ไม่เชื่อ..ก็ต้องเชื่อ นายชวนนท์ฯ แห่ง ปชป. ยังมีหน้ามาพูดเรื่อง "ไข่ไก่แพง" อีกแน่ะ
เมื่อผมได้อ่านข่าวที่นายชวนนท์ฯ แห่ง ปชป. ออกมาวิพากษ์วิจารณ์
การทำงานของ คุณณัฐวุฒิฯ รมช.พาณิชย์ ในทำนองว่าบริหารงาน
ผิดพลาด และละเลยการแก้ปัญหา "ไข่ไก่ราคาแพง" โดยยกตัวอย่าง
ราคาไข่คละหน้าฟาร์มในสมัยที่ นายอภิสิทธิ์ฯ แห่ง ปชป. เป็นหัวหน้า
รัฐบาล ว่ามีราคาเพียง 2.90 บาท ถูกกว่าสมัยปัจจุบันที่ราคาสูงถึง
3.20 - 3.30 บาท
แต่ทว่า นายชวนนท์ฯ กลับจงใจที่จะ "หลีกเลี่ยง" การพูดถึงสาเหตุสำคัญ
ที่เป็นต้นตอแห่งปัญหาไข่ไก่ราคาแพง นั่นคือ "อากาศที่ร้อนแสนสาหัส"
โดยสภาพอากาศในปีนี้ถือว่าร้อนมาก และร้อนนาน กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นมากขนาดนี้ ส่งผลกระทบต่อวงจร
การผลิตไข่ไก่ของแม่ไก่ไข่อย่างรุนแรง
อย่าว่าแต่คนทนไม่ไหว ไก่ไข่ก็โดนผลกระทบไม่แพ้กัน ทำให้ผลผลิตไข่ไก่
ลดลง ปริมาณไข่ไก่ในตลาดจึงน้อยลง สวนทางกับความต้องการบริโภค
ที่มากขึ้น ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่ราคาจะขยับขึ้น เรียกว่าเป็นไปตามกลไกตลาด
และอีกไม่นานเข้าหน้าฝน อากาศเย็น แม่ไก่ออกไข่ได้ดี ไข่ไก่จำนวนมาก
ที่ป้อนเข้าสู่ตลาดก็จะทำให้ราคาไข่ก็จะต่ำลง...
เรื่องนี้ผู้บริโภคอย่างเราๆยังพอเข้าใจ แต่สำหรับคนที่เป็น "เดรัจฉานการเมือง"
อย่างนายชวนนท์ฯ คงจะมีข้อจำกัดทางสติปัญญาที่จะเข้าใจเรื่องง่ายๆ แบบนี้
ที่ผมต้องใช้คำว่า "เดรัจฉานการเมือง" ก็เพราะนายชวนนท์นั้น "จงใจ" ที่จะ
ไม่เข้าใจภาษาคน ก็ภาษาคนง่ายๆ แต่ดันไม่เข้าใจ จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า
หมอนี่อาจจะไม่มีจิตสำนึกแห่งความเป็นคนก็อาจเป็นได้
(แต่ทำไม มันใช้ภาษาคนปรักปรำชาวบ้านเขาได้อย่างคล่องแคล่วล่ะหนอ...?)
ถ้ายังพอจะจำกันได้หลายเดือนก่อน ที่ปชป. ออกมาโหมโรงเรื่องของแพง
แล้วนายชวนนท์ฯ ก็อุตส่าห์ไปเสาะหาข้าวขาหมูจานละ 60 บาท มาแถลงข่าว
แต่ก็ปรากฏว่ากลายเป็น "มุกแป็ก" ไป เพราะเจอคุณพานทองแท้ฯ บุกถึงถิ่น
แวะไปชิมข้าวหมูแดงสุดอร่อย ราคาเพียง 30 บาท ที่ร้าน "ชูจันทร์" ซึ่งตั้งอยู่
ข้างๆ พรรค ปชป. จนเงียบจ๋อยเลิกพูดเรื่องนี้ไปหลายเดือน
(ก็คงมีแต่คนที่ปัญญาทึบจริงๆ เท่านั้น ที่ลงเดินทางไกลเพื่อไปกินข้าว
จานละ 60 บาท ทั้งๆ ที่ข้างๆ พรรคตัวเองมีของดี ของอร่อย ในราคา
แค่จานละ 30 บาท)
หายไปหลายเดือนยังไม่เข็ด กลับมมอีกครั้ง กับการแถลงข่าว
"ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว จานละ 75 บาท" ที่สโมสรรัฐสภา แพงจริงๆ ครับ
ผมเองก็ยอมรับว่าแพงกว่าข้างนอกเกือบ 2 เท่า กินไม่กินเปล่า นายชวนนท์ฯ
ยังโชว์ลีลา "งับหางตัวเอง" ด้วยการแถลงข่าวเป็นวรรคเป็นเวรว่า
ขนาดในสภาฯ ต่อหน้าต่อตาฝ่ายค้านแท้ๆยังปล่อยให้อาหารแพงขนาดนี้
ตอกย้ำให้เห็น "ภาพไร้กึ๋นไร้ฝีมือบริหารงานของรัฐบาล จนของแพงทั้งแผ่นดิน"
แต่ปรากฏว่า "หน้าแตก" เป็นครั้งที่สอง เพราะผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแลสัญญา
ในการเก็บต๋งค่าเช่าพื้นที่ค้าขาย รวมถึงมีหน้าที่คอยควบคุมราคาอาหารในสภาฯ
ให้เหมาะสม ได้แก่ประธานสโมสรรัฐสภา ที่ชื่อ "พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล" ผู้อาวุโส
แห่งพรรคประชาธิปัตย์ที่นายชวนนท์สังกัดอยู่นั่นปะไร...!!!! ผลก็คือ "โดนด่าเช็ด"
ตามข่าวเขาว่า ท่านพิเชษฐ์ฯถึงกับ "ฉุนกึ๊ก ควันออกหู" เพราะอยู่ๆ ก็มีรุ่นน้องมา
ฉีกหน้า หาว่าไร้กึ๋นไร้ฝีมือในการบริหาร จนมีข่าวแว่วมาว่านายชวนนท์ถึงกับต้อง
โทรสายด่วนไปเคลียร์ว่า "ผมขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จริงๆว่าเป็นผู้ใหญ่ของ
พรรคดูแลอยู่"
อ้าว..เฮ้ยยยย.....!!! พอเป็นพวกตัวเองไม่ด่าต่อแล้วหรอ??? ไหนว่าแพงแพงแพง
ข้าวแกงจานละตั้ง 75 บาท พอกลายเป็นฝ่ายค้านเองที่ต้องรับผิดชอบ มันถูกขึ้นมา
ทันทีว่างั้น!!
ที่ผ่านมา เวลาไข่ราคาตกต่ำ มักไม่ค่อยเป็นประเด็นให้ภาครัฐหันมาสนใจเท่าไหร่
แต่พอราคาไข่ขยับขึ้น ภาครัฐก็มักหันมาควบคุม พร้อมกดราคาไข่ไก่ลงเพื่อเอาใจ
ผู้บริโภค น่าดีใจที่วันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ
แสดงให้เห็นว่า มีความเข้าใจกลไกราคาไข่ไก่มากขึ้น และพยายามแก้ปัญหา
อย่างรอบด้าน แตกต่างจากรัฐบาลที่แล้วอย่างชัดเจน
แต่ที่ไม่ค่อยเข้าใจคือ ทำไมฝ่ายค้านต้องยกราคาไข่ไก่มาเป็นประเด็นทางการเมือง
ทั้งๆที่แผลของตัวเองในการแก้ปัญหาไข่ไก่แบบขอไปที ยังติดตาตรึงใจคนไทย
มาจนถึงทุกวันนี้
ครั้งนั้น รัฐบาลประชาธิปัตย์แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ด้วยการทำลายเกษตรกรคนเลี้ยง
ไก่ไข่อย่างยับเยิน ผ่านนโยบายเปิดเสรีพ่อแม่พันธุ์ ทิ้งปัญหาคาราคาซังให้ใคร
ต่อใครต้องตามล้างตามเช็ด ครั้งนี้ รัฐบาลเพื่อไทย โดยคุณณัฐวุฒิ ได้หยิบยก
เหตุการณ์นั้นมาเป็นบทเรียน แล้วทำการแก้ปัญหาให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคอยู่ได้
ตลอดจนเตรียมมาตรการรับมือภาวะไข่ล้นตลาดในเดือนหน้า นับว่าตีโจทย์แตก
กว่ารัฐบาลที่แล้วมากนัก
ทำการบ้านมาดี พร้อมตั้งใจแก้ปัญหาในระยะยาวด้วยแบบนี้ ต้องขอชื่นชมท่าน
ด้วยใจจริง สงสัยก็แต่ฝ่ายค้านที่หยิบเอา ราคาไข่ไก่ มาเป็นประเด็นทางการเมือง
ให้เดือดร้อนไปถึงคนเลี้ยงไก่ไข่ทั้งประเทศ ช่างลืมแผลที่ตัวเองทำไว้ได้เร็ว
เสียจริง
....
ไม่เชื่อ..ก็ต้องเชื่อ นายชวนนท์ฯ แห่ง ปชป. ยังมีหน้ามาพูดเรื่อง "ไข่ไก่แพง" อีกแน่ะ
เมื่อผมได้อ่านข่าวที่นายชวนนท์ฯ แห่ง ปชป. ออกมาวิพากษ์วิจารณ์
การทำงานของ คุณณัฐวุฒิฯ รมช.พาณิชย์ ในทำนองว่าบริหารงาน
ผิดพลาด และละเลยการแก้ปัญหา "ไข่ไก่ราคาแพง" โดยยกตัวอย่าง
ราคาไข่คละหน้าฟาร์มในสมัยที่ นายอภิสิทธิ์ฯ แห่ง ปชป. เป็นหัวหน้า
รัฐบาล ว่ามีราคาเพียง 2.90 บาท ถูกกว่าสมัยปัจจุบันที่ราคาสูงถึง
3.20 - 3.30 บาท
แต่ทว่า นายชวนนท์ฯ กลับจงใจที่จะ "หลีกเลี่ยง" การพูดถึงสาเหตุสำคัญ
ที่เป็นต้นตอแห่งปัญหาไข่ไก่ราคาแพง นั่นคือ "อากาศที่ร้อนแสนสาหัส"
โดยสภาพอากาศในปีนี้ถือว่าร้อนมาก และร้อนนาน กว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา
ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า อุณหภูมิที่ร้อนขึ้นมากขนาดนี้ ส่งผลกระทบต่อวงจร
การผลิตไข่ไก่ของแม่ไก่ไข่อย่างรุนแรง
อย่าว่าแต่คนทนไม่ไหว ไก่ไข่ก็โดนผลกระทบไม่แพ้กัน ทำให้ผลผลิตไข่ไก่
ลดลง ปริมาณไข่ไก่ในตลาดจึงน้อยลง สวนทางกับความต้องการบริโภค
ที่มากขึ้น ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่ราคาจะขยับขึ้น เรียกว่าเป็นไปตามกลไกตลาด
และอีกไม่นานเข้าหน้าฝน อากาศเย็น แม่ไก่ออกไข่ได้ดี ไข่ไก่จำนวนมาก
ที่ป้อนเข้าสู่ตลาดก็จะทำให้ราคาไข่ก็จะต่ำลง...
เรื่องนี้ผู้บริโภคอย่างเราๆยังพอเข้าใจ แต่สำหรับคนที่เป็น "เดรัจฉานการเมือง"
อย่างนายชวนนท์ฯ คงจะมีข้อจำกัดทางสติปัญญาที่จะเข้าใจเรื่องง่ายๆ แบบนี้
ที่ผมต้องใช้คำว่า "เดรัจฉานการเมือง" ก็เพราะนายชวนนท์นั้น "จงใจ" ที่จะ
ไม่เข้าใจภาษาคน ก็ภาษาคนง่ายๆ แต่ดันไม่เข้าใจ จึงเป็นที่เข้าใจได้ว่า
หมอนี่อาจจะไม่มีจิตสำนึกแห่งความเป็นคนก็อาจเป็นได้
(แต่ทำไม มันใช้ภาษาคนปรักปรำชาวบ้านเขาได้อย่างคล่องแคล่วล่ะหนอ...?)
ถ้ายังพอจะจำกันได้หลายเดือนก่อน ที่ปชป. ออกมาโหมโรงเรื่องของแพง
แล้วนายชวนนท์ฯ ก็อุตส่าห์ไปเสาะหาข้าวขาหมูจานละ 60 บาท มาแถลงข่าว
แต่ก็ปรากฏว่ากลายเป็น "มุกแป็ก" ไป เพราะเจอคุณพานทองแท้ฯ บุกถึงถิ่น
แวะไปชิมข้าวหมูแดงสุดอร่อย ราคาเพียง 30 บาท ที่ร้าน "ชูจันทร์" ซึ่งตั้งอยู่
ข้างๆ พรรค ปชป. จนเงียบจ๋อยเลิกพูดเรื่องนี้ไปหลายเดือน
(ก็คงมีแต่คนที่ปัญญาทึบจริงๆ เท่านั้น ที่ลงเดินทางไกลเพื่อไปกินข้าว
จานละ 60 บาท ทั้งๆ ที่ข้างๆ พรรคตัวเองมีของดี ของอร่อย ในราคา
แค่จานละ 30 บาท)
หายไปหลายเดือนยังไม่เข็ด กลับมมอีกครั้ง กับการแถลงข่าว
"ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว จานละ 75 บาท" ที่สโมสรรัฐสภา แพงจริงๆ ครับ
ผมเองก็ยอมรับว่าแพงกว่าข้างนอกเกือบ 2 เท่า กินไม่กินเปล่า นายชวนนท์ฯ
ยังโชว์ลีลา "งับหางตัวเอง" ด้วยการแถลงข่าวเป็นวรรคเป็นเวรว่า
ขนาดในสภาฯ ต่อหน้าต่อตาฝ่ายค้านแท้ๆยังปล่อยให้อาหารแพงขนาดนี้
ตอกย้ำให้เห็น "ภาพไร้กึ๋นไร้ฝีมือบริหารงานของรัฐบาล จนของแพงทั้งแผ่นดิน"
แต่ปรากฏว่า "หน้าแตก" เป็นครั้งที่สอง เพราะผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแลสัญญา
ในการเก็บต๋งค่าเช่าพื้นที่ค้าขาย รวมถึงมีหน้าที่คอยควบคุมราคาอาหารในสภาฯ
ให้เหมาะสม ได้แก่ประธานสโมสรรัฐสภา ที่ชื่อ "พิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล" ผู้อาวุโส
แห่งพรรคประชาธิปัตย์ที่นายชวนนท์สังกัดอยู่นั่นปะไร...!!!! ผลก็คือ "โดนด่าเช็ด"
ตามข่าวเขาว่า ท่านพิเชษฐ์ฯถึงกับ "ฉุนกึ๊ก ควันออกหู" เพราะอยู่ๆ ก็มีรุ่นน้องมา
ฉีกหน้า หาว่าไร้กึ๋นไร้ฝีมือในการบริหาร จนมีข่าวแว่วมาว่านายชวนนท์ถึงกับต้อง
โทรสายด่วนไปเคลียร์ว่า "ผมขอโทษครับ ไม่ได้ตั้งใจ ไม่รู้จริงๆว่าเป็นผู้ใหญ่ของ
พรรคดูแลอยู่"
อ้าว..เฮ้ยยยย.....!!! พอเป็นพวกตัวเองไม่ด่าต่อแล้วหรอ??? ไหนว่าแพงแพงแพง
ข้าวแกงจานละตั้ง 75 บาท พอกลายเป็นฝ่ายค้านเองที่ต้องรับผิดชอบ มันถูกขึ้นมา
ทันทีว่างั้น!!
ที่ผ่านมา เวลาไข่ราคาตกต่ำ มักไม่ค่อยเป็นประเด็นให้ภาครัฐหันมาสนใจเท่าไหร่
แต่พอราคาไข่ขยับขึ้น ภาครัฐก็มักหันมาควบคุม พร้อมกดราคาไข่ไก่ลงเพื่อเอาใจ
ผู้บริโภค น่าดีใจที่วันนี้ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ณัฐวุฒิ ใสเกื้อ
แสดงให้เห็นว่า มีความเข้าใจกลไกราคาไข่ไก่มากขึ้น และพยายามแก้ปัญหา
อย่างรอบด้าน แตกต่างจากรัฐบาลที่แล้วอย่างชัดเจน
แต่ที่ไม่ค่อยเข้าใจคือ ทำไมฝ่ายค้านต้องยกราคาไข่ไก่มาเป็นประเด็นทางการเมือง
ทั้งๆที่แผลของตัวเองในการแก้ปัญหาไข่ไก่แบบขอไปที ยังติดตาตรึงใจคนไทย
มาจนถึงทุกวันนี้
ครั้งนั้น รัฐบาลประชาธิปัตย์แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ด้วยการทำลายเกษตรกรคนเลี้ยง
ไก่ไข่อย่างยับเยิน ผ่านนโยบายเปิดเสรีพ่อแม่พันธุ์ ทิ้งปัญหาคาราคาซังให้ใคร
ต่อใครต้องตามล้างตามเช็ด ครั้งนี้ รัฐบาลเพื่อไทย โดยคุณณัฐวุฒิ ได้หยิบยก
เหตุการณ์นั้นมาเป็นบทเรียน แล้วทำการแก้ปัญหาให้ทั้งเกษตรกรและผู้บริโภคอยู่ได้
ตลอดจนเตรียมมาตรการรับมือภาวะไข่ล้นตลาดในเดือนหน้า นับว่าตีโจทย์แตก
กว่ารัฐบาลที่แล้วมากนัก
ทำการบ้านมาดี พร้อมตั้งใจแก้ปัญหาในระยะยาวด้วยแบบนี้ ต้องขอชื่นชมท่าน
ด้วยใจจริง สงสัยก็แต่ฝ่ายค้านที่หยิบเอา ราคาไข่ไก่ มาเป็นประเด็นทางการเมือง
ให้เดือดร้อนไปถึงคนเลี้ยงไก่ไข่ทั้งประเทศ ช่างลืมแผลที่ตัวเองทำไว้ได้เร็ว
เสียจริง
....