เรื่องมันมีอยู่ว่าน้องที่รู้จัก(ไม่ใช่ญาติ)ซึ่งกำลังเรียนมหาลัยวิทยาลัยเทอมสุดท้ายซึ่งเทอมหน้าก็จะจบแล้ว
แต่เขาดันท้องก่อน ตอนนี้ตั้งท้องได้ 3เดือน ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือ
ก่อนหน้าที่จะรู้ว่าตัวตั้งท้องฝ่ายชายที่คบกันมาปีกว่า(รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่รู้จักกัน)กลับไปนอนกับแฟนเก่า
ทำให้ทั้งคู่ระหอง ระแหงกันจนเลิกกันเมื่อเดือนที่แล้ว
แล้วมารู้ว่าตัวเองตั้งท้องเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาจึงได้บอกแฟนตัวเองไป
แล้วให้ทางผู้ชายว่าจะเอายังไงซึ่งฝ่ายชายบอกจะรับผิดชอบและเลี้ยงดูแต่เขาจะไม่เลือกว่าจะอยู่กับใคร
เขาขอคบทั้งแฟนเก่าและน้องสาวเราไปด้วย (อันนี้ทางเรารับไม่ได้แต่ฝ่ายแฟนเก่ารับได้และไม่รู้ว่าน้องสาวเราท้อง)
ที่ผ่านมาน้องสาวเราก็พยายามเลิกหลายทีแต่ผุ้ชายไม่ยอมไปถึงขั้นมาคุกเข่าหน้าบ้านมาง้อน้องสาวเรา
แต่ปัญหาของผู้ชายมันเยอะนอกจากเรื่องผู้หญิง ยังมีเรื่องติดการพนัน ติดเหล้า ติดเที่ยว แถมยืมเงิน ซึ่งตอนนี้ผู้ชายไปเป็นทหารเกณฑ์
ไปอยู่ใต้(มั้งแถวๆนั้น)คือฝ่ายชายเรียนจบแค่ป.6 หลังจากนี้ไม่รู้ว่าอนาคตจะยังไงแต่ที่ทั้งคู่คบกันเพราะแอบชอบกันตั้งแต่เด็กแล้ว
ทำให้น้องเราใจอ่อนที่จะคบด้วยแต่เมื่อคบแล้วปัญหามันเกิดขึ้นแบบนี้
ทำให้น้องสาวเราเข็ดยิ่งมาเจอปัญหาเรื่องแฟนเก่าปุ๊บเลยขอเลิกเด็ดขาด(แต่ดันท้องเนี่ยะซิ)
น้องเลยมาปรึกษาว่าในเมื่อฝ่ายชายบอกจะขอคบทั้งสองคนนั้น น้องเราจะเป็นฝ่ายไปเองและจะไม่เอาฝ่ายชายเป็นสามีเด็ดขาด
เนื่องด้วยอย่างที่บอกว่าฝ่ายชายพึ่งพาไม่ได้ถ้าเอามาเป็นสามีนอกจะชีวิตจะไม่รุ่งเรืองแล้วเขาอาจจะเป็นตัวถ่วงอีกต่างหาก
น้องเราบอกว่าลูกเขา เขาจะขอเลี้ยงเองแม้ว่าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายจะให้แต่งก็ตาม น้องเราบอกว่าจะไม่แต่ง
เขาไม่อยากได้ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว คือยังไงก็ไม่เอา น้องเราค่อนข้างเข้มแข็งค่ะ
ตอนนี้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายยังไม่รู้ น้องสาวเราบอกให้แฟนเขาไปบอกพ่อแม่ แล้วค่อยมาบอกพ่อแม่ฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายชายก็ไม่ทำตาม
แต่สิ่งที่น้องสาวกลัวมาที่สุดคือการที่บอกพ่อแม่แล้วทางพ่อแม่จะให้ไปทำแท้ง เพราะพ่อแม่น้องสาวเราค่อนข้างมีสังคม
ถึงขั้นรับไม่ได้ที่ลูกสาวตัวเองมีพฤติกรรมแบบนี้แต่ถึงยังไงน้องเรามีจุดยืนคือยังไงก็ไม่เอาออก
-ตอนนี้เลยอยากจะรู้ว่าหากจะให้ฝ่ายชายรับผิดชอบเรื่องค่าเลี้ยงดูในอนาคตมันจะเป็นไปได้มั้ย? โดยที่ไม่ต้องแต่งงานกันซึ่งตอนไปฝากครรภ์น้องเราบอกว่าฝ่ายชายก็ยอมไปส่งไม่แน่ใจว่าตอนฝากครรภ์เขามีการรับรองบุตรหรือเปล่า(หรือต้องคลอดก่อนอันนี้ไม่ทราบจริงๆ)
-ถ้าพ่อแม่ให้ทั้งคู่แต่งงานแต่น้องเราจะไม่แต่งจะมีกฏหมายคุ้มครองมั้ยคะสำหรับฝ่ายหญิง?(คือยังไงก็จะไม่เอาแล้ว)
-หากพ่อแม่ให้ทำแท้งแต่น้องไม่อยากทำสามารถที่จะขัดคำสั่งโดยที่มีกฏหมายคุ้มครองได้มั้ย?(น้องอายุเกิน20)
-ถ้าฝ่ายชายไม่รับรองบุตรเราจะเรียกร้องยังไงให้เขารับรองคือเราต้องไปตรวจดีเอ็นเอใช้มั้ย? เพื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าเขาคือพ่อเด็ก(ให้จดทะเบียนรับรองบุตรพอไม่ต้องจดทะเบียนสมรส)
-หากฝ่ายชายยินยอมที่จะแต่งงานแต่น้องเราไม่อยากแต่งเราจะปฏิเสธได้มั้ยถ้าตามกฏหมายเพราะฝ่ายชายมันเลวเกินกว่าจะเป็นสามีได้
-น้องเขาจะแบกท้องไปเรียนจนกว่าจะคลอดค่ะซึ่งกำหนดการคลอดคือเดือนพฤศจิกายนไม่แน่ใจว่าทางมหาลัยจะยอมมั้ย?เรื่องท้องแล้วไปเรียนด้วย อย่างที่สองคือน้องอยากคลอดเดือนตุลาเพื่อที่ว่าเดือนพฤศิกาจะสามารถไปฝึกสอนได้หมอสามารถให้คลอดก่อนกำหนดได้ใช่มั้ยคะ?
ตอนนี้น้องเราเครียดค่ะแต่คิดว่าเขามีกำลังใจมากเราเองก็ไม่ได้ซ้ำเติมเขาเพราะเท่าที่เห็นเขาก็ยอมรับสภาพความผิดของตัวเองว่าไม่ได้ป้องกันนี่เป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตของเขา ที่สำคัญคือน้องเราเข้มแข็งมากบวกกับเพื่อนๆที่ไม่มีใครซ้ำเติมแต่ให้กำลังใจกันเต็มที่ ทุกคนก็ไม่แนะนำให้เอาออก เขาบอกว่าจะขอสู้ต่อขออย่างเดียวว่าไม่อยากได้ผู้ชายคนนนี้อีกแล้วอยากให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำบ้าง
ลำพังน้องเรามีปัญญาเลี้ยงลูกอยู่แล้วแต่ก็ไม่อยากให้ฝ่ายชายลอยนวลโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
สิ่งที่ทำตอนนี้คือการแก้ปัญหาเฉพาะส่วนไม่รุ้ว่าดีหรือไม่
*อยากจะขอคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์หรือมีความรู้หน่อยค่ะว่าควรแก้ไขปัญหายังไง*
-อย่างแรกเลยตอนนี้คือให้น้องเขารักษาสุขภาพตัวเองให้ดี
-พยายามหาช่องทางว่าจะสามารถให้ฝ่ายชายรับผิดชอบได้มั้ยคือหาทางแก้ไขให้เท่าที่จะทำได้ก่อนแล้วค่อยไปบอกพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเพราะถ้าหากไปแจ้งให้พ่อแม่น้องทราบกลัวว่าเขาจะจับให้แต่งงานหรือไม่ก็ไปทำแท้งซึ่งน้องเขาค่อนข้างมั่นใจว่าพ่อแม่น่าจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อวงค์ตระกูล
-ถ้าหาข้อมูลได้เท่าที่จะทำได้แล้วจะไปบอกให้ทางพ่อแม่ของตัวเองหากมีกันบังคับอย่างใดอย่างหนึ่งน้องเราจะไม่อยู่บ้านเด็ดขาดพร้อมหาทางที่จะไปหากเมื่อพ่อแม่ไม่ยอมรับ
-จะพูดยังไงให้พ่อแม่เข้าใจในสิ่งที่น้องเขาต้องการไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกว่านี้อีกแล้วแค่นี้ก็ถือว่าน้องเขาได้รับผลกรรมอย่างมากมาย ถ้าหากพ่อแม่ของน้องไม่สนับสนุนน้องอาจจะถึงขั้นต้องอยุู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง
-ตอนแรกน้องบอกว่าจะไปเรียกร้องมูลนิธิปวีณาได้มั้ย? แต่คิดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้นเพราะตอนที่มีอะไรกันมันเกิดจากความยินยอมทั้งสองฝ่าย ซึ่งปัญหามันเกิดขึ้นหลังจากนั้นโดยมารู้ว่าฝ่ายชายมีคนอื่น
ปล.ตอนนี้ก็วางแผนไว้ประมาณนี้ค่ะน้องเราก็อยากเรียนให้จบแล้วรีบ ๆ ไปทำงานคงไม่ยอมทิ้งทั้งการเรียนและลูกของเขา ไม่รุ้จะช่วยยังไงปัญหามันค่อนข้างซับซ้อนมาก เราก็ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมายซะด้วย
ปล.อยากรู้วิธีการที่จะดูแลลูกระหว่างตั้งครรภ์ด้วยค่ะเรื่องข้อห้าม อาการการกินอะไรพวกนี้
ขอคำปรึกษาหน่อยค่ะ
แต่เขาดันท้องก่อน ตอนนี้ตั้งท้องได้ 3เดือน ปัญหาใหญ่กว่านั้นคือ
ก่อนหน้าที่จะรู้ว่าตัวตั้งท้องฝ่ายชายที่คบกันมาปีกว่า(รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่รู้จักกัน)กลับไปนอนกับแฟนเก่า
ทำให้ทั้งคู่ระหอง ระแหงกันจนเลิกกันเมื่อเดือนที่แล้ว
แล้วมารู้ว่าตัวเองตั้งท้องเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาจึงได้บอกแฟนตัวเองไป
แล้วให้ทางผู้ชายว่าจะเอายังไงซึ่งฝ่ายชายบอกจะรับผิดชอบและเลี้ยงดูแต่เขาจะไม่เลือกว่าจะอยู่กับใคร
เขาขอคบทั้งแฟนเก่าและน้องสาวเราไปด้วย (อันนี้ทางเรารับไม่ได้แต่ฝ่ายแฟนเก่ารับได้และไม่รู้ว่าน้องสาวเราท้อง)
ที่ผ่านมาน้องสาวเราก็พยายามเลิกหลายทีแต่ผุ้ชายไม่ยอมไปถึงขั้นมาคุกเข่าหน้าบ้านมาง้อน้องสาวเรา
แต่ปัญหาของผู้ชายมันเยอะนอกจากเรื่องผู้หญิง ยังมีเรื่องติดการพนัน ติดเหล้า ติดเที่ยว แถมยืมเงิน ซึ่งตอนนี้ผู้ชายไปเป็นทหารเกณฑ์
ไปอยู่ใต้(มั้งแถวๆนั้น)คือฝ่ายชายเรียนจบแค่ป.6 หลังจากนี้ไม่รู้ว่าอนาคตจะยังไงแต่ที่ทั้งคู่คบกันเพราะแอบชอบกันตั้งแต่เด็กแล้ว
ทำให้น้องเราใจอ่อนที่จะคบด้วยแต่เมื่อคบแล้วปัญหามันเกิดขึ้นแบบนี้
ทำให้น้องสาวเราเข็ดยิ่งมาเจอปัญหาเรื่องแฟนเก่าปุ๊บเลยขอเลิกเด็ดขาด(แต่ดันท้องเนี่ยะซิ)
น้องเลยมาปรึกษาว่าในเมื่อฝ่ายชายบอกจะขอคบทั้งสองคนนั้น น้องเราจะเป็นฝ่ายไปเองและจะไม่เอาฝ่ายชายเป็นสามีเด็ดขาด
เนื่องด้วยอย่างที่บอกว่าฝ่ายชายพึ่งพาไม่ได้ถ้าเอามาเป็นสามีนอกจะชีวิตจะไม่รุ่งเรืองแล้วเขาอาจจะเป็นตัวถ่วงอีกต่างหาก
น้องเราบอกว่าลูกเขา เขาจะขอเลี้ยงเองแม้ว่าพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายจะให้แต่งก็ตาม น้องเราบอกว่าจะไม่แต่ง
เขาไม่อยากได้ผู้ชายคนนี้อีกแล้ว คือยังไงก็ไม่เอา น้องเราค่อนข้างเข้มแข็งค่ะ
ตอนนี้พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายยังไม่รู้ น้องสาวเราบอกให้แฟนเขาไปบอกพ่อแม่ แล้วค่อยมาบอกพ่อแม่ฝ่ายหญิงแต่ฝ่ายชายก็ไม่ทำตาม
แต่สิ่งที่น้องสาวกลัวมาที่สุดคือการที่บอกพ่อแม่แล้วทางพ่อแม่จะให้ไปทำแท้ง เพราะพ่อแม่น้องสาวเราค่อนข้างมีสังคม
ถึงขั้นรับไม่ได้ที่ลูกสาวตัวเองมีพฤติกรรมแบบนี้แต่ถึงยังไงน้องเรามีจุดยืนคือยังไงก็ไม่เอาออก
-ตอนนี้เลยอยากจะรู้ว่าหากจะให้ฝ่ายชายรับผิดชอบเรื่องค่าเลี้ยงดูในอนาคตมันจะเป็นไปได้มั้ย? โดยที่ไม่ต้องแต่งงานกันซึ่งตอนไปฝากครรภ์น้องเราบอกว่าฝ่ายชายก็ยอมไปส่งไม่แน่ใจว่าตอนฝากครรภ์เขามีการรับรองบุตรหรือเปล่า(หรือต้องคลอดก่อนอันนี้ไม่ทราบจริงๆ)
-ถ้าพ่อแม่ให้ทั้งคู่แต่งงานแต่น้องเราจะไม่แต่งจะมีกฏหมายคุ้มครองมั้ยคะสำหรับฝ่ายหญิง?(คือยังไงก็จะไม่เอาแล้ว)
-หากพ่อแม่ให้ทำแท้งแต่น้องไม่อยากทำสามารถที่จะขัดคำสั่งโดยที่มีกฏหมายคุ้มครองได้มั้ย?(น้องอายุเกิน20)
-ถ้าฝ่ายชายไม่รับรองบุตรเราจะเรียกร้องยังไงให้เขารับรองคือเราต้องไปตรวจดีเอ็นเอใช้มั้ย? เพื่อมีหลักฐานชัดเจนว่าเขาคือพ่อเด็ก(ให้จดทะเบียนรับรองบุตรพอไม่ต้องจดทะเบียนสมรส)
-หากฝ่ายชายยินยอมที่จะแต่งงานแต่น้องเราไม่อยากแต่งเราจะปฏิเสธได้มั้ยถ้าตามกฏหมายเพราะฝ่ายชายมันเลวเกินกว่าจะเป็นสามีได้
-น้องเขาจะแบกท้องไปเรียนจนกว่าจะคลอดค่ะซึ่งกำหนดการคลอดคือเดือนพฤศจิกายนไม่แน่ใจว่าทางมหาลัยจะยอมมั้ย?เรื่องท้องแล้วไปเรียนด้วย อย่างที่สองคือน้องอยากคลอดเดือนตุลาเพื่อที่ว่าเดือนพฤศิกาจะสามารถไปฝึกสอนได้หมอสามารถให้คลอดก่อนกำหนดได้ใช่มั้ยคะ?
ตอนนี้น้องเราเครียดค่ะแต่คิดว่าเขามีกำลังใจมากเราเองก็ไม่ได้ซ้ำเติมเขาเพราะเท่าที่เห็นเขาก็ยอมรับสภาพความผิดของตัวเองว่าไม่ได้ป้องกันนี่เป็นบทเรียนสำคัญในชีวิตของเขา ที่สำคัญคือน้องเราเข้มแข็งมากบวกกับเพื่อนๆที่ไม่มีใครซ้ำเติมแต่ให้กำลังใจกันเต็มที่ ทุกคนก็ไม่แนะนำให้เอาออก เขาบอกว่าจะขอสู้ต่อขออย่างเดียวว่าไม่อยากได้ผู้ชายคนนนี้อีกแล้วอยากให้เขารับผิดชอบในสิ่งที่กระทำบ้าง
ลำพังน้องเรามีปัญญาเลี้ยงลูกอยู่แล้วแต่ก็ไม่อยากให้ฝ่ายชายลอยนวลโดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย
สิ่งที่ทำตอนนี้คือการแก้ปัญหาเฉพาะส่วนไม่รุ้ว่าดีหรือไม่
*อยากจะขอคำแนะนำจากผู้ที่มีประสบการณ์หรือมีความรู้หน่อยค่ะว่าควรแก้ไขปัญหายังไง*
-อย่างแรกเลยตอนนี้คือให้น้องเขารักษาสุขภาพตัวเองให้ดี
-พยายามหาช่องทางว่าจะสามารถให้ฝ่ายชายรับผิดชอบได้มั้ยคือหาทางแก้ไขให้เท่าที่จะทำได้ก่อนแล้วค่อยไปบอกพ่อแม่ของฝ่ายหญิงเพราะถ้าหากไปแจ้งให้พ่อแม่น้องทราบกลัวว่าเขาจะจับให้แต่งงานหรือไม่ก็ไปทำแท้งซึ่งน้องเขาค่อนข้างมั่นใจว่าพ่อแม่น่าจะเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อวงค์ตระกูล
-ถ้าหาข้อมูลได้เท่าที่จะทำได้แล้วจะไปบอกให้ทางพ่อแม่ของตัวเองหากมีกันบังคับอย่างใดอย่างหนึ่งน้องเราจะไม่อยู่บ้านเด็ดขาดพร้อมหาทางที่จะไปหากเมื่อพ่อแม่ไม่ยอมรับ
-จะพูดยังไงให้พ่อแม่เข้าใจในสิ่งที่น้องเขาต้องการไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ที่ร้ายแรงกว่านี้อีกแล้วแค่นี้ก็ถือว่าน้องเขาได้รับผลกรรมอย่างมากมาย ถ้าหากพ่อแม่ของน้องไม่สนับสนุนน้องอาจจะถึงขั้นต้องอยุู่ด้วยลำแข้งของตัวเอง
-ตอนแรกน้องบอกว่าจะไปเรียกร้องมูลนิธิปวีณาได้มั้ย? แต่คิดว่ายังไม่ถึงขั้นนั้นเพราะตอนที่มีอะไรกันมันเกิดจากความยินยอมทั้งสองฝ่าย ซึ่งปัญหามันเกิดขึ้นหลังจากนั้นโดยมารู้ว่าฝ่ายชายมีคนอื่น
ปล.ตอนนี้ก็วางแผนไว้ประมาณนี้ค่ะน้องเราก็อยากเรียนให้จบแล้วรีบ ๆ ไปทำงานคงไม่ยอมทิ้งทั้งการเรียนและลูกของเขา ไม่รุ้จะช่วยยังไงปัญหามันค่อนข้างซับซ้อนมาก เราก็ไม่มีความรู้เรื่องกฏหมายซะด้วย
ปล.อยากรู้วิธีการที่จะดูแลลูกระหว่างตั้งครรภ์ด้วยค่ะเรื่องข้อห้าม อาการการกินอะไรพวกนี้