็นธรรม ที่เชื่อว่ามีหลายท่านเจอเหมือนดิฉัน แต่ไม่เจอใครโพสต์ใน Pantip เลย (หรือหาไม่เจอเองหว่า...T^T) ขออนุญาติขอความเห็นจากคน 2-3 กลุ่มทีเดียวเลยนะคะ(ทั้งกลุ่มสุขภาพ และกฏหมาย) และเนื่องจากไม่เคยโพสต์ใน Pantip มาก่อน หากจะเป็นการทำให้คน 2 - 3 กลุ่ม ลำบากในการตามอ่าน หรือแยกแยะเนื้อหา ก็ต้องขออภัยไว้ก่อนนะคะ แต่ที่เอาเรื่องราวมารวมกันไว้ ก็เผื่อจะได้ประกอบการพิจารณาในการแสดงความคิดเห็นค่ะ) สามารถเลือกอ่านเฉพาะโหมดที่ท่านชำนาญ/สนใจได้นะคะ มี 2 โหมด คือ โหมดอาการ และ โหมดกฏหมาย หรือความเป็นธรรมของคนไข้ ค่ะ
โหมดอาการของดิฉัน ---->>>
ดิฉันจัดฟันกับคุณหมอเฉพาะทางเรื่องข้อต่อขากรรไกรท่านหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะ ด้วยความเคารพ และศรัทธาในความรู้ความสามารถที่คุณหมอมีมาตลอด) ขอเล่าดังนี้ค่ะ
ดิฉันมีปัญหาเรื่องขากรรไกรค้าง 2 ครั้ง ช่วงปี 45-46 (เป็น นศ.)แต่ไม่หนักหนาอะไร จึงไม่ได้ตามตรวจเพื่อรับการรักษาจนเวลาล่วงเลยมาถึงปี 49 ดิฉันเริ่มมีอาการอ้าปากกว้างๆแล้วเจ็บตรงข้อต่อทั้ง 2 ข้าง อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง เจ็บขากรรไกรตลอดเวลา ไม่ว่าจะอ้าปาก หุบปาก ก็ปวดมาก ทานข้าวแทบไม่ได้ น้ำหนักลดไปราว ๆ 5 กิโล ซ้ำยังเริ่มน้ำลายไหลจากปากเวลาเผลอๆได้แทบตลอดทั้งวันเลยค่ะ(คาดว่าอาจจะเป็นเพราะมีปัญหาเรื่องการควบคุมขากรรไกรไม่ค่อยปกติ) เลยไป Seach หาข้อมูลเรื่องการรักษาข้อต่อขากรรไกร เจอที่ๆหนึ่ง(มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้ค่ะ) คุณหมอท่านนี้ เป็นผู้มีวุฒิการศึกษาที่สูงมาก และเฉพาะทางเรื่องการรักษาข้อต่อขากรรไกร (ที่นับว่ามีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในวงการนี้ดีค่ะ) ดิฉันได้รับการรักษาด้วยการทำ Splint (เฝือกที่ใส่ในปาก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องข้อต่อขากรรไกรที่ดิฉันเป็นอยู่)ราคาของขั้นตอนต่างๆกว่าจะได้ Splint ค่อนข้างแพงกว่าที่อื่น...โดยให้ใส่ตลอดเวลา ยกเว้นเวลาทานอาหาร กับแปรงฟัน เวลาใส่ splint ดูแล้วจะเหมือนเราคาบอะไรใสๆ บางๆไว้ในปากตลอดเวลาค่ะ ใส่อยู่นาน ราวๆ ปีหนึ่ง(ไม่แน่ใจระยะเวลา) อาการเจ็บปวดต่างๆ ลดลง กระทั่งรู้สึกเป็นปกติ ไม่ปวด และรับประทานอาหารได้ปกติ (หลีกเลี่ยงของเหนียว/แข็ง ด้วยค่ะ) แต่คุณหมอท่านนี้แนะนำว่าควรจัดฟันด้วย เพราะถ้าดิฉันถอด Splint ออก อีกไม่นาน อาการก็จะกลับมาเป็นอีก เพราะมีปัญหาที่โครงสร้าง และเกี่ยวกับการสบฟันที่ไม่เหมาะสม แต่เนื่องจากดิฉันไม่อยากจัดฟัน และราคาค่าจัดฟันที่นี่ก็แพงจริงๆ (ขั้นต่ำ 5 หมื่นต้นๆ ซึ่งเป็นแบบปลายเปิด คือ ยังไม่รวมกับค่าอุปกรณ์ และ โน่น นี่ นั่น อีกเพียบ...แต่ก็ยังนับว่าถูกกว่าไปจัดที่คลินิกส่วนตัวอีกที่นึงของคุณหมอ ซึ่งน้องชายไปจัดมา 150,000 !!) เลยต้องถอยออกมา และหายหน้าจากหมอไปประมาณ 1 ปี ค่ะ (คิดว่า ถ้าเจ็บขากรรไกร ก็จะเอา spintออกมาคาบอีก คงหาย -*-) แต่เนื่องจากอาการระยะต่อๆมาไม่ค่อยจะดี ทางบ้านเลยให้ไปจัดฟัน(อยู่ดี) คุณหมอ(ท่านเดิม)ก็รับจัดให้ปกติ (ไม่ได้บ่นว่าเคสเรายากอะไรด้วยค่ะ)
โหมดขอความเป็นธรรม ---- >>>
โดยก่อนจัดฟัน คุยเรื่องราคาค่าจัดฟันอยู่ที่ราว 45,000 บาท คุณหมอให้ไปถอนฟันในปากมาก่อน รวมทั้งหมด 6 ซี่ (ไปถอนที่ไหนก็ได้ หมอไม่ได้ทำให้ค่ะ)แล้วจึงมาเริ่มจัดฟัน ในวันเริ่ม หมอให้เซ็นต์ "ใบยินยอม" ในการรับการรักษา เนื้อหาในเอกสารมีคร่าวๆ เกี่ยวกับค่ารักษา ซึ่งหมอเพิ่งบอกในวันนั้นว่า ราคาขึ้นมาจากที่คุยไว้ตอนแรกอีก 15 % จาก 45,000 บ. เป็น 51,000 (เราก็ยอม) โดยให้ทยอยจ่ายเป็นงวดๆ และเอกสารระบุว่า หากการรักษายาวนานกว่า 28 เดือน หมอจะเก็บค่ารักษาเพิ่มอีก เดือนละ 2,000 บาท (เพราะถือว่าเป็นความผิดของเราเอง ที่รักษายาก!) นอกจากนี้ ยังไม่รวมกับค่าอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใส่ให้เราเพิ่มตามอาการ เช่น แบรนด์ครอบฟัน ชิ้นละ 2,000 บาท ,ยางดึงฟัน ถุงละ 300บาท เป็นต้น (ถามเพื่อที่จัดฟันกับที่คลินิกอื่นส่วนใหญ่จะไม่คิดตรงนี้ เพราะถือว่ารวมกับค่ารักษาที่เราจ่ายเป็นแพ็คเก็จไปแล้ว)...แต่สรุปว่า เราก็ยอมรักษากับคุณหมอท่านนี้ เพราะตอนนั้นเชื่อว่า เป็นหมอที่เก่งที่สุด (อยากหายค่ะ) และไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมตอนนั้นหาข้อมูลเรื่องหมอท่านอื่นไม่เจอเลย
จัดฟันแพงมหาโหด(เพื่อรักษาข้อต่อขากรรไกร)ทำเฝือกในปาก+จัดฟัน จ่ายไปราวแสน! สุดท้ายบอกให้ไปหาที่ถอดเหล็ก+ทำรีเทนเนอร์เอง
โหมดอาการของดิฉัน ---->>>
ดิฉันจัดฟันกับคุณหมอเฉพาะทางเรื่องข้อต่อขากรรไกรท่านหนึ่ง(ไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะ ด้วยความเคารพ และศรัทธาในความรู้ความสามารถที่คุณหมอมีมาตลอด) ขอเล่าดังนี้ค่ะ
ดิฉันมีปัญหาเรื่องขากรรไกรค้าง 2 ครั้ง ช่วงปี 45-46 (เป็น นศ.)แต่ไม่หนักหนาอะไร จึงไม่ได้ตามตรวจเพื่อรับการรักษาจนเวลาล่วงเลยมาถึงปี 49 ดิฉันเริ่มมีอาการอ้าปากกว้างๆแล้วเจ็บตรงข้อต่อทั้ง 2 ข้าง อาการแย่ลงเรื่อยๆ จนกระทั่ง เจ็บขากรรไกรตลอดเวลา ไม่ว่าจะอ้าปาก หุบปาก ก็ปวดมาก ทานข้าวแทบไม่ได้ น้ำหนักลดไปราว ๆ 5 กิโล ซ้ำยังเริ่มน้ำลายไหลจากปากเวลาเผลอๆได้แทบตลอดทั้งวันเลยค่ะ(คาดว่าอาจจะเป็นเพราะมีปัญหาเรื่องการควบคุมขากรรไกรไม่ค่อยปกติ) เลยไป Seach หาข้อมูลเรื่องการรักษาข้อต่อขากรรไกร เจอที่ๆหนึ่ง(มีมาตรฐาน และเชื่อถือได้ค่ะ) คุณหมอท่านนี้ เป็นผู้มีวุฒิการศึกษาที่สูงมาก และเฉพาะทางเรื่องการรักษาข้อต่อขากรรไกร (ที่นับว่ามีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักในวงการนี้ดีค่ะ) ดิฉันได้รับการรักษาด้วยการทำ Splint (เฝือกที่ใส่ในปาก เพื่อแก้ปัญหาเรื่องข้อต่อขากรรไกรที่ดิฉันเป็นอยู่)ราคาของขั้นตอนต่างๆกว่าจะได้ Splint ค่อนข้างแพงกว่าที่อื่น...โดยให้ใส่ตลอดเวลา ยกเว้นเวลาทานอาหาร กับแปรงฟัน เวลาใส่ splint ดูแล้วจะเหมือนเราคาบอะไรใสๆ บางๆไว้ในปากตลอดเวลาค่ะ ใส่อยู่นาน ราวๆ ปีหนึ่ง(ไม่แน่ใจระยะเวลา) อาการเจ็บปวดต่างๆ ลดลง กระทั่งรู้สึกเป็นปกติ ไม่ปวด และรับประทานอาหารได้ปกติ (หลีกเลี่ยงของเหนียว/แข็ง ด้วยค่ะ) แต่คุณหมอท่านนี้แนะนำว่าควรจัดฟันด้วย เพราะถ้าดิฉันถอด Splint ออก อีกไม่นาน อาการก็จะกลับมาเป็นอีก เพราะมีปัญหาที่โครงสร้าง และเกี่ยวกับการสบฟันที่ไม่เหมาะสม แต่เนื่องจากดิฉันไม่อยากจัดฟัน และราคาค่าจัดฟันที่นี่ก็แพงจริงๆ (ขั้นต่ำ 5 หมื่นต้นๆ ซึ่งเป็นแบบปลายเปิด คือ ยังไม่รวมกับค่าอุปกรณ์ และ โน่น นี่ นั่น อีกเพียบ...แต่ก็ยังนับว่าถูกกว่าไปจัดที่คลินิกส่วนตัวอีกที่นึงของคุณหมอ ซึ่งน้องชายไปจัดมา 150,000 !!) เลยต้องถอยออกมา และหายหน้าจากหมอไปประมาณ 1 ปี ค่ะ (คิดว่า ถ้าเจ็บขากรรไกร ก็จะเอา spintออกมาคาบอีก คงหาย -*-) แต่เนื่องจากอาการระยะต่อๆมาไม่ค่อยจะดี ทางบ้านเลยให้ไปจัดฟัน(อยู่ดี) คุณหมอ(ท่านเดิม)ก็รับจัดให้ปกติ (ไม่ได้บ่นว่าเคสเรายากอะไรด้วยค่ะ)
โหมดขอความเป็นธรรม ---- >>>
โดยก่อนจัดฟัน คุยเรื่องราคาค่าจัดฟันอยู่ที่ราว 45,000 บาท คุณหมอให้ไปถอนฟันในปากมาก่อน รวมทั้งหมด 6 ซี่ (ไปถอนที่ไหนก็ได้ หมอไม่ได้ทำให้ค่ะ)แล้วจึงมาเริ่มจัดฟัน ในวันเริ่ม หมอให้เซ็นต์ "ใบยินยอม" ในการรับการรักษา เนื้อหาในเอกสารมีคร่าวๆ เกี่ยวกับค่ารักษา ซึ่งหมอเพิ่งบอกในวันนั้นว่า ราคาขึ้นมาจากที่คุยไว้ตอนแรกอีก 15 % จาก 45,000 บ. เป็น 51,000 (เราก็ยอม) โดยให้ทยอยจ่ายเป็นงวดๆ และเอกสารระบุว่า หากการรักษายาวนานกว่า 28 เดือน หมอจะเก็บค่ารักษาเพิ่มอีก เดือนละ 2,000 บาท (เพราะถือว่าเป็นความผิดของเราเอง ที่รักษายาก!) นอกจากนี้ ยังไม่รวมกับค่าอุปกรณ์อื่นๆ ที่ต้องใส่ให้เราเพิ่มตามอาการ เช่น แบรนด์ครอบฟัน ชิ้นละ 2,000 บาท ,ยางดึงฟัน ถุงละ 300บาท เป็นต้น (ถามเพื่อที่จัดฟันกับที่คลินิกอื่นส่วนใหญ่จะไม่คิดตรงนี้ เพราะถือว่ารวมกับค่ารักษาที่เราจ่ายเป็นแพ็คเก็จไปแล้ว)...แต่สรุปว่า เราก็ยอมรักษากับคุณหมอท่านนี้ เพราะตอนนั้นเชื่อว่า เป็นหมอที่เก่งที่สุด (อยากหายค่ะ) และไม่เข้าใจเลยว่า ทำไมตอนนั้นหาข้อมูลเรื่องหมอท่านอื่นไม่เจอเลย