ตร.โคราช สั่งเอาผิดอาสาจราจร ใช้กระบอกไฟฉายฟาดหัวสาวนั่งซ้อนจยย.ไม่ใส่หมวกกันน็อค ถูกปรับ 1 พันบาทก่อนปล่อยตัวไป
26 พ.ค. 56 หลังจากมีการโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ฯลฯ และคาดว่าน่าจะมีการเผยแพร่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง เมื่อคืนวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ประยุทธ แพปรุ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เรียกนางสาววาสนา สิทธิเวช อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 520/3 ถนนสืบสิริ ซอย 18 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายที่อ้างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายโดยใช้ของแข็งตีที่ศีรษะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 25 พ.ค. บริเวณห้าแยกหัวรถไฟ เขตเทศบาลนคร นครราชสีมา มาสอบสวนเพิ่มเติม
นางสาววาสนา ให้การว่า วันเวลาเกิดเหตุได้นั่งซ้อนท้ายเพื่อนชายที่ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน มุ่งหน้ากลับบ้านพัก ซึ่งต้องใช้เส้นทางผ่านบริเวณห้าแยกหัวรถไฟ ในช่วงที่กำลังข้ามทางรถไฟ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรอยู่ด้านหน้า ยอมรับว่าตนและเพื่อนไม่ได้สวมหมวกนิรภัยมา ด้วยความตกใจ มีประชาชนถูกสกัดตรวจสอบจำนวนหลายสิบราย เพื่อนซึ่งเป็นคนขับจึงตัดสินใจบังคับรถกลับกะทันหัน และขับขี่รถพยายามเปลี่ยนเส้นทางออกไปยังด้านหน้าสถานีรถไฟนครราชสีมา ซึ่งห่างกันประมาณ 200 เมตร แต่รถแล่นไปเพียงไม่กี่สิบเมตร บริเวณทางเลี้ยวซึ่งมีป้อมยามตำรวจตั้งอยู่ พบว่ามีชายฉกรรจ์ แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจดักซุ่มอยู่ และใช้ของแข็งตีที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนกลับมาถึงที่พักเบื้องต้นคิดว่าอาการบาดเจ็บที่ศีรษะนั้นไม่เป็นอะไรมาก ประกอบกับยังอยู่ในอาการตื่นตกใจ ของพฤติกรรมอันป่าเถื่อนของเจ้าหน้าที่ เมื่อตั้งสติได้ จึงทบทวนเหตุการณ์ ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นเรื่องรุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะบริเวณศีรษะที่ถูกตีมีอาการเจ็บปวด มีร่องรอยปูดช้ำบวมโต จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
จากการสืบสวน ไปยังต้นสังกัดฝ่ายจราจร สภ.เมือง นครราชสีมา ปรากฏว่ามีการตั้งจุดกวดขันวินัยจราจรตามวันเวลาดังกล่าวจริง และทราบว่าชายที่ก่อเหตุไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา ทราบชื่อคือ นายไพโรจน์ จิตติ์ไพโรจน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/4 ถ.ไชยณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา จึงเรียกตัวมาสอบสวน
นายไพโรจน์ ให้การรับสารภาพว่าขณะปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ ไฟฉายที่อยู่ในมือของตน ไปกระแทกที่ศีรษะของ นางสาววาสนา จำนวน 1 ครั้งจริง เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุคู่กรณีแสดงอาการพิรุธ และพยายามเร่งความเร็วเพื่อหลบหนีการตรวจสอบ
จึงใช้ไฟฉายที่อยู่ในมือฉายแสงโบกแสดงสัญญาณให้หยุดชะลอความเร็ว แต่คู่กรณีได้เร่งความเร็วพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จึงทำให้กระบอกไฟฉายพลาดถูกศีรษะนางสาววาสนา ที่นั่งซ้อนท้าย อย่างไม่ได้ตั้งใจ
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายไพโรจน์ ฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่น ไปถึงกลับเป็นเหตุให้เกิดอันตราย แก่กายหรือจิตใจ พร้อมเปรียบเทียบปรับ 1 พันบาท ก่อนที่จะปล่อยตัวไป
พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมืองฯ ยอมรับว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ ซึ่งขณะนี้คู่กรณี ได้มีการเจรจาตกลงยอมความเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีข้อกังขาใดๆ สำหรับในช่วงนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจในจังหวัดนครราชสีมา มีความไม่เหมาะสมต่อประชาชน แท้จริงแล้วปัญหานี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัครตำรวจ หรือตำรวจบ้านที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามี เจ้าหน้าที่แต่งตัวลักษณะคล้ายตำรวจตั้งด่านตรวจ และเรียกรับเงิน ซึ่งมีบรรดากลุ่มวัยรุ่นที่คิดว่าเป็นตำรวจจริงยินยอมจ่ายเงิน เนื่องจากไม่ต้องการมีปัญหาใดๆ โดยได้รับการร้องเรียนมาบ่อยครั้ง ซึ่งในปีที่ผ่านมา สภ.เมือง นครราชสีมา สามารถจับกุม อาสาสมัครฯ 1 ราย กระทำผิดตั้งด่านเถื่อน และเรียกรับเงินจากประชาชน
ข่าว :
http://www.komchadluek.net/detail/20130526/159468/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A!%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3.%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%A2%E0%B8%A2..html#.UaIpPNjvnUc
ไม่ได้ตั้งใจ แก้ตัวมีเหตุผลมาก
ปรับ!'อาสาจร.'ใช้ไฟฉายตีหัวสาวซ้อนจยย.
26 พ.ค. 56 หลังจากมีการโพสต์ข้อความแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับความไม่เหมาะสมของการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจร พื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ฯลฯ และคาดว่าน่าจะมีการเผยแพร่ขยายออกไปเป็นวงกว้าง เมื่อคืนวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา ได้สั่งการให้ พ.ต.ต.ประยุทธ แพปรุ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เรียกนางสาววาสนา สิทธิเวช อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 520/3 ถนนสืบสิริ ซอย 18 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้เสียหายที่อ้างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายร่างกายโดยใช้ของแข็งตีที่ศีรษะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 25 พ.ค. บริเวณห้าแยกหัวรถไฟ เขตเทศบาลนคร นครราชสีมา มาสอบสวนเพิ่มเติม
นางสาววาสนา ให้การว่า วันเวลาเกิดเหตุได้นั่งซ้อนท้ายเพื่อนชายที่ขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน มุ่งหน้ากลับบ้านพัก ซึ่งต้องใช้เส้นทางผ่านบริเวณห้าแยกหัวรถไฟ ในช่วงที่กำลังข้ามทางรถไฟ พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรอยู่ด้านหน้า ยอมรับว่าตนและเพื่อนไม่ได้สวมหมวกนิรภัยมา ด้วยความตกใจ มีประชาชนถูกสกัดตรวจสอบจำนวนหลายสิบราย เพื่อนซึ่งเป็นคนขับจึงตัดสินใจบังคับรถกลับกะทันหัน และขับขี่รถพยายามเปลี่ยนเส้นทางออกไปยังด้านหน้าสถานีรถไฟนครราชสีมา ซึ่งห่างกันประมาณ 200 เมตร แต่รถแล่นไปเพียงไม่กี่สิบเมตร บริเวณทางเลี้ยวซึ่งมีป้อมยามตำรวจตั้งอยู่ พบว่ามีชายฉกรรจ์ แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจดักซุ่มอยู่ และใช้ของแข็งตีที่ศีรษะ 1 ครั้ง จนกลับมาถึงที่พักเบื้องต้นคิดว่าอาการบาดเจ็บที่ศีรษะนั้นไม่เป็นอะไรมาก ประกอบกับยังอยู่ในอาการตื่นตกใจ ของพฤติกรรมอันป่าเถื่อนของเจ้าหน้าที่ เมื่อตั้งสติได้ จึงทบทวนเหตุการณ์ ว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นเรื่องรุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะบริเวณศีรษะที่ถูกตีมีอาการเจ็บปวด มีร่องรอยปูดช้ำบวมโต จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ
จากการสืบสวน ไปยังต้นสังกัดฝ่ายจราจร สภ.เมือง นครราชสีมา ปรากฏว่ามีการตั้งจุดกวดขันวินัยจราจรตามวันเวลาดังกล่าวจริง และทราบว่าชายที่ก่อเหตุไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา ทราบชื่อคือ นายไพโรจน์ จิตติ์ไพโรจน์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54/4 ถ.ไชยณรงค์ ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา จึงเรียกตัวมาสอบสวน
นายไพโรจน์ ให้การรับสารภาพว่าขณะปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาช่วยเหลือเจ้าหน้าที่รัฐ ไฟฉายที่อยู่ในมือของตน ไปกระแทกที่ศีรษะของ นางสาววาสนา จำนวน 1 ครั้งจริง เนื่องจากช่วงที่เกิดเหตุคู่กรณีแสดงอาการพิรุธ และพยายามเร่งความเร็วเพื่อหลบหนีการตรวจสอบ จึงใช้ไฟฉายที่อยู่ในมือฉายแสงโบกแสดงสัญญาณให้หยุดชะลอความเร็ว แต่คู่กรณีได้เร่งความเร็วพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว จึงทำให้กระบอกไฟฉายพลาดถูกศีรษะนางสาววาสนา ที่นั่งซ้อนท้าย อย่างไม่ได้ตั้งใจ
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายไพโรจน์ ฐานความผิดทำร้ายร่างกายผู้อื่น ไปถึงกลับเป็นเหตุให้เกิดอันตราย แก่กายหรือจิตใจ พร้อมเปรียบเทียบปรับ 1 พันบาท ก่อนที่จะปล่อยตัวไป
พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมืองฯ ยอมรับว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของขั้นตอนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่อาสาสมัครตำรวจ ซึ่งขณะนี้คู่กรณี ได้มีการเจรจาตกลงยอมความเป็นที่เรียบร้อย ไม่มีข้อกังขาใดๆ สำหรับในช่วงนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านตรวจในจังหวัดนครราชสีมา มีความไม่เหมาะสมต่อประชาชน แท้จริงแล้วปัญหานี้ส่วนใหญ่จะเป็นอาสาสมัครตำรวจ หรือตำรวจบ้านที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามี เจ้าหน้าที่แต่งตัวลักษณะคล้ายตำรวจตั้งด่านตรวจ และเรียกรับเงิน ซึ่งมีบรรดากลุ่มวัยรุ่นที่คิดว่าเป็นตำรวจจริงยินยอมจ่ายเงิน เนื่องจากไม่ต้องการมีปัญหาใดๆ โดยได้รับการร้องเรียนมาบ่อยครั้ง ซึ่งในปีที่ผ่านมา สภ.เมือง นครราชสีมา สามารถจับกุม อาสาสมัครฯ 1 ราย กระทำผิดตั้งด่านเถื่อน และเรียกรับเงินจากประชาชน
ข่าว : http://www.komchadluek.net/detail/20130526/159468/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A!%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A3.%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B5%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%88%E0%B8%A2%E0%B8%A2..html#.UaIpPNjvnUc
ไม่ได้ตั้งใจ แก้ตัวมีเหตุผลมาก