เลขที่หนังสือ    : กค 0702/9961
วันที่    : 14 ธันวาคม 2554
เรื่อง    : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการขายและโอนหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว
ข้อกฎหมาย    : กฎกระทรวง ฉบับที่ 126 ข้อ 2(66)(67) แห่งประมวลรัษฎากร
ข้อหารือ              ธนาคารฯ ได้หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีการ ขายและโอนหน่วยลงทุนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) มีข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
          ๑. นาย อ. (ลูกค้า) ได้ถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้น ระยะยาว (LTF) จำนวน ๓ กองทุน ดังนี้
           ๑. ปี ๒๕๔๙ SCBL T๒ จำนวน ๑๗,๓๙๔,๑๕๒๓ หน่วย
           ๒. ปี ๒๕๕๐     SCBL T๒ จำนวน ๑๘,๙๖๗..๕๖๐๒ หน่วย
           ๓. ปี ๒๕๕๑ SCBL T๒ จำนวน ๒๔,๑๐๘.๒๙๕๘ หน่วย
          ๒. เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ ลูกค้าแจ้งความประสงค์ ต่อธนาคารฯ ให้ทำการขายหน่วยลงทุนกองทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๔๙ ซึ่งถือครบ ๕ ปีปฏิทินแล้ว และให้โอนหน่วยลงทุนกองทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๕๐ และปี ๒๕๕๑ ไปยังกองทุน SCBLTS แต่ธนาคารฯ ได้ทำรายการขายหน่วยลงทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๕๑ และโอนหน่วยลงทุน กองทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๔๙ และปี ๒๕๕๐ ไปยังกองทุน SCBLTS ซึ่งไม่เป็นไปตามความประสงค์ของลูกค้า เป็นเหตุให้ลูกค้าหมดสิทธิ ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้และต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับปีภาษีที่ได้นำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนปี ๒๕๕๑ ไปหักออกจากภาษีเงินได้ พร้อมเงิน เพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร
          ๓. ธนาคารฯ ได้หารือว่า หากธนาคารฯ ได้ดำเนินการแก้ไขให้ถูกต้องตามความประสงค์อันแท้จริงของลูกค้าภายในปีภาษีที่เกิดความผิดพลาด ลูกค้าจะยังคงได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามความใน ข้อ ๒(๖๖) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๙ ใช่หรือไม่
แนววินิจฉัย              กรณีการซื้อหน่วยลงทุน LTF ที่จะได้รับยกเว้นไม่ต้อง รวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่จ่ายเป็นค่าซื้อหน่วยลงทุน LTF ผู้มีเงินได้ต้องถือหน่วยลงทุน LTF (ที่ซื้อ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๑ เป็นต้นไป) ผู้มีเงินได้จะต้องถือหน่วยลงทุน LTF ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๕ ปีปฏิทิน แต่ ไม่รวมถึงกรณีผู้มีเงินได้ไถ่ถอนหน่วยลงทุน LTF เพราะทุพพลภาพหรือตาย ทั้งนี้ ตามข้อ ๒(๖๖) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙)ฯ และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๖๙)ฯ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
          กรณีนาย อ. แจ้งความประสงค์ต่อธนาคารฯ เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๓ ให้ทำการขายหน่วยลงทุนกองทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๔๙ ซึ่งถือครบ ๕ ปีปฏิทินแล้ว และให้โอนหน่วยลงทุนกองทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๕๐ และปี ๒๕๕๑ ไปยังกองทุน SCBLTS แต่ธนาคารฯ ได้ทำรายการขายหน่วยลงทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๕๑ และโอน หน่วยลงทุนกองทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๔๙ และปี ๒๕๕๐ ไปยังกองทุน SCBLTS จึงเป็นเหตุทำให้การขายหน่วยลงทุน SCBLT๒ ปี ๒๕๕๑ ซึ่งจะต้องถือหน่วยลงทุน LTF ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๕ ปีปฏิทิน ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยว กับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๖๙)ฯ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เมื่อนาย อ. ซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาวและได้ใช้สิทธิยก เว้นภาษีเงินได้แล้ว และต่อมาได้ปฏิบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด จึงหมดสิทธิได้รับยก เว้นภาษีเงินได้และต้องเสียภาษีเงินได้สำหรับปีภาษีที่ได้นำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนไปหักออกจากเงินได้เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้มาแล้วที่อยู่ใน ช่วงระยะเวลาไม่เกิน ๕ ปี นับตั้งแต่วันทีได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ของปีภาษีนั้น ๆ จนถึงวันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมเพื่อเสียภาษีเงินได้เพิ่มเติมของปีภาษีดังกล่าวพร้อมเงินเพิ่มตามมาตรา ๒๗ แห่งประมวลรัษฎากร ทั้งนี้ ตามความใน ข้อ ๒(๖๖) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๒๖ (พ.ศ. ๒๕๐๙)ฯ ลงวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๙ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๖๖ (พ.ศ. ๒๕๕๑) ประกอบกับข้อ ๗ ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ ๑๖๙)ฯ ลงวันที่ ๒๔ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
เลขตู้    : 74/37948