สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านที่รักทุกท่าน และแล้วเรื่องที่เหล่าแฟนผีทั้งหลายไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็เกิดขึ้นจนได้ เมื่อท่าน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ปรมาจารย์แห่งวงการฟุตบอลจะล้างมือในอ่างทองคำหลังสิ้นฤดูกาลนี้แล้ว



ยอมรับว่าช็อกมากตอนได้ยินข่าวนี้ เพราะตั้งแต่เริ่มติดตามเชียร์ฟุตบอล และทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมา ก็เห็นชายคนหนึ่งท่าทางขึงขัง ดูเกรี้ยวกราด แต่ก็ดูอ่อนโยนในที ยืนอยู่ข้างสนามคอยสั่งการเหล่าลูกทีมให้เล่นตามแผน



หลายต่อหลายครั้งที่ชายคนนี้แก้เกมจากที่ทีมเป็นรองให้พลิกกลับมาเสมอและชนะ หลายต่อหลายครั้งที่ชายคนนี้ มีปากเสียงกับผู้ตัดสิน และอีกหลายต่อหลายครั้งที่ชายคนนี้ปะทะคารมกับผู้จัดการทีมฝ่ายตรงข้ามจนแฟนฟุตบอลทีมอื่นๆ ถากถางเค้าว่า เป็นมาเฟียบ้าง อะไรบ้าง แต่กับสาวกอสูรแดงทั่วโลกแล้ว ชายผู้นี้เป็นเสมือนพ่อบ้านของครอบครัวปีศาจแดง

คำว่าพ่อในที่นี้ อาจฟังดูเกินเลย แต่ถ้าได้อ่านบทสัมภาษณ์ของลูกศิษย์ลูกหาที่เคยรับใช้กองทัพปีศาจในยุคการคุมทัพของท่านเซอร์ จะเห็นได้ว่าหลายต่อหลายคนเทิดทูนป๋าว่าเสมือนเป็นพ่อคนที่ 2 ด้วยการที่ดูแลลูกทีมแบบโหดเฮี้ยบ แต่ถ้าลูกทีมมีปัญหา ป๋ามักจะรับหน้าให้ก่อนเสมอๆ หลายครั้งที่ปีกของป๋าได้กางปกป้องลูกๆ เช่นกรณี ใบแดงของเดวิด เบ็คแฮม ตอนฟุตบอลโลกปี 1998 ครั้งนั้นพี่เบ็คส์เสมือนแพะรับบาปจากการตกรอบฟุตบอลโลกของอังกฤษ ไม่ว่าจะไปแข่งสนามไหน แฟนบอลฝ่ายตรงข้ามก็โห่ใส่ แต่ป๋าก็ยังไว้ใจเบ็คแฮม และพี่เบ็คส์ก็ตอบแทนป๋าด้วยการพาทีมคว้าทริปเปิลแชมป์ในฤดูกาล 1999

และกรณี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ช่วงแรกมาแบบผอมเกร็ง บวกกะปอยผมสีทอง 3-4 กระจุก แถมเล่นบอลแปลกๆ อยู่ๆ ก็สับๆๆๆๆๆ ขา สะดุดบอลล้มเองซะงั้น จนเหล่าแฟนบอลแมนฯ ยูฯ บางคนก็ยังก่นด่าแต่ชายสูงวัยผู้นี้ก็เฝ้าฟูมฟัก ทะนุถนอม เด็กโปรตุเกสหน้าสิว ที่ใส่เหล็กดัดฟัน คนนั้นจนเป็นชายหนุ่มร่างบึ้กที่เล่นฟุตบอลได้เก่งที่สุด การันตีด้วยรางวัลบัลลง ดอร์ในฤดูกาล 2008



ไม่เพียงแต่ลูกทีมของป๋าเท่านั้นที่ยกย่องป๋าแต่หลายต่อหลายคนที่เคยเป็นคู่แข่ง คู่ปรับ คู่อาฆาตกันก็ยังหันมายกย่องป๋าของเรา คู่แข่งที่คิดว่าจะไม่มองหน้ากันอย่าง อาร์แซน เวนเกอร์ พักหลังก็หันมาญาติดีกับป๋าเพราะต่างก็ยอมรับซึ่งกันและกันอยู่ในใจ แม้กระทั่ง "เดอะ สเปเชียล วัน" มูรินโญ่ กุนซือจอมอหังการยังเรียกป๋าเราว่า "Boss"

ผจก.ทีมระดับตำนาน ที่เคยขับเคี่ยวกันในระดับถ้วยยุโรปอย่าง อ๊อตมาร์ ฮิทซ์เฟลด์, มาร์เชลโล่ ลิปปี้, ฟาบิโอ คาเปลโล่ ต่างก็ร่วมกันสรรเสริญและเสียดายในการที่ป๋าวางมือในครั้งนี้ ซึ่งจุดนี้เองเมซี่คิดว่า คำเชิดชูจากฝั่งเดียวกันเป็นความรู้สึกที่ดีมากมายแต่การเป็นที่ยอมรับของคู่แข่ง ย่อมเป็นสิ่งที่สวยงามยิ่งกว่า



ป๋าพาทีมได้แชมป์มากมายไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก13 สมัย, เอฟเอ คัพ 5 สมัย, ลีก คัพ 4 สมัย,ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, แชมป์สโมสรโลก 1 สมัยและถ้วยคัพ วินเนอร์ส, ถ้วยยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อีกอย่างละสมัย (นับเฉพาะตอนคุม แมนฯ ยูฯ)

ความสำเร็จต่างๆ ทำให้ป๋าได้มายืนตระหง่านเป็นรูปปั้นหน้าสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้รับเกียรติให้ชื่อของตัวเองได้เป็นชื่อสแตนด์ฝั่งด้านเหนือของสนาม และยังได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นอัศวินแห่งอังกฤษ นับเป็นชาวสกอตต์เพียงไม่กี่คนที่ได้รับเกียรติอย่างสูงเช่นนี้

การให้ป๋าเป็นมากกว่าตำนานก็คงจะไม่เกินเลยไปจริงๆ สำหรับสิ่งที่ป๋ามอบให้แก่วงการฟุตบอล โชคดีของพวกเราจริงๆ ที่เกิดมาทันยุคสุดมหัศจรรย์และยิ่งใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขอบคุณค่ะป๋าดูแลสุขภาพด้วยนะคะ



ไม่นานนับจากการประกาศวางมือของป๋า ชายชื่อ เดวิด มอยส์ ก็ได้เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกที่จะเข้ามาสืบสานต่อยอดงานของป๋า ด้วยสัญญาคุมทีม 6 ปี การที่เป็นคนสกอตแลนด์เหมือนกัน การที่คุมทีมเดียวต่อเนื่องยาวนาน การคุมซื้อตัวนักเตะราคาไม่แพงมาปั้นจนดัง การพาเอฟเวอร์ตันได้ลุ้นอันดับเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้ในระยะหลังๆ รวมถึงการทำทีมจบเหนือลิเวอร์พูลได้ (อาจจะ 2 ฤดูกาลติด) เมซี่ก็หวังว่านี่จะเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งของตำนานคนถัดไป

ถึงแม้หลายๆ คนรวมถึงแฟนบอลคู่แข่งจะปรามาสว่า นี่คือการเดินหน้าสู่ยุคตกต่ำของจักรวรรดิปีศาจแดง เมซี่ และเหล่าเร้ด อาร์มี่ ก็ยังคงทำหน้าที่ตามเชียร์กันต่อไป และฤดูกาลหน้า เมซี่ก็ไม่หวังอะไรมาก ขอชนะลิเวอร์พูลกะแมนฯ ซิตี้ ไป-กลับให้ได้ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะ



แว่วๆ ข่าวมาว่า เจ้ามู๋รูนอยากจะย้ายทีมเชอะ! อยากไปก็ไปเลย แต่ขออาวุธหนักอย่าง แกเร็ธ เบล กะ มารูยาน เฟลไลนี่ มาแทนจะดีมากๆ ค่ะ

อ้อ...ถ้ารูนี่ย์จะไปจริงๆ ฝาก นานี่, อันแดร์สัน, วาเลนเซียและ เบเบ้ ติดกระเป๋าไปทิ้งทะเลด้วยนะคะ พบกันใหม่สัปดาห์หน้าค่ะ