หลายวันแล้วเห็นภาพที่บรรดา เพื่อนพ้องน้องพี่
เอาภาพ การชุมนุม ของพวกรักชาติ แล้วก้มีภาพ
ผู้คน ที่ออกมาแต่งกายเลียนแบบ คอมมิวนิสต์
มีหมวก ดาวแดง เสื้อเขียว มีแถบ แถม เข็มขัด นั่น
ตราทหาร ไอ้เข็มขัดนี่ ผม เคยใส่ มาตั้งแต่เรียน ร.ด.
แล้ว ออกมาเข้าแถว ชุมนุมกัน ร้องตะโกน ว่าจะปกป้องสถาบัน
คงหมายถึง สถาบันกษัตริย์  พวกที่ออกมาแต่งกายเลียนแบบ
นี่ คะเนดู อายุ คงมีตั้งแต่ 20 ต้น ๆไปถึง 50 กว่า ๆเห็นจะได้

ก้แปลกใจ ที่พวกที่อยู่เบื้องหลัง คงคิดว่า คนไทย คงโง่กันทุกคน
เลยเอาสี่งที่  ศักดินาเกลียดที่สุด มาเล่น

ครับ ไอ้คอมมิวนิสต์ นี่ ผมได้ยินตั้งแต่ เด็ก ๆ ตอนปี 2504  
จอมพลสฤษฏ์  เอา ภาพของนายศุภชัย ศรีสติ มาแสดงที่ท้องสนามหลวง
มีทั้งหนังสือ ของ เหมาเซตุง  เลนิน มารกซ์ ที่ นายศุภชัย แกเอามา
รวบรวมไว้  มีอาวุธต่างๆ เช่นเอาปืนพกไป ใส่ไว้ในหนังสือ ที่เจาะเป็นช่อง

แล้ว จอมพล ผ้าขาวม้าแดง ก้สั่งประหาร นายศุภชัย ด้วย ม. 17  ยิงกันที่
ข้างสนามหลวง คนแห่ไปดู กันยังกับมีงานใหญ่  ตั้งแต่นั้นมา ผู้คน ที่นิยมชมชอบ
ในลัทธิคอมมิวนิสต์ ก็ถูกประหารเป็นแถว เช่น นายครอง จันดาวงค์ แล้วอีกหลายคน
ผมจำชื่อไม่ได้  ช่วงนั้น คอมมิวนิสต์ เป็นสี่งต้องห้ามสำหรับคนไทย  แต่การสู้รบด้วยอาวุธ
ยังไม่เกิดขึ้น

จนเมื่อ  7 สิงหา 08 เสียงปืน ของการต่อสู้ ของ คอมมิวนิสต์ กับ รัฐบาลจอมพลถนอม
ก็เกิดขึ้น ที่บ้านนาบัว  อำเภอเรณูนคร จังหวัดนครพนม พวกคอม สมัยนั้นเรียกว่า วันเสียงปืนแตก
เสียงบประมาณ และชีวิต ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ รวมทั้งประชาชนไปเป็นจำนวนมาก
มาสงบเมื่อ ปี 2525 ที่เลิกการสู้รบ หันมาใช้สภาเป็น การแสดงความคิด แทน

หลักการของคอมมิวนิสต์ เบื้องต้น คือการไม่เอาระบบกษัตริย์ สั้น ๆคือไม่เอา เจ้า
เขาเรียกพวกนี้ ว่า พวกปฏิกริยา ผมได้ยิน คำนี้บ่อย ๆ แม้ในปัจจุบัน ก็ได้ยินจากปากของ
คนที่นิยม คอม ฯ ที่ยังหลงเหลือในปัจจุบัน นี้บ่อย ๆ

ความจริงแล้ว พวกนิยม คอม ฯ ของประเทสไทย เกิดจาก ที่ ไทยเรามี ระบอบ เผด็จการ
ครองอำนาจ ทางการเมือง มาอย่างช้านาน เผด็จการทหาร ต่างหาก ที่ทำให้เกิด การดี้นรน
ที่จะหลุดจาก อำนาจนั้น ผู้คน เห็นการเอาเปรียบ ไม่ว่าทาง เศษฐกิจ การค้า ที่เป็น อำนาจผูกขาด
ประเทศไทย มานาน ผู้นำเผด็จการ มีชื่อเป็นประธานกรรมการ ของ บริษัท ทุกแห่ง ในประเทศ
มีชื่อเป็นกรรมการ มีหุ้น ทุกแห่งของการเป็นห้างหุ้นส่วน  การผูกขาดเหล่านี้คือจุดเริ่มต้น ของการไม่เอา
เผด็จการ และไปสู่การ นิยม ลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่ถ้า รัฐบาลสมัยนั้น ให้ความรู้ กับประชาชน
อย่างดี พวกคอม ฯ ก้เป็นสี่งผูกขาด ของระบบ บ้านเมืองอีก รูปหนึ่ง  แต่รัฐบาลสมัยนั้นไม่
ศึกษาให้ละเอียด ต้องใช้แนวทางในการกำจัด คนเห็นต่าง

พวกนิยมคอม ฯ ปัจจุบันคง อายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไปแล้ว เพราะเวลา ตั้งแต่ ปี 08 มา ณ.
เวลานี้ ห่างกัน เกือบ 50 ปี  อุดมการณ์ ต่าง ๆไม่น่าจะหลงเหลือกับ คนรุ่นที่เห็นในภาพ
ที่เอาออกมา ปลุกกัน  เพราะแม้แต่ คอมจ๋า อย่าง จีน อย่างเวียตนาม รัสเซีย  ล้วน
เปลี่ยนแนวทางหมด ด้วยเหตุผล ที่ความยากจนจาก การดำเนินการของระบอบ  ประเทศเหล่านั้น
ไม่มีระบบกษัตริย์ ที่เป็นสัญญลักษณ์ ของการเชื่อมโยงทางจิตใจ

คนที่นิยมคอม ฯ ไม่มีวันเปลี่ยน จิตใจของประชาชนไปได้ จึงได้เปลี่ยนการสู้รบ
มาเป็นการสู้ทางความคิดในระบอบคอม ฯ กัน ในระบอบประชาธิปไตย
ระบอบคอมมิวนิสต์ ไม่มีวันที่จะญาติดี กับระบอบกษัตริย์ อย่างแน่นอน  เขามีความเห็นว่า
พวก royalism เป็นพวกเอาเปรียบ ประชาชน ต้องใช้ ระบอบ ที่เรียกว่า populationlism
จึงจะมีความเสมอภาคกัน

เมื่อ มีการนำเอา ประชาชนมาสวมเครื่องแบบกองทัพปลดปล่อย ออกมา
ถ่ายรูป ออกมาปกป้องสถาบัน จึงเป็นสี่งที่ ประชาชนรุ่นผม แปลกใจ
สื่อ ก็เอาภาพเหล่านี้มาลง โดยไม่ศึกษา ที่มาที่ไปของ คอมมิวนิสต์ ว่า
มันเกิดมาได้อย่างไรในประเทศ  อุดมการณ์ เป็นอย่างไร  ไม่เอา ความเป็นมา
ของประวัติศาสตร์ มาให้ประชาชนได้ทราบ

ที่น่าแปลกใจที่สุด ก็คือผู้อยู่เบื้องหลัง ของการนำ เอา ประชาชนมาแต่งตัว
ด้วยเครื่องแบบ มีความประสงค์ ที่จะแยก ประชาชน ที่กำลัง แสวงหา
ประชาธิปไตย ที่แท้จริง กับประชาชน ที่เคย อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับ ระบอบเก่า
มาสนับสนุน กลุ่ม รอยัลลิสต์  มันตรงข้ามกันอย่างสี้นเชิง

หรือเป็นหนทางสุดท้าย ที่จะยื้อเอา สี่งที่จะสูญเสียให้กับ ประชาชนไปอย่างแท้จริง
คอม ฯทั้งหลายไม่มีวันที่จะรักเจ้า อย่างที่เอา คนมาแต่งตัว แล้ว บอกว่า
พวกเรารัก  ประชาชนต่างหาก ที่รักพระองค์ ท่าน  อย่าดึง พระองค์ ลงมาแปดเปื้อน
กับ สี่ง ที่กำลังต่อสู้กัน

แล้วเป็นไง กระแส ที่ปลุก ออกมา ก็ แห้วไปหมด มีแต่ความขบขัน ล้อเลียนในสี่งที่พวกสี้นคิด ได้กระทำ