ขอระบายหน่อยค่ะ ตอนนี้เราหนีออกมาจากบ้า่นนั้นได้ก็รู้สึกสบายใจมากค่ะ อยากรู้ไหมว่าทำไมเราถึงหนีออกมา เล่าเลยนะคะ ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับครอบครัวของแฟนเราเพิ่งรู้ว่าแฟนเราเป็นคนอ่่อนแอมากค่ะ แล้วบ้านนี้ก็แปลกๆ ไม่ปกติ คือ เสียงดังกันทั้งบ้าน พูดคุยเหมือนทะเลาะกัน ด่ากัน ด่าหมา ด่าลูกด่าเมีย ด่าๆๆๆ ทั้งวันทั้งคืน พูดจาหยา่บคายมาก เรียกว่าไม่รู้จะเอาอะไรมาเทียบ เราไปอยู่ก็ใช่ว่าอยู่ดีนะคะ อยู่ห้องครัวที่แบ่งออกมาเป็นห้องเล็กๆ อีกห้อง ลองคิดดูเราท้องแก่ต้องนั่งดูดดมควันที่ทำอาหาร เสียงดังกระแทกภาชนะ กระแทกทุกอย่าง คุยกันตะโกนเหมือนคนบ้า เราเครียดมากเลยค่ะ ต้องทน แล้วพี่สาวแฟนก็ทำกับข้าวขาย มีอะไรก็มาทำที่ห้องครัวที่แบ่งเป็นห้องเล็กๆให้เราอยู่เรานอน เราต้องทนตั้งแต่ท้องแก่ยันคลอดลูก ลูกเราแรกเกิดก็ต้องมาทนกับสิ่งที่พวกเค้าทำ นอนไม่ได้ เสียงมันดัง ไม่เกรงใจไม่สงสารลูกเราเลย เราก็พยายามเงียบเพราะคิดว่าไม่ใช่บ้านตัวเอง แต่นานๆ เข้าก็เหมือนจะเป็นโรคประสาทไปด้วยแล้วค่ะ เราเครียดมาก สงสารลูกที่เพิ่งเกิดแต่ต้องผวาตื่นทุึกครั้งที่ไอ้พวกสาระเลวบ้านนั้นมันเข้ามาทำครัว มันเหมือนแกล้งเรา ต่อหน้าแฟนมันจะทำดีกับเรามาก หาอะไรให้กิน ซื้ออะไรมาให้ แต่พอแฟนไปทำงานมันก็เสียงดัง ทำทุกอย่างประชด เรารู้สึกเกลียดมาก ทั้งที่ตอนแรกย้ายเข้าไปอยู่เรารู้สึกดีและตั้งใจว่าจะอยู่อย่างมีความสุข จะทำตัวให้ดีที่สุดแต่นี่มันแย่มากๆ เราพูดไม่ออก ไม่รู้จะพูดยังไง แม่ของแฟนยิ่งหนักกว่าใคร เลี้ยงหมาไว้ในห้องนอนตัวหนึ่งซึ่งมันเป็นขี้เรื้อน หมาตัวนี้ใครแตะไม่ได้เลย เค้ารักมาก เวลาหมามันไม่อยูออกไปข้างนอกเค้าก็จะเรียกหมาดังลั่นบ้านไปหมด อารมณ์เสียทันที ไม่พอใจก็เสียงดัง ด่าคนไปทั่ว ด่าหมา ด่าพ่อของแฟน พ่อของแฟนก็เงียบไม่พูดไม่ต่อกรอะไร เราก็ไม่รู้ทำไมเ้ค้าถึงต้องเสียงดัง ต้องด่ากันด้วย สาบานเลยนะคะว่าดังทั้งวัน หลังเที่ยงคืนไปนั่นแหล่ะถึงจะไม่ดัง ตรงกันข้ามและแตกต่างกับบ้านเราอยู่มาแต่เล็กที่สกลนคร พ่อแม่พี่น้องเรายังไม่เสียงดังเท่านี้เลย พูดคุยกันเบาๆ พูดถนอมน้ำใจกันมาก คำหนึ่งจะให้เจ็บปวดใจไม่เคยมีเลย บ้านเงียบแต่มันอบอุ่นและทำให้เรารู้สึกสงบมีสมาธิ แต่นี่บ้านหลังนี้มันตรงกันข้ามกันเลย พาเราเข้าไปอยู่ในบ้านตั้งแต่เราท้องแก่ใกล้คลอด เราโดนแม่เค้าใช้งาน ตั้งแต่ซักผ้า ถูบ้าน ทำทุกอย่างทั้งที่ท้องแก่ จนคลอดลูกออกมาก็ยังโดนพี่เขย สามีของพี่สาวแฟน คอยระราน รังแกอยู่เรื่อย ไม่รู้เค้าไม่ชอบอะไรเรา ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้ แปลกดี เริ่มเป็นตั้งแต่วันที่เราทนไม่ไหวเริ่มพูดว่าเสียงมันดังลูกเรานอนไม่ได้ พี่เขยแฟนหาว่าเราไปทำัตัวใหญ่ในบ้าน ทั้งที่เราพูดแค่ว่าให้เบาเสียงลงหน่อยเพราะเรามีลูกอ่อน เด็กมันต้องนอน มันนอนไม่ได้ แต่พวกเค้าไม่สนใจ ไม่สงสารเห็นใจลูกของเราเลย ทำใส่ตลอด ทำเสียงดัง กระแทกของ ตะโกนเรียกเสียงดัง เลี้ยงลูกของเค้าสองคนเป็นเทวดา แต่ทำกับลูกเราเหมือนตัวอะไรก็ไม่รู้ พอเราจะพูดจะเถียงก็มาระรานหาเรื่องเราแบบนี้ ขนาดเราเดินอุ้มลูกเดินเล่น ไอ้พี่เขยชั่วนี่มันก็เดินมาทำเหมือนจะชนเราให้ล้มพร้อมกับลูกของเรา แต่มันไม่ชน เราก็ตกใจมาก ยืนอุ้มลูกเดินเล่นดีๆ มาเจอแบบนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนแบบนี้อยู่ในโลกค่ะ บางทีเห็นเรามันเดินมาเตะโน่นเตะนี่ถ้ามีตะกร้าวางอยู่มันก็เตะตะกร้า พี่สาวแฟนก็ไม่พูดอะไร หลงสามีมาก สามีไม่ทำงานอะไรเลย ทุกวันนี้พี่สาวแฟนหาเลี้ยงมันโดยทำอาชีพขายกับข้าว มันยังใส่อารมณ์กับลูกสาวที่ยังเรียน ม 2 เด็กติด fb เล่นทั้งวันทั้งคืน มันก็ด่าลูกสาว ทำเสียงโครมครามบนบ้านใหญ่ เตะนั่นนี่ใส่ลูกมัน ลูกสาวเลยเป็นเด็กก้าวร้าวไม่กลัวใคร ขนาดตายายยังไม่กลัว พูดจาหยาบคายใส่กระทั่งว่าพูดคำว่า มายุ่งอะไรกับกุ ตอนที่พ่อแม่หรือตายายไปด่าเรื่องเล่น fb และอีกเรื่องที่รู้สึกว่ามันสุดๆ เลยคือ พี่สาวแฟนไปเจอผ้าอนามัยสอดไว้บนโซฟาห้องพ่อแม่แฟน เค้านึกว่าเป็นของเราเลยมาโวยวายหาว่าเป็นของเรา เราบอกว่าไม่ใช่อ่ะ มันไม่มีเลือด เราเพิ่งคลอดลูกถ้าเป็นของเรามันจะต้องมีเลือด แล้วเราก็ไม่สัปดนเอาผ้าอนามัยไปวางไว้บนหัวคนนอนหรอก เค้าเลยบอกว่าอ๋อของน้องลูกสาวเค้านี่เอง ซนจริงๆ เอาไปยัดไว้ตรงนุ้นตรงนี้ ไม่มีระเบียบ โห นี่ถ้าเป็นบ้านเรานะเรื่องใหญ่นะคะเนี่ย เอาผ้าอนามัยมาทิ้งมายัดไว้บนหัวนอนของตายาย เรื่องต่ำทรามมากเลยล่ะ ไม่มีใครเค้าสอนลูกสอนหลานทำกัน หรือไม่มีใครทำกัน มันต้องคิดตั้งแต่แรกแล้วไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ไม่รู้มันเป็นเวรเป็นกรรมอะไรของบ้านนี้ พอเราบอกแฟน แฟนก็ไม่ให้พูดอะไร ทั้งที่มีคนมารังแก มาทำเรากับลูกขนาดนี้ แต่แฟนกลับบอกว่าให้อยู่เงียบ อย่าไปสู้ อย่าไปเถียง คุณคิดว่ายังไงคะ ถ้าเจอแบบนี้ แฟนตัวเองเป็นคนอ่่อนแอ ปกป้องผู้หญิงกับลูกไม่ได้ ให้ทนยอมอยู่ให้บ้านเค้าทำเลวๆ ใส่สารพัด ขนาดน้ำปะปาไม่ไหลเหลือน้ำน้อยนิด พวกนั้นไปอาบไปใช้จนหมดทั้งบ้านจนเราไม่ได้อาบยังมาด่าหาว่าใช้น้ำเปลือง ตลกดีไหมคะ ยิ่งกว่านิยายอีก ลูกเราไม่มีน้ำดื่มต้ม ไปรองเอาในโอ่งน้ำฝนมันยังด่าว่าไปเอาน้ำฝนมาใช้อีก ทั้งที่ลูกเราไม่มีน้ำจะต้มนม ต้มดื่ม ถ้าคนมันยังมีความเป็นคนมันต้องนึกถึงเด็กบ้าง เพราะมันเองก็มีลูกตั้งสองคน แฟนเองก็เฉยไม่มีปาก ยอมให้กระทำทุกอย่าง
ปกติเราอยู่ กทม เราจะมีอิสระมาก อยากกินอะไรก็กิน อยากทำอยากไปเที่ยวไหนเราก็ไป แต่มาอยู่บ้านนี้ออกไปไหนไม่ได้เลย เหมือนโดนขัง รถราก็หายากเพราะมันอยู่ห่างจากถนนใหญ่ไกลหลายกิโล เดินออกไปนิดเดียวก็เห็นเราแล้ว และออกมาขวางไม่ให้ไปไหน ทั้งดึงทั้งทึ้งไม่ให้ไป ให้อยู่แต่ในบ้าน ตอนนั้นเราใกล้เป็นโรคประสาทแล้ว จนถึงวันที่เราทนไม่ไหว ไอ้พี่เขยนิสัยเลวมันคงอาการจิตกำเริบเดินมาด่ามาไล่เราออกจากบ้านทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้มัน พี่เขยแฟนไม่ใช่เจ้าของบ้านนะ เจ้าของบ้านคือพ่อแม่แฟนที่ไม่พูดอะไรเลยเวลาพี่เขยทำอะไรก็ไม่พูดเพราะกลัวพี่เขยจะพาหลานสองคนหนีกลับไปอยู่ กทม เพราะมันชอบขู่ทุกคน พอมันทำอะไรไม่ดีกับคนอื่น แล้วมันกลัวคนจะว่ามันก็จะพูดขึ้นมาของมันเองทำนองว่าถ้าไม่อยากให้มันกับลูกอยู่ มันก็จะพาไปอยู่ กทม ทั้งที่ยังไม่มีใครพูดอะไรเลย
เราเลยแพ็คกระเป๋า อุ้มลูกเดินออกมาจากย้านเลยค่ะ จริงๆ อยากออกมาตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว แต่เป็นห่วงลูก กลัวอันตราย กลัวไม่ปลอดภัย รถราก็ไม่มี เลยออกมาตอนกลางวันที่แฟนไปทำงาน เราทนอยู่ไม่ไหวแล้ว ก็เกือบหนีออกมาไม่ได้ค่ะ มีรายการให้ญาติ ให้คนใกล้บ้าน ข้างบ้าน ขับรถตาม จะลากเอาเรากลับไปให้ได้ แต่เราสู้ ไม่ยอมค่ะ เดินแบกกระเป๋าออกมาเป็นกิโลๆ อุ้มลูกด้วย จนมีคนผ่านไปมาเห็นแล้วคงสงสัยมองดูกัน นั่นแหล่ะมันถึงไม่กล้าทำอะไร บังคับเรา
ทุกวันนี้เรากลับมาอยู่ ที่ กทม กับลูกสองคน เลี้ยงลูกเอง ลูกจะห้าเดือนแล้วค่ะ ก็ลำบากอยู่ แต่ว่ามันสบายใจค่ะ ไม่ต้องโดนใครรังแกลูกเรา รังแกเรา เพราะชีวิตเราก็เคยดิ้นรนหากินหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่แม่เราเสียแล้วตอนเราอยู่ ป 5 ต้องหาเงินส่งไปเลี้ยงพ่อเราอายุแปดสิบกว่าแล้วค่ะตอนนี้ เราเลยไม่มีน้ำตาเพราะเราเสียใจมาเยอะมากแล้ว เคยไม่มีเงินจะกิน กินแต่น้ำตาล กินแต่น้ำผึ้งหลอด อยู่ได้เป็นวันๆ มาแล้ว บางทีบ้านหลังใหญ่ ดูดี ดูมีเกียรติในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วข้างในไม่เป็นอย่างที่เห็นภายนอกเลย โลกที่เคยสวยงามของเราตอนเด็กๆ กับตอนนี้เราเริ่มจะเเห็นโลกอีกด้านแล้ว แต่ว่าเราก็เข้าใจโลกนะ เราไม่เคยคิดว่าชีวิตทุกอย่างมันจะสวยงามไปหมด มันก็ต้องมีแบบนี้้บ้างในบางครั้ง ตอนนี้เราขอดูแลเลี้ยงลูกให้เค้าอยู่อย่างมีความสุข มีอิสระ มีความสงบสุขในชีวิตก็พอ เราจะไม่ทำอะไรแบบที่บ้านหลังนี้ทำกับลูกหรือใครๆ อีก เรารู้ว่ามันทำให้จิตใจเสื่อม ทำให้รู้สึกแย่ขนาดไหน ทุึกวันนี้แฟนยังมาตามให้กลับ จะให้กลับไปอยู่ นรก นั่นอีก แต่เราไม่อยากกลับไปแล้ว เราไม่อยากเป็นผู้ต้องหาต้องฆ่าคนตาย หรือว่าโดนใครฆาตกรรม ชีวิตมันไม่ใช่นิยาย เราขอเลือกอยู่ในที่ดีๆ แต่ลำบาก แต่ยังมีเกียรติของความเป็นคนดีกว่า ไปอยู่แล้วหาว่าไปเกาะกิน ขนาดเราหนีออกมาพี่สาวกับพี่เขยยังเอาไปพูดไม่ดีกับคนในหมู่บ้านเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าตัวเองทำไม่ดีอะไรกับใครถึงขั้นทำให้คนเค้าหนี แต่เ้ค้าไปพูดในทำนองว่าเค้าเป็นฝ่ายน่าสงสาร เราเป็นฝ่ายเลวค่ะ นิยายน้ำเน่ายังสู้ไม่ได้เลย
เราว่าสักวันกรรมก็จะตามทันเค้าเอง เค้าทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น ต่อหน้าทำเป็นดี ลับหลังเป็นอีกอย่าง ขนาดคนที่โทรมาซื้อกับข้าวเค้า พอวางสาย พี่สาวแฟนมาด่าลูกค้าให้สามีเค้าฟังว่า "พี่..... จู้จี้จุกจิกมาก นิสัยแบบนี้แหล่ะถึงโสดไม่มีผัว" แต่ตอนที่คุยโทรศัพท์เค้าพูดจาดีมากๆ ไม่เห็นด่าลูกค้าเค้าแบบนี้เลย เราเสียความรู้สึกมาก เพราะเราอยู่ห้องที่แยกออกไปจากครัวไงคะ ถึงได้ยินทุกคำพูดที่เค้าพูด เราเลยคิดว่า พี่คนนั้นเป็นคนโชคดี ถึงเค้าจะโสด เป็นสาวแก่ ไม่มีผัว แต่ก็ดีกว่าคนที่ได้ผัวเลวๆ เหมือนพี่เขยแฟนนี่ มันน่าภูมิใจตรงไหนกับผู้ชายที่เป็นผู้ชายแต่ตัว ไม่แมนอย่างที่ทำเป็นคนร่ำรวย ไฮโซ สร้า่งภาพว่าตัวเองเป็นคนดี คนภายนอกก็ไม่รู้หรอก ลองเข้ามาอยู่เหมือนเราสิ เค้าถึงจะเข้าใจ
ถ้าเจอผู้ชายเลวๆ อยู่ร่วมบ้านคุณจะทำยังไงคะ
ปกติเราอยู่ กทม เราจะมีอิสระมาก อยากกินอะไรก็กิน อยากทำอยากไปเที่ยวไหนเราก็ไป แต่มาอยู่บ้านนี้ออกไปไหนไม่ได้เลย เหมือนโดนขัง รถราก็หายากเพราะมันอยู่ห่างจากถนนใหญ่ไกลหลายกิโล เดินออกไปนิดเดียวก็เห็นเราแล้ว และออกมาขวางไม่ให้ไปไหน ทั้งดึงทั้งทึ้งไม่ให้ไป ให้อยู่แต่ในบ้าน ตอนนั้นเราใกล้เป็นโรคประสาทแล้ว จนถึงวันที่เราทนไม่ไหว ไอ้พี่เขยนิสัยเลวมันคงอาการจิตกำเริบเดินมาด่ามาไล่เราออกจากบ้านทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรให้มัน พี่เขยแฟนไม่ใช่เจ้าของบ้านนะ เจ้าของบ้านคือพ่อแม่แฟนที่ไม่พูดอะไรเลยเวลาพี่เขยทำอะไรก็ไม่พูดเพราะกลัวพี่เขยจะพาหลานสองคนหนีกลับไปอยู่ กทม เพราะมันชอบขู่ทุกคน พอมันทำอะไรไม่ดีกับคนอื่น แล้วมันกลัวคนจะว่ามันก็จะพูดขึ้นมาของมันเองทำนองว่าถ้าไม่อยากให้มันกับลูกอยู่ มันก็จะพาไปอยู่ กทม ทั้งที่ยังไม่มีใครพูดอะไรเลย
เราเลยแพ็คกระเป๋า อุ้มลูกเดินออกมาจากย้านเลยค่ะ จริงๆ อยากออกมาตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว แต่เป็นห่วงลูก กลัวอันตราย กลัวไม่ปลอดภัย รถราก็ไม่มี เลยออกมาตอนกลางวันที่แฟนไปทำงาน เราทนอยู่ไม่ไหวแล้ว ก็เกือบหนีออกมาไม่ได้ค่ะ มีรายการให้ญาติ ให้คนใกล้บ้าน ข้างบ้าน ขับรถตาม จะลากเอาเรากลับไปให้ได้ แต่เราสู้ ไม่ยอมค่ะ เดินแบกกระเป๋าออกมาเป็นกิโลๆ อุ้มลูกด้วย จนมีคนผ่านไปมาเห็นแล้วคงสงสัยมองดูกัน นั่นแหล่ะมันถึงไม่กล้าทำอะไร บังคับเรา
ทุกวันนี้เรากลับมาอยู่ ที่ กทม กับลูกสองคน เลี้ยงลูกเอง ลูกจะห้าเดือนแล้วค่ะ ก็ลำบากอยู่ แต่ว่ามันสบายใจค่ะ ไม่ต้องโดนใครรังแกลูกเรา รังแกเรา เพราะชีวิตเราก็เคยดิ้นรนหากินหาเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่แม่เราเสียแล้วตอนเราอยู่ ป 5 ต้องหาเงินส่งไปเลี้ยงพ่อเราอายุแปดสิบกว่าแล้วค่ะตอนนี้ เราเลยไม่มีน้ำตาเพราะเราเสียใจมาเยอะมากแล้ว เคยไม่มีเงินจะกิน กินแต่น้ำตาล กินแต่น้ำผึ้งหลอด อยู่ได้เป็นวันๆ มาแล้ว บางทีบ้านหลังใหญ่ ดูดี ดูมีเกียรติในสายตาคนอื่น แต่จริงๆ แล้วข้างในไม่เป็นอย่างที่เห็นภายนอกเลย โลกที่เคยสวยงามของเราตอนเด็กๆ กับตอนนี้เราเริ่มจะเเห็นโลกอีกด้านแล้ว แต่ว่าเราก็เข้าใจโลกนะ เราไม่เคยคิดว่าชีวิตทุกอย่างมันจะสวยงามไปหมด มันก็ต้องมีแบบนี้้บ้างในบางครั้ง ตอนนี้เราขอดูแลเลี้ยงลูกให้เค้าอยู่อย่างมีความสุข มีอิสระ มีความสงบสุขในชีวิตก็พอ เราจะไม่ทำอะไรแบบที่บ้านหลังนี้ทำกับลูกหรือใครๆ อีก เรารู้ว่ามันทำให้จิตใจเสื่อม ทำให้รู้สึกแย่ขนาดไหน ทุึกวันนี้แฟนยังมาตามให้กลับ จะให้กลับไปอยู่ นรก นั่นอีก แต่เราไม่อยากกลับไปแล้ว เราไม่อยากเป็นผู้ต้องหาต้องฆ่าคนตาย หรือว่าโดนใครฆาตกรรม ชีวิตมันไม่ใช่นิยาย เราขอเลือกอยู่ในที่ดีๆ แต่ลำบาก แต่ยังมีเกียรติของความเป็นคนดีกว่า ไปอยู่แล้วหาว่าไปเกาะกิน ขนาดเราหนีออกมาพี่สาวกับพี่เขยยังเอาไปพูดไม่ดีกับคนในหมู่บ้านเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าตัวเองทำไม่ดีอะไรกับใครถึงขั้นทำให้คนเค้าหนี แต่เ้ค้าไปพูดในทำนองว่าเค้าเป็นฝ่ายน่าสงสาร เราเป็นฝ่ายเลวค่ะ นิยายน้ำเน่ายังสู้ไม่ได้เลย
เราว่าสักวันกรรมก็จะตามทันเค้าเอง เค้าทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้น ต่อหน้าทำเป็นดี ลับหลังเป็นอีกอย่าง ขนาดคนที่โทรมาซื้อกับข้าวเค้า พอวางสาย พี่สาวแฟนมาด่าลูกค้าให้สามีเค้าฟังว่า "พี่..... จู้จี้จุกจิกมาก นิสัยแบบนี้แหล่ะถึงโสดไม่มีผัว" แต่ตอนที่คุยโทรศัพท์เค้าพูดจาดีมากๆ ไม่เห็นด่าลูกค้าเค้าแบบนี้เลย เราเสียความรู้สึกมาก เพราะเราอยู่ห้องที่แยกออกไปจากครัวไงคะ ถึงได้ยินทุกคำพูดที่เค้าพูด เราเลยคิดว่า พี่คนนั้นเป็นคนโชคดี ถึงเค้าจะโสด เป็นสาวแก่ ไม่มีผัว แต่ก็ดีกว่าคนที่ได้ผัวเลวๆ เหมือนพี่เขยแฟนนี่ มันน่าภูมิใจตรงไหนกับผู้ชายที่เป็นผู้ชายแต่ตัว ไม่แมนอย่างที่ทำเป็นคนร่ำรวย ไฮโซ สร้า่งภาพว่าตัวเองเป็นคนดี คนภายนอกก็ไม่รู้หรอก ลองเข้ามาอยู่เหมือนเราสิ เค้าถึงจะเข้าใจ