จากกระทู้ด้านล่าง
http://ppantip.com/topic/30510111
http://ppantip.com/topic/30482338
ได้วางแผนการเดินทางด้วยมอไซไปเสียมเรียบ และกังวลใจอยู่ว่าจะสามารถผ่านศุลกากรเข้ากัมพูชาอย่างที่วางแผนได้ไหม
สรุปได่ว่าไม่ได้ครับ อันนี้อับเดทล่าสุดแล้ว 25 พ.ค. 2556
จะขอเล่าตามนี้ครับ ผมเดินทางด้วย SYM 400i ถึงด่านอรัญประเทศทำเรื่องศุลกากรฝั่งไทยและผ่านตม.ฝั่งไทยเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาไม่นานมากจากนั้นวิ่งเข้าไปฝั่งกัมพูชาและผ่านตม.กัมพูชา โดยใช้เวลาไม่นานมากเช่นกัน ที่จุดตม.กัมพูชา พอเจ้าหน้าที่ตม.เห็นเราเอารถเข้ามาและผ่านตม.เรียบร้อยแล้ว ก็จะบอกเด็กในสังกัด(ชาวบ้านแถวนั้น)ให้นำพาเราไปที่สำนักศุลกากร ซึ่งห่างไปไม่มากประมาณร้อย-สองร้อยเมตรด้านซ้ายมือและเรียกเก็บเงินทั้งๆที่ไม่ได้เจรจาช่วยกับจนท.ศุลกากรแต่อย่างใด แต่ตอนจะให้พาไปกลับบอกว่าต้องมีคนพาไปเพื่อคุยเพราะเราคุยภาษาเขมรไม่ได้
จากนั้นผมก็ได้คุยกับจนท.ศุลกากรกัมพูชา เขาตรวจดูเอกสารไม่นานแค่นาทีเดียว ก็บอกว่าไม่สามารถปล่อยผ่านเข้าไปได้
ผมอธิบายและร้องขอพร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะดูแลทรัพย์สินและขับขี่อย่างระมัดระวังอย่างที่สุดแล้วก็ตาม(อย่างที่เตรียมตัวไปว่าจะต้องเจอแบบนี้) จนท.ก็ไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าไปเสียมเรียบอย่างเด็ดขาด เจรจาอยูประมาณยี่สิบนาทีก็ไม่เป็นผล ต้องเดินคอตกออกมา
จากนั้นก็พี่คนนึงซึ่งคุยกันก่อนตอนเข้าทำเอกสารศุลกากรฝั่งไทย พี่คนนี้มีธุรกิจและเข้าออกกัมพูชาโดยใช้รถส่วนตัวบ่อยครั้งมาก โดยพี่เขาทำเสร็จก่อนและขับรถยนต์(แคมรี่) เข้าฝั่งกัมพูชาไปก่อนหน้าแล้ว โดยไม่ใช้บริการเด็กนำทางไปสนง.ศุลกากรกัมพูชาและไม่เข้าไปคุยในสนง.เลย แบบว่าขับผ่านเข้าเมืองไปเลยเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
พอจังหวะที่ผมเดินคอตกออกมานั่งทำใจและกับแฟนสักพัก ก็เจอพี่เขาถูกสายตรวจต้อนเข้ามาที่สนงศุลกากรกัมพูชาพอดี(เนื่องจากเป็นด่านใหญ่เลยมีสายตรวจเยอะ) แล้วพี่เขาก็เข้าไปคุยกับจนท.ด้านในนานมากเกือบชั่วโมงนึง สรุปไม่สามารถเข้าได้แล้วทั้งรถยนต์และมอไซ พี่เขาต้องจอดรถทิ้งไว้ที่สนง.ศุลกากรกัมพูชาและเช่ารถขับพาครอบครัวไปพระตะบองแทนรถตัวเอง พี่เขาก็บ่นว่าสองสามเดือนก่อนก็เพิ่งมาไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย
ผมก็ไม่ละความพยายาม เอาวะ ไหนๆมาถึงนี่แล้ว ลองเข้าด่านอื่นที่เล็กๆดูหน่อยดิ๊ เผื่อจะเข้าไปได้แล้วมั่วนิ่มขี่ไปจนถึงเสียมเรียบเลย ผมจัดการวิ่งกลับเข้าไทย ไปเข้ากัมพูชาที่ด่านช่องผักกาด โป่งน้ำร้อน จันทบุรี ติดไพลินของกัมพูชา(พอดีเปิดเนตแล้วไม่เจอด่านช่องบ้านแหลมที่ติดพระตะบองซึ่งใกล้กว่า) ก็ดำเนินการเหมือนเดิมคือจัดการพิธีการศุลกากรไทย ตม.ไทย ตม.กัมพูชา ศุลกากรกัมพูชา ตม.กัมพูชาเห็นพาสปอร์ตก็สงสัย อ้าว เห็นตราแสตมป์เข้าเมืองมาแล้วนี่นาวันนี้ ทำไมมาเข้าทางนี้อีกหละ ก็เลยบอก(โกหก)ว่าพอดีจะมาไพลินแต่ทางปอยเปตไม่ให้เอารถเข้าเพราะวิ่งข้ามเขตจังหวัด อ่อ ก็แล้วไป
ทีนี้ก็ตาศุลกากรกัมพูชาละ แต่ที่นี่คุยง่ายแฮะ(ก็แหงแหละผมบอกว่าจะมาไพลินนี่นาก็ตรงๆอยู่แล้ว)
ก็เลยทำเอกสารศุลกากรให้โดยยึดเอกสารศุลกากรไทยของเราไว้และบอกว่าต้องกลับมาที่นี่ แล้วเอาเอกสารของเขามาแลกคืนเท่านั้น ถึงคืนเอกสารศุลกากรของเราให้ ในใจก็คิดว่าไม่เป็นไรตรูเข้าได้แล้วเหวย ออกทางเดิมที่นี่ก็ได้ฟะ เลยลองถามเลียบๆเคียงๆดูว่า แหม ไพลินจังหวัดเล็กนิดเดียว แล้วผมก็เพิ่งมาครั้งแรกถ้าเกิดมีวิ่งเลยพื้นที่ไปบ้างจะเป็นไรไหม(ในใจกะจะเลยไปเสียบเรียบเลยแหละ เหอ เหอ) ตำรวจจะปรับเท่าไรครับ(กะว่าปรับก็จ่ายฟะ ยัดตังอะแหละ) พี่เขาบอก ตำรวจหรือศุลกากรพื้นที่อื่น ถ้าเจอผมเขาจะไม่ปรับอะดิ เขาจะเอาทั้งคนและรถเข้าไปสอบสวนในพนมเปญเลย(ขู่เปล่าฟะเนี่ย แต่ได้ผลเพราะมันไม่คุ้มเสีย ดับฝันอันยิ่งใหญ่จนมิดด้ามทีเดียวเชียว)
อ้าว ซวยเดะ ไม่อยากเข้าขึ้นมาจับใจ แต่ทำไงได้ The show must go on ถอยไม่ได้แล้วนี่เดี๋ยวน่าสงสัยไปอีก วิ่งเข้าเมืองไพลินหาโรงแรมนอนเพราะเย็นมากแล้ว โห หาแทบไม่ได้เพราะเมืองเล็กมาก เหมือนตัวอำเภอขนาดเล็กแต่ไม่เล็กจิ๋ว โชคดีแฟนตาไวมองเห็นโรงแรม สภาพพออยู่ได้มีแอร์น้ำอุ่น แค่สามร้อยบาท เอาหน่า นอนนี่แหละ เช้ามาก็รีบออกไปด่านกลับระยองทันที
สรุป ทางศุลกากรไพลินบอกว่าถ้าจะมาและวิ่งได้ทั่วกัมพูชาต้องทำเรื่องประสานที่สถานทูตก่อนจากนั้นสถานทูตจะส่งต่อให้พนมเปญส่งต่อให้ศุลกากรพื้นที่ต่างๆได้รับทราบ
ตอนนี้กำลังหาทางจัดการออกเอกสารอันนี้ให้ได้ มันคาใจ ต้องเข้าให้ได้ดิวะ ไม่ยอมแพ้หรอก
พอดีมี(แก็งค์)(ขอตัดคำว่าแก็งค์ออกครับเพราะอาจจะตีความหมายในทางไม่ดี พอดีด้านล่างแย้งมาครับ)กลุ่มคนรวยสองกลุ่ม สามารถผ่านไปได้ง่ายๆเลย(ช่วงรอพี่เขาคุยที่ศุลกากรปอยเปต มีเข้ามาสองกลุ่ม เป็นเพราะสองกลุ่มนี้เขามีทัวร์จัดการเอกสารให้เลยเสียเวลาแค่แปบเดียว กินน้ำยังไม่ทันหมดขวด ออกไปกันแล้ว)
ไปมาแล้วทริประยอง-เสียมเรียบ ศุลกากรกัมพูชาทำซะหงายเงิบกันไป
http://ppantip.com/topic/30510111
http://ppantip.com/topic/30482338
ได้วางแผนการเดินทางด้วยมอไซไปเสียมเรียบ และกังวลใจอยู่ว่าจะสามารถผ่านศุลกากรเข้ากัมพูชาอย่างที่วางแผนได้ไหม
สรุปได่ว่าไม่ได้ครับ อันนี้อับเดทล่าสุดแล้ว 25 พ.ค. 2556
จะขอเล่าตามนี้ครับ ผมเดินทางด้วย SYM 400i ถึงด่านอรัญประเทศทำเรื่องศุลกากรฝั่งไทยและผ่านตม.ฝั่งไทยเป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาไม่นานมากจากนั้นวิ่งเข้าไปฝั่งกัมพูชาและผ่านตม.กัมพูชา โดยใช้เวลาไม่นานมากเช่นกัน ที่จุดตม.กัมพูชา พอเจ้าหน้าที่ตม.เห็นเราเอารถเข้ามาและผ่านตม.เรียบร้อยแล้ว ก็จะบอกเด็กในสังกัด(ชาวบ้านแถวนั้น)ให้นำพาเราไปที่สำนักศุลกากร ซึ่งห่างไปไม่มากประมาณร้อย-สองร้อยเมตรด้านซ้ายมือและเรียกเก็บเงินทั้งๆที่ไม่ได้เจรจาช่วยกับจนท.ศุลกากรแต่อย่างใด แต่ตอนจะให้พาไปกลับบอกว่าต้องมีคนพาไปเพื่อคุยเพราะเราคุยภาษาเขมรไม่ได้
จากนั้นผมก็ได้คุยกับจนท.ศุลกากรกัมพูชา เขาตรวจดูเอกสารไม่นานแค่นาทีเดียว ก็บอกว่าไม่สามารถปล่อยผ่านเข้าไปได้ ผมอธิบายและร้องขอพร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะดูแลทรัพย์สินและขับขี่อย่างระมัดระวังอย่างที่สุดแล้วก็ตาม(อย่างที่เตรียมตัวไปว่าจะต้องเจอแบบนี้) จนท.ก็ไม่อนุญาตให้เดินทางเข้าไปเสียมเรียบอย่างเด็ดขาด เจรจาอยูประมาณยี่สิบนาทีก็ไม่เป็นผล ต้องเดินคอตกออกมา
จากนั้นก็พี่คนนึงซึ่งคุยกันก่อนตอนเข้าทำเอกสารศุลกากรฝั่งไทย พี่คนนี้มีธุรกิจและเข้าออกกัมพูชาโดยใช้รถส่วนตัวบ่อยครั้งมาก โดยพี่เขาทำเสร็จก่อนและขับรถยนต์(แคมรี่) เข้าฝั่งกัมพูชาไปก่อนหน้าแล้ว โดยไม่ใช้บริการเด็กนำทางไปสนง.ศุลกากรกัมพูชาและไม่เข้าไปคุยในสนง.เลย แบบว่าขับผ่านเข้าเมืองไปเลยเหมือนที่เคยทำทุกครั้ง
พอจังหวะที่ผมเดินคอตกออกมานั่งทำใจและกับแฟนสักพัก ก็เจอพี่เขาถูกสายตรวจต้อนเข้ามาที่สนงศุลกากรกัมพูชาพอดี(เนื่องจากเป็นด่านใหญ่เลยมีสายตรวจเยอะ) แล้วพี่เขาก็เข้าไปคุยกับจนท.ด้านในนานมากเกือบชั่วโมงนึง สรุปไม่สามารถเข้าได้แล้วทั้งรถยนต์และมอไซ พี่เขาต้องจอดรถทิ้งไว้ที่สนง.ศุลกากรกัมพูชาและเช่ารถขับพาครอบครัวไปพระตะบองแทนรถตัวเอง พี่เขาก็บ่นว่าสองสามเดือนก่อนก็เพิ่งมาไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย
ผมก็ไม่ละความพยายาม เอาวะ ไหนๆมาถึงนี่แล้ว ลองเข้าด่านอื่นที่เล็กๆดูหน่อยดิ๊ เผื่อจะเข้าไปได้แล้วมั่วนิ่มขี่ไปจนถึงเสียมเรียบเลย ผมจัดการวิ่งกลับเข้าไทย ไปเข้ากัมพูชาที่ด่านช่องผักกาด โป่งน้ำร้อน จันทบุรี ติดไพลินของกัมพูชา(พอดีเปิดเนตแล้วไม่เจอด่านช่องบ้านแหลมที่ติดพระตะบองซึ่งใกล้กว่า) ก็ดำเนินการเหมือนเดิมคือจัดการพิธีการศุลกากรไทย ตม.ไทย ตม.กัมพูชา ศุลกากรกัมพูชา ตม.กัมพูชาเห็นพาสปอร์ตก็สงสัย อ้าว เห็นตราแสตมป์เข้าเมืองมาแล้วนี่นาวันนี้ ทำไมมาเข้าทางนี้อีกหละ ก็เลยบอก(โกหก)ว่าพอดีจะมาไพลินแต่ทางปอยเปตไม่ให้เอารถเข้าเพราะวิ่งข้ามเขตจังหวัด อ่อ ก็แล้วไป
ทีนี้ก็ตาศุลกากรกัมพูชาละ แต่ที่นี่คุยง่ายแฮะ(ก็แหงแหละผมบอกว่าจะมาไพลินนี่นาก็ตรงๆอยู่แล้ว) ก็เลยทำเอกสารศุลกากรให้โดยยึดเอกสารศุลกากรไทยของเราไว้และบอกว่าต้องกลับมาที่นี่ แล้วเอาเอกสารของเขามาแลกคืนเท่านั้น ถึงคืนเอกสารศุลกากรของเราให้ ในใจก็คิดว่าไม่เป็นไรตรูเข้าได้แล้วเหวย ออกทางเดิมที่นี่ก็ได้ฟะ เลยลองถามเลียบๆเคียงๆดูว่า แหม ไพลินจังหวัดเล็กนิดเดียว แล้วผมก็เพิ่งมาครั้งแรกถ้าเกิดมีวิ่งเลยพื้นที่ไปบ้างจะเป็นไรไหม(ในใจกะจะเลยไปเสียบเรียบเลยแหละ เหอ เหอ) ตำรวจจะปรับเท่าไรครับ(กะว่าปรับก็จ่ายฟะ ยัดตังอะแหละ) พี่เขาบอก ตำรวจหรือศุลกากรพื้นที่อื่น ถ้าเจอผมเขาจะไม่ปรับอะดิ เขาจะเอาทั้งคนและรถเข้าไปสอบสวนในพนมเปญเลย(ขู่เปล่าฟะเนี่ย แต่ได้ผลเพราะมันไม่คุ้มเสีย ดับฝันอันยิ่งใหญ่จนมิดด้ามทีเดียวเชียว)
อ้าว ซวยเดะ ไม่อยากเข้าขึ้นมาจับใจ แต่ทำไงได้ The show must go on ถอยไม่ได้แล้วนี่เดี๋ยวน่าสงสัยไปอีก วิ่งเข้าเมืองไพลินหาโรงแรมนอนเพราะเย็นมากแล้ว โห หาแทบไม่ได้เพราะเมืองเล็กมาก เหมือนตัวอำเภอขนาดเล็กแต่ไม่เล็กจิ๋ว โชคดีแฟนตาไวมองเห็นโรงแรม สภาพพออยู่ได้มีแอร์น้ำอุ่น แค่สามร้อยบาท เอาหน่า นอนนี่แหละ เช้ามาก็รีบออกไปด่านกลับระยองทันที
สรุป ทางศุลกากรไพลินบอกว่าถ้าจะมาและวิ่งได้ทั่วกัมพูชาต้องทำเรื่องประสานที่สถานทูตก่อนจากนั้นสถานทูตจะส่งต่อให้พนมเปญส่งต่อให้ศุลกากรพื้นที่ต่างๆได้รับทราบ
ตอนนี้กำลังหาทางจัดการออกเอกสารอันนี้ให้ได้ มันคาใจ ต้องเข้าให้ได้ดิวะ ไม่ยอมแพ้หรอก พอดีมี(แก็งค์)(ขอตัดคำว่าแก็งค์ออกครับเพราะอาจจะตีความหมายในทางไม่ดี พอดีด้านล่างแย้งมาครับ)กลุ่มคนรวยสองกลุ่ม สามารถผ่านไปได้ง่ายๆเลย(ช่วงรอพี่เขาคุยที่ศุลกากรปอยเปต มีเข้ามาสองกลุ่ม เป็นเพราะสองกลุ่มนี้เขามีทัวร์จัดการเอกสารให้เลยเสียเวลาแค่แปบเดียว กินน้ำยังไม่ทันหมดขวด ออกไปกันแล้ว)