วันนี้ประมาณ บ่าย 2 โมงได้ไปชำระเงินค่าใช้โทรศัพท์ 2 ค่ายที่เคานต์เตอร์เซอร์วิสในห้างขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ขายคอมพ์และขายโทรศัพท์ดังแห่งหนึ่ง โดยค่ายหนึ่งเป็นเงิน 416.23 บาท อีกค่ายหนึ่งเป็นเงิน 214 บาท รวม 2 บิลเป็นเงิน 630.23 บาท พนักงานบอกจำนวนเงินว่า 630 บาท 25 สตางค์ เราก็เอาแบงค์พันบาทให้ไป พนักงานคนนั้นทอนมา 369 บาท เราก็ถามว่าเท่าไหร่นะ เขาบอกว่า 630 บาท 25 สตางค์ เราก็ถามว่า 25 สตางค์แล้วทำไมคิดไปตั้ง 1 บาท เขาว่าไม่มีตังค์ทอน เราก็เลยว่า 25 สตางค์ กับ 75 สตางค์อันไหนมากกว่ากัน ของลูกค้าแค่ 25 สตางค์คุณเสียไม่ได้ แต่คุณจะเอาของลูกค้าไปเฉย ๆ 75 สตางค์ คุณไปหาเศษสตางค์มาไว้ทอนซะ อย่าเอาของเขาไปดื้อ ๆ พนักงานมันก็ทำเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาวๆไม่ยอมทอนเงินให้ ปริ้นท์ใบเสร็จให้แล้วทำหน้าเฉย ขนาดเราว่าให้อย่างนั้นแล้ว เราก็เลยค้นหาเศษ 25 สตางค์ให้ไปแล้วให้เอาเหรียญบาทคืนมา แต่พอกลับถึงบ้าน มาดูใบเสร็จรับเงิน บิลที่เป็นเงิน 416.23 บาท ลงในใบเสร็จแค่ 416 บาทเท่านั้นเอง แสดงว่า 1 บาทที่เอาเกินไปเอาเข้ากระเป๋าตัวเองใช่ไหม
ทีแรกคิดว่าพนักงานเคาน์เตอร์นี้เป็นของบริษัทค่ายมือถือซะอีก แต่พอออกมาจะกลับแล้วสังเกตเห็นพนักงานหญิงคนอื่น ๆ ของห้างก็ใส่ชุดเหมือนกับพนักงานคนนั้นก็เลยโทรศัพท์ไปถามฝ่ายบุคคลของห้างว่าพนักงานเคาน์เตอร์เซอร์วิสของค่ายมือถือค่ายนั้นเป็นพนักงานของห้างหรือของค่ายมือถือ เขาตอบว่าเป็นพนักงานของห้างเองมีอะไรหรือก็เลยเล่าให้เขาฟัง ก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร เงินไม่มากแต่การกระทำแบบนี้เราว่าไม่เหมาะสม พนักงานเก็บเงินก็ควรหาเศษเงินไว้ทอนลูกค้า ไม่ใช่มาบอกว่าไม่มีตังค์ทอนแล้วเก็บเงินเกินไป ถ้าวันหนึ่งหลาย ๆ รายก็ได้ไปหลายบาท
เล่าถึงพฤติกรรมพนักงานเคาน์เตอร์เซอร์วิสห้างดังแห่งหนึ่ง
ทีแรกคิดว่าพนักงานเคาน์เตอร์นี้เป็นของบริษัทค่ายมือถือซะอีก แต่พอออกมาจะกลับแล้วสังเกตเห็นพนักงานหญิงคนอื่น ๆ ของห้างก็ใส่ชุดเหมือนกับพนักงานคนนั้นก็เลยโทรศัพท์ไปถามฝ่ายบุคคลของห้างว่าพนักงานเคาน์เตอร์เซอร์วิสของค่ายมือถือค่ายนั้นเป็นพนักงานของห้างหรือของค่ายมือถือ เขาตอบว่าเป็นพนักงานของห้างเองมีอะไรหรือก็เลยเล่าให้เขาฟัง ก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร เงินไม่มากแต่การกระทำแบบนี้เราว่าไม่เหมาะสม พนักงานเก็บเงินก็ควรหาเศษเงินไว้ทอนลูกค้า ไม่ใช่มาบอกว่าไม่มีตังค์ทอนแล้วเก็บเงินเกินไป ถ้าวันหนึ่งหลาย ๆ รายก็ได้ไปหลายบาท