The new united ..ของ ''เดวิด มอยส์?''..

ก่อนอื่นเรามาวิเคราะห์ในส่วนของข่าวที่ว่า ยูไนเต็ด จะดึงตัว เควิน สตรูทมัน มาเสริมทีม เรื่องของเรื่องคือผมมองว่าถ้าเฟอร์กูสันยังอยู่โอกาศมันจะไม่เยอะขนาดนี้ ใช่ละ โอกาสมันมีแน่นอน แต่ผมจะฟันธงไปเลยว่าเฟอร์กูสันจะไ่ม่ทำอะไรกับตำแหน่งนั้น ตำแหน่งกลางรับที่โคตรจะรั่วของยูไนเต็ด แต่สำหรับยูไนเต็ดของ เดวิด มอยส์ มันอาจจะต่างออกไป เราสามารถคิดได้ว่าเค้ามีโอกาสที่จะต้องใช้มัน

ก่อนอื่นเรามาดูแท็กติกส์ของ เดวิด ที่เอฟเวอร์ตันก่อน เขาเป็นสก๊อตแลนด์ เป็นผู้จัดการทีมชาวบริเทน แผนการเล่นส่วนมากของผุ้จัดการทีมในแถบนี้คือ 4-4-2 แบบโบราณ กองหน้าตัวใหญ่ และ บอลยาวเป็นหลัก...อลัน พาร์ดิว, โทนี่ พูลิส, รอย ฮอดจ์สัน, แฮรรี่ เร็ดแนป หรือแม้แต่ เฟอร์กูสันเองใช้ระบบ 4-4-2 ทั้งนั้น...พวกเขาจะทำอะไรกับนักเตะที่มีมันคืออีกเรื่อง แต่ระบบหลักจะยังเป็น 4-4-2

แต่ เดวิด มอยส์ ที่ดูเหมือนจะหัวโบราณกลับทำเอฟเวอร์ตันแข็งแกร่งในระะบบ 4-2-3-1... แข็งแกร่ง ดุดัน แต่แอบทันสมัย..ผมไม่รู้หรอกพวกเค้าจงใจใช้ระบบนี้หรือเปล่า แต่เอฟเวอร์ตันเป็นทีมขนาดกลาง และ เวลาที่พวกเค้าเล่นกับทีมอย่าง เชลซี หรือ แมนซิตี้ โดยใช้โควต้ากองหน้าสองคน และ เหลือมิดฟิลด์แค่สองคนในสนามไว้สู้กับนักเตะอย่าง ยาย่า ซิลบา และ นาสรี่ นั่นหมายถึงพวกเค้าอาจจะ "Shift" หาย เอาได้ง่ายๆ..

กลางสามของ เดวิด มอยส์ มี แดร์ลอน กิ๊บสัน, ลีออน ออสมัน และ เฟลไลนี่ ที่ได้เด่นทั้งเกมส์รับหรือการสอดไปทำประตู.. หน้าเป้าคือ เยลาวิช ที่รอการครอสบอลจากแบ็คเป็นหลัก พวกเค้าครอสบอลจากแบ็คไม่ใช่ปีก เลห์ตัน เบนส์ สนุกสนานที่จะวิ่งเติมเกมส์น้ำบานอย่างที่เราเห็น และที่สำคัญที่สุด "ปีก" ของ เดวิด มอยส์ ไม่ใช่ปีกโบราณแบบกระชากแล้วเปิดเข้ากลางเพียงอย่างเดียว เกมส์รุกทางริมเส้นของพวกเขามันเกือบจะคล้ายๆ ตัวรุกอิสระด้านข้างแบบที เชลซี ลิเวอร์พูล หรือ บาร์เยิร์นมิวนิค ใช้อยู่..เควิน มิราลาส มีลักษณะการเล่นแบบทะลุทะลวงและดูไกล้เคียงกับ อาร์เยน ร๊อบเบน มากกว่า ขณะที่ สตีเว่น พีนาร์ อาจจะวูบวาบน้อยแต่แม่นแท็กติกส์ และ ช่วยทีมได้มากโข ที่เค้าล้มเหลวกับสเปอร์เพราะ เร็ดแนป์ ดันใช้งานหมอนี่แบบปีกโบราณต่างหาก

ในระบบที่ว่า กลางสามในรูปแบบของโมเดลที่เพอร์เฟค ในพรีเมียร์ลีกให้คุณลองจินตนาการถึงลิเวอร์พูลของเบนิเตซที่มี ตัวรับตัดเกมส์แท้ๆอย่างมาสเชราโน่ โฮลดิ้งมิดฟิลด์แบบอลอนโซ่ และเกมส์รุกที่ทรงประสิทธิภาพของเจอร์ราด นั่นแหละ หรือจะเป็น ชาบี บุสเกต์ อิเนียสต้าของ บาร์ซา .. โมเดลอาจจะถูกปรับไปเรื่อยๆสำหรับระบบการเล่นของแต่ละทีม และสำหรับยูไนเต็ดของ มอยส์ เควิน สตรูทมัน มีโอกาศมากที่สุดที่จะมา หรือไม่ก็อาจจะเป็นมิดฟิลด์ที่มีลักษณะยืดหยุนในเกมส์รับอย่างน้อยหนึ่งคน ผมหมายถึงถ้า เดวิด มีอิสระกับการจัดทีมแบบ 100% เค้าจะหามิดฟิลด์ที่แข็งแกร่งมาอัดกลางแน่นอนอย่างน้อยหนึ่งคน และ "ถ้า" ทุกคนในทีมยังได้โอกาสในการพิสูจน์ตัวเองกับผู้จัดการทีมคนใหม่อยู่ นักเตะทักษะสูงอย่าง หลุยส์ นานี่ จะเหมือนเกิดใหม่ในตำแหน่งตัวรุกอิสระด้านข้าง อันแดร์สัน อาจจะได้ย้อนวัยไปเล่นเหมือนกับตอนที่เฉิดฉายในปอร์โต้ ตอนอายุ 17 กับตำแหน่งกองกลางตัวรุก ลักษณะการเล่นที่ คารลอส เคยรอช ต้องรีบปาดหน้าทีมใหญ่ดึงตัวมาด้วยเงินถึง 18 ล้านปอนด์..

อันที่จริงผมไม่ได้หวังอะไรมากกับ เดวิด มอยส์ เราสร้างทีมใหม่ไม่จำเป็นจะต้องคาดหวังอะไรให้ยิ่งใหญ่ได้ภายในปีแรก แชมป์พรีเมียร์ลีก จะดูเป็นอะไรบางอย่างที่พอจะคาดหวังได้ หรือการพัฒนาทีมเพื่อเป็นแชมป์ยุโรปภายในห้าปี..แต่สิ่งที่เราจะคาดหวังแน่นอนคืออะไรบางอย่างให้เป็นอย่างที่มันควรจะเป็น คุณมองดูที่ หลุยส์ นานี่ นานี่เป็นนักเตะที่มีทักษะในระดับสูง วัดกันในขณะที่ท๊อปฟอร์มแล้วจังหวะ 1-1 น้อยคนที่จะเอาหมอนี่อยู่ นั่นหมายถึงเค้าควรจะทำอะไรได้มากกว่าวิ่งขึ้นลงและครอสบอลจากด้านข้าง, อันแดร์สัน ควรจะได้ทำเกมส์รุกตามที่ถนัดมากกว่าไปวิ่งไล่บอลอยู่ข้างหลัง และการการันตีว่าหน้าต่ำพรสวรรค์อย่าง ชิน จิคากาวะ จะไม่ได้เป็นปีกซ้ายแบบโบราณ หรือ อะไรบางอย่างที่ทำให้ เจอร์เก้น คล๊อป แทบคลั่ง..

ห้าปีที่ยูไนเต็ดปราศจากกลางรับกับเกมส์ในแดนกลางที่โคตรจะพรุน หรืออะไรที่ทำให้แฟนยูไนเต็ดอย่างผมไม่เข้าใจชีวิตตอนเห็น ไรอัน กิ๊กส์ กับ ไมเคิล คาร์ริค ลงไปสู้ในแดนกลางกับโคตรบอลอย่าง บุสเกต์ ชาบี เอร์นานเดซ และ อันเดรส อิเนียสต้า...และสุดท้ายสำหรับผมแล้ว ผมหวังว่าคงจะไม่ต้องเห็นนักเตะที่กินเงินค่าเหนื่อยสโมสรระดับ 250,000 ปอนด์ ต้องมายืนทำหน้าหงุดหงิดเพราะเพื่อนร่วมตำแหน่งคนอื่นๆเล่นดีกว่า รวมไปถึงการใช้อภิสิทธ์บางอย่างลงสนามโดยไม่ยอมสู้เพื่อแย่งตำแหน่งกับคนอื่นๆ เพราะถ้างั้นเราคงจะต้องมาทนเห็นหมอนี่ขอย้ายออกจากสโมสรเป็นครั้งที่ สาม สี่ หรือ ห้า ในอนาคต ...






..