เกมส์สุดสำคัญของทั้ง สเปอร์ส และ กริซลี่ย์ ทางด้าน สเปอร์ส โดย โค้ชป๊อปโปวิช ต้องการที่จะชนะขาดเพื่อที่จะให้ทีมของเขาได้พักเพื่อเก็บแรงไว้สู้ศึกในการชิงแชมป์ ทางด้าน กริซลี่ย์ นำโดย โค้ชฮอลลิน ก็ต้องการชนะซักเกมส์ในซีรีย์นี้เช่นกันหลังจากผิดหวังจากสองเกมส์หลังสุดที่มีโอกาสแต่ก็ไม่สามารถเก็บชัยชนะมาได้
Q 1 : สเปอร์ส เริ่มเกมส์อย่างสบาย สบาย
ทั้งสองทีมเริ่มเกมส์กันได้ไม่ค่อยดีนัก กริซลี่ย์ เปลี่ยนแผนนิดหน่อยโดยให้ แซค แลนดอฟ ออกห่างจากแป้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมทีมมีพื้นที่เจาะเข้าทำ โดยเป็นทางด้าน กริซลี่ย์ ทำคะแนนนำไปก่อนในช่วงแรกจาก เทชอร์น ปริ๊น ที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างหลังจาก สเปอร์ส เข้าดับเบิ้ลทีม แซค แลนดอฟ หลังจากนั้นเป็นฝั่ง สเปอร์ส เริ่มปรับเกมส์ได้ดีขึ้นโดยใช้การเข้าทำที่หลากหลายและจ่ายบอลกันเป็นระบบทำให้ทุกคนมีพื้นที่ว่างและตัวจริง (ที่ออกสตาร์ท) สามารถทำแต้มได้กันทุกคนและเป็น โทนี่ ปาร์คเกอร์ ที่เจาะเกมส์รับจากเกมส์พิคแอนท์โรลเข้าไปเลย์อัพง่ายๆได้เรื่อยๆ ( เนื่องจาก สเปอร์ส เล่นซ้อนแผนโดยให้ ทิม ดันแคน และ ติอาโก้ สปิทเตอร์ ยืนไฮโพสเป็นการเปิดพื้นที่ให้ โทนี่ ปาร์คเกอร์ มีพื้นที่ว่างเข้าไปทำคะแนนได้อย่างง่ายดาย ) หลังจากโดนนำห่างเรื่อยๆ โค้ชฮอลลิน แก้เกมส์โดยการส่ง แดร์ริล อาร์เทอร์ , ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ ที่มีความสูงมากกว่าผู้เล่น สเปอร์ส เข้าโจมตีพื้นที่ใต้แป้นผสานกับ แซค แรนดอฟ เข้าทำคะแนนได้ 4 แต้มติดต่อกัน โค้ชป๊อปโปวิช ก็แก้เกมส์ทันทีโดยการส่ง ดอร์รี่ย์ โจเซฟ ,บอริส ดิเยาวน์,มานู จิโนบิลี่ และเป็น มานู จิโนบิลี่ ที่ยังฟอร์มแรงจากเกมส์ก่อนอย่างต่อเนื่องใช้การจ่ายตัดเกมส์รับประสานงานกับตัวสำรองทำแต้มนำห่างในควอร์เตอร์แรกไป 10 แต้ม 24 -14
วิเคราะห์
เกมส์เริ่มมา สเปอร์ส ยังฟอร์มร้อนแรงจากเกมส์ที่แล้วไม่หยุดด้วยความที่ สเปอร์ส มีการแชร์บอลกันมากกว่าการเข้าทำก็หลากหลายเมื่อมีผู้เล่นคนไหนว่างพวกเขาสามารถทำแต้มได้ กลับกันเป็นทาง กริซลี่ย์ ที่มีโอกาสหลายครั้งแต่ก็ไม่มีความแน่นอนพอที่จะทำแต้มได้จากจังหวะนั้น การที่ทั้งสองเป็นทีมที่เล่นเกมส์รับที่ดีเมื่อมาเจอกันทีมไหนที่สามารถเล่นเกมส์รุกได้ดีกว่าย่อมมีโอกาสชนะ สเปอร์ส มีการยิงจากทุกระยะซึ่งทำให้เกมส์รับของ กริซลี่ย์ ปรับเกมส์ตามมาทันต้องชมและต้อง โค้ชป๊อปโปวิช ที่สามารถแก้เกมส์ได้ทันทีหลังจากทีมเสียเปรียบ
กริซลี่ย์ ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่ แลนดอฟ สร้างและได้ยิงว่างๆหลายครั้งในควอร์เตอร์แรก
สเปอร์ส ใช้การเล่นพิคแอนด์โรลเข้าทำโดย ปาร์คเกอร์ ที่ควอร์เตอร์แรกทำไป 8 แต้ม
และใช้แผนซ้อนแผนด้วยการให้วงในยืนไฮโพส ทำให้พื้นที่ใต้แป้นเปิดกว้าง
และยังมีการจ่ายยัดในให้กันเองด้วย ( จะเห็นว่า ดิเยาวน์ มีตัวเลือกให้เลือกมากพอสมควรทั้ง สปิทเตอร์ และ ลีโอนาร์ด )
Q 2 : กริซลี่ย์ ไม่ยอมง่ายๆ
เริ่มควอร์เตอร์ที่สอง กริซลี่ย์ ยังไม่ยอมแพ้โดยกลับมาเล่นแผนที่ตัวเองถนัดที่สุดอีกครั้งโดยให้ แซค แลนดอฟ กลับเข้าไปประจำการที่โลวโพสอีกครั้ง โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยการให้ แมต บอนเนอร์ ลงไปประกบติด แซค แลนดอฟ ทันทีทำให้ แซค แลนดอฟ เล่นไม่ค่อยสะดวกนัก ( ตั้งแต่เริ่มเกมส์มา แซค แลนดอฟ ยังไม่สามารถทำแต้มได้เลย ) แต่ก็กลับกันทาง สเปอร์ส ก็เริ่มที่จะทำเกมส์ไม่ได้เช่นกันโดยเฉพาะจากระยะสามแต้มที่วันนี้ยังไม่สามารถทำได้เลยเช่นกัน ( ตั้งแต่เริ่มเกมส์มา สเปอร์ส ยิงจากระยะกลางได้เพียง 10 แต้ม สามแต้ม 0 ) โดยอาศัยการเล่นทีมเวิร์คจ่ายบอลเร็วเข้าเจาะในช่องว่างของแนวรับ กริซลี่ย์ รักษาระยะห่าง 9 แต้มได้เรื่อยๆ แต่เป็น เจอราด เบย์เลส มายิงสามแต้มสองลูกติดๆ ( มีลูกฟรีโทรวจาก มาร์ค กาซอล 1ลูก คั่นกลาง) ทำให้ กริซลี่ย์ ทำแต้มไล่ระยะห่างมาเหลือเพียง 6 แต้ม 44 – 38
วิเคราะห์
สเปอร์ส ยังเล่นได้แรงดีไม่ตกเช่นเดิมโดยเฉพาะตัวสำรองอย่าง บอริส ดิเยาวน์ และ มานู จิโนบิลี่ ที่สามารถสร้างพื้นที่และจ่ายบอลเข้าไปให้เพื่อนทำแต้มได้อย่างต่อเนื่องซึ่งสร้างความแตกต่างโดยชัดเจนเพราะ ตัวสำรอง ของกริซลี่ย์ นั้นไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เหมือนที่ตัวสำรอง สเปอร์ส สามารถทำได้
สเปอร์ส ใช้แผนเดิมเพื่อเปิดพื้นที่ (จะเห็นว่า บอริส ดิเยาวน์ ยืนสูงและพื้นที่ของ คาไวน์ ลีโอนาร์ด เปิดกว้างมากๆ )
กริซลี่ย์หันมายิงระยะกลางมากขึ้น ทำให้ สเปอร์ส ต้องทิ้งระยะห่างจากสามแต้ม
Q 3 : กริซลี่ย์ เริ่มบีบพื้นที่ได้ดีขึ้น
หลังจากได้พัก กริซลี่ย์ กลับมาเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากเริ่มได้ไม่นาน กริซลี่ย์ ตัดสินใจประกบ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ติดอีกครั้งโดยให้ ไมค์ คอนลี่ย์ , โทนี่ อัลเลน และ เจอราด เบย์เลส สลับกันเข้าประกบทำให้เกมส์รุกของ สเปอร์ส เข้าทำลำบากมากขึ้น แต่ก็เป็นทาง กริซลี่ย์ เองที่ไม่สามารถทำแต้มไล่มาได้เช่นกันหลังจากเริ่มเล่นไปได้ซักระยะ โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยการส่ง มานู จิโนบิลี่ ลงมาเพื่อแบ่งเบาภาระ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ที่เริ่มเหนื่อยจากการโดนประกบขึ้นเรื่อยๆหลังจากได้ มานู จิโนบิลี่ ลงมาแบ่งเบาภาระ โทนี่ ปาร์คเกอร์ , โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็เริ่มหาช่องทางทำแต้มจากการตัดเข้าไปเลย์อัพและเล่นพิคแอนท์โรลเข้ายิงจากระยะกลางที่ถนัด ทางด้าน กริซลี่ย์ ก็แก้เกมส์อีกครั้งโดยการส่ง ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ และ เดอริล อาร์เทอร์ ที่มีลูกยิงจากระยะกลางและสามแต้มลงมาเพื่อทำแต้มไล่ตามและก็เป็นผลเมื่อ โทนี่ ปาร์คเกอร์ เปลี่ยนตัวออกเพื่อไปพักเช่นเดียวกับ ทิม ดันแคน สเปอร์ส ก็เริ่มมีความผิดพลาดให้เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ กริซลี่ย์ จึงสามารถทำแต้มจนช่องว่างเหลือเพียง 3 แต้ม ( จากก่อนหน้านี้ห่างราวๆ 8 แต้มมาตลอด ) โดยเฉพาะ ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ ที่เฉพาะควอร์เตอร์นี้เขายิง 4 ลูกลงทั้ง 4 ลูก และ แซค แลนดอฟ ที่เหมือนจะกลับมาเล่นเกมส์ที่ตัวเองต้องการได้อีกครั้งหลังจาก ทิม ดันแคน ไม่อยู่ในสนามแต่ สเปอร์ส ก็มาได้ คาไวน์ ลีโอนาร์ด ยิงสามแต้มรักษาระยะห่างเป็น 6 แต้มก่อนหมดควอร์เตอร์นี้ไปได้หลังจากโดน กริซลี่ย์รันเกมส์ 0-7 แต้มก่อนหน้านี้ กริซลี่ย์ มีโอกาสลดช่องว่างจากลูกฟรีโทรวจาก แซค แลนดอฟ แต่ก็ไม่ลงทั้งสองลูกจบควอร์เตอร์นี้ที่ 72 - 66
วิเคราะห์
หลังจากพอยการ์ดของ สเปอร์ส ( โทนี่ ปาร์คเกอร์ ) โดนประกบติดและต้องเหนื่อยมากขึ้นจะเห็นได้เลยว่าเกมส์รุกของ สเปอร์ส ก็ไม่ค่อยลื่นไหลอย่างที่เคยเป็นมา มานู จิโนบิลี่ ที่ลงมาถือบอลแทนนั้นมีลูกจ่ายที่ดีก็จริงแต่ก็ไม่สามารถทำแต้มได้เหมือนกับ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ( และ มานู จิโนบิลี่ ก็ยังทำเสียจนทีมโดนไล่มาในช่วงท้ายๆควอร์เตอร์นี้อีกด้วย ) แต่การที่ กริซลี่ย์ ประกบติด โทนี่ ปาร์คเกอร์ มากก็เป็นผลให้ผู้เล่นของพวกเขา ( ที่ประกบ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ) ก็เหนื่อยไม่แพ้กัน กริซลี่ย์ แก้เกมส์มาใช้เกมส์ยิงระยะกลางโดยเปลี่ยนลงมาในช่วงกลางและสามารถไล่มาได้เรื่อยๆแต่ก็กลับต้องเสียแต้มเรื่อยๆเช่นกัน นั่นแสดงให้เห็นว่า ตัวจริงกับตัวสำรองของ กริซลี่ย์ นั้นไม่ค่อยมีความสมดุลกันเท่าไหร่ เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเอาตัวสำรองที่ทำแต้มลงมาเกมส์รับพวกเขาก็แย่ลง จนระยะห่างไม่ขยับเข้าใกล้เลย
คาไวน์ ลีโอนาร์ด ยิงช่วยรักษาระยะห่างไว้ได้ก่อนหมดควอร์เตอร์สาม
Q 4 : กริซลี่ย์ พยายามสู้จนถึงที่สุด
เริ่มควอร์เตอร์ที่สี่ กริซลี่ย์ เหมือนจะรู้ตัวว่าพวกเขาไม่อาจจะแพ้เกมส์นี้ได้อีกแล้ว ผู้เล่น กริซลี่ย์ ทุกคนดูมีความกระตือรือร้นและสู้เท่าที่พวกเขาจะทำได้อาศัยลูกขยันเก็บลูกออฟเฟ้นซีพรีบาวน์ในช่วงเปิดควอร์เตอร์และทำแต้มไล่มาจนเหลือเพียง 3 แต้มอีกครั้ง (76 - 73) จนโค้ชป๊อปโปวิช ถึงกับหัวเสียและขอเวลานอกทันทีหลังจากกลับมาจากการพัก สเปอร์ส กลับมาเล่นได้เหมือนเดิมโดยเฉพาะลูกสามแต้มของ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ทันทีที่กลับมาจากการพักช่วยลดความกดดันและทิ้งระยะห่างเป็น 6 แต้มอีกครั้ง กริซลี่ย์ พยายามใช้ แซค แลนดอฟ ที่เหมือนจะมีไฟใช้ความแข็งแกร่งพยายามเข้าทำแต้มอย่างหนักแต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร กลับกันเกมส์รับใต้แป้นของ สเปอร์ส สามารถป้องกันได้อย่างดีและเป็น ทิม ดันแคน ที่ค่อยๆทำแต้มให้ สเปอร์ส หนีไปเรื่อยๆ หลังจากที่ โทนี่ ปาร์คเกอร์ โดนมือของ มาร์ค กาซอล ทิ้มไปบริเวณตาและต้องออกไปพักเพื่อดูอาการ หลังจากกลับมา โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็ยังแรงไม่ตกยิงทำแต้มหนีไปอีกแต่ กริซลี่ย์ ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆได้ ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ มายิงห้าแต้มติดกันไล่มาไกลๆที่ 89 -83 และมาได้ลูกฟรีโทรวจาก แซค แลนดอฟ แต่ แซค แลนดอฟ กลับยิงลงเพียง 1 ครั้งทำให้สถาณการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก ก่อนที่ โทนี่ ปาร์คเกอร์ จะมาเสียเทรินโอเวอร์ในช่วงสำคัญและ กริซลี่ย์ ได้เพิ่ม 2 แต้มไล่มาเหลือเพียง 89 – 86 แต่หลังจากนั้น โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็มายิงฟรีโทรวจากการหลุดเข้าไปเรียกฟาล์วได้และ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็จัดการได้ทั้ง 4 ลูกฝัง กริซลี่ย์ ทันที (93 - 86) กริซลี่ย์ มีโอกาสสร้างความหวังอีกครั้งจาก เจอราด เบย์เลส แต่ก็โดน ติอาร์โก้ สปิทเตอร์ บล็อกลูกความหวังไปเสียและเกมส์ก็จบลงในท้ายที่สุดที่สกอร์ 93 – 86
วิเคราะห์
กริซลี่ย์พยายามทุกทางเพื่อที่จะทำแต้มไล่แต่พวกเขายังไม่มีความแม่นยำมากพอ อาจเป็นเพราะประสบการณ์ของผู้เล่นของ กริซลี่ย์ ยังมีไม่มากนักเมื่อต้องเจอกับสถาณการณ์เช่นนี้ แต่ถึงยังไงพวกเขาก็สู้ในแนวทางของตนเองและพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว เพียงแต่ยังขาดอะไรบางอย่างไปเท่านั้นเอง เกมส์นี้ สเปอร์ส โดยเฉพาะ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ที่เป็นกำลังหลักไม่มีความลนลานให้เห็นเลย สามารถนำทีมผ่านเข้าชิงครั้งที่ห้าได้สำเร็จ
ปาร์คเกอร์ ยิงสามแต้มเปลี่ยนโมเมนตัมอีกครั้งหลังโดนไล่มาเหลือสามแต้ม
ก่อนหมดเวลาไม่ถึงนาที สปิทเตอร์ บล๊อกลูกความหวังของ กริซลี่ย์ ไว้ได้
สุดท้าย
กริซลี่ย์ สู้ได้ดีมากครับเพียงแต่ยังขาดตัวที่จะตัดสินเกมส์ได้อย่างที่ สเปอร์ส มี ทิม ดันแคน , โทนี่ ปาร์คเกอร์ และ มานู จิโนบิลี่ สามเสาหลักที่ถึงแม้จะเล่นไม่ดีมาทั้งเกมส์แต่เมื่อเข้าสู่สถาณการณ์คับขันสามเสาหลักเล่นได้ดีมากในซีรีย์นี้ กริซลี่ย์ อาจจะมี ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ ที่ลงมาแล้วสร้างความแตกต่างได้จริงๆ แต่เขากลับไม่สามารถเล่นเกมส์รับได้เหมือน เทชอว์น ปริ๊น ทำได้น่าเสียดายจริงๆที่ กริซลี่ย์ ตัดสินใจเทรดเอา รูดี้ เกย์ ออกไปในช่วงก่อนปิดตลาด ( หากใครได้ดูฤดูกาลปรกติ รูดี้ เกย์ เป็นคนสร้างความแตกต่างและเป็นที่พึ่งในยามที่ทีมต้องการเช่นนี้และเขาเป็นคนที่ทำให้ กริซลี่ย์ ชนะ สเปอร์ส อีกด้วย ) แต่นั่นก็เพื่อที่จะรักษา Cap ( แต่น่าเสียดายจริงๆที่ไม่มี รูดี้ เกย์ ไม่งั้นรูปเกมส์อาจจะไม่ออกมาแบบนี้ก็ได้ )
จบไปแล้วนะครับสำหรับซีรีย์ WCF 2013 ( West Conference Final 2013 ) และก็เป็น สเปอร์ส คว้าตั๋วไปเจอกับแชมป์จากตะวันออก ( ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใคร ) เอาไว้กลับมาติดตามกระทู้วิเคราะห์หลังเกมส์ได้ที่นี่ที่เดิมไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงผมจะพยายามไม่เข้าข้าง สเปอร์ส มากเกินไปและหากมีข้อเสนอแนะติติงเชิญเต็มที่ครับผมจะได้เอาไปพัฒนาตนเองต่อไป ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับผม
SAS : San Antonio Spurs - วิเคราะห์เจาะ(ไม่ค่อย)ลึก WCF เกมส์ 4
Q 1 : สเปอร์ส เริ่มเกมส์อย่างสบาย สบาย
ทั้งสองทีมเริ่มเกมส์กันได้ไม่ค่อยดีนัก กริซลี่ย์ เปลี่ยนแผนนิดหน่อยโดยให้ แซค แลนดอฟ ออกห่างจากแป้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมทีมมีพื้นที่เจาะเข้าทำ โดยเป็นทางด้าน กริซลี่ย์ ทำคะแนนนำไปก่อนในช่วงแรกจาก เทชอร์น ปริ๊น ที่ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างหลังจาก สเปอร์ส เข้าดับเบิ้ลทีม แซค แลนดอฟ หลังจากนั้นเป็นฝั่ง สเปอร์ส เริ่มปรับเกมส์ได้ดีขึ้นโดยใช้การเข้าทำที่หลากหลายและจ่ายบอลกันเป็นระบบทำให้ทุกคนมีพื้นที่ว่างและตัวจริง (ที่ออกสตาร์ท) สามารถทำแต้มได้กันทุกคนและเป็น โทนี่ ปาร์คเกอร์ ที่เจาะเกมส์รับจากเกมส์พิคแอนท์โรลเข้าไปเลย์อัพง่ายๆได้เรื่อยๆ ( เนื่องจาก สเปอร์ส เล่นซ้อนแผนโดยให้ ทิม ดันแคน และ ติอาโก้ สปิทเตอร์ ยืนไฮโพสเป็นการเปิดพื้นที่ให้ โทนี่ ปาร์คเกอร์ มีพื้นที่ว่างเข้าไปทำคะแนนได้อย่างง่ายดาย ) หลังจากโดนนำห่างเรื่อยๆ โค้ชฮอลลิน แก้เกมส์โดยการส่ง แดร์ริล อาร์เทอร์ , ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ ที่มีความสูงมากกว่าผู้เล่น สเปอร์ส เข้าโจมตีพื้นที่ใต้แป้นผสานกับ แซค แรนดอฟ เข้าทำคะแนนได้ 4 แต้มติดต่อกัน โค้ชป๊อปโปวิช ก็แก้เกมส์ทันทีโดยการส่ง ดอร์รี่ย์ โจเซฟ ,บอริส ดิเยาวน์,มานู จิโนบิลี่ และเป็น มานู จิโนบิลี่ ที่ยังฟอร์มแรงจากเกมส์ก่อนอย่างต่อเนื่องใช้การจ่ายตัดเกมส์รับประสานงานกับตัวสำรองทำแต้มนำห่างในควอร์เตอร์แรกไป 10 แต้ม 24 -14
วิเคราะห์
เกมส์เริ่มมา สเปอร์ส ยังฟอร์มร้อนแรงจากเกมส์ที่แล้วไม่หยุดด้วยความที่ สเปอร์ส มีการแชร์บอลกันมากกว่าการเข้าทำก็หลากหลายเมื่อมีผู้เล่นคนไหนว่างพวกเขาสามารถทำแต้มได้ กลับกันเป็นทาง กริซลี่ย์ ที่มีโอกาสหลายครั้งแต่ก็ไม่มีความแน่นอนพอที่จะทำแต้มได้จากจังหวะนั้น การที่ทั้งสองเป็นทีมที่เล่นเกมส์รับที่ดีเมื่อมาเจอกันทีมไหนที่สามารถเล่นเกมส์รุกได้ดีกว่าย่อมมีโอกาสชนะ สเปอร์ส มีการยิงจากทุกระยะซึ่งทำให้เกมส์รับของ กริซลี่ย์ ปรับเกมส์ตามมาทันต้องชมและต้อง โค้ชป๊อปโปวิช ที่สามารถแก้เกมส์ได้ทันทีหลังจากทีมเสียเปรียบ
กริซลี่ย์ ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ที่ แลนดอฟ สร้างและได้ยิงว่างๆหลายครั้งในควอร์เตอร์แรก
สเปอร์ส ใช้การเล่นพิคแอนด์โรลเข้าทำโดย ปาร์คเกอร์ ที่ควอร์เตอร์แรกทำไป 8 แต้ม
และใช้แผนซ้อนแผนด้วยการให้วงในยืนไฮโพส ทำให้พื้นที่ใต้แป้นเปิดกว้าง
และยังมีการจ่ายยัดในให้กันเองด้วย ( จะเห็นว่า ดิเยาวน์ มีตัวเลือกให้เลือกมากพอสมควรทั้ง สปิทเตอร์ และ ลีโอนาร์ด )
Q 2 : กริซลี่ย์ ไม่ยอมง่ายๆ
เริ่มควอร์เตอร์ที่สอง กริซลี่ย์ ยังไม่ยอมแพ้โดยกลับมาเล่นแผนที่ตัวเองถนัดที่สุดอีกครั้งโดยให้ แซค แลนดอฟ กลับเข้าไปประจำการที่โลวโพสอีกครั้ง โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยการให้ แมต บอนเนอร์ ลงไปประกบติด แซค แลนดอฟ ทันทีทำให้ แซค แลนดอฟ เล่นไม่ค่อยสะดวกนัก ( ตั้งแต่เริ่มเกมส์มา แซค แลนดอฟ ยังไม่สามารถทำแต้มได้เลย ) แต่ก็กลับกันทาง สเปอร์ส ก็เริ่มที่จะทำเกมส์ไม่ได้เช่นกันโดยเฉพาะจากระยะสามแต้มที่วันนี้ยังไม่สามารถทำได้เลยเช่นกัน ( ตั้งแต่เริ่มเกมส์มา สเปอร์ส ยิงจากระยะกลางได้เพียง 10 แต้ม สามแต้ม 0 ) โดยอาศัยการเล่นทีมเวิร์คจ่ายบอลเร็วเข้าเจาะในช่องว่างของแนวรับ กริซลี่ย์ รักษาระยะห่าง 9 แต้มได้เรื่อยๆ แต่เป็น เจอราด เบย์เลส มายิงสามแต้มสองลูกติดๆ ( มีลูกฟรีโทรวจาก มาร์ค กาซอล 1ลูก คั่นกลาง) ทำให้ กริซลี่ย์ ทำแต้มไล่ระยะห่างมาเหลือเพียง 6 แต้ม 44 – 38
วิเคราะห์
สเปอร์ส ยังเล่นได้แรงดีไม่ตกเช่นเดิมโดยเฉพาะตัวสำรองอย่าง บอริส ดิเยาวน์ และ มานู จิโนบิลี่ ที่สามารถสร้างพื้นที่และจ่ายบอลเข้าไปให้เพื่อนทำแต้มได้อย่างต่อเนื่องซึ่งสร้างความแตกต่างโดยชัดเจนเพราะ ตัวสำรอง ของกริซลี่ย์ นั้นไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้เหมือนที่ตัวสำรอง สเปอร์ส สามารถทำได้
สเปอร์ส ใช้แผนเดิมเพื่อเปิดพื้นที่ (จะเห็นว่า บอริส ดิเยาวน์ ยืนสูงและพื้นที่ของ คาไวน์ ลีโอนาร์ด เปิดกว้างมากๆ )
กริซลี่ย์หันมายิงระยะกลางมากขึ้น ทำให้ สเปอร์ส ต้องทิ้งระยะห่างจากสามแต้ม
Q 3 : กริซลี่ย์ เริ่มบีบพื้นที่ได้ดีขึ้น
หลังจากได้พัก กริซลี่ย์ กลับมาเล่นได้ดีขึ้นกว่าเดิมหลังจากเริ่มได้ไม่นาน กริซลี่ย์ ตัดสินใจประกบ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ติดอีกครั้งโดยให้ ไมค์ คอนลี่ย์ , โทนี่ อัลเลน และ เจอราด เบย์เลส สลับกันเข้าประกบทำให้เกมส์รุกของ สเปอร์ส เข้าทำลำบากมากขึ้น แต่ก็เป็นทาง กริซลี่ย์ เองที่ไม่สามารถทำแต้มไล่มาได้เช่นกันหลังจากเริ่มเล่นไปได้ซักระยะ โค้ชป๊อปโปวิช แก้เกมส์โดยการส่ง มานู จิโนบิลี่ ลงมาเพื่อแบ่งเบาภาระ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ที่เริ่มเหนื่อยจากการโดนประกบขึ้นเรื่อยๆหลังจากได้ มานู จิโนบิลี่ ลงมาแบ่งเบาภาระ โทนี่ ปาร์คเกอร์ , โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็เริ่มหาช่องทางทำแต้มจากการตัดเข้าไปเลย์อัพและเล่นพิคแอนท์โรลเข้ายิงจากระยะกลางที่ถนัด ทางด้าน กริซลี่ย์ ก็แก้เกมส์อีกครั้งโดยการส่ง ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ และ เดอริล อาร์เทอร์ ที่มีลูกยิงจากระยะกลางและสามแต้มลงมาเพื่อทำแต้มไล่ตามและก็เป็นผลเมื่อ โทนี่ ปาร์คเกอร์ เปลี่ยนตัวออกเพื่อไปพักเช่นเดียวกับ ทิม ดันแคน สเปอร์ส ก็เริ่มมีความผิดพลาดให้เห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ กริซลี่ย์ จึงสามารถทำแต้มจนช่องว่างเหลือเพียง 3 แต้ม ( จากก่อนหน้านี้ห่างราวๆ 8 แต้มมาตลอด ) โดยเฉพาะ ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ ที่เฉพาะควอร์เตอร์นี้เขายิง 4 ลูกลงทั้ง 4 ลูก และ แซค แลนดอฟ ที่เหมือนจะกลับมาเล่นเกมส์ที่ตัวเองต้องการได้อีกครั้งหลังจาก ทิม ดันแคน ไม่อยู่ในสนามแต่ สเปอร์ส ก็มาได้ คาไวน์ ลีโอนาร์ด ยิงสามแต้มรักษาระยะห่างเป็น 6 แต้มก่อนหมดควอร์เตอร์นี้ไปได้หลังจากโดน กริซลี่ย์รันเกมส์ 0-7 แต้มก่อนหน้านี้ กริซลี่ย์ มีโอกาสลดช่องว่างจากลูกฟรีโทรวจาก แซค แลนดอฟ แต่ก็ไม่ลงทั้งสองลูกจบควอร์เตอร์นี้ที่ 72 - 66
วิเคราะห์
หลังจากพอยการ์ดของ สเปอร์ส ( โทนี่ ปาร์คเกอร์ ) โดนประกบติดและต้องเหนื่อยมากขึ้นจะเห็นได้เลยว่าเกมส์รุกของ สเปอร์ส ก็ไม่ค่อยลื่นไหลอย่างที่เคยเป็นมา มานู จิโนบิลี่ ที่ลงมาถือบอลแทนนั้นมีลูกจ่ายที่ดีก็จริงแต่ก็ไม่สามารถทำแต้มได้เหมือนกับ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ( และ มานู จิโนบิลี่ ก็ยังทำเสียจนทีมโดนไล่มาในช่วงท้ายๆควอร์เตอร์นี้อีกด้วย ) แต่การที่ กริซลี่ย์ ประกบติด โทนี่ ปาร์คเกอร์ มากก็เป็นผลให้ผู้เล่นของพวกเขา ( ที่ประกบ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ) ก็เหนื่อยไม่แพ้กัน กริซลี่ย์ แก้เกมส์มาใช้เกมส์ยิงระยะกลางโดยเปลี่ยนลงมาในช่วงกลางและสามารถไล่มาได้เรื่อยๆแต่ก็กลับต้องเสียแต้มเรื่อยๆเช่นกัน นั่นแสดงให้เห็นว่า ตัวจริงกับตัวสำรองของ กริซลี่ย์ นั้นไม่ค่อยมีความสมดุลกันเท่าไหร่ เมื่อพวกเขาเปลี่ยนเอาตัวสำรองที่ทำแต้มลงมาเกมส์รับพวกเขาก็แย่ลง จนระยะห่างไม่ขยับเข้าใกล้เลย
คาไวน์ ลีโอนาร์ด ยิงช่วยรักษาระยะห่างไว้ได้ก่อนหมดควอร์เตอร์สาม
Q 4 : กริซลี่ย์ พยายามสู้จนถึงที่สุด
เริ่มควอร์เตอร์ที่สี่ กริซลี่ย์ เหมือนจะรู้ตัวว่าพวกเขาไม่อาจจะแพ้เกมส์นี้ได้อีกแล้ว ผู้เล่น กริซลี่ย์ ทุกคนดูมีความกระตือรือร้นและสู้เท่าที่พวกเขาจะทำได้อาศัยลูกขยันเก็บลูกออฟเฟ้นซีพรีบาวน์ในช่วงเปิดควอร์เตอร์และทำแต้มไล่มาจนเหลือเพียง 3 แต้มอีกครั้ง (76 - 73) จนโค้ชป๊อปโปวิช ถึงกับหัวเสียและขอเวลานอกทันทีหลังจากกลับมาจากการพัก สเปอร์ส กลับมาเล่นได้เหมือนเดิมโดยเฉพาะลูกสามแต้มของ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ทันทีที่กลับมาจากการพักช่วยลดความกดดันและทิ้งระยะห่างเป็น 6 แต้มอีกครั้ง กริซลี่ย์ พยายามใช้ แซค แลนดอฟ ที่เหมือนจะมีไฟใช้ความแข็งแกร่งพยายามเข้าทำแต้มอย่างหนักแต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร กลับกันเกมส์รับใต้แป้นของ สเปอร์ส สามารถป้องกันได้อย่างดีและเป็น ทิม ดันแคน ที่ค่อยๆทำแต้มให้ สเปอร์ส หนีไปเรื่อยๆ หลังจากที่ โทนี่ ปาร์คเกอร์ โดนมือของ มาร์ค กาซอล ทิ้มไปบริเวณตาและต้องออกไปพักเพื่อดูอาการ หลังจากกลับมา โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็ยังแรงไม่ตกยิงทำแต้มหนีไปอีกแต่ กริซลี่ย์ ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆได้ ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ มายิงห้าแต้มติดกันไล่มาไกลๆที่ 89 -83 และมาได้ลูกฟรีโทรวจาก แซค แลนดอฟ แต่ แซค แลนดอฟ กลับยิงลงเพียง 1 ครั้งทำให้สถาณการณ์ยังไม่ดีขึ้นมากนัก ก่อนที่ โทนี่ ปาร์คเกอร์ จะมาเสียเทรินโอเวอร์ในช่วงสำคัญและ กริซลี่ย์ ได้เพิ่ม 2 แต้มไล่มาเหลือเพียง 89 – 86 แต่หลังจากนั้น โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็มายิงฟรีโทรวจากการหลุดเข้าไปเรียกฟาล์วได้และ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ก็จัดการได้ทั้ง 4 ลูกฝัง กริซลี่ย์ ทันที (93 - 86) กริซลี่ย์ มีโอกาสสร้างความหวังอีกครั้งจาก เจอราด เบย์เลส แต่ก็โดน ติอาร์โก้ สปิทเตอร์ บล็อกลูกความหวังไปเสียและเกมส์ก็จบลงในท้ายที่สุดที่สกอร์ 93 – 86
วิเคราะห์
กริซลี่ย์พยายามทุกทางเพื่อที่จะทำแต้มไล่แต่พวกเขายังไม่มีความแม่นยำมากพอ อาจเป็นเพราะประสบการณ์ของผู้เล่นของ กริซลี่ย์ ยังมีไม่มากนักเมื่อต้องเจอกับสถาณการณ์เช่นนี้ แต่ถึงยังไงพวกเขาก็สู้ในแนวทางของตนเองและพยายามอย่างสุดความสามารถแล้ว เพียงแต่ยังขาดอะไรบางอย่างไปเท่านั้นเอง เกมส์นี้ สเปอร์ส โดยเฉพาะ โทนี่ ปาร์คเกอร์ ที่เป็นกำลังหลักไม่มีความลนลานให้เห็นเลย สามารถนำทีมผ่านเข้าชิงครั้งที่ห้าได้สำเร็จ
ปาร์คเกอร์ ยิงสามแต้มเปลี่ยนโมเมนตัมอีกครั้งหลังโดนไล่มาเหลือสามแต้ม
ก่อนหมดเวลาไม่ถึงนาที สปิทเตอร์ บล๊อกลูกความหวังของ กริซลี่ย์ ไว้ได้
สุดท้าย
กริซลี่ย์ สู้ได้ดีมากครับเพียงแต่ยังขาดตัวที่จะตัดสินเกมส์ได้อย่างที่ สเปอร์ส มี ทิม ดันแคน , โทนี่ ปาร์คเกอร์ และ มานู จิโนบิลี่ สามเสาหลักที่ถึงแม้จะเล่นไม่ดีมาทั้งเกมส์แต่เมื่อเข้าสู่สถาณการณ์คับขันสามเสาหลักเล่นได้ดีมากในซีรีย์นี้ กริซลี่ย์ อาจจะมี ควินซี่ พอนเด๊กเตอร์ ที่ลงมาแล้วสร้างความแตกต่างได้จริงๆ แต่เขากลับไม่สามารถเล่นเกมส์รับได้เหมือน เทชอว์น ปริ๊น ทำได้น่าเสียดายจริงๆที่ กริซลี่ย์ ตัดสินใจเทรดเอา รูดี้ เกย์ ออกไปในช่วงก่อนปิดตลาด ( หากใครได้ดูฤดูกาลปรกติ รูดี้ เกย์ เป็นคนสร้างความแตกต่างและเป็นที่พึ่งในยามที่ทีมต้องการเช่นนี้และเขาเป็นคนที่ทำให้ กริซลี่ย์ ชนะ สเปอร์ส อีกด้วย ) แต่นั่นก็เพื่อที่จะรักษา Cap ( แต่น่าเสียดายจริงๆที่ไม่มี รูดี้ เกย์ ไม่งั้นรูปเกมส์อาจจะไม่ออกมาแบบนี้ก็ได้ )
จบไปแล้วนะครับสำหรับซีรีย์ WCF 2013 ( West Conference Final 2013 ) และก็เป็น สเปอร์ส คว้าตั๋วไปเจอกับแชมป์จากตะวันออก ( ที่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใคร ) เอาไว้กลับมาติดตามกระทู้วิเคราะห์หลังเกมส์ได้ที่นี่ที่เดิมไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไงผมจะพยายามไม่เข้าข้าง สเปอร์ส มากเกินไปและหากมีข้อเสนอแนะติติงเชิญเต็มที่ครับผมจะได้เอาไปพัฒนาตนเองต่อไป ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ครับผม