ดิฉันคบกับแฟนตั้งแต่สมัยเรียนปี 1 แรกๆดิฉันอยู่หอกับเพื่อนๆแต่คบกันได้สักพักก็ย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของแฟน
ครอบครัวของเค้านับถือศาสนาอิสลามมีสมาชิกทั้งหมด คนที่1 คนที่2 คนที่3 แฟนดิฉันเป็นคนที่4 คนที่5 คนที่6 คนที่7
ซึ่งพี่คน1 ดีกับดิฉันมากและเคยพูดไว้ว่าถ้าดิฉันเรียนจบจะไปขอดิฉันให้แฟนฉันแต่เค้าได้เสียชีวิตแล้ว
ถ้าพูดกันจริงๆแฟนดิฉันคือหัวหน้าครอบครัวด้วยซ่ำเพราะพ่อของเค้าติดการพนันและขี้เมาไม่ทำงาน แฟนของดิฉันทำงานส่งน้องๆเรียน ยอมเสียสละตัวเอง
ออกจากโรงเรียนเพื่อออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว น้องคนที่6 เรียนได้แค่ชั้นม.3 ก็ออกจากโรงเรียน ขี้เล้า ไม่ทำการทำงาน
คนที่5 เรียนจบปวส.และได้ครอบครัวไป คนที่7ส่งให้เรียนจนจบปริญาตรี
แต่อยู่มาแฟนดิฉันได้คบกับดิฉันและพาดิฉันไปอยู่ที่บ้านตั้งแต่สมัยเรียน ดิฉันแอบไปอยู่บ้านของเค้าโดยที่พ่อแม่ไม่รู้
แต่สุดท้ายดิฉันก็เรียนจบ และว่างแผนครอบครัวไว้อย่างเป็นระบบ เริ่มแรกเราคุยกันที่จะให้พ่อแม่ของฝ่ายขายไปขอดิฉันกับพ่อแม่
และแต่งงานกันให้ถูกต้องตามประเพณี ตอนนั้นดิฉันเรียนจบและกำลังจะได้งาน
ดิฉันถูกส่งไปอบรมณ์งานที่กรุงเทพฯ 20 วัน
**เล่าย้อนไปนิดนะค่ะ ก่อนหน้านั้นที่ดิฉันเริ่มไปอยู่ที่ซอยหมู่บ้านนั้น แฟนดิฉันเล่าว่ามีแต่คนพูดจาประมาณว่าโชว์ดีนะได้เด็กเรียนจบ
ปริญญาเพราะแฟนดิฉันไม่ได้จบอะไร แถมทำงานออกเรือ แต่คอยดูซักวันเด็กนักเรียนมันก็ทิ้ง แต่สุดท้ายดิฉันก็ไม่ทิ้งเค้า**
และมีแต่คนคอยยุแย่ให้น้องชายคนที่6 คอยอิจฉาแฟนดิฉัน ที่ได้เด็กเรียน ทำให้น้องชายคนนี้มีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยชอบดิฉันและแฟนของดิฉัน
สักเท่าไหร่ ต่อมามีคนข้างๆบ้านซึ่งเป็นญาติของเค้าเองที่คอยอิจฉาแฟนดิฉันมาตลอด (แฟนบอก) มายุแย่พ่อ แม่ พี่ น้อง ของแฟนดิฉันว่ามี
ผู้หญิงจะแนะนำให้น้องชายขี้เมา ผู้หญิงคนนี้ขยัน หน้าตาดีประมาณนี้ (คือจะหาคนที่มาเปรียบเทียบให้ดีกว่าดิฉันประมาณนี้)
พี่ชายและพี่สะใภ้ดิฉันเดิมดิฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบดิฉันอยู่แล้ว เนื่องจากมีแต่ชาวบ้านเยิญยอดิฉันว่า เรียนเก่ง เรียนจบสูง แถมไม่ทิ้งแฟนอีก
พากันจนรอด พี่สะใภ้ไม่ค่อยชอบหน้าฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยยุแย่ให้พ่อ กับแม่ ของแฟนดิฉันไปขอผู้หญิงคนนั้นให้น้องชายขี้เมาไม่รู้จักทำงาน
แถมเย่อหยิ่งอีกต่างหาก วันที่เค้ายกขันหมากไปขอผู้หญิงคนนั้นดิฉันก็อยู่ด้วย เสียใจมากที่ข้ามหัวดิฉัน ทั้งที่ดิฉันเรียนจบแล้ว ได้ทำงานแล้ว
ทำไม่ ไม่มาขอดิฉันก่อน เราอุดส่าวางแผนแต่งงานไว้แล้ว แถมคนที่ทำงานเก็บเงินคือแฟนดิฉัน(แฟนดิฉันทำงานได้จะให้แม่เก็บเงินตลอด
ตัวเองเก็บไว้ซื้อของใช้บางเล็กน้อยเท่านั้นทำให้เงินเก็บอยู่ที่แม่หมด)แต่เค้ากลับนำเงินนั้นไปขอผู้หญิงคนอื่นแทนคู่ของเรา
วันที่ยกขันหมากไปขอผู้หญิงคนนั้นผ่านไป ประมาณ 1-2 เดือน ดิฉันก็มีไปอบรมงานที่กรุงเทพฯ20 วัน
แฟนอยู่บ้านคนเดียว โดยที่ไม่รู้ว่าไม่กี่วันนี้จะมีการจัดงานแต่งเกิดขึ้นที่บ้าน เนื่องจากเอาแต่ทำงานไม่มีใครบอก
เหมือนประมาณปกปิด จนมีชาวบ้านถามว่า ทำไมเห็นข้าวของเต็มหน้าบ้าน จะแต่งงานแล้วหรือ แฟนของดิฉันก็ตกใจและเอ๊ะใจ
พอกลับบ้านก็จริงๆด้วย ที่บ้านกำลังจะมีงานแต่งน้องชายขี้เมาคนนั้น แล้วเงินใส่ขันหมากมาจากไหน มาจากเงินที่
ทำเก็บไว้จะใส่ขันหมากขอดิฉันนั้นเอง เราทั้งคู่รู้สึกเสียใจมากเหมือนไม่มีใครเห็นหัวเราสองคนเลย
แม้กระทั้งมาบอกมากล่าวซักคำก็ไม่มี ว่าให้น้องแต่งก่อน ถ้าหากเค้ามาบอกดิฉันกับแฟนก็ไม่ขัดข้องอะไร
น้องเค้าก็จะได้มีครอบครัวไป จะได้รู้จักทำมาหากินไม่ขี้เมาอีก แต่นี้ไม่เลยจัดงานข้ามหัวกันชัดๆ
**หลังจากนั้นมาเหตุการณ์นั้นทำให้ดิฉันเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว รู้สึกไม่ดีกับญาติพี่น้องของเค้าทุกๆคน
เราสองคนทะเลาะกันบ่อยมาก เนื่องจากบางครั้งมันรู้สึกน้อยใจ
ดิฉันรู้สึกว่าญาติพี่น้องของเค้าไม่ค่อยชอบดิฉันแล้ว
ปัจจุบันนี้เราน้องชายคนนั้นมีลูกแล้ว 1 คน เพิ่งคลอดได้ไม่ถึง 2 เดือน แถม มีนิสัยอิจฉาริสยา แฟนดิฉันตลอด
กลัวว่าเราจะรวยกว่า รวมถึงพี่ชายและพี่สะใภ้ด้วย
จนถึงปัจจุบันนี้ดิฉันกับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันเลยค่ะ
และในวันที่ 27 พ.ค.56 นี้ที่บ้านของเค้ากำลังจะมีงานแต่งของน้องสาวคนสุดท้องด้วย
แม่เค้าบอกว่าให้น้องแต่งก่อนและจะเก็บเงินค่าขันหมากไว้ให้เราสองคนแต่งงาน
เราสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรในเมื่อเค้าจัดแจงทุกอย่างไว้แล้วแค่มาบอกให้เรารับรู้ เพื่ออย่าให้เราว่าได้อีกว่าไม่บอกไม่กล่าวข้ามหัวกันชัดๆ
และวันนี้ญาติพี่น้องคนที่อยู่ไกลๆเค้ากลับกันมาแล้ว และมาพักที่บ้านหลังเดียวกับดิฉัน
**บ้านหลังที่ดิฉันอยู่ตามจริงต้องได้น้องคนสุดท้อง แต่เค้าแต่งงานและจะไปอยู่บ้านสามี
และจะให้ฉันกับแฟนอยู่บ้านหลังนี้ เพราะว่าดิฉันกับแฟนยังไม่มีที่อยู่ ลูกคนอื่นๆมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว พ่อแม่เค้าแบ่งที่ดินให้สร้างบ้าน
และช่วยเหลือจนมีบ้านเป็นของตัวเองกันหมด แต่แฟนดิฉันเหมือนคนมีกรรม ทำแต่งาน เลี้ยงดูครอบครัวแต่ไม่ได้สมบัติอะไรเลย
วันนี้เค้ามากันเต็มบ้านไปหมด ดิฉันรู้ว่าเรื่องราวดิฉันพวกเค้ารับทราบในทางที่ไม่ดี เพราะญาติพี่น้องเค้าคงยุแหย่
ให้เกียดฉันแน่ วันนี้พวกเค้ามากันแล้ว เพราะมางานแต่งในวันที่27 นี้ วันนี้ดิฉันมาทำงาน
กลับไปดิฉันจะวางตัวยังไง และในวันงานดิฉันคงทำตัวไม่ถูก
ดิฉันเครียด และลำบากใจในการวางตัวมาก จะทำหน้าตายังไง คงต้องฟืนยิ้มกันทั้งวัน ในงานแต่งเค้า
ฉันจะไปยืนอยู่ตรงไหน นั่งตรง ไหน จะทำสีหน้ายังไง เพราะในงานจะต้องมีแต่คนมองหน้าดิฉัน ว่ารู้สึกยังไงที่มีคนแต่งก่อนอีกแล้วอิจฉาเค้า หรือเปล่า มันทำตัวอยากนะคะ
ทำตัวยังไงในงานแต่งที่ข้ามหัวดิฉัน
ครอบครัวของเค้านับถือศาสนาอิสลามมีสมาชิกทั้งหมด คนที่1 คนที่2 คนที่3 แฟนดิฉันเป็นคนที่4 คนที่5 คนที่6 คนที่7
ซึ่งพี่คน1 ดีกับดิฉันมากและเคยพูดไว้ว่าถ้าดิฉันเรียนจบจะไปขอดิฉันให้แฟนฉันแต่เค้าได้เสียชีวิตแล้ว
ถ้าพูดกันจริงๆแฟนดิฉันคือหัวหน้าครอบครัวด้วยซ่ำเพราะพ่อของเค้าติดการพนันและขี้เมาไม่ทำงาน แฟนของดิฉันทำงานส่งน้องๆเรียน ยอมเสียสละตัวเอง
ออกจากโรงเรียนเพื่อออกมาทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว น้องคนที่6 เรียนได้แค่ชั้นม.3 ก็ออกจากโรงเรียน ขี้เล้า ไม่ทำการทำงาน
คนที่5 เรียนจบปวส.และได้ครอบครัวไป คนที่7ส่งให้เรียนจนจบปริญาตรี
แต่อยู่มาแฟนดิฉันได้คบกับดิฉันและพาดิฉันไปอยู่ที่บ้านตั้งแต่สมัยเรียน ดิฉันแอบไปอยู่บ้านของเค้าโดยที่พ่อแม่ไม่รู้
แต่สุดท้ายดิฉันก็เรียนจบ และว่างแผนครอบครัวไว้อย่างเป็นระบบ เริ่มแรกเราคุยกันที่จะให้พ่อแม่ของฝ่ายขายไปขอดิฉันกับพ่อแม่
และแต่งงานกันให้ถูกต้องตามประเพณี ตอนนั้นดิฉันเรียนจบและกำลังจะได้งาน
ดิฉันถูกส่งไปอบรมณ์งานที่กรุงเทพฯ 20 วัน
**เล่าย้อนไปนิดนะค่ะ ก่อนหน้านั้นที่ดิฉันเริ่มไปอยู่ที่ซอยหมู่บ้านนั้น แฟนดิฉันเล่าว่ามีแต่คนพูดจาประมาณว่าโชว์ดีนะได้เด็กเรียนจบ
ปริญญาเพราะแฟนดิฉันไม่ได้จบอะไร แถมทำงานออกเรือ แต่คอยดูซักวันเด็กนักเรียนมันก็ทิ้ง แต่สุดท้ายดิฉันก็ไม่ทิ้งเค้า**
และมีแต่คนคอยยุแย่ให้น้องชายคนที่6 คอยอิจฉาแฟนดิฉัน ที่ได้เด็กเรียน ทำให้น้องชายคนนี้มีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยชอบดิฉันและแฟนของดิฉัน
สักเท่าไหร่ ต่อมามีคนข้างๆบ้านซึ่งเป็นญาติของเค้าเองที่คอยอิจฉาแฟนดิฉันมาตลอด (แฟนบอก) มายุแย่พ่อ แม่ พี่ น้อง ของแฟนดิฉันว่ามี
ผู้หญิงจะแนะนำให้น้องชายขี้เมา ผู้หญิงคนนี้ขยัน หน้าตาดีประมาณนี้ (คือจะหาคนที่มาเปรียบเทียบให้ดีกว่าดิฉันประมาณนี้)
พี่ชายและพี่สะใภ้ดิฉันเดิมดิฉันรู้สึกว่าไม่ค่อยชอบดิฉันอยู่แล้ว เนื่องจากมีแต่ชาวบ้านเยิญยอดิฉันว่า เรียนเก่ง เรียนจบสูง แถมไม่ทิ้งแฟนอีก
พากันจนรอด พี่สะใภ้ไม่ค่อยชอบหน้าฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยยุแย่ให้พ่อ กับแม่ ของแฟนดิฉันไปขอผู้หญิงคนนั้นให้น้องชายขี้เมาไม่รู้จักทำงาน
แถมเย่อหยิ่งอีกต่างหาก วันที่เค้ายกขันหมากไปขอผู้หญิงคนนั้นดิฉันก็อยู่ด้วย เสียใจมากที่ข้ามหัวดิฉัน ทั้งที่ดิฉันเรียนจบแล้ว ได้ทำงานแล้ว
ทำไม่ ไม่มาขอดิฉันก่อน เราอุดส่าวางแผนแต่งงานไว้แล้ว แถมคนที่ทำงานเก็บเงินคือแฟนดิฉัน(แฟนดิฉันทำงานได้จะให้แม่เก็บเงินตลอด
ตัวเองเก็บไว้ซื้อของใช้บางเล็กน้อยเท่านั้นทำให้เงินเก็บอยู่ที่แม่หมด)แต่เค้ากลับนำเงินนั้นไปขอผู้หญิงคนอื่นแทนคู่ของเรา
วันที่ยกขันหมากไปขอผู้หญิงคนนั้นผ่านไป ประมาณ 1-2 เดือน ดิฉันก็มีไปอบรมงานที่กรุงเทพฯ20 วัน
แฟนอยู่บ้านคนเดียว โดยที่ไม่รู้ว่าไม่กี่วันนี้จะมีการจัดงานแต่งเกิดขึ้นที่บ้าน เนื่องจากเอาแต่ทำงานไม่มีใครบอก
เหมือนประมาณปกปิด จนมีชาวบ้านถามว่า ทำไมเห็นข้าวของเต็มหน้าบ้าน จะแต่งงานแล้วหรือ แฟนของดิฉันก็ตกใจและเอ๊ะใจ
พอกลับบ้านก็จริงๆด้วย ที่บ้านกำลังจะมีงานแต่งน้องชายขี้เมาคนนั้น แล้วเงินใส่ขันหมากมาจากไหน มาจากเงินที่
ทำเก็บไว้จะใส่ขันหมากขอดิฉันนั้นเอง เราทั้งคู่รู้สึกเสียใจมากเหมือนไม่มีใครเห็นหัวเราสองคนเลย
แม้กระทั้งมาบอกมากล่าวซักคำก็ไม่มี ว่าให้น้องแต่งก่อน ถ้าหากเค้ามาบอกดิฉันกับแฟนก็ไม่ขัดข้องอะไร
น้องเค้าก็จะได้มีครอบครัวไป จะได้รู้จักทำมาหากินไม่ขี้เมาอีก แต่นี้ไม่เลยจัดงานข้ามหัวกันชัดๆ
**หลังจากนั้นมาเหตุการณ์นั้นทำให้ดิฉันเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว รู้สึกไม่ดีกับญาติพี่น้องของเค้าทุกๆคน
เราสองคนทะเลาะกันบ่อยมาก เนื่องจากบางครั้งมันรู้สึกน้อยใจ
ดิฉันรู้สึกว่าญาติพี่น้องของเค้าไม่ค่อยชอบดิฉันแล้ว
ปัจจุบันนี้เราน้องชายคนนั้นมีลูกแล้ว 1 คน เพิ่งคลอดได้ไม่ถึง 2 เดือน แถม มีนิสัยอิจฉาริสยา แฟนดิฉันตลอด
กลัวว่าเราจะรวยกว่า รวมถึงพี่ชายและพี่สะใภ้ด้วย
จนถึงปัจจุบันนี้ดิฉันกับแฟนยังไม่ได้แต่งงานกันเลยค่ะ
และในวันที่ 27 พ.ค.56 นี้ที่บ้านของเค้ากำลังจะมีงานแต่งของน้องสาวคนสุดท้องด้วย
แม่เค้าบอกว่าให้น้องแต่งก่อนและจะเก็บเงินค่าขันหมากไว้ให้เราสองคนแต่งงาน
เราสองคนก็ไม่ได้พูดอะไรในเมื่อเค้าจัดแจงทุกอย่างไว้แล้วแค่มาบอกให้เรารับรู้ เพื่ออย่าให้เราว่าได้อีกว่าไม่บอกไม่กล่าวข้ามหัวกันชัดๆ
และวันนี้ญาติพี่น้องคนที่อยู่ไกลๆเค้ากลับกันมาแล้ว และมาพักที่บ้านหลังเดียวกับดิฉัน
**บ้านหลังที่ดิฉันอยู่ตามจริงต้องได้น้องคนสุดท้อง แต่เค้าแต่งงานและจะไปอยู่บ้านสามี
และจะให้ฉันกับแฟนอยู่บ้านหลังนี้ เพราะว่าดิฉันกับแฟนยังไม่มีที่อยู่ ลูกคนอื่นๆมีครอบครัวกันไปหมดแล้ว พ่อแม่เค้าแบ่งที่ดินให้สร้างบ้าน
และช่วยเหลือจนมีบ้านเป็นของตัวเองกันหมด แต่แฟนดิฉันเหมือนคนมีกรรม ทำแต่งาน เลี้ยงดูครอบครัวแต่ไม่ได้สมบัติอะไรเลย
วันนี้เค้ามากันเต็มบ้านไปหมด ดิฉันรู้ว่าเรื่องราวดิฉันพวกเค้ารับทราบในทางที่ไม่ดี เพราะญาติพี่น้องเค้าคงยุแหย่
ให้เกียดฉันแน่ วันนี้พวกเค้ามากันแล้ว เพราะมางานแต่งในวันที่27 นี้ วันนี้ดิฉันมาทำงาน
กลับไปดิฉันจะวางตัวยังไง และในวันงานดิฉันคงทำตัวไม่ถูก
ดิฉันเครียด และลำบากใจในการวางตัวมาก จะทำหน้าตายังไง คงต้องฟืนยิ้มกันทั้งวัน ในงานแต่งเค้า
ฉันจะไปยืนอยู่ตรงไหน นั่งตรง ไหน จะทำสีหน้ายังไง เพราะในงานจะต้องมีแต่คนมองหน้าดิฉัน ว่ารู้สึกยังไงที่มีคนแต่งก่อนอีกแล้วอิจฉาเค้า หรือเปล่า มันทำตัวอยากนะคะ