รอบชิงชนะเลิศ UCL ที่ทำให้เกิดจินตนาการบรรเจิด บาเยิร์นและดอร์ทมุนด์จะกวาดรายได้ในซีซั่นน้เยอะอย่างไม่เคยมีมาก่อน การเจริญเติบโตในตลาดูกหนังที่ดำเนินไปไม่หยุดยั้ง
ไม่ใช่แต่ในเยอรมันเท่านัน ที่แฟน ๆทำอไรบ้าๆ บอๆ กัน ในบ้านเราเท่าที่เห็น post กันใน facebook ก็เห็นไม่เบาเหมือนกัน ที่ดูเหมือนว่าฝั่ง ‘เสือเหลือง’ จะมีพวกพ้องในโลกสังคมออนไลน์น้อยกว่า อาจเป็นว่า ผู้ที่เข้ามา add friend อยู่กับผม (นามปากกา - ช่อคูณ) ส่วนใหญ่ที่ผมไปกด like เอาไว้ สวนใหญ่เป็นแฟน ‘เสือใต้’ และ fan page ที่ผมไปกด like เอาไว้ก็ล่วนแต่เป็นแฟนบาเยิร์นกันทั้งนั้น ก่อนเกมนัดชิงขนะเลิศในวันที่ 25 พ.ค. ที่เวมบลีย์ กรุงลอนดอน แฟนลูกหนังของทั้งสองฝ่ายในจีนก็ออกมาแซวกันสนั่นด้วยเหมือนกัน
ผมอ่านข่าวที่ หลี ซาง ผู้สื่อข่าวของนสพ.กีฬายักษ์ใหญ่ของจีน Tital Sports ที่ได้เฝ้าดูปรากฏการณ์ของแฟนบอล ‘เสือเหลือง’ ที่มุ่งมั่นกับแฟน ‘เสือใต้’ ที่มีจำนวนมากกว่าทางเว็บบอร์ดต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นเป็นอย่างมาก อาจเป็นกูรูบอลเยอรมันจากจีน จากที่เขารายงานข่าวเกี่ยวกับบาเยิร์น ก็โดนแฟนที่นั่นกล่าวหาว่าลำเอียง มีความตั้งใจบีบดอร์ทมุนด์ไม่ให้เกิดขึ้นมา
คาร์สเท่น คราเมอร์ ผู้อำนาวยการด้านการตลาดของดอร์ทมุนด์กล่าวว่า ‘เราไม่ได้เล็งทำตามบาเยิร์น แต่เรามองที่ตัวเราเอง’
ใครที่ได้มีโอกาสคุยกับคราเมอร์ในช่วงนี้ จะมีความรู้สึกว่า สิ่งที่กำลังบูมสนั้นที่ดอร์ทมุนด์ตอนนี้ จะไม่ใช่แค่แฟนบอลเสือเหลืองทำแสบ คือคนที่อยากด้ตั๋วนัดชิงไปชมเกมที่เวมบลีย์เท่านั้น การที่ยอดขายของที่ระลึกราว 1,000 รายการของดอร์ทมุนด์ก็ขายดี เป็นเทน้ำเทท่าแทบไม่เหลือของติดร้าน และไม่สามารถคาดเดาได้ เชื่อกันว่ายังมีอุปสงค์อีกเยอะ
‘ความสำเร็จในเกมลูกหนัง ทำให้มีเสน่ห์ กระตุ้นความสนใจ ธุรกิจติดปีก เรามีการเจริญเติบโตที่เมือ 2 ปีกอ่น มองว่ามันสุดเหลือเชื่อ ผมไม่รู้เหมือนกันว่า มันจะไปจบตรงไหน พัฒนาการที่น่ากลัวทีเดียว’ คราเมอร์กล่าว แต่ด้วยการขายของที่ระลึกอย่างเดียวในซีซั่นนี้ สโมสรจะมีรายได้ราว 30 ล้านยูโร เติบโตจากปีก่อนเกือบ 30 % ถึงจบซีซั่นสามารถขายเสือแข่งได้มากกว่า 330,000 ตัว ฮันส์ โยอัคคิม วัทท์เค่ กรรมการผู้จัดการดอร์ทมุนด์สามารถประกาศออกมาได้ตอนนี้แล้ว่า สโมสรที่อยู่ในตลาดหุ้นแห่งนี้จะมีรายได้ทะลุ 250 ล้านยูโรแน่นอน ที่สำหรับดอร์ทมุนด์นั้นเหมือนเทพนิยายลูกหนัง
ต่างจากบาเยิร์นที่คุ้นเคยกับสถิติต่างๆ เป็นอย่างดี แต่ขนาดเป็นผู้นำในวงการลูกหนังเมือเบียร์มาเนิ่นนาน เหล่าผู้บริหารก็ยังประหลาดใจในความสนใจอย่างมโหฬารของแฟนๆ คอลเลกชั่นแชมป์บุนเดสลีกา และนัดชิงบัตรขายเป็นเทน้ำเทท่า รายได้ตรงนี้เทียบกับปีกลายเพิ่มขึ้น 50 % ‘ความต้องการมากเกินกว่าที่เราคาดเดาไว้เยอะ มันสุดเหลือเชื่อเลย’ อันเดรียส ยุง บอร์ดผู้ดูแลด้านการตลาดของบาเยิร์นกล่าวไว้ จนถึงจบซีซั่นมีการขายเสื้อแข่งได้มากกว่า 600,000 ตัว สโมสรที่มีสภาพทางเศรษฐกิจแข่งแกร่งแห่งนี้เหมือนเล่นอยู่ในลีกของตัวเอง
ดอร์ทมุนด์ทั้งเขย่ง ทั้งเอื้อม ยังไงก็ไม่ถึง บาเยิร์นเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้เป็น 2 เท่าของดอร์ทมุนด์ รายได้ซีซั่นนี้จะมากกว่า 400 ล้านยูโรเป็นหนแรก ดังที่ประธษนผู้บริหาร คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิเก้ ประกาศเอาไว้ รายได้จากการขายของที่ระลึกของสโมสรแค่ครึ่งซีซั่น ก็มากกว่าตลอดทั้งซีซั่นก่อนไปแล้วที่ทำได้ 57.8 ล้านยูโร ด้านสปอนเซอร์นั้น แค่สปอนเซอร์หลัก ดอยซ์เทเลคอม ก็ได้รับเงินโบนัสพิเศษจากความสำเร็จเพิ่มมาเกิบ 30 ล้านยูโรแล้ว แค่นี้ก็เท่ากับรายได้ ½ นึงของสปอนเซอร์ทั้งหมดร่วมกันของดอร์ทมุนด์แล้ว
การนำโด่งที่ไม่น่าแปลกใจเลย ‘ดอร์ทมุนด์ไม่สามารถทำงานที่ดีอย่างบาเยิร์นทำงานมา 20-30 ปีได้ คงไม่สามารถแซงไปโดยเร็วได้หรอก’ ฟิลิปป์ คุทเซอร์ ผู้รู้เรื่องฟุตบอลของบริษัทวิจัยด้านการตลาด Repucom กล่าวเอาไว้ ในสายตาขบองเขา ทั้งสองสโมสรอย่ที่ทางแยก แต่ละคนละระดับ ‘สำหรับ บาเยิร์น คือการออกไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับสโมสรชั้นนำอย่าง มาดริคม บาเซโลน่า หรือ แมนฯยู วางตำแหน่งตนเองในโลกลูกหนังได้อย่างเด็ดขาด’ คุฟเฟอร์กล่าว ขณะที่ยุงพูดถึงยี่ห้อที่มีความอินเตอร์ ‘ในตลาดนานาชาติ ยังมีพื้นที่ในการเติบโตได้อีกเยอะ’ โดยล่าสุดทางสโมสรประกาศแต่งตั้ง กรรมการบอร์ด เพิ่มขึ้นมา คือ เบิร์ก วัตเกอร์ นายใหญ่ในเยอรมันของบริษัทรับพนันกีฬา Btwin จะไปดูแลการตลาดในจีน, อินเดีย, รัสเซีย หรือ สหรัฐอเมริกา ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ดอร์ทมุนด์เองก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสปอนเซอร์ ซึ่งจอนี้มาจากบริษัทขนาดกลางหลายแห่ง จากท้องถิ่น ขยับขยายเข้าไปอีก ที่ตอนนี้มีบริษัทอย่าง Puma, Opel, MANa และ Han Bank ล่าสุดเป็นสายการบินเตอร์กิซ แอร์ไลน์ “ที่นอกเหนือจากนั้น ดอร์ทมุนด์เตรียมก้าวกระโดดในตลาดนักเตะ ในอนาคตเราต้องรั้งผู้เล่นหลักเอาไว้ให้ดี ยึดบาเยิร์นเป็นแบบอย่าง และลงทุนซื้อนักเตะเข้ามาสูงกว่าที่เคยทำ’ คุฟเฟอร์กล่าว แต่ในระยยาวนั้น ดอร์มุนด์จำต้องยอมรับตัวเลขทีติดลบในตลาดซื้อขายนักเตะเหมือนบาเยิร์น ที่ในกรณีนี้จะมีการลงทุนมากกว่าเดิมในนักเตะมากว่าการขายออกไป ปีนี้บาเยิร์นติดลบราว 70 ล้านยูโร โดยเฉพามาจากค่าตัว 40 ล้านยูโของมาติเนซในช่วงต้นซีซั่น ในขณะที่ซีซั่นนี้ดอร์ทุนด์มีกำไรในการซื้อ—ขายนักเตะ 6.3 ล้านยูโร (ยังไม่นับกรณีการซื้อขายเกิทเซ่ที่ยังไม่มีการจ่ายเงินจริงเกิดขึ้น ถือเป็นการเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีผลทางกฏหมายแล้ว)
สำหรับ 4-5 สโมสรใหญ่ในยุโรปนั้น บริษัทในภูมิภาคที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต มีความสนใจในการมาเป็นพาร์ทเนอร์ในการโปรโมทสินค้าของตนเอง การคว้า เป๊ป กวาดิโอล่า มาเป็นเทรนเนอร์ของบาเยิร์น (เช่นกัน ถือว่ายังไม่ effective แต่ทำสัญญาล่วงหน้า เหมือนกับมี่แมนฯยูทำกับเดวิด มอยส์) ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดสู่เวทีนานาชาติที่สำคัญ แมนฯยูทำงานร่วมกับบริษัททางด้านโทรคมนาคม 14 แห่งทั่วโลก ‘เราต้องคุ้นคิดว่า ในอนาคตนั้น ในเรื่องชองลิขสิทธิ์ต่างๆ เราจะทำเป็นภูมิภาค ไม่ได้ใช้เหมือนกันทั่วโลกอีกแล้วก็ได้’ ยุงกล่าวในช่วงที่พื้นฐานในการวางแฟนนี้ มีแรงหนุนอย่างมากจากเสน่ห์ของเกมลูกหนังของสโมสร
บาเยิร์นส่งภาพและข่าวตลอด 24 ชม. ในช่องทางต่างๆ ในอินเตอร์เน็ดนำเสนอไว้ 7 ภาษา ในจีนมีเว็บบล็อคที่ผู้คนนิยม 2 แห่ง มีทีวีแม็กกาซีนของตนเองส่งออกไปยัง 90 ประเทศ มี youtube, facebook, twister, fan shop on-line หรือ Apllication พิเศษบนมือถือ ดอร์ทมุนด์ก็ลงทุนเยอะในการดึงลูกค้าเอวไ แต่ยังห่างชั้นกับบาเยิร์นเยอะ
จากการวิขัยของมหาวิทยาลัย EBS ที่ไรน์เอาท์พบว่า มีพัฒนาการอันน่าสนใจ แฟนบอล 1 ใน 4 ในยุโรป นอกจากมีสโมสรโปรดในประเทศตนเองแล้วนั้น ยังมีในต่างแดนอีกด้วย ที่เยอะเป็นพิเศษคือแฟนลูกหนังในเอเชีย หรือ อเมริกาเหนือ ที่ชื่นชอบฟุตบอลยุโรปเป็นอย่างมาก แฟนที่ไร้ขอบเขตกลุ่มนี้ มีรักหนที่องที่ไม่ได้ผูกผันกับความซื้อสัตย์นัก แต่เฝ้าติดตามความสำเร็จ, สตาร์ และความหวือหวา ที่มีการคาดคะเนว่า แต่ละคนใช้จ่ายสำหรับงานอดิเรกตรงนี้ปีละเกิอบ 900 ยูโร ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สมบูรณืแบบสำหรับ 2 มหาอำนาจลูกหนังจากเยอรมัน ‘สำหรับผู้คนเหล่านี้ ทางสโมสรต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองต่อไปอย่งมีนัยสำคัญ’ โปรเฟสเซอร์ ซาซา ชิต หัวหน้าทีมวิจียของมหาวิทยาลัย EBS กล่าวไว้ ที่จากการประเมิณถึงตลาดที่สำคัญ 11 แห่งในยุโรปและเอเชียนั้น ปัจจุบัน บาเยิร์นมีจำนวนแฟนบอลที่ 17.8 ล้านคน และดอร์ทมุนด์ 5.5 ล้านคน
ในเรื่องของการลงทุนนั้น บาเยิร์นมีกำลังสำรองที่ได้เปรียบอยู่อีกประการหนึ่ง ขณะที่ดอร์ทมุนด์อยู่ในตลาดหุ้นทั้งหมดมีเจ้าของ และจะทำได้อีกด้วยการเพิ่มทุนเท่านั้น บาเยิร์นสามารถใช้ช่องทางบริษัทบาเยิร์นหาเงินเข้ามาได้อีก ในปัจจุบัน อาดิดาส และออร์ดี้มีหุ้นส่วนอยู่รายละ 9.1 เปอร์เซนต์ ดีลเงินล้านต่อไปจึงเป็นไปได้มาก ในลิสต์ของฟอร์ปนั้น แชมป์สูงสุดเมืองเบียร์เป็นสโมสรทีมีมูลค่าสูงอันดับ 5 ของโลก ด้วยมูลค่า 1,230 พันล้านดอลลาร์
credit : นสพ.สตาร์ซอคเกอร์ โดย ช่อคูณ
หมายเหตุ : ช่อคูณคือนามปากกาของพล.อากาศตรี เจษฐา วิจารณ์ ผู้อำนายการสำนักพัฒนาระบบราชการ กองทัพอากาศ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด) เป็นคู่หูกับก.ป้อหล่วน (นามปากกาของพล.อากาศเอกนิกร ชำนาญกุล ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพอากาศ) ทั้งคู่จบวิศวกรรมไฟฟ้าจากเยอรมัน โดยได้ทุนโรงเรียนนายเรืออากาศต่อที่เยอรมันด้วย โดยปัจจุบันทำหน้าที่ล่ามประจำตัวให้กับวินเฟร็ด เชเฟอร์ เทรนเนอร์ทีมชาติไทย) แห่งสยามสปอร์ต ทั้งคู่เป็นแฟนบอลบาเยิร์น และกูรูลูกหนังเยอรมันอันดับ 1 คู่มาโดยตลอด)
[กระทู้สโมสรเยอรมัน 2013-05-25] บาเยิร์น ดอร์ทมุนด์ – คู่แข่งผลประโยชน์ทางธุรกิจ
ไม่ใช่แต่ในเยอรมันเท่านัน ที่แฟน ๆทำอไรบ้าๆ บอๆ กัน ในบ้านเราเท่าที่เห็น post กันใน facebook ก็เห็นไม่เบาเหมือนกัน ที่ดูเหมือนว่าฝั่ง ‘เสือเหลือง’ จะมีพวกพ้องในโลกสังคมออนไลน์น้อยกว่า อาจเป็นว่า ผู้ที่เข้ามา add friend อยู่กับผม (นามปากกา - ช่อคูณ) ส่วนใหญ่ที่ผมไปกด like เอาไว้ สวนใหญ่เป็นแฟน ‘เสือใต้’ และ fan page ที่ผมไปกด like เอาไว้ก็ล่วนแต่เป็นแฟนบาเยิร์นกันทั้งนั้น ก่อนเกมนัดชิงขนะเลิศในวันที่ 25 พ.ค. ที่เวมบลีย์ กรุงลอนดอน แฟนลูกหนังของทั้งสองฝ่ายในจีนก็ออกมาแซวกันสนั่นด้วยเหมือนกัน
ผมอ่านข่าวที่ หลี ซาง ผู้สื่อข่าวของนสพ.กีฬายักษ์ใหญ่ของจีน Tital Sports ที่ได้เฝ้าดูปรากฏการณ์ของแฟนบอล ‘เสือเหลือง’ ที่มุ่งมั่นกับแฟน ‘เสือใต้’ ที่มีจำนวนมากกว่าทางเว็บบอร์ดต่างๆ ที่เต็มไปด้วยความเข้มข้นเป็นอย่างมาก อาจเป็นกูรูบอลเยอรมันจากจีน จากที่เขารายงานข่าวเกี่ยวกับบาเยิร์น ก็โดนแฟนที่นั่นกล่าวหาว่าลำเอียง มีความตั้งใจบีบดอร์ทมุนด์ไม่ให้เกิดขึ้นมา
คาร์สเท่น คราเมอร์ ผู้อำนาวยการด้านการตลาดของดอร์ทมุนด์กล่าวว่า ‘เราไม่ได้เล็งทำตามบาเยิร์น แต่เรามองที่ตัวเราเอง’
ใครที่ได้มีโอกาสคุยกับคราเมอร์ในช่วงนี้ จะมีความรู้สึกว่า สิ่งที่กำลังบูมสนั้นที่ดอร์ทมุนด์ตอนนี้ จะไม่ใช่แค่แฟนบอลเสือเหลืองทำแสบ คือคนที่อยากด้ตั๋วนัดชิงไปชมเกมที่เวมบลีย์เท่านั้น การที่ยอดขายของที่ระลึกราว 1,000 รายการของดอร์ทมุนด์ก็ขายดี เป็นเทน้ำเทท่าแทบไม่เหลือของติดร้าน และไม่สามารถคาดเดาได้ เชื่อกันว่ายังมีอุปสงค์อีกเยอะ
‘ความสำเร็จในเกมลูกหนัง ทำให้มีเสน่ห์ กระตุ้นความสนใจ ธุรกิจติดปีก เรามีการเจริญเติบโตที่เมือ 2 ปีกอ่น มองว่ามันสุดเหลือเชื่อ ผมไม่รู้เหมือนกันว่า มันจะไปจบตรงไหน พัฒนาการที่น่ากลัวทีเดียว’ คราเมอร์กล่าว แต่ด้วยการขายของที่ระลึกอย่างเดียวในซีซั่นนี้ สโมสรจะมีรายได้ราว 30 ล้านยูโร เติบโตจากปีก่อนเกือบ 30 % ถึงจบซีซั่นสามารถขายเสือแข่งได้มากกว่า 330,000 ตัว ฮันส์ โยอัคคิม วัทท์เค่ กรรมการผู้จัดการดอร์ทมุนด์สามารถประกาศออกมาได้ตอนนี้แล้ว่า สโมสรที่อยู่ในตลาดหุ้นแห่งนี้จะมีรายได้ทะลุ 250 ล้านยูโรแน่นอน ที่สำหรับดอร์ทมุนด์นั้นเหมือนเทพนิยายลูกหนัง
ต่างจากบาเยิร์นที่คุ้นเคยกับสถิติต่างๆ เป็นอย่างดี แต่ขนาดเป็นผู้นำในวงการลูกหนังเมือเบียร์มาเนิ่นนาน เหล่าผู้บริหารก็ยังประหลาดใจในความสนใจอย่างมโหฬารของแฟนๆ คอลเลกชั่นแชมป์บุนเดสลีกา และนัดชิงบัตรขายเป็นเทน้ำเทท่า รายได้ตรงนี้เทียบกับปีกลายเพิ่มขึ้น 50 % ‘ความต้องการมากเกินกว่าที่เราคาดเดาไว้เยอะ มันสุดเหลือเชื่อเลย’ อันเดรียส ยุง บอร์ดผู้ดูแลด้านการตลาดของบาเยิร์นกล่าวไว้ จนถึงจบซีซั่นมีการขายเสื้อแข่งได้มากกว่า 600,000 ตัว สโมสรที่มีสภาพทางเศรษฐกิจแข่งแกร่งแห่งนี้เหมือนเล่นอยู่ในลีกของตัวเอง
ดอร์ทมุนด์ทั้งเขย่ง ทั้งเอื้อม ยังไงก็ไม่ถึง บาเยิร์นเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้เป็น 2 เท่าของดอร์ทมุนด์ รายได้ซีซั่นนี้จะมากกว่า 400 ล้านยูโรเป็นหนแรก ดังที่ประธษนผู้บริหาร คาร์ล-ไฮนซ์ รุมเมนิเก้ ประกาศเอาไว้ รายได้จากการขายของที่ระลึกของสโมสรแค่ครึ่งซีซั่น ก็มากกว่าตลอดทั้งซีซั่นก่อนไปแล้วที่ทำได้ 57.8 ล้านยูโร ด้านสปอนเซอร์นั้น แค่สปอนเซอร์หลัก ดอยซ์เทเลคอม ก็ได้รับเงินโบนัสพิเศษจากความสำเร็จเพิ่มมาเกิบ 30 ล้านยูโรแล้ว แค่นี้ก็เท่ากับรายได้ ½ นึงของสปอนเซอร์ทั้งหมดร่วมกันของดอร์ทมุนด์แล้ว
การนำโด่งที่ไม่น่าแปลกใจเลย ‘ดอร์ทมุนด์ไม่สามารถทำงานที่ดีอย่างบาเยิร์นทำงานมา 20-30 ปีได้ คงไม่สามารถแซงไปโดยเร็วได้หรอก’ ฟิลิปป์ คุทเซอร์ ผู้รู้เรื่องฟุตบอลของบริษัทวิจัยด้านการตลาด Repucom กล่าวเอาไว้ ในสายตาขบองเขา ทั้งสองสโมสรอย่ที่ทางแยก แต่ละคนละระดับ ‘สำหรับ บาเยิร์น คือการออกไปอยู่ในกลุ่มเดียวกับสโมสรชั้นนำอย่าง มาดริคม บาเซโลน่า หรือ แมนฯยู วางตำแหน่งตนเองในโลกลูกหนังได้อย่างเด็ดขาด’ คุฟเฟอร์กล่าว ขณะที่ยุงพูดถึงยี่ห้อที่มีความอินเตอร์ ‘ในตลาดนานาชาติ ยังมีพื้นที่ในการเติบโตได้อีกเยอะ’ โดยล่าสุดทางสโมสรประกาศแต่งตั้ง กรรมการบอร์ด เพิ่มขึ้นมา คือ เบิร์ก วัตเกอร์ นายใหญ่ในเยอรมันของบริษัทรับพนันกีฬา Btwin จะไปดูแลการตลาดในจีน, อินเดีย, รัสเซีย หรือ สหรัฐอเมริกา ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น
ดอร์ทมุนด์เองก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสปอนเซอร์ ซึ่งจอนี้มาจากบริษัทขนาดกลางหลายแห่ง จากท้องถิ่น ขยับขยายเข้าไปอีก ที่ตอนนี้มีบริษัทอย่าง Puma, Opel, MANa และ Han Bank ล่าสุดเป็นสายการบินเตอร์กิซ แอร์ไลน์ “ที่นอกเหนือจากนั้น ดอร์ทมุนด์เตรียมก้าวกระโดดในตลาดนักเตะ ในอนาคตเราต้องรั้งผู้เล่นหลักเอาไว้ให้ดี ยึดบาเยิร์นเป็นแบบอย่าง และลงทุนซื้อนักเตะเข้ามาสูงกว่าที่เคยทำ’ คุฟเฟอร์กล่าว แต่ในระยยาวนั้น ดอร์มุนด์จำต้องยอมรับตัวเลขทีติดลบในตลาดซื้อขายนักเตะเหมือนบาเยิร์น ที่ในกรณีนี้จะมีการลงทุนมากกว่าเดิมในนักเตะมากว่าการขายออกไป ปีนี้บาเยิร์นติดลบราว 70 ล้านยูโร โดยเฉพามาจากค่าตัว 40 ล้านยูโของมาติเนซในช่วงต้นซีซั่น ในขณะที่ซีซั่นนี้ดอร์ทุนด์มีกำไรในการซื้อ—ขายนักเตะ 6.3 ล้านยูโร (ยังไม่นับกรณีการซื้อขายเกิทเซ่ที่ยังไม่มีการจ่ายเงินจริงเกิดขึ้น ถือเป็นการเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่มีผลทางกฏหมายแล้ว)
สำหรับ 4-5 สโมสรใหญ่ในยุโรปนั้น บริษัทในภูมิภาคที่เศรษฐกิจกำลังเติบโต มีความสนใจในการมาเป็นพาร์ทเนอร์ในการโปรโมทสินค้าของตนเอง การคว้า เป๊ป กวาดิโอล่า มาเป็นเทรนเนอร์ของบาเยิร์น (เช่นกัน ถือว่ายังไม่ effective แต่ทำสัญญาล่วงหน้า เหมือนกับมี่แมนฯยูทำกับเดวิด มอยส์) ถือว่าเป็นการก้าวกระโดดสู่เวทีนานาชาติที่สำคัญ แมนฯยูทำงานร่วมกับบริษัททางด้านโทรคมนาคม 14 แห่งทั่วโลก ‘เราต้องคุ้นคิดว่า ในอนาคตนั้น ในเรื่องชองลิขสิทธิ์ต่างๆ เราจะทำเป็นภูมิภาค ไม่ได้ใช้เหมือนกันทั่วโลกอีกแล้วก็ได้’ ยุงกล่าวในช่วงที่พื้นฐานในการวางแฟนนี้ มีแรงหนุนอย่างมากจากเสน่ห์ของเกมลูกหนังของสโมสร
บาเยิร์นส่งภาพและข่าวตลอด 24 ชม. ในช่องทางต่างๆ ในอินเตอร์เน็ดนำเสนอไว้ 7 ภาษา ในจีนมีเว็บบล็อคที่ผู้คนนิยม 2 แห่ง มีทีวีแม็กกาซีนของตนเองส่งออกไปยัง 90 ประเทศ มี youtube, facebook, twister, fan shop on-line หรือ Apllication พิเศษบนมือถือ ดอร์ทมุนด์ก็ลงทุนเยอะในการดึงลูกค้าเอวไ แต่ยังห่างชั้นกับบาเยิร์นเยอะ
จากการวิขัยของมหาวิทยาลัย EBS ที่ไรน์เอาท์พบว่า มีพัฒนาการอันน่าสนใจ แฟนบอล 1 ใน 4 ในยุโรป นอกจากมีสโมสรโปรดในประเทศตนเองแล้วนั้น ยังมีในต่างแดนอีกด้วย ที่เยอะเป็นพิเศษคือแฟนลูกหนังในเอเชีย หรือ อเมริกาเหนือ ที่ชื่นชอบฟุตบอลยุโรปเป็นอย่างมาก แฟนที่ไร้ขอบเขตกลุ่มนี้ มีรักหนที่องที่ไม่ได้ผูกผันกับความซื้อสัตย์นัก แต่เฝ้าติดตามความสำเร็จ, สตาร์ และความหวือหวา ที่มีการคาดคะเนว่า แต่ละคนใช้จ่ายสำหรับงานอดิเรกตรงนี้ปีละเกิอบ 900 ยูโร ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สมบูรณืแบบสำหรับ 2 มหาอำนาจลูกหนังจากเยอรมัน ‘สำหรับผู้คนเหล่านี้ ทางสโมสรต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตนเองต่อไปอย่งมีนัยสำคัญ’ โปรเฟสเซอร์ ซาซา ชิต หัวหน้าทีมวิจียของมหาวิทยาลัย EBS กล่าวไว้ ที่จากการประเมิณถึงตลาดที่สำคัญ 11 แห่งในยุโรปและเอเชียนั้น ปัจจุบัน บาเยิร์นมีจำนวนแฟนบอลที่ 17.8 ล้านคน และดอร์ทมุนด์ 5.5 ล้านคน
ในเรื่องของการลงทุนนั้น บาเยิร์นมีกำลังสำรองที่ได้เปรียบอยู่อีกประการหนึ่ง ขณะที่ดอร์ทมุนด์อยู่ในตลาดหุ้นทั้งหมดมีเจ้าของ และจะทำได้อีกด้วยการเพิ่มทุนเท่านั้น บาเยิร์นสามารถใช้ช่องทางบริษัทบาเยิร์นหาเงินเข้ามาได้อีก ในปัจจุบัน อาดิดาส และออร์ดี้มีหุ้นส่วนอยู่รายละ 9.1 เปอร์เซนต์ ดีลเงินล้านต่อไปจึงเป็นไปได้มาก ในลิสต์ของฟอร์ปนั้น แชมป์สูงสุดเมืองเบียร์เป็นสโมสรทีมีมูลค่าสูงอันดับ 5 ของโลก ด้วยมูลค่า 1,230 พันล้านดอลลาร์
credit : นสพ.สตาร์ซอคเกอร์ โดย ช่อคูณ
หมายเหตุ : ช่อคูณคือนามปากกาของพล.อากาศตรี เจษฐา วิจารณ์ ผู้อำนายการสำนักพัฒนาระบบราชการ กองทัพอากาศ และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาสโมสรฟุตบอล แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด) เป็นคู่หูกับก.ป้อหล่วน (นามปากกาของพล.อากาศเอกนิกร ชำนาญกุล ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิ กองทัพอากาศ) ทั้งคู่จบวิศวกรรมไฟฟ้าจากเยอรมัน โดยได้ทุนโรงเรียนนายเรืออากาศต่อที่เยอรมันด้วย โดยปัจจุบันทำหน้าที่ล่ามประจำตัวให้กับวินเฟร็ด เชเฟอร์ เทรนเนอร์ทีมชาติไทย) แห่งสยามสปอร์ต ทั้งคู่เป็นแฟนบอลบาเยิร์น และกูรูลูกหนังเยอรมันอันดับ 1 คู่มาโดยตลอด)