เมื่อตลาด ขึ้น  ขึ้น ๆ แบบไม่เกรงใจใคร ด้วยฝีมือใครก็ช่าง จะทั้งตลาดหรือเฉพาะตัวหุ้นก็ช่าง  เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งก็จะเกิดการเทขายรุนแรง หรือการแย่งซื้อรุนแรง  ที่เรียกว่า panic sall   panic buy    
ทำไมต้องเป็นเช่นนั้น  ...มันคือกฎธรรมชาติทางจิตวิทยา  ไม่มีอะไร ขึ้นเอา ๆ ไม่พัก และการพักแบบแกล้งพัก แล้วไปต่อ ก็คือการฝืนธรรมชาติดีดี นี่เอง   รายใหญ่จะเป็นผู้ตัดสินใจว่า เลิกลากเลิกซื้อ พักจริงจังสักที  จากนั้นแรงขายก็มา
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น  ก็ราคาที่ลากมาถึงจุดนี้ มันชักจะลากยากขึ้น มีคนออกมาขวางเยอะ ไม่ใช่ขายเยอะ  แต่อาจไม่ซื้อตาม หรือไม่ก็พวก นักวิเคราะห์ ต่างค่ายต่างสำนัก ออกมาให้ข่าวสร้างความกลัว  pe สูง กำไรหด ผลประกอบการไม่ประทับใจ ผิดคาด ฯลฯ  ฯลฯ   รายใหญ่ก็เลยไม่ฝืนดีกว่า เทเลย  เทให้มาก ๆ  ถ้ายังมองเห็นช่องได้เงินก็เทหนักแล้วรีบซื้อกวาดคืน  ฯลฯ  

การเทขาย หรือ การแย่งซื้อ คือการ ล้มกระดานแบบหนึ่ง  เป็นการจัดระเบียบราคาหุ้นใหม่  เพื่อให้การวิเคราะห์เปลี่ยนแปลง สร้างแรงจูงใจใหม่ ระเบียบราคาก็เริ่มใหม่  ที่ราคานี้บอกว่าแพงไม่เข้า ก็ถอยลงไปอีก -20 ช่อง -40 ช่อง เป็นฐานใหม่ แล้วค่อยๆ มีแรงจูงใจอยากซื้อ ราคาก็ขึ้นมาใหม่ แต่ จะไม่มี new hi   หรือ hi กว่าเดิม  แค่ ต่ำ hi เดิม 5 ช่อง 10 ช่อง ก็เริ่มลงอีก  
ดังนั้นใครที่ติด hi ของแต่ละครั้งที่ panic กฌจงอย่าฝันหวานว่า ไม่นานดอกหนา จะมารับลงดอย  มันเสี่ยงในการคิดแบบนั้น หรือทำแบบนั้น เพราะ รายย่อยไม่ใช่ผู้กำหนดตลาด   อาจ 3 สัปดาห์ 3 เดือน 3 ปี หรือ 20 ปี  เหมือน สมัย 1700 จุด  กว่าจะมา 1600 ที่เห็นๆ กัน  20 ปีเข้าไปแล้ว
ดังนั้น ก่อนเรียนเป็น Vi  ต้องรู้วิธี  Vs เก็งกำไรคุณค่าให้เข้าใจก่อน  จนสามารถทำให้ต้นทุนถูก ทนต่อความผันผวนราคาได้  ตอนนั้นค่อยมาเฉิดหน้าว่า เป็น  Vi


7ส่วน ฝีมือ   3 ส่วนต้องพึ่งโชคช่วย  อย่าลืมลอกปะไว้ หน้าคอมพิวเตอร์ ด้วย