[บทความสโมสรเยอรมัน 2013-06-11] Fan View : ตัดเกรดไฟนอล บาเยิร์น มิวนิค

จากสายตาของคนอื่น นี่อาจเป็นทีมที่เหมาะสมจะได้ 5 ดาวที่สุดในฤดูกาลนี้ แต่สำหรับแฟนบอลตัวจริงล่ะ พวกเขาคิดกันอย่างไร



บาเยิร์น : ผู้ประเมิณ : Bayern Thai Fanclub

ถ้าจะพูดถึงทีมที่ลงตัวมากที่สุดในขณะนี้ “เสือใต้”  บาเยิร์น มิวนิค แลดูจะเป็นตัวเลือกแรกที่หลายๆ ท่านจะกล่าวถึง หลังจากที่ทำผลงานยอดเยี่ยม คว้าแชมป์บุนเดสลีก้า ตั้งแต่ไก่โห่ โดยทำคะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่าอย่าง “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ถึง 25 คะแนน และทำลายสถิติต่างๆ ในเวทีบุนเดสลีก้าเป็นว่าเล่น ทำให้ฤดูกาลนี้เป็นเวลาของพวกเขาอย่างแท้จริง และในปีนี้พวกเขาก็คว้า เทรบเบิ้ล แชมป์ หลังจากเก็บถาดบุนเดสลีก้า และ ถ้วยยูฟ่า แชมเปียนส์ลีค และ เดเอฟเบ โพคาล มาครองอย่างยิ่งใหญ่



เกมรับ – 4 ดาว

คงต้องยกสถิติในฤดูกาลนี้มาให้ดูกันสักหน่อยว่า บาเยิร์น มิวนิค เสียประตูไปเพียง 18 ลูก ตลอดทั้งฤดูกาล และเก็บคลีนชีตได้มากถึง 21 เกม ถ้าจะมองเพียงแต่สถิติต้องถือว่า บาเยิร์น มิวนิค นั้น คงจะมีเกมรับที่ยอดเยี่ยมเป็นแน่แท้

ถ้าใครที่ติดตามมาตลอดทั้งฤดูกาล คงพูดได้แค่ว่าทำได้ดีกว่าฤดูกาลที่แล้ว แต่ยังไม่ถึงกับเพอร์เฟค เพราะมีน้อยครั้งมากที่บอลจะมาถึงกองหลังของ บาเยิร์น ให้กองเชียร์หนักหัวใจ เพราะส่วนมากจะถูกกองกลางกวาดเรียบไปหมดแล้ว

ถ้าจะพูดถึงหัวใจสำคัญในแนวรับของ บาเยิร์น มิวนิค ในตอนนี้ก็คงเป็น “ดันเต้” ประการหลังสุดแกร่งที่พึ่งย้ายข้ามฟากมาจาก โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค โดยปีแรกนั้น เขาก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม โดยได้เป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งเซ็นเตอร์ ไปโดยปริยาย แต่ถ้าพูดถึงนายทวาร  “มานูเอล นอยเออร์” ก็ยังมีจังหวะพลาดง่ายๆ ให้เห็นบ้างในฤดูกาลนี้  แต่ฟอร์มโดยรวมต้องถือว่า น่าพอใจ !!

แดนกลาง – 5 ดาว

หัวใจของ บาเยิร์น มิวนิค ชุดนี้ คงจะหนีไม้พ้นกองกลางอย่างแน่นอน จากการเสริมทัพสุดช็อคอย่าง “ฆาบี มาร์ติเนซ” กองกลางชาวสเปน ที่มีมูลค่าถึง 40 ล้านยูโร ที่ทำลายสถิติของบุนเดสลีก้าลงไป ทำให้กองกลางของทัพ “เสือใต้” นั้น เรียกได้ว่า สุดจะเพอร์เฟค เลยจริงๆ

มาร์ติเนซ นั้นเข้าขากับ ชไวน์สไตเกอร์ เป็นอย่างมาก โดยเขาสามารถเอาตัวรอดจากที่แคบๆ ตัดบอลจากแดนกลางของคู่แข่ง พาบอลขึ้นหน้า และยังทำประตูด้วยตัวเองได้อีกด้วยและการเข้ามาของ ฆาบี มาร์ติเนซ นั้น ทำให้จุดอ่อนของการ โรเตชั่น เมื่อฤดูกาลที่แล้วสิ้นสุดลง โดยในฤดูกาลที่แล้ว มีเพียง หลุยส์ กุสตาโว่ , บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ และ ติโมชุค เท่านั้นที่เล่นในตำแหน่งนี้ หรืออาจจะต้องถึงขั้นส่ง โทนี่ โครสลงมาต่ำ ยินเป็นกองกลางเสียเอง

เมื่อฆาบี้ มาร์ติเนซ ได้ยืนคู่กับ “บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์” รองกัปตันของ บาเยิร์น มิวนิค แล้ว ยังทำให้ ชไวน์สไตเกอร์ เล่นง่ายขึ้นอีกด้วย โดย ชไวน์สไตเกอร์ นั้น ทำประตูได้มากถึง 9 ประตู กับ 9 แอสซิส จาก 44 นัดที่ลงสนามในฤดูกาลนี้ จึงอาจพูดได้ว่า ฆาบี้ มาร์ติเนซ เป็นตัวแปรสำคัญของแดนกลาง ที่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ บาเยิร์น มิวนิค และยังทำให้ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ โชว์ศักยภาพ ได้มากขึ้นอีกด้วย

เกมรุก – 4 ดาว

นับว่าเป็นโชคดีนิดๆ ของ บาเยิร์น มิวนิค ที่ได้คว้าตัว มาริโอ มานด์ซูคิช และ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ เข้ามา ก่อนที่ มาริโอ โกเมซ ดาวยิงของสโมสรจะได้รับบาดเจ็บ ในช่วงเกมอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลใหม่

พวกเขาทั้งสองคนก็เข้าขากับ อาร์เยน ร็อบเบน ,ฟร้องค์ ริเบรี่ และ โธมัส มุลเลอร์ ได้เป็นอย่างดี ทำให้ทะลวงประตูของคู่แข่งเป็นกอบเป็นกำ โดยยิงประตูไปถึง 98 ประตู ในบุนเดสลีก้า กอปรกับ นักเตะที่ทำประตูของ บาเยิร์น มิวนิค นั้น ไม่ใช่เพียงแค่ใครคนหนึ่ง ที่ทำประตูได้เยอะสุดของสโมสร แต่เป็น เฉลี่ยกันยิงในหลายๆคนซะมากกว่า จึงไม่เกิดผลเสียต่อรูปทีมถ้ามีคนหนึ่งคนใด ได้รับบาดเจ็บ

ผู้จัดการทีม – 5 ดาว

ในเรื่องของผู้จัดการทีมนั้น แทบจะต้องบอกว่าเสียดายสุดๆ ที่ทาง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค กำลังจะเสียผู้จัดการทีมที่ดีที่สุดคนหนึ่งของสโมสรไป แต่ต้องบอกเลยว่า “จุ๊ปป์ ไฮย์เกส” ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม กับการคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า, เดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก มาได้สำเร็จ จากการเข้าชิงทั้งสองครั้ง ที่เขาคุมทีมล่าสุด

ด้านตัวผู้เล่นนั้น ไฮย์เกสได้วางรากฐานทีมที่ดีตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเขาได้โยก ฟิลิปป์ ลาห์ม ให้มาเล่นทางตำแหน่งขวา และ เดวิด อลาบา ดาวรุ่งของสโมสร ลงมาเล่นแบ๊กซ้าย (แฟนคลับที่ติดตาม จะรู้ว่าปู่ดันอลาบามาก) ทำให้ กองหลังของ บาเยิร์น มิวนิค เริ่มแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จุ๊ปป์ ไฮย์เกส จะต้องถูกแทนที่ด้วย “เป๊ป กวาร์ดิโอล่า” ซึ่งจะเข้ามาในฤดูกาลหน้าพร้อมแบกความกดดันอันใหญ่หลวงกับความสำเร็จของทีมในปีที่ผ่านมา

ตลาดนักเตะ – 5 ดาว

หลังจากที่ “บาเยิร์น มิวนิค” พลาดแชมป์ทั้งสามรายการ ในปีที่แล้ว ทางบอร์ดบริหารของทีมก็จัดหนัก โดยการทุ่มซื้อนักเตะอย่าง เซอร์ดาน ชากีรี่ ,ฆาบี้ มาร์ติเนซ ,มาริโอ มานด์ซูคิช ,ดานเต้, ทอม สตาร์เค่ และ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่

พูดได้เลยว่า นักเตะแทบทุกคนที่ซื้อเข้ามาในฤดูกาลนี้ กลายเป็นตัวหลัก ของสโมสรทั้งสิ้น ฆาบี มาร์ติเนซ ,มาริโอ มานด์ซูคิช และ ดันเต้ กลายเป็นตัวจริง แทนนักเตะอย่าง หลุยส์ กุสตาโว่, มาริโอ โกเมซ และ โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ ทำให้ทีมลงตัวมากขึ้น และ มีตัวแทนในระหว่างได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

ส่วนนักเตะอย่าง เซอร์ดาน ชากีรี่ และ ทอม สตาร์เค่ ก็เป็นตัวสำรองที่ว่าขาดไม่ได้เลยในฤดูกาลนี้เช่นกัน เซอร์ดาน ชากีรี่ ถึงจะได้ไม่ลงเป็นตัวจริงบ่อยๆ ก็ยังทำได้ถึง 8 ประตู กับ 13 แอสซิส ตลอด 38 เกมที่ลงสนาม ถือได้ว่าค่อนข้างคุ้มค่าจริงๆ กับการซื้อขายรอบนี้

ดาวเด่น – โธมัส มุลเลอร์

“โธมัส มุลเลอร์” กลับมาโชว์ความยอดเยี่ยมของเค้าในฤดูกาลนี้โดยการกลายเป็นกำลังหลักสำคัญของทีม หลังจากที่ฤดูกาลที่แล้วเขามีช่วงเวลาที่ไม่ค่อยดีนักกับทัพเสือใต้โดยถูกดร๊อปเป็นเพียงตัวสำรองอยู่บ่อยครั้ง

แต่ฤดูกาลนี้ โธมัส มุลเลอร์ กลับมาโชว์ฟอร์มอย่างโดดเด่น จนทำให้ปีกความเร็วสูงอย่างอาร์เยน ร็อบเบนต้องนั่งคอยโอกาส อยู่ที่ม้านั่งสำรอง มุลเลอร์ นั้นยึดตัวจริงที่ตำแหน่งปีกขวาจาก ร็อบเบน อย่างสิ้นเชิงในฤดูกาลนี้

และถ้าจะกล่าวถึงมุลเลอร์ เขาเป็นนักเตะที่เล่นเพื่อทีมอย่างแท้จริง แม้ว่าลีลาท่าทางการเล่นบอลของเขาจะไม่สวยงามหรือเต็มไปด้วยทักษะอันยอดเยี่ยมอย่างผู้เล่นคนอื่น แต่การเล่นของมุลเลอร์เป็นการเล่นที่เน้นประสิทธิภาพ

มุลเลอร์จะสามารถสร้างความปั่นป่วนให้แนวรับของคู่แข่งได้อยู่เสมอหรือแม้แต่ตอนที่เค้าไม่มีบอลเค้าก็จะทำทางให้เพื่อนร่วมทีมอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เมื่อโทนี โครส กลางรุกตัวจริงของทีม ได้รับบาดเจ็บ จน ไฮย์เกส ต้องโยกมุลเลอร์มาอยู่ในตำแหน่งกลางรุก มุลเลอร์ ก็ยังคงเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ จุดเด่นของมุลเลอร์ อีกอย่างก็คือการที่เค้ามีเซ้นต์บอลที่ดีมาก และการอ่านเกมที่ชาญฉลาด ซึ่งนั่นส่งผลดีต่อเพื่อนร่วมทีมเป็นอย่างมาก

ดาวดับ – โฮเกอร์ บาสตูเบอร์

“โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์” อาจถือได้ว่าเป็นกองหลังดาวรุ่งสำหรับวงการฟุตบอลเยอรมัน(ถูกดัน) ทั้งการได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงในทีมชาติ และสโมสรมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในฤดูกาลนี้  เขาได้ลงเล่นเพียงแค่ 18 เกมเท่านั้น จากอาการบาดเจ็บ

โดยเป็นการบาดเจ็บจากเกมที บาเยิร์น แพ้เลเวอร์คูเซ่นไป  และหลังจากกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง ในเกมที่พบกับดอร์ทมุนด์ บาดสตูเบอร์ก็พบกับความโชคร้ายจากการเข้าสกัดบอลผิดพลาดทำให้ได้รับบาดเจ็บพักนานถึงหลายเดือน แต่อาการยังไม่ดีขึ้น

ล่าสุดเขาต้องรับการผ่าตัดรอบที่สอง เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บเส้นเอ็นแถวหัวเข่า และคาดว่าเขาจะใช้เวลาในการรักษาตัวเป็นเวลา 10 เดือน เลยทีเดียว ทำให้เขาตัวเสียตำแหน่งตัวจริงให้ “ดันเต้ ” และครองตำแหน่งดาวดับในทีมไปโดยปริยาย

คะแนนรวม – 4 ดาว ½

บาเยิร์น มิวนิค นั้นกำลังก้าวเข้าสู่ยุครุ่งเรืองอย่างแท้จริง หลังจากเข้าชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 3 ใน 4 ครั้ง ล่าสุด และในฤดูกาลนี้ พวกเขาก็คว้ามาเทรบเบิ้ล แชมป์มาอีกด้วย ทำให้พวกเขาจารึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสโมสรได้สำเร็จ แต่หลังจากนั้นพวกเขาจะต้องเจอการเปลี่ยนแปลงใหม่ หลังจากหมดสัญญากัป “จุ๊ปป์ ไฮย์เกส” บาเยิร์น ได้เซ็น “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” เข้ามาแทนที่ตั้งแต่กลางฤดูกาล ทำให้ยังต้องดูท่าทีกันต่อไป ว่า เป๊ป จะสามารถ สานต่อความยิ่งใหญ่ต่อจาก ไฮย์เกส ได้มากแค่ไหน



กับการเข้ามาทำทีมของ “เป๊ป กวาร์ดิโอลา” และการเสริมทัพอย่างบ้าระห่ำตั้งแต่ยังไม่ปิดฤดูกาลของสโมสร โดย บาเยิร์น มิวนิค นั้นได้ดึง แยน เคิร์ชโฮฟฟ์ กองหลัง ดาวรุ่งจากไมนซ์  ,มาริโอ เกิทเซ่ มิดฟิลด์ มากพรสวรรค์ จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ อาจจะตามมาด้วย เซบาสเตียน โรดี้ ของ แฟร้งเฟิร์ต , เลวานดอฟสกี้ ของดอร์ทมุนด์ อีกด้วย ทำให้ฤดูกาลหน้าเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากของ กวาร์ดิโอลา และ บาเยิร์น มิวนิค แน่นอน เพราะความคาดหวังที่สูง จากทุกๆฝ่ายๆ และมาตรฐานเดิมที่ทำไว้สูงมากๆของ ไฮย์เกส

link : http://www.goal.com/th/news/4265/คอลัมน์/2013/06/07/4031553/Fan-View-ตัดเกรดไฟนอล-บาเยิร์น-มิวนิค?ICID=OP
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่