พระราชบัญญัติ วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร. ให้ไว้ ณ วันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2498 เป็นปีที่ 10 ในรัชกาลปัจจุบัน
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
[รก.2498/11/208/8 กุมภาพันธ์ 2498]
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
(1) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร พุทธศักราช 2478
(2) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2481
(3) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2483
(4) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2485
(5) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2491
(6) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2497
(7) บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้ว ในพระราชบัญญัตินี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"คลื่นแฮรตเซียน" หมายความว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ ระหว่าง 10 กิโลไซเกิลต่อวินาที และ 3,000,000 เมกกาไซเกิลต่อวินาที
"วิทยุคมนาคม" หมายความว่า การส่ง หรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตัวหนังสือ ภาพ และเสียงหรือการอื่นใดซึ่งสามารถให้เข้าใจความหมาย ได้ด้วยคลื่นแฮรตเซียน
"เครื่องวิทยุคมนาคม" หมายความว่า เครื่องส่งวิทยุคมนาคม เครื่องรับวิทยุคมนาคม หรือเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม แต่ไม่รวมตลอดถึง เครื่องรับวิทยุกระจายเสียง เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ และเครื่องส่ง เครื่องรับ หรือเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมด้วยคลื่นแฮรตเซียน ตามลักษณะหรือประเภท ที่กำหนดในกฎกระทรวง
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ให้ถือว่า อุปกรณ์ใดๆ ของเครื่องวิทยุคมนาคมตามที่กำหนดในกฎกระทรวงเป็นเครื่องวิทยุ คมนาคมด้วย
[บทนิยามคำว่าเครื่องวิทยุคมนาคม แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
"พนักงานวิทยุคมนาคม" หมายความว่า ผู้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม
"สถานีวิทยุคมนาคม" หมายความว่า ที่ส่งวิทยุคมนาคม ที่รับวิทยุ คมนาคม หรือที่ส่งและรับวิทยุคมนาคม
"ทำ" หมายความรวมตลอดถึงการประกอบขึ้น การแปรสภาพหรือ การกลับสร้างใหม่
"นำเข้า" หมายความว่า นำเข้าในราชอาณาจักร
"นำออก" หมายความว่า นำออกนอกราชอาณาจักร
"ค้า" หมายความรวมถึง การมีไว้ในครอบครองเพื่อขายหรือ ซ่อมแซมด้วย
[บทนิยามคำว่าค้า เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
"เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต" หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่ง รัฐมนตรีแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้
"รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 5 พระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ มาตรา 11 และ มาตรา 12 ไม่ใช้บังคับแก่
(1) กระทรวง ทบวง กรม
(2) นิติบุคคลตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
[ มาตรา 5 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2504]
มาตรา 6 ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่ง เครื่องวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้ เครื่องวิทยุคมนาคมบางลักษณะหรือเครื่องวิทยุคมนาคมที่ใช้ในกิจการบางประเภท ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งทั้งหมดหรือเฉพาะแต่บางกรณีได้
[ มาตรา 6 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2535]
มาตรา 7 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำหน้าที่พนักงานวิทยุคมนาคมใน ตำแหน่งที่กำหนดในกฎกระทรวง เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ผู้ออกใบอนุญาต
มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดรับข่าววิทยุคมนาคมต่างประเทศเพื่อการ โฆษณา เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
มาตรา 9 ใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ มีดังนี้
(1) ใบอนุญาตให้ทำ ให้มีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันออก
(2) ใบอนุญาตให้มี ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออก
(3) ใบอนุญาตให้ใช้ ให้มีอายุตลอดอายุของเครื่องวิทยุคมนาคม
(4) ใบอนุญาตให้นำเข้า ให้มีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันออก
(5) ใบอนุญาตให้นำออก ให้มีอายุสามสิบวันนับแต่วันออก
(6) ใบอนุญาตให้ค้า ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออก เว้นแต่ใบอนุญาต ที่ออกให้เพื่อการซ่อมแซมโดยเฉพาะ ให้มีอายุห้าปีนับแต่วันออก
(7) ใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม ให้มีอายุตลอดระยะเวลา ที่ผู้รับใบอนุญาตใช้สถานีตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตเป็นสถานีวิทยุคมนาคม
(8) ใบอนุญาตพนักงานวิทยุคมนาคม ให้มีอายุห้าปีนับแต่วันออก
(9) ใบอนุญาตให้รับข่าววิทยุคมนาคมต่างประเทศเพื่อการโฆษณา ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออก
ผู้ได้รับใบอนุญาตตาม (1) (3) (4) (5) (6) หรือ (7) ให้ถือว่า ได้รับอนุญาตให้มีเครื่องวิทยุคมนาคมด้วย
[ มาตรา 9 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 10 ให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกใบอนุญาตพิเศษให้บุคคลตั้ง สถานีวิทยุการบินเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยของการเดินอากาศพลเรือน โดยเฉพาะได้ ในการออกใบอนุญาตพิเศษนี้ รัฐมนตรีจะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ก็ได้
ผู้รับอนุญาตจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด
มาตรา 11 ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งสถานีวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับ ใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
สถานีวิทยุคมนาคมต้องใช้ความถี่คลื่นให้ถูกต้องตามข้อบังคับว่าด้วย วิทยุคมนาคมตามภาคผนวกต่อท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยโทรคมนาคม
เพื่อให้การเป็นไปตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้อธิบดีกรม ไปรษณีย์โทรเลข มีอำนาจกำหนดเงื่อนไขการตั้งสถานีวิทยุคมนาคม และให้อธิบดี กรมไปรษณีย์โทรเลข หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจควบคุมและกำหนดการใช้ ความถี่คลื่นของสถานีวิทยุคมนาคมต่างๆ
ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้สถานี วิทยุคมนาคมที่ใช้ในกิจการบางประเภทได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตาม วรรคหนึ่ง
[ มาตรา 11 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 11 ทวิ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจประกาศกำหนดให้ผู้ใช้ความถี่คลื่น เพื่อกิจการใดหรือในลักษณะใดต้องเสียค่าตอบแทนในการใช้ความถี่คลื่นนั้น ให้แก่รัฐบาลได้ตามอัตราที่เห็นสมควร
ประกาศตามวรรคหนึ่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
[ มาตรา 11 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 12 ห้ามมิให้สถานีวิทยุคมนาคมดำเนินบริการวิทยุคมนาคม เพื่อประโยชน์อื่นใด นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือนอกเหนือจาก ราชการของกระทรวง ทบวง กรมหรือกิจการของนิติบุคคลตาม มาตรา 5
มาตรา 13 ห้ามมิให้ยานพาหนะใด ๆ ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม นอกจากจะใช้ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง หรือได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีเป็น พิเศษชั่วครั้งคราว
มาตรา 14 เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเพื่อป้องกัน ราชอาณาจักร รัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งเฉพาะกาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจยึดไว้เอาไปใช้ ห้ามการใช้หรือห้ามการยักย้ายซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม หรือส่วนใด ๆ แห่งเครื่องวิทยุคมนาคมในระหว่างเวลาและภายในเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในคำสั่งนั้น
มาตรา 15 ผู้ใดกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการ วิทยุคมนาคมโดยมิได้เจตนา เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นระงับการกระทำนั้น หรือให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ใช้ในการ กระทำนั้นเสีย หรือให้ย้ายสิ่งดังกล่าวนั้นออกไปให้พ้นเขตรบกวนได้
มาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดส่งหรือจัดให้ส่งข้อความใด ๆ โดย วิทยุคมนาคมอันตนรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ หรือข้อความอื่นใดที่มิได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติหรือประชาชน
มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใดดัก รับไว้ ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยโดย มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งข่าววิทยุคมนาคมที่มิได้มุ่งหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติหรือประชาชน
มาตรา 18 เพื่อตรวจเครื่องวิทยุคมนาคม ส่วนแห่งเครื่องวิทยุคมนาคม สถานีวิทยุคมนาคม สิ่งที่ก่อให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการ วิทยุคมนาคม หรือใบอนุญาต เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจเข้าไปในอาคารสถานที่ หรือยานพาหนะของบุคคลใด ๆ ได้ในเวลา อันสมควร
เมื่อปรากฏว่าผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือมีเหตุ อันควรสงสัยว่ากระทำการเช่นว่านั้น ให้เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายตามความในวรรคหนึ่ง มีอำนาจจับกุมผู้นั้นพร้อมด้วยของกลางที่ใช้ใน การกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
[ มาตรา 18 วรรคสอง เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 19 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน ใบอนุญาต เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาต ของผู้นั้นเสียได้
ผู้รับใบอนุญาตอาจอุทธรณ์ไปยังอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขภายใน สามสิบวัน นับแต่วันถูกเพิกถอนหรือพักใช้ คำชี้ขาดของอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ให้เป็นที่สุด
มาตรา 20 รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีสูญหายหรือเสียหาย อย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะเหตุที่เครื่องวิทยุคมนาคมของรัฐบาล ใช้การไม่สะดวกและไม่ต้องรับผิดชอบในการรับ การส่ง หรือการส่งมอบข่าวสาร วิทยุคมนาคมใด ๆ
ในกรณีดังกล่าวในวรรคก่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดชอบ เช่นเดียวกันเว้นแต่พนักงานเจ้าหน้าที่นั้นจะก่อให้เกิดขึ้นโดยจงใจ ฉ้อฉล หรือ ประมาทเลินเล่อ
มาตรา 21 ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้เจ้าพนักงานผู้ออก ใบอนุญาตมีอำนาจทำการเปรียบเทียบได้
มาตรา 22 เมื่อมีคำพิพากษาว่า ผู้ใดกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ศาลจะสั่งริบสิ่งที่ใช้ในการกระทำความผิดนั้น เพื่อให้ไว้ใช้ในราชการกรม ไปรษณีย์โทรเลขด้วยก็ได้
มาตรา 23 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 6 มาตรา 11 หรือ มาตรา 16 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 23 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 24 ในกรณีที่มีการฝ่าฝืน มาตรา 12 หรือ มาตรา 13 ผู้ควบคุมสถานีวิทยุคมนาคม หรือผู้ควบคุมเครื่องวิทยุคมนาคม และผู้มีส่วนร่วมใน การกระทำผิดนั้นมีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุก ไม่เกินสองปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 24 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 25 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 7 มาตรา 8 หรือ มาตรา 17 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 25 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 26 ผู้ใดจงใจกระทำให้เกิดการรบกวน หรือขัดขวางต่อ การวิทยุคมนาคมมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุก ไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 26 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 27 ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายตามความใน มาตรา 15 มีความผิด ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 27 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 28 บรรดาใบอนุญาตและประกาศนียบัตรที่ได้ออกไว้ตาม กฎหมายว่าด้วยวิทยุสื่อสารก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้น กำหนดอายุใบอนุญาต หรือประกาศนียบัตรนั้น ๆ
มาตรา 29 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตและออก กฎกระทรวง
(1) วางระเบียบการขอและการออกใบอนุญาต
(2) กำหนดวิธีการเพิกถอนและพักใช้ใบอนุญาต
(3) กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้
(4) กำหนดคุณลักษณะของเครื่องวิทยุคมนาคม และคุณวุฒิสำหรับ พนักงานวิทยุคมนาคม
(5) กำหนดกิจการอื่นใดเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้ บังคับได้
[ความใน (3) ของ มาตรา 29 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
:: ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
อัตราค่าธรรมเนียม
[อัตราค่าธรรม
พ.ร.บ. วิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 มาตราที่ 1-29
มาตรา 1 พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498"
มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
[รก.2498/11/208/8 กุมภาพันธ์ 2498]
มาตรา 3 ให้ยกเลิก
(1) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร พุทธศักราช 2478
(2) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 2) พุทธศักราช 2481
(3) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 3) พุทธศักราช 2483
(4) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 4) พุทธศักราช 2485
(5) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 5) พุทธศักราช 2491
(6) พระราชบัญญัติวิทยุสื่อสาร (ฉบับที่ 6) พุทธศักราช 2497
(7) บรรดาบทกฎหมาย กฎ และข้อบังคับอื่นในส่วนที่มีบัญญัติไว้แล้ว ในพระราชบัญญัตินี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้
"คลื่นแฮรตเซียน" หมายความว่า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่มีความถี่ ระหว่าง 10 กิโลไซเกิลต่อวินาที และ 3,000,000 เมกกาไซเกิลต่อวินาที
"วิทยุคมนาคม" หมายความว่า การส่ง หรือการรับเครื่องหมาย สัญญาณ ตัวหนังสือ ภาพ และเสียงหรือการอื่นใดซึ่งสามารถให้เข้าใจความหมาย ได้ด้วยคลื่นแฮรตเซียน
"เครื่องวิทยุคมนาคม" หมายความว่า เครื่องส่งวิทยุคมนาคม เครื่องรับวิทยุคมนาคม หรือเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคม แต่ไม่รวมตลอดถึง เครื่องรับวิทยุกระจายเสียง เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์ และเครื่องส่ง เครื่องรับ หรือเครื่องรับและส่งวิทยุคมนาคมด้วยคลื่นแฮรตเซียน ตามลักษณะหรือประเภท ที่กำหนดในกฎกระทรวง
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมการใช้เครื่องวิทยุคมนาคม ให้ถือว่า อุปกรณ์ใดๆ ของเครื่องวิทยุคมนาคมตามที่กำหนดในกฎกระทรวงเป็นเครื่องวิทยุ คมนาคมด้วย
[บทนิยามคำว่าเครื่องวิทยุคมนาคม แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
"พนักงานวิทยุคมนาคม" หมายความว่า ผู้ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม
"สถานีวิทยุคมนาคม" หมายความว่า ที่ส่งวิทยุคมนาคม ที่รับวิทยุ คมนาคม หรือที่ส่งและรับวิทยุคมนาคม
"ทำ" หมายความรวมตลอดถึงการประกอบขึ้น การแปรสภาพหรือ การกลับสร้างใหม่
"นำเข้า" หมายความว่า นำเข้าในราชอาณาจักร
"นำออก" หมายความว่า นำออกนอกราชอาณาจักร
"ค้า" หมายความรวมถึง การมีไว้ในครอบครองเพื่อขายหรือ ซ่อมแซมด้วย
[บทนิยามคำว่าค้า เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
"เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต" หมายความว่า เจ้าพนักงานซึ่ง รัฐมนตรีแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้
"รัฐมนตรี" หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
มาตรา 5 พระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่ มาตรา 11 และ มาตรา 12 ไม่ใช้บังคับแก่
(1) กระทรวง ทบวง กรม
(2) นิติบุคคลตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
[ มาตรา 5 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2504]
มาตรา 6 ห้ามมิให้ผู้ใด ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่ง เครื่องวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้ เครื่องวิทยุคมนาคมบางลักษณะหรือเครื่องวิทยุคมนาคมที่ใช้ในกิจการบางประเภท ได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตามวรรคหนึ่งทั้งหมดหรือเฉพาะแต่บางกรณีได้
[ มาตรา 6 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2535]
มาตรา 7 ห้ามมิให้ผู้ใดกระทำหน้าที่พนักงานวิทยุคมนาคมใน ตำแหน่งที่กำหนดในกฎกระทรวง เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงาน ผู้ออกใบอนุญาต
มาตรา 8 ห้ามมิให้ผู้ใดรับข่าววิทยุคมนาคมต่างประเทศเพื่อการ โฆษณา เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
มาตรา 9 ใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ มีดังนี้
(1) ใบอนุญาตให้ทำ ให้มีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันออก
(2) ใบอนุญาตให้มี ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออก
(3) ใบอนุญาตให้ใช้ ให้มีอายุตลอดอายุของเครื่องวิทยุคมนาคม
(4) ใบอนุญาตให้นำเข้า ให้มีอายุหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันออก
(5) ใบอนุญาตให้นำออก ให้มีอายุสามสิบวันนับแต่วันออก
(6) ใบอนุญาตให้ค้า ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออก เว้นแต่ใบอนุญาต ที่ออกให้เพื่อการซ่อมแซมโดยเฉพาะ ให้มีอายุห้าปีนับแต่วันออก
(7) ใบอนุญาตให้ตั้งสถานีวิทยุคมนาคม ให้มีอายุตลอดระยะเวลา ที่ผู้รับใบอนุญาตใช้สถานีตามที่ระบุไว้ในใบอนุญาตเป็นสถานีวิทยุคมนาคม
(8) ใบอนุญาตพนักงานวิทยุคมนาคม ให้มีอายุห้าปีนับแต่วันออก
(9) ใบอนุญาตให้รับข่าววิทยุคมนาคมต่างประเทศเพื่อการโฆษณา ให้มีอายุหนึ่งปีนับแต่วันออก
ผู้ได้รับใบอนุญาตตาม (1) (3) (4) (5) (6) หรือ (7) ให้ถือว่า ได้รับอนุญาตให้มีเครื่องวิทยุคมนาคมด้วย
[ มาตรา 9 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 10 ให้รัฐมนตรีมีอำนาจออกใบอนุญาตพิเศษให้บุคคลตั้ง สถานีวิทยุการบินเพื่อประโยชน์แห่งความปลอดภัยของการเดินอากาศพลเรือน โดยเฉพาะได้ ในการออกใบอนุญาตพิเศษนี้ รัฐมนตรีจะกำหนดเงื่อนไขใด ๆ ก็ได้
ผู้รับอนุญาตจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่รัฐมนตรีกำหนด
มาตรา 11 ห้ามมิให้ผู้ใดตั้งสถานีวิทยุคมนาคม เว้นแต่จะได้รับ ใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต
สถานีวิทยุคมนาคมต้องใช้ความถี่คลื่นให้ถูกต้องตามข้อบังคับว่าด้วย วิทยุคมนาคมตามภาคผนวกต่อท้ายอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยโทรคมนาคม
เพื่อให้การเป็นไปตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้อธิบดีกรม ไปรษณีย์โทรเลข มีอำนาจกำหนดเงื่อนไขการตั้งสถานีวิทยุคมนาคม และให้อธิบดี กรมไปรษณีย์โทรเลข หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายมีอำนาจควบคุมและกำหนดการใช้ ความถี่คลื่นของสถานีวิทยุคมนาคมต่างๆ
ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีมีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดให้สถานี วิทยุคมนาคมที่ใช้ในกิจการบางประเภทได้รับยกเว้นไม่ต้องได้รับใบอนุญาตตาม วรรคหนึ่ง
[ มาตรา 11 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 11 ทวิ ให้รัฐมนตรีมีอำนาจประกาศกำหนดให้ผู้ใช้ความถี่คลื่น เพื่อกิจการใดหรือในลักษณะใดต้องเสียค่าตอบแทนในการใช้ความถี่คลื่นนั้น ให้แก่รัฐบาลได้ตามอัตราที่เห็นสมควร
ประกาศตามวรรคหนึ่งให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
[ มาตรา 11 ทวิ เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 12 ห้ามมิให้สถานีวิทยุคมนาคมดำเนินบริการวิทยุคมนาคม เพื่อประโยชน์อื่นใด นอกเหนือจากที่ระบุไว้ในใบอนุญาตหรือนอกเหนือจาก ราชการของกระทรวง ทบวง กรมหรือกิจการของนิติบุคคลตาม มาตรา 5
มาตรา 13 ห้ามมิให้ยานพาหนะใด ๆ ใช้เครื่องวิทยุคมนาคม นอกจากจะใช้ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง หรือได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีเป็น พิเศษชั่วครั้งคราว
มาตรา 14 เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน หรือเพื่อป้องกัน ราชอาณาจักร รัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งเฉพาะกาลให้พนักงานเจ้าหน้าที่ มีอำนาจยึดไว้เอาไปใช้ ห้ามการใช้หรือห้ามการยักย้ายซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม หรือส่วนใด ๆ แห่งเครื่องวิทยุคมนาคมในระหว่างเวลาและภายในเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในคำสั่งนั้น
มาตรา 15 ผู้ใดกระทำให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการ วิทยุคมนาคมโดยมิได้เจตนา เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจสั่งให้ผู้นั้นระงับการกระทำนั้น หรือให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ใช้ในการ กระทำนั้นเสีย หรือให้ย้ายสิ่งดังกล่าวนั้นออกไปให้พ้นเขตรบกวนได้
มาตรา 16 ห้ามมิให้ผู้ใดส่งหรือจัดให้ส่งข้อความใด ๆ โดย วิทยุคมนาคมอันตนรู้อยู่ว่าเป็นเท็จ หรือข้อความอื่นใดที่มิได้รับอนุญาตจากพนักงาน เจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติหรือประชาชน
มาตรา 17 ห้ามมิให้ผู้ใดดัก รับไว้ ใช้ประโยชน์ หรือเปิดเผยโดย มิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งข่าววิทยุคมนาคมที่มิได้มุ่งหมายเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติหรือประชาชน
มาตรา 18 เพื่อตรวจเครื่องวิทยุคมนาคม ส่วนแห่งเครื่องวิทยุคมนาคม สถานีวิทยุคมนาคม สิ่งที่ก่อให้เกิดการรบกวนหรือขัดขวางต่อการ วิทยุคมนาคม หรือใบอนุญาต เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย มีอำนาจเข้าไปในอาคารสถานที่ หรือยานพาหนะของบุคคลใด ๆ ได้ในเวลา อันสมควร
เมื่อปรากฏว่าผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือมีเหตุ อันควรสงสัยว่ากระทำการเช่นว่านั้น ให้เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตหรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายตามความในวรรคหนึ่ง มีอำนาจจับกุมผู้นั้นพร้อมด้วยของกลางที่ใช้ใน การกระทำความผิดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
[ มาตรา 18 วรรคสอง เพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 19 ในกรณีที่ผู้รับใบอนุญาตฝ่าฝืนต่อบทแห่งพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ หรือเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน ใบอนุญาต เจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตมีอำนาจสั่งเพิกถอนหรือพักใช้ใบอนุญาต ของผู้นั้นเสียได้
ผู้รับใบอนุญาตอาจอุทธรณ์ไปยังอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลขภายใน สามสิบวัน นับแต่วันถูกเพิกถอนหรือพักใช้ คำชี้ขาดของอธิบดีกรมไปรษณีย์โทรเลข ให้เป็นที่สุด
มาตรา 20 รัฐบาลไม่ต้องรับผิดชอบในกรณีสูญหายหรือเสียหาย อย่างหนึ่งอย่างใด ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพราะเหตุที่เครื่องวิทยุคมนาคมของรัฐบาล ใช้การไม่สะดวกและไม่ต้องรับผิดชอบในการรับ การส่ง หรือการส่งมอบข่าวสาร วิทยุคมนาคมใด ๆ
ในกรณีดังกล่าวในวรรคก่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องรับผิดชอบ เช่นเดียวกันเว้นแต่พนักงานเจ้าหน้าที่นั้นจะก่อให้เกิดขึ้นโดยจงใจ ฉ้อฉล หรือ ประมาทเลินเล่อ
มาตรา 21 ความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ให้เจ้าพนักงานผู้ออก ใบอนุญาตมีอำนาจทำการเปรียบเทียบได้
มาตรา 22 เมื่อมีคำพิพากษาว่า ผู้ใดกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ศาลจะสั่งริบสิ่งที่ใช้ในการกระทำความผิดนั้น เพื่อให้ไว้ใช้ในราชการกรม ไปรษณีย์โทรเลขด้วยก็ได้
มาตรา 23 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 6 มาตรา 11 หรือ มาตรา 16 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 23 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 24 ในกรณีที่มีการฝ่าฝืน มาตรา 12 หรือ มาตรา 13 ผู้ควบคุมสถานีวิทยุคมนาคม หรือผู้ควบคุมเครื่องวิทยุคมนาคม และผู้มีส่วนร่วมใน การกระทำผิดนั้นมีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุก ไม่เกินสองปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 24 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 25 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 7 มาตรา 8 หรือ มาตรา 17 มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือ ทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 25 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 26 ผู้ใดจงใจกระทำให้เกิดการรบกวน หรือขัดขวางต่อ การวิทยุคมนาคมมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือจำคุก ไม่เกินห้าปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 26 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 27 ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต หรือ ผู้ที่ได้รับมอบหมายตามความใน มาตรา 15 มีความผิด ต้องระวางโทษปรับ ไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินสองปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
[ มาตรา 27 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
มาตรา 28 บรรดาใบอนุญาตและประกาศนียบัตรที่ได้ออกไว้ตาม กฎหมายว่าด้วยวิทยุสื่อสารก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้ใช้ได้จนถึงวันสิ้น กำหนดอายุใบอนุญาต หรือประกาศนียบัตรนั้น ๆ
มาตรา 29 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจแต่งตั้งเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาตและออก กฎกระทรวง
(1) วางระเบียบการขอและการออกใบอนุญาต
(2) กำหนดวิธีการเพิกถอนและพักใช้ใบอนุญาต
(3) กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัตินี้
(4) กำหนดคุณลักษณะของเครื่องวิทยุคมนาคม และคุณวุฒิสำหรับ พนักงานวิทยุคมนาคม
(5) กำหนดกิจการอื่นใดเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้ บังคับได้
[ความใน (3) ของ มาตรา 29 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535]
:: ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี
อัตราค่าธรรมเนียม
[อัตราค่าธรรม