บาเยิร์นคว้าแชมป์ชปล.2013 เกมชิงชนะเลิศของสองทีมจากเยอรมันที่มีมาตรฐานสูงและตื่นเต้นเร้าใจ ดอร์ทมุนด์มีรูปทรงพื้นฐานที่ยอมเสี่ยงนำไปสู่การมีโอกาสยิงประตูของทั้งสองทีมเยอะกว่าในการเจอกันในอดีตที่ผ่านมา 2-3 ปีหลัง เกมที่เอนเตอร์เทน ดราม่า หลังจากที่เสือเหลืองบุกหนักช่วงต้นเกม อาร์เยน ร๊อบเบน ปิดฉากด้วยฟอร์มที่แข็งแกร่งขึ้นในครึ่งหลังก่อนหมดเวลาสองนาทีด้วยประตูชัย
ครึ่งแรก - ดอร์ทมุนด์กับการเพรซซิ่ง รุกแบบพาสซิฟ 4-4-2
หลังจากที่ มาริโอ เกิทเซ่ ลงเตะไม่ได้ คำถามสำคัญก่อนเกมคือ ใครควรเล่นแทนเขา อยู่ด้านหลังเลวานนอฟสกี้ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ตัดสินใจเลือกรูปแบบการเล่นที่เข้าขากันที่สุด และรอยส์ขยับเข้ามาตรงศูนย์กลาง การที่ เควิน โกรสคอรท์ซ เดินเข้าหา ไม่ได้ทำให้แตกต่างไปมาก สิ่งที่เหลือเหลืองปรับเปลี่ยนมาก คือ การเล่นเพรสซิ่ง
แทนที่จะฟอร์มทีมไล่บอลที่เส้นกลางสนาม เสือเหลืองยืนตำแหน่งเพรสซิ่งเกมรุกของบาเยิร์นโดยตรง เลวานอฟสกี้และรอยส์ ลุยสูงไปด้วยกัน อยู่ด้านหน้ากองหลังตัวกลางของเสือใต้ในรูปแบบ 4-4-1-1 แผงกลางสี่คนขึ้นค่อนข้างสูงเข้าไปในดนของบาเยิร์น
แต่รอยส์และเลวานนอฟสกี้ไม่ได้เข้าโจมตีกอหลังบาเยิร์นอย่างก้าวร้าว แต่เล่นเกมเพรสซ่งเกมรุกแบบพาสซีฟ แม้นจะยืนตำแหน่งสูง ดอร์ทมุนด์ตั้งสมาธิอยู่กับการผ่านบอลของคู่แข่ง ปิดทางผู้ผ่านบอลและเส้นทางในการผ่านบอล ที่สำคัญที่สุดคือ บัวเต็ง ถูกถูกดักทางเร็ว และเส้นทางการผ่านบอลให้ไชวน์สไตเกรอ์ถูกจับตามองเป็นอย่างดี ยามที่ดึงตัวทำเกม คนนี้ชยับเข้าไปแดนกลาง
การทำเกมของบาเยิร์นที่ถูกฉีกขาดจากกัน
ด้วยการเพรสซิ่งแบบนี้ ทำให้ดอร์ทมุนด์กทางของการเปิดเกมของบาเยิร์นได้ ยามเคลื่อนตัวหาที่ว่างของชไวนี่ และ ริมเส้นตลอดจนการเติมเกมของแบ็คเสือใต้คือกับดัก
อลาลาและลาห์ม ไม่กล้าขึ้นสูง เพราะต้องคอยช่วยกองหลังตัวกลางที่โดนกดดันหนัก ทำให้ดอร์ทมุนด์ตัดปัญหาในการขึ้นเกมทางกราบและบีบด้วยการยืนประกบใกล้แผงรับ
มันช่วยได้มากในการประกบริเบอร์รี่ ที่ในเกมครึ่งแรกแทบไม่มีอิทธิพลต่อเกมเลย เขาไม่มีอลาลามาตอยหนุน เพราะพิซเซ็ค คอยตัดเส้นทางเอาไว้ เกมที่เคยเคล่อนตัวดีเป็นปกติของฮาล์ฟซ้ายของบาเยิร์นถูกบล็อกไว้
ชไวน์สไตเกอร์ทิ้งตัวเข้าอยู่ระหว่งกองหลังตัวกลางบ่อยๆ เกมที่ต้องคอยระวังเมื่อแบ็กเติมขึ้นสูง การที่ โธมัส มุลเลอร์ มุ่งเกมเดินหน้า ริเบรี่ต้องทำหน้าที่ตัวเชื่อมในทีว่างที่เข้าไปในพื้นที่ของพิซเซ็ค, กุนโดแกน และ บลาซิคอฟสกี้ กองหน้าดอร์ทมุนด์ที่ดันสูงรับมือกับชไวน์สไตเกอร์ได้เป็นอย่างดี
พื้นที่ทางฮาล์ฟซ้ายที่บาเยิร์นเข้าไปเล่นไม่ได้ เพราะดอร์ทมุนด์โฟกัสไปที่บัวเต็ง ทำให้ต้องดึงเกมห่างไปจากลาห์ม และอลาบาที่ทำเกมได้น้อยกว่าเดิมอย่างชัดเจน อลาบาและดันเต้หาผู้มารับบอลไม่ได้ และบ่อยครั้งที่ต้องสาดบอลไปข้างหน้าที่ไม่ได้อยู่ในแผนของบาเยิร์น การที่ผ่านลูกริมเส้นไปทางลึกบ่อยๆ ทางฝั่งซ้าย ทำให้ดอร์ทมุนด์เก็บบอลศองสองโค้สบาย เนื่องจากบ่อที่ชไวน์สไตเกอร์ทิ้งเอาไว้
เกมสวนกลับของดอร์ทมุนด์
ดอร์ทมุนด์ทำได้แข็งแกร่งตรงศุนย์กลาง ด้วยการคอยดักทางผ่านบอล ที่ทำได้เป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม ด้วยเหตุนี้การทีมาร์ติเนซลุยไปข้างหน้าอยู่หน้าศูนย์หน้าเพื่อรับบอลเลยหวานหมู ผู้เล่นรายรอบเขาของดอร์ทมุนด์ปิดช่องทางส่งบอล ผู้เล่นที่ว่างเข้ากดดันเขา
การที่บาเยิร์นขาดตัวเชื่อมระหว่างรับกับรุก และผู้เล่นส่วนมากถูกบีบให้ถอยมารับ ดอร์ทมุนด์ใช้วิธ๊การนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพละบีบคู่แข่งในแดนกลางให้ส่งบอลคืนหลังอยู่เรื่อย ทำให้บาเยิร์นขยับเกมเดินหน้าไม่ออก ดอร์ทมุนด์มีพื้นที่สำหรับเกมสวนกลับเยอะ หลังได้บอลสองทางขวา ก็เข้าโจมตีพื้นที่วางแดนกลางอย่างรวดเร็ว ทำให้การต้นเพรสซิ่งของบาเยิร์นไร้ผล นี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
จังหวะสวนกลับของบาเยิร์นเองก็ไปไม่สุด ข้อได้เปรีบเรื่องความเร็วของบาเยิร์นถูกดอร์ทมนุด์จัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผงรับสี่คนได้ลองหมากหมายเลข 6 มาหนุนในสถานการณ์ที่โดนบีบ การที่เลวานอฟสกี้และรอยส์มี 3-4 จังหวะที่เล่นบอลเร็วได้จบด้วยการยิงประตู เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แต่ดอร์ทมุนด์ไม่สามารถชนะเกมรับของบาเยิร์นและนอยเออร์ที่เซฟเอาไว้ดไดตลอดได้อย่างเด็ดขาด
[มีต่อ]
[บทความสโมสรเยอรมัน 2013-05-31] กลยุทธฟุตบอลเยอรมัน ดอร์ทมุนด์ – บาเยิร์น 1-2 (โดย ช่อคูณ)
ครึ่งแรก - ดอร์ทมุนด์กับการเพรซซิ่ง รุกแบบพาสซิฟ 4-4-2
หลังจากที่ มาริโอ เกิทเซ่ ลงเตะไม่ได้ คำถามสำคัญก่อนเกมคือ ใครควรเล่นแทนเขา อยู่ด้านหลังเลวานนอฟสกี้ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้ตัดสินใจเลือกรูปแบบการเล่นที่เข้าขากันที่สุด และรอยส์ขยับเข้ามาตรงศูนย์กลาง การที่ เควิน โกรสคอรท์ซ เดินเข้าหา ไม่ได้ทำให้แตกต่างไปมาก สิ่งที่เหลือเหลืองปรับเปลี่ยนมาก คือ การเล่นเพรสซิ่ง
แทนที่จะฟอร์มทีมไล่บอลที่เส้นกลางสนาม เสือเหลืองยืนตำแหน่งเพรสซิ่งเกมรุกของบาเยิร์นโดยตรง เลวานอฟสกี้และรอยส์ ลุยสูงไปด้วยกัน อยู่ด้านหน้ากองหลังตัวกลางของเสือใต้ในรูปแบบ 4-4-1-1 แผงกลางสี่คนขึ้นค่อนข้างสูงเข้าไปในดนของบาเยิร์น
แต่รอยส์และเลวานนอฟสกี้ไม่ได้เข้าโจมตีกอหลังบาเยิร์นอย่างก้าวร้าว แต่เล่นเกมเพรสซ่งเกมรุกแบบพาสซีฟ แม้นจะยืนตำแหน่งสูง ดอร์ทมุนด์ตั้งสมาธิอยู่กับการผ่านบอลของคู่แข่ง ปิดทางผู้ผ่านบอลและเส้นทางในการผ่านบอล ที่สำคัญที่สุดคือ บัวเต็ง ถูกถูกดักทางเร็ว และเส้นทางการผ่านบอลให้ไชวน์สไตเกรอ์ถูกจับตามองเป็นอย่างดี ยามที่ดึงตัวทำเกม คนนี้ชยับเข้าไปแดนกลาง
การทำเกมของบาเยิร์นที่ถูกฉีกขาดจากกัน
ด้วยการเพรสซิ่งแบบนี้ ทำให้ดอร์ทมุนด์กทางของการเปิดเกมของบาเยิร์นได้ ยามเคลื่อนตัวหาที่ว่างของชไวนี่ และ ริมเส้นตลอดจนการเติมเกมของแบ็คเสือใต้คือกับดัก
อลาลาและลาห์ม ไม่กล้าขึ้นสูง เพราะต้องคอยช่วยกองหลังตัวกลางที่โดนกดดันหนัก ทำให้ดอร์ทมุนด์ตัดปัญหาในการขึ้นเกมทางกราบและบีบด้วยการยืนประกบใกล้แผงรับ
มันช่วยได้มากในการประกบริเบอร์รี่ ที่ในเกมครึ่งแรกแทบไม่มีอิทธิพลต่อเกมเลย เขาไม่มีอลาลามาตอยหนุน เพราะพิซเซ็ค คอยตัดเส้นทางเอาไว้ เกมที่เคยเคล่อนตัวดีเป็นปกติของฮาล์ฟซ้ายของบาเยิร์นถูกบล็อกไว้
ชไวน์สไตเกอร์ทิ้งตัวเข้าอยู่ระหว่งกองหลังตัวกลางบ่อยๆ เกมที่ต้องคอยระวังเมื่อแบ็กเติมขึ้นสูง การที่ โธมัส มุลเลอร์ มุ่งเกมเดินหน้า ริเบรี่ต้องทำหน้าที่ตัวเชื่อมในทีว่างที่เข้าไปในพื้นที่ของพิซเซ็ค, กุนโดแกน และ บลาซิคอฟสกี้ กองหน้าดอร์ทมุนด์ที่ดันสูงรับมือกับชไวน์สไตเกอร์ได้เป็นอย่างดี
พื้นที่ทางฮาล์ฟซ้ายที่บาเยิร์นเข้าไปเล่นไม่ได้ เพราะดอร์ทมุนด์โฟกัสไปที่บัวเต็ง ทำให้ต้องดึงเกมห่างไปจากลาห์ม และอลาบาที่ทำเกมได้น้อยกว่าเดิมอย่างชัดเจน อลาบาและดันเต้หาผู้มารับบอลไม่ได้ และบ่อยครั้งที่ต้องสาดบอลไปข้างหน้าที่ไม่ได้อยู่ในแผนของบาเยิร์น การที่ผ่านลูกริมเส้นไปทางลึกบ่อยๆ ทางฝั่งซ้าย ทำให้ดอร์ทมุนด์เก็บบอลศองสองโค้สบาย เนื่องจากบ่อที่ชไวน์สไตเกอร์ทิ้งเอาไว้
เกมสวนกลับของดอร์ทมุนด์
ดอร์ทมุนด์ทำได้แข็งแกร่งตรงศุนย์กลาง ด้วยการคอยดักทางผ่านบอล ที่ทำได้เป็นทีมอย่างยอดเยี่ยม ด้วยเหตุนี้การทีมาร์ติเนซลุยไปข้างหน้าอยู่หน้าศูนย์หน้าเพื่อรับบอลเลยหวานหมู ผู้เล่นรายรอบเขาของดอร์ทมุนด์ปิดช่องทางส่งบอล ผู้เล่นที่ว่างเข้ากดดันเขา
การที่บาเยิร์นขาดตัวเชื่อมระหว่างรับกับรุก และผู้เล่นส่วนมากถูกบีบให้ถอยมารับ ดอร์ทมุนด์ใช้วิธ๊การนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพละบีบคู่แข่งในแดนกลางให้ส่งบอลคืนหลังอยู่เรื่อย ทำให้บาเยิร์นขยับเกมเดินหน้าไม่ออก ดอร์ทมุนด์มีพื้นที่สำหรับเกมสวนกลับเยอะ หลังได้บอลสองทางขวา ก็เข้าโจมตีพื้นที่วางแดนกลางอย่างรวดเร็ว ทำให้การต้นเพรสซิ่งของบาเยิร์นไร้ผล นี้เป็นองค์ประกอบที่สำคัญ
จังหวะสวนกลับของบาเยิร์นเองก็ไปไม่สุด ข้อได้เปรีบเรื่องความเร็วของบาเยิร์นถูกดอร์ทมนุด์จัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ แผงรับสี่คนได้ลองหมากหมายเลข 6 มาหนุนในสถานการณ์ที่โดนบีบ การที่เลวานอฟสกี้และรอยส์มี 3-4 จังหวะที่เล่นบอลเร็วได้จบด้วยการยิงประตู เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แต่ดอร์ทมุนด์ไม่สามารถชนะเกมรับของบาเยิร์นและนอยเออร์ที่เซฟเอาไว้ดไดตลอดได้อย่างเด็ดขาด
[มีต่อ]