ผู้บริโภค โวย! โรงภาพยนตร์ 2 เครือยักษ์ใหญ่ ฉายโฆษณานาน ราคาอาหาร เครื่องดื่มแพงกว่าท้องตลาดเกือบเท่าตัว

ผู้บริโภค โวย! โรงภาพยนตร์ 2 เครือยักษ์ใหญ่ ฉายโฆษณานาน ราคาอาหาร เครื่องดื่มแพงกว่าท้องตลาดเกือบเท่าตัว สคบ. เร่งส่งกรมการค้าภายในตรวจสอบ ด้าน จิรชัย แนะทำธุรกิจต้องมีจิตสำนึก!...

จากกรณีผู้บริโภคจำนวนมากร้องเรียนผ่านไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค เรื่องราคาอาหารและเครื่องดื่ม ในโรงภาพยนตร์มีราคาแพงกว่าที่ขายตามท้องตลาดทั่วไปนั้น

ล่าสุด ทางผู้สื่อข่าว ไทยรัฐออนไลน์  ได้ทดลองเข้าไปสำรวจราคาอาหารและเครื่องดื่มในโรงภาพยนตร์ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ในกรุงเทพมหานคร พบว่า  ที่โรงภาพยนตร์ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า สาขาห้างเซ็นทรัล ลาดพร้าว รอบเวลา 15.35 น. โรงภาพยนตร์ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สาขารัชโยธิน รอบเวลา 18.20 น. พบว่า ทั้งราคาอาหารและน้ำดื่ม มีราคาแพงกว่าท้องตลาดจริง โดยมีราคาแพงกว่าเกือบเท่าตัว และเมื่อนำรายการอาหารและเครื่องดื่มเหล่านั้นไปเปรียบเทียบกับราคาอาหารและเครื่องดื่ม ในห้างเทสโก้ โลตัส และร้านสะดวกซื้อทั่วไป พบว่ามีราคาดังต่อไปนี้



นอกจากนี้ ทางไทยรัฐออนไลน์ได้ทดสอบจับเวลาตัวอย่างภาพยนตร์และโฆษณาต่างๆ ก่อนการฉายภาพยนตร์ ของโรงภาพยนตร์ในเครือ เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า รอบเวลา 15.35 น. พบว่า มีโฆษณาทั้งแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวกว่า 9 ตัว ใช้เวลาประมาณ 13 นาที ตัวอย่างภาพยนตร์ กว่า 6 ตัว ใช้เวลาประมาณ 4 นาที และอื่นๆอีกประมาณ 3 นาที รวมเวลาก่อนได้ชมภาพยนตร์ทั้งสิ้นประมาณ 20 นาที

ส่วนโรงภาพยนตร์ในเครือ เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน รอบเวลา 18.20 น. พบว่า มีโฆษณาทั้งแบบภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวกว่า 16 ตัว ใช้เวลาประมาณ 12 นาที ตัวอย่างภาพยนตร์ กว่า 7 ตัว ใช้เวลาประมาณ 8 นาที และอื่นอีกๆ ประมาณ 5 นาที รวมเวลาก่อนได้ชมภาพยนตร์ทั้งสิ้นประมาณ 25 นาที  


ขณะที่ นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวกับ ไทยรัฐออนไลน์ ว่า หลังจากที่ สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับราคาอาหาร ขนม รวมทั้งค่าบริการในโรงภาพยนตร์มีราคาไม่สมเหตุสมผล อาทิ ราคาบัตรชมภาพยนตร์ในแต่ละเรื่องมีราคาไม่เท่ากัน โดยอาจเป็นไปตามกระแสความนิยมของสังคม และระยะเวลาการฉายโฆษณาและภาพยนตร์ตัวอย่างก่อนฉายภาพยนตร์จริงนานเกินไป เบื้องต้นมีการประชุมชี้แจงไปแล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน ซึ่งตอนนี้อยู่ในช่วงรอทางกรมการค้าภายใน (คน.) เข้าไปตรวจสอบถึงความถูกต้องเหมาะสม

ในส่วนของราคาตั๋วชมภาพยนตร์ ทางผู้ประกอบการชี้แจงว่า จะได้รับส่วนแบ่งจากภาพยนตร์ต่อเรื่อง คิดเป็น**ส่วน 50:50 ซึ่งทาง คน.จะเป็นผู้เข้าไปตรวจสอบรายรับ-รายจ่ายของผู้ประกอบการว่า มีความสมเหตุสมผลกับราคาตั๋วชมภาพยนตร์หรือราคาสินค้าที่นำออกมาวางจำหน่ายหรือไม่  

ทั้งนี้ ทาง สคบ. ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายหลัก ทั้งเมเจอร์ฯ และเอสเอฟฯ กลับไปทบทวนถึงความเหมาะสมที่ควรเกิดขึ้นและหาทางแก้ไขต่อไป เพราะตอนนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมหรือผู้บริโภคกำลังมาแรง อีกทั้งเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรก

ในส่วนของระยะเวลาการฉายโฆษณาและภาพยนตร์ตัวอย่างที่มีผู้ร้องเรียนมาว่า ใช้เวลาฉายนานจนเกินไปนั้น ทางผู้ประกอบการยืนยันว่า ทางโรงภาพยนตร์ไม่ได้ฉายเกิน 6 นาทีแต่อย่างใด (แต่ผลการทดลองของผู้สื่อข่าวของไทยรัฐออนไลน์ พบว่าโรงภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 เครือ ฉายโฆษณามีระยะเวลาเกิน 6 นาที) ซึ่งทาง สคบ.ได้ชี้แจงไปกับทางผู้ประกอบการแล้วว่า จะต้องมีการแบ่ง**ส่วนของโฆษณาและภาพยนตร์ให้ชัดเจนและพอเหมาะพอคว


“หากทำธุรกิจ จะต้องนึกถึงหัวใจผู้บริโภคเป็นสำคัญ และยิ่งเป็นธุรกิจที่มุ่งเน้นความบันเทิงด้วยแล้ว ก็เป็นตัวบ่งบอกได้อย่างดีว่า งานบริการ คืองานที่จะส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าอย่างแท้จริง ดังนั้น การจะทำธุรกิจให้ดีได้นั้น จะต้องทำอย่างมีจิตสำนึก” นายจิรชัย กล่าว

จากการโทรสอบถาม บริษัทวิจัย เอจีบี เนลสัน รีเสิร์ช เพื่อสอบถามข้อมูลผลการวิจัยของอัตราค่าโฆษณาก่อนเข้าฉายภาพยนตร์ของ 2 เครือยักษ์ใหญ่ ทั้งเครือเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และเอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า พบว่าทางบริษัทไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลปิดและอาจส่งผลเสียต่อตัวบริษัทนั้นๆ


ที่มา
http://www.thairath.co.th/content/eco/345961
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่