สวัสดีครับ
วันนี้คือหัวข้อสุดท้ายที่เราจะมาทำความเข้าใจกัน ก่อนลุยกราฟพรุ่งนี้
Bollinger band  ก็คือเส้นค่าเฉลี่ยนั่นแหละครับเหมือนEMA แต่คิดค่าเบี่ยงเบน บวก2sd และลบ2sd
เส้นบน บวก2sdคือ u band. =Upper  band
เส้นล่าง  ลบ2sdคือ l band.  =Lower band
การใช้งานแบบง่ายๆ
แบบที่1คือเมื่อราคาทะลุband
เกือบ100%แท่งเทียนต้องอยู่ในbandเสมอ นั่นคือถ้ามันทะลุด้านล่าง ราคาต้องreboundกลับแน่นอน ท่านก็ซื้อตอนที่มันทะลุbandแล้วขายตอนที่มาในband เรียกว่าเล่นrebound กินนิ่มๆครับ แต่อย่าคิดว่ามันจะไปต่อ เอากำไรแค่นั้นแล้วออก
ยกตัวอย่าง cpall

23/4/2013 ราคาร่วงรุนแรงจนหลุดLband ไปใกล ผมก็ซื้อแหลกจนหมดกระสุน แล้วรอสามวัน เท่านั้นละครับราคาก็วิ่งกลับมาในband ผมก็ขายออก ได้ลำไยมากิน มันจะไปต่อช่างมันครับเพราะเราเอาแค่นี้
ตัวอย่างที่สองintuch

17/5/2013 ราคาพุ่งจนหลุดกรอบUband แบบนี้ท่านต้องไม่ตามครับ ต้องขายบางส่วนเพราะราคาต้องกลับย่อตัวเข้าbandเสมอ ถ้ากราฟวันต่อไปยังดีก็กลับมาซื้อท่านจะได้ราคาต่ำกว่าครับ
แบบที่2คือการบอกแนวโน้ม
ง่ายนิดเดียวครับ ถ้าbandแคบนั่นคือside way แบบนี้เราก็ดูอย่างเดียวไม่ต้องเล่น
                        ถ้าBandอ้าออกและราคาติดUband นั่นคือขาขึ้นครับ ตามได้เลย
                        ถ้าBandอ้าออกและราคาติดLband  นั่นคือขาลงครับ ท่านโกยครับ
ยกตัวอย่างadvanc 28/12/2012 bandบีบแคบ แบบนี้เล่นเสียค่ามาร์ครับดูๆก็พอ

ตัวอย่างที่สองAAV17/05/2013เส้นbandถ่างออกและราคาอยู่Lband แบบนี้โกยครับ

ตัวอย่างที่สามadvancเมื่อ12/4/2013bandถ่างออกและราคาอยู่ที่Uband แบบนี้ตามได้เลยครับ

แบบที่3คือใช้เป็นแนวรับ/ต้านได้
Ubandคือแนวต้าน
Lbandคือแนวรับ
แต่ข้อสามค่อนข้างหยาบครับ ผมมักใช้parabolicแทน
ทั้งParabolic และbollinger band มักใช้ร่วมกันครับ เพราะparabolicตอนbandแคบหรือside wayมักไม่มีความหมาย
เอาเท่านี้ครับ รู้มากก็งงปล่าวๆ ผมใช้เท่านี้ก็พอครับ
เรื่องWave ดูแล้วมีความไม่แน่นอนสูง และจินตนาการ เคยใช้แต่ไม่ค่อยดี
Indicatorใช้แค่MACD,RSI,STOพอแล้วครับ
ทีนี้เพื่อนๆที่มีiPad load smart chartมา พรุ่งนี้ลุยกันครับ
วันนี้เท่านี้ก่อนพรุ่งนี้ลุยกราฟกันครับ