ดูๆ แล้ว มีสามตระกูลถือครองหุ้นส่วนมาก
มันมีทั้งข้อดี และข้อเสีย
แต่ ข้อเสีย มากกว่าข้อดี
อย่างนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อย จะไหวตัวทันไหมหนอ
ธุรกิจกงสี มาจากการทำธุรครอบครัวของคนจีน...!
PTG จะเปลี่ยนบริหารจัดการให้เข้าสู่ระบบสากล ได้หรือไม่
PTG จะขยายธุรกิจให้กว้างไกลไปทั่วทั้งประเทศหรือต่างประเทศได้หรือไม่ ถ้ายังติดอยู่ในระบบกงสีรูปแบบเดิมๆ
รูปแบบการบริหารแบบกงสี ทุกคนทำงานให้กงสี
จะทำอะไรก็สามารถเบิกจ่ายกับกงสีได้
เมื่อได้กำไรมาเท่าใหร่ก็เข้ากงสีทั้งหมด กงสีเป็นเจ้า จะทุบหุ้น ลากหุ้น ได้ตลอดเวลา เพื่อเอามาร์จิ้นเข้ากงสี
ผู้ที่ทำงานก็จะมีเงินเดือน คนไหนที่ไม่ทำงานก็ไม่มีเงินเดือน
ไม่มีการปันส่วน เพราะกงสีคือผู้ที่ต้องเก็บผลประโยชน์ทั้งหมด
ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดก็คือ."เตี่ย"
"เตี่ย" ตั้งใครก็ได้ให้ทำงานตามที่เห็นว่ามีความรู้ความสามารถ ที่จะนำพาบริษัทของครอบครัวให้เจริญรุ่งเรืองได้
เมื่อมีรายได้เท่าใหร่ก็เข้ากงสีทั้งหมด
เวลาตรุษจีนในแต่ละปีก็จะมีการแจกอั้งเปาให้ลูกๆหลานๆ
การทำงานแบบกงสีก็คือการทำงานที่มีผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคนเดียวของครอบครัว คือ"เตี่ย"
รายรับร่ายจ่ายทั้งหมดอยู่ที่กงสี คนที่ทำงานก็ได้เงินเดือน ไม่ทำงานก็ไม่มีเงินเดือน
ใครจะทำอะไรก็ต้องมาขออนุญาติผู้ที่มีอำนาจสูงสุด ไม่มีการแบ่งสันปันส่วนอะไรทั้งสิ้น
ทุกบาททุกสตางค์ต้องเข้ากงสีทั้งหมด วัตถุประสงค์หลักๆก็คือทำงานให้ครอบครัว(กงสี)
ใครจะใช้จ่ายอะไรก็มาเบิกกับกงสี ขาดทุนกำไรก็อยู่ที่กงสี ถ้าขาดทุนประธานของครอบครัวก็ต้องหาวิธีการแก้ปัญหาเพื่อให้ธุรกิจของครอบครัวไม่ขาดทุน ก็เหมือนการบริหารทั่วๆไปนั่นเอง เพียงแต่เป็นการทำงานในระบบของครอบครัวเท่านั้น แต่ก็สามารถทำให้มีบริษัทที่ใหญ่ๆในปัจจุบันมาจากการบริหารงานในระบบกงสีให้เราได้เอาเป็นตัวอย่าง เช่นเซ็นทรัลและซีพีนั่นเองครับ...!!!
ที่มา:
รู้จักผู้บริหารของเซ็นทรัลและซีพี ก่อนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการบริหารเป็นมืออาชีพอย่างในปัจจุบัน
คุณคิดว่า PTG เป็นธุรกิจกงสี หรือไม่
มันมีทั้งข้อดี และข้อเสีย
แต่ ข้อเสีย มากกว่าข้อดี
อย่างนี้ผู้ถือหุ้นรายย่อย จะไหวตัวทันไหมหนอ
ธุรกิจกงสี มาจากการทำธุรครอบครัวของคนจีน...!
PTG จะเปลี่ยนบริหารจัดการให้เข้าสู่ระบบสากล ได้หรือไม่
PTG จะขยายธุรกิจให้กว้างไกลไปทั่วทั้งประเทศหรือต่างประเทศได้หรือไม่ ถ้ายังติดอยู่ในระบบกงสีรูปแบบเดิมๆ
รูปแบบการบริหารแบบกงสี ทุกคนทำงานให้กงสี
จะทำอะไรก็สามารถเบิกจ่ายกับกงสีได้
เมื่อได้กำไรมาเท่าใหร่ก็เข้ากงสีทั้งหมด กงสีเป็นเจ้า จะทุบหุ้น ลากหุ้น ได้ตลอดเวลา เพื่อเอามาร์จิ้นเข้ากงสี
ผู้ที่ทำงานก็จะมีเงินเดือน คนไหนที่ไม่ทำงานก็ไม่มีเงินเดือน
ไม่มีการปันส่วน เพราะกงสีคือผู้ที่ต้องเก็บผลประโยชน์ทั้งหมด
ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดก็คือ."เตี่ย"
"เตี่ย" ตั้งใครก็ได้ให้ทำงานตามที่เห็นว่ามีความรู้ความสามารถ ที่จะนำพาบริษัทของครอบครัวให้เจริญรุ่งเรืองได้
เมื่อมีรายได้เท่าใหร่ก็เข้ากงสีทั้งหมด
เวลาตรุษจีนในแต่ละปีก็จะมีการแจกอั้งเปาให้ลูกๆหลานๆ
การทำงานแบบกงสีก็คือการทำงานที่มีผู้ที่มีอำนาจสูงสุดคนเดียวของครอบครัว คือ"เตี่ย"
รายรับร่ายจ่ายทั้งหมดอยู่ที่กงสี คนที่ทำงานก็ได้เงินเดือน ไม่ทำงานก็ไม่มีเงินเดือน
ใครจะทำอะไรก็ต้องมาขออนุญาติผู้ที่มีอำนาจสูงสุด ไม่มีการแบ่งสันปันส่วนอะไรทั้งสิ้น
ทุกบาททุกสตางค์ต้องเข้ากงสีทั้งหมด วัตถุประสงค์หลักๆก็คือทำงานให้ครอบครัว(กงสี)
ใครจะใช้จ่ายอะไรก็มาเบิกกับกงสี ขาดทุนกำไรก็อยู่ที่กงสี ถ้าขาดทุนประธานของครอบครัวก็ต้องหาวิธีการแก้ปัญหาเพื่อให้ธุรกิจของครอบครัวไม่ขาดทุน ก็เหมือนการบริหารทั่วๆไปนั่นเอง เพียงแต่เป็นการทำงานในระบบของครอบครัวเท่านั้น แต่ก็สามารถทำให้มีบริษัทที่ใหญ่ๆในปัจจุบันมาจากการบริหารงานในระบบกงสีให้เราได้เอาเป็นตัวอย่าง เช่นเซ็นทรัลและซีพีนั่นเองครับ...!!!
ที่มา:
รู้จักผู้บริหารของเซ็นทรัลและซีพี ก่อนที่จะเปลี่ยนรูปแบบการบริหารเป็นมืออาชีพอย่างในปัจจุบัน