เดินทาง0฿ กรุงเทพ-น้ำตกเอราวัณ by Dahon Ciao!

กระทู้สนทนา
ทริปถั่วลิงเล็กๆ ที่เกิดจากอาการเห่อรถ อยากทดลองรถ อยากพิสูจน์กำลังขา(อ่อนๆ)ของตัวเอง
และครั้งนี้เป็นการเริ่มต้นที่ดีของผม ในการจะเริ่มฝันถั่วลิงโดยจักรยานในอนาคต

ทริปนี้เนื่องจากอากาศมันร้อนมาก ปัจจัยในกระเป๋าก็น้อย
เลยคิดว่าทำไงดีนะ ไปเล่นน้ำตกเย็นๆโดยไม่เสียค่าเดินทาง
ก็เลยเอาวะ รถพับนี่หละ เหน็บกระเป๋าไปสองใบ เป้อีกใบ คงไม่เป็นภาระจนเกินไปน่ะ

เริ่มจากการจองที่พักอุทยานแบบถูกๆ แต่พักหรูๆ
ไปกันสามคัน จอง1ห้องราคา 800฿พักได้2คน วันธรรมดากรมอุทยานลดให้30%เหลือ560฿ บวกพักเพิ่มอีกคนละ100฿ =660฿/3คน
ตกคนละ220฿ สำหรับผมและชาวคณะถือว่าถูกมากครับ เกินกว่าคำว่าคุ้มค่า

เริ่มด้วยการปั่นออกจากบ้าน ไปยังจุดนัดพบกันที่สถานีรถไฟธนบุรี
ไปพบกับ1พับ และ1เสือ
รถไฟตามเวลาจะออกจากสถานี 7:45 แต่เอาเข้าจริง+เพื่มไปอีก30นาที รู้งี้ไม่นารีบปั่นมาเลย55+

มาถึงสถานีธนบุรี 1เสือและ2พับก็เตรียมพร้อมรอขึ้นรถไฟ


เสือต้องเสียค่าระวาง90฿ ส่วนพับไม่ต้อง


ตู้ขนของกว้างขวาง เหมาะสำหรับที่จะขนจักรยานไปท่องเที่ยวมาก


ไม่ต้องห่วงเรื่องรถหายกับรถไฟขบวนสั้นแบบนี้ เพราะเราสามรถนอนเฝ้ารถได้เลย


และเมื่อรถออกไปสักพัก เราก็ได้นอนเฝ้า(จักรยาน)สมใจ


ถึงสถานีนี้ก็เตรียมตัวลง เพราะสถานีหน้าจะถึงที่หมายแล้ว


และแล้วก็มาถึงที่หมายหลังจากได้พักผ่อนจากรไฟตั๋วนอน55+


ออกมาจากสถานี ดูป้ายอีกแค่65กม.เองครับพี่น้อง(ระยางทางแค่นี้ ขาแรงจิ้บๆ)
แต่กับรถพับเกียร์ดุมแบบผมจะไปไหวไหมหนอ(ผมและเพื่อนๆต่างคิดในใจ "กูบ้าไปแล้ว")


ออกมาถึงถนนก็เติมพลังก่อนเลย


เติมพลังเสร็จ หนังท้องตึง หนังตามันเลยหย่อนครับ ตาจะปิดแล้ว
พรุ่งนี้จะมาโพสต่อครับ

หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้วก็มุ่งหน้าต่อสู่จุดหมาย
แยกแรกที่จะเจอคือแยกแก่งเสี้ยน



ต่อมาจะเจอแยกลาดหญ้า และผ่านค่ายทหารอะไรสักค่าย(จำชื่อไม่ได้แล้ว)และ้าจำไม่ผิดพระเอกหนังพระนเรศวรประจำการอยู่ที่นี่


เดินทางต่อไป แดดจะร้อนมากตั้งแต่สถานีสะพานแม่น้ำแคว จนมาถึงแยกลาดหญ้า
พ้นแยกลาดหญ้ามาแล้ว จะพอร่มรื่นสักหน่อย มีต้นไม้รายทาง
แต่รู้สึกแตกต่างกับขับรถมาโดยสิ้นเชิง ขับรถมารู้สึกร่มรื่นมากๆคงเป็เพราะความเร็วของรถยนต์ที่ทำให้ช่วงร่มไม้แต่ละช่วงถึงกันอย่างรวดเร็ว
ส่วนจักรยานนั้น ร่มไม่ค่อยเท่าไร เพราะกว่าจะถึงช่วงร่มไม้แต่ละช่วงมีเวลาเดินทางจนทำให้รู้สึกร้อน


ผ่านมาถึงที่ระลึกความหลังของใครหลายๆคน ที่เคยเรียนรด.มา ผมคิดว่าต้องมีความหลังกับที่นี่แน่นอน


มาถึงที่นี่แล้ว พี่เสือของเรายังฟิต


ผ่านไปจนถึงเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ


ที่นี่ก็ผ่านแต่ไม่ได้ดูว่าต้องเข้าไปอีกกี่กิโล คิดว่าคงมีโอกาสได้ปั่นเข้าไปชมสักครั้งแน่


ผ่านไปจนถึงเขื่อนท่าทุ่งนา ระหว่างทางจากสลักพระจะมีป้ายให้ระวังช้าง เป็นช่วงๆ


และแล้วก็ขาอ่อนอย่างพวกผมก็มาเจอทางหินแล้วครับ


แล้วจะทำยังไงดี ก็เข็นสิครับ55+(ผมก็เข็นเช่นกัน)


ส่วนพี่เสือของเราไม่ยอมทิ้งลาย โชว์ความฟิต(หลังจากที่เก็บแรงมาตลอดทาง55+)


การเดินทางของเราจะผ่านเนินเป็นช่วงๆ เนินแต่ละเนินยาวใช้ได้เหมือนกัน แต่ก็ไม่ถึงกับชันมาก
แต่เมื่อเทียบกับทางราบเช่นกรุงเทพปั่นไปนครปฐม ไปสมุทรสาคร สมุทรสงคราม หรือราชบุรี ก็ต่างกันมากเช่นกัน
ปั่นทางราบ ถึงแม้จะเป็นรถแม่บ้านพับ ปั่นเป็นร้อยกิโล avผมยังไงก็ได้>22แน่นอน แต่ครั้งนี้av<20


ปั่นผ่านวิวสวยๆมา ผ่านเขื่อนท่าทุ่งนามาแล้ว มาดูสภาพกันครับ


จนใกล้ความจริง


ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นว่า กระเป๋าผมหายไป(อิอิ แอบเอาเปรียบเพื่อนฝากคนใจดีขึ้นไป)


ทางเข้าเขื่อนศรีแล้ว แต่ผมไม่ได้ขึ้นไปหลอกนะ ไม่ไหวแล้ว(ขาสั่น)


เล้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำแควเพื่อไปยังจุดหมาย


หลังจากข้ามสะพานมาแล้วก็เจอหินอีกครั้ง (แม้กระทั่งพี่เสือยังเข็นเลย55+)
จนมาถึงที่นี่จนได้(ดีใจกันใหญ่...อิอิ)


จุดหมายปลายทางที่ตั้งใจ 2พับ1ยิ้ม็ทำสำเร็จจนได้


ช่วยรักษาวัฒนธรรมกันหน่อยนะครับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา


ทั้งเหนื่อยทั้งร้อน เข้าที่พักดีฝ่า
หรูหราน่าดู


ภาพจากระเบียงห้อง



บรรยากาศเล็กๆบริเวณที่พัก


หลังจากถึงที่พักแล้วก็หาอะไรกิน แอบไปเล่นน้ำตกตอนค่ำ(สนุกมาก หลอนนิดๆ แอบเจ้าหน้าที่ไปเล่นน้ำกลางแสงจัทร์)
ต้องขอโทษน้าๆด้วย ที่ไม่ได้เก็บบรรยากาศมาฝาก สภาพแสงไม่ดีจริงๆ กล้องใหญ่และขาตั้งก็ไม่ได้เอาไป
เช้าขึ้นมาผมเองก็ตื่นสายอีก ต้องรีบปั่นกลับก่อนจะตกรถไฟ
จากสถานีรถไฟมาถึงที่พัก ไม่รวมเวลาพักดื่มน้ำ จอดถ่ายรูป รถติดไฟแดง


และอันนี้ขากลับ จะออกแนวลงเนินมากกว่ามา


สรุปทริปนี้สนุกมาก แต่เวลาน้อยไปสักหน่อย น่าจะมีเวลาอีกสักคืน คงเป็นเพราะผมวางแผนไม่ดีด้วย
เอาเวลาเดินทางไปเทียบกับเวลาเดินทางทางราบ
รถไฟสายมรณะ ก็ยังไม่ได้ไป เพราะศึกษาเส้นทางไม่รอบครอบ
แต่ก็ยังอยากให้น้าๆ ได้ลองกันนะครับ
เมืองไทยผมว่าปั่นไม่ยาก ไม่ไหวก็มีรถตลอดทาง ยิ่งเป็นรถพับยิ่งสะดวก
  และอยากเตือนเพื่อนๆ เรื่องรถไฟ เพราะผมเกือบตกรถไฟมาแล้ว
เนื่องจากนำรถขึ้นถไฟไม่ได้ ประตูรถไฟช่วงตู้โดยสารแคบมาก
เพื่อนผมนำเสือภูเขาขึ้นรถไม่ได้ที่สถานีสะพานแม่น้ำแคว พอรถไฟจอดแล้วมัวปั่นหาตู้ระวางอยู่ จะยกขึ้นตู้โดยสารก็ไม่ได้(ประตูแคบ)
ผมได้ขึ้นมาก่อน และเมื่อเพื่อนขึ้นไม่ได้ เพื่อนจึงรีบเคี่ยนเสือตามมาทันที่สถานีกาญ(โชคดีที่รถไฟเสียเวลาตัดตู้อยู่)
ก่อนขึ้นรถไฟ อยากให้เพื่อนๆ น้าๆ ถามจนท.ถึงช่วงตู้ที่รถไฟจะจอดด้วยนะครับแด๋วจะเจอแบบผม


...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่