จากที่เคยใช้ new Captiva 2.0 LTZ รุ่น TOP และ CRV G4 2.4 รุ่น TOP ทั้งคู่
- ซื้อ Captiva มา ม.ค.2012 ขายทิ้ง ม.ค.2013 (ซื้อมา 1 ปี ความร้อนขึ้นกลางทาง 2 รอบ)
- ซื้อ CRV G4 มาตอนเดือน มี.ค.2013 และใช้ถึงปัจจุบันครับ
=======================================================
- รูปลักษณ์ภายนอก > แล้วแต่ละท่านที่ชอบชอบ ส่วนตัวคิดว่าใกล้เคียงกัน
- ช่วงล่าง > CAPTIVA เป็นรถที่ช่วงล่างและการแกะถนนดีมากๆ เทียบกับรถยุโรปได้สบายๆ (แต่ CRV ดีในระดับที่พอใจครับ)
- อัตราเร่ง > CRV อัตราเร่งดีกว่า อาจเพราะ CRV เป็นเบนซิน อัตราเร่งต้นดีกว่า โดยการเฉพาะในกรุงเทพที่ต้องเร่ง-เบรคตลอด แต่ลอยตัวแล้วไม่ต่างกันมากครับ
- ภายใน > CRV เก็บงานได้ดีกว่าชัดเจนครับ เก็บงานได้เรียบร้อยกว่า ..Captiva ผมสัปดาห์แรก ที่ล๊อคลิ้นชักหลุด ที่นั่งคนขับขยับได้ และ ฝากประตูท้ายปิดไม่สนิท
- QC รถ > CRV ดีกว่ามากๆๆๆๆๆ ตั้งแต่ซื้อมายังไม่ปัญหาอะไร ..Captiva ความร้อนขึ้นกลางทางตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ซื้อมา รวมถึงการประกอบที่ไม่ละเอียดด้วย
- เครื่องเสียง > Captiva เครื่องเสียงคุณภาพดีกว่าครับ
- Navigator > Captiva ทำงานเร็วกว่าครับ
- วัสดุภายใน > ใกล้เคียงกัน แต่ต่างที่งานประกอบ CRV ละเอียดกว่า ..แต่ Captiva มีบางตำแหน่งใช้วัสดุดีกว่า เช่น หนังกรุประตู
- ที่วางแก้วและช่องใส่ของ > ผมชอบ CRV มากกว่า เช่น กลางใส่แก้วน้ำ 3 ใบ, ที่วางแขนใส่กระเป๋า CD ได้, (แต่ Captiva มีช่องใส่ของขนาดใหญ่ใต้แก้วน้ำกลาง)
- ไฟหน้าอัตโนมัติ > CRV ฉลาดกว่า เปิด-ปิด ใกล้เคียงสถานะการจริง ...Captiva ค่อนข้างไว(ศูนย์แจ้งปรับค่าไม่ได้) เช่น ลอดใต้ทางด่วน หรือ แสงตอนเย็นๆ ก็เปิดแล้ว(ปิดไม่ได้ต้องเป็น Auto ทิ้งไว้)
- Option และ อุปกรณ์เสริม > CRV มีมากกว่าเช่น push start, เปิดประตู, ที่นั่งไฟฟ้าข้างคนขับ, จอสถานะ, USB, เกียร์ paddle ship เป็นต้น (Captiva มี P ไฟฟ้า)
- ศูนย์บริการ > Honda เหนือกว่าค่อนข้างมากทั้งจำนวนและคุณภาพ ..Chev ช่างเก่งๆอาจจะน้อย เฉพาะปัญหาของผมกว่าจะแก้ไขได้ และแก้แล้วไม่จบ
- อัตราสิ้นเปลือง > CRV ผมใช้ในกรุงเทพประมาณ 9-10 กิโลลิตร เติม E85 ลิตรล่ะ 21 บาท ..Captiva ใช้ในกรุงเทพประมาณ 9-10 กิโลลิตร เติม ดีเซลลิตรล่ะ 29 บาท
- ราคาขายต่อ > CRV อาจจะดีกว่า แต่ไม่ต่างกันมากครับ หรือหากต่างก็เพียงเล้กน้อย
- เสียงเครื่อง > CRV เงียบกว่าเพราะเบนซิน ..แต่ Captiva ก็ถือว่าเงียบเมื่อเทียบกับดีเซลคันอื่น
- บำรุงรักษา > CRV ถูกกว่าหลายรายการครับ (แต่ไม่มาก)
- ที่นั่ง > ที่นั่งคนขับและข้างคนขับ - CRV นั่งสบายกว่าครับ, สำหรับแถวสอง - ผมชอบ Captiva มากกว่า, ส่วนแถว 3 Captiva มีใช้เมื่อจำเป็น
- ราคา > CRV ถูกกว่าประมาณ 2 แสนบาท-
- เจ้าหน้าที่และระบบการทำงานศูนย์ > ที่ผมเจอ Honda เป็นระบบและพูดจาน่าฟังกว่าครับ
=======================================================
**ถ้าให้สรุป
# CRV > หากต้องการความสบายใจในการใช้งาน ทั้งศูนย์และ QC , การประหยัดน้ำมัน, อัตราเร่ง, เสียงเงียบ(เบนซิน), Option ที่มากกว่าในราคาที่ถูกกว่า
# Captiva > หากต้องการสมรรถนะช่วงล่าง และ 7 ที่นั่ง (หากไม่เน้น 2 อย่างนี้ CRV น่าสนใจกว่า)
=======================================================
หวังว่าข้อมูลนี้ น่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเทียบทั้งสองคันนี้ครับ
ปล. ข้อมุลทั้งหมด จากความเห็นส่วนตัว ที่เคยใช้ทั้งสองคัน ถูกผิดประการใดไม่แน่ใจครับ
[CR] เปรียบเทียบ CRV G4 2.4 TOP กับ new Captiva 2.0 TOP เคยใช้ทั้งสอง
- ซื้อ Captiva มา ม.ค.2012 ขายทิ้ง ม.ค.2013 (ซื้อมา 1 ปี ความร้อนขึ้นกลางทาง 2 รอบ)
- ซื้อ CRV G4 มาตอนเดือน มี.ค.2013 และใช้ถึงปัจจุบันครับ
=======================================================
- รูปลักษณ์ภายนอก > แล้วแต่ละท่านที่ชอบชอบ ส่วนตัวคิดว่าใกล้เคียงกัน
- ช่วงล่าง > CAPTIVA เป็นรถที่ช่วงล่างและการแกะถนนดีมากๆ เทียบกับรถยุโรปได้สบายๆ (แต่ CRV ดีในระดับที่พอใจครับ)
- อัตราเร่ง > CRV อัตราเร่งดีกว่า อาจเพราะ CRV เป็นเบนซิน อัตราเร่งต้นดีกว่า โดยการเฉพาะในกรุงเทพที่ต้องเร่ง-เบรคตลอด แต่ลอยตัวแล้วไม่ต่างกันมากครับ
- ภายใน > CRV เก็บงานได้ดีกว่าชัดเจนครับ เก็บงานได้เรียบร้อยกว่า ..Captiva ผมสัปดาห์แรก ที่ล๊อคลิ้นชักหลุด ที่นั่งคนขับขยับได้ และ ฝากประตูท้ายปิดไม่สนิท
- QC รถ > CRV ดีกว่ามากๆๆๆๆๆ ตั้งแต่ซื้อมายังไม่ปัญหาอะไร ..Captiva ความร้อนขึ้นกลางทางตั้งแต่สัปดาห์แรกที่ซื้อมา รวมถึงการประกอบที่ไม่ละเอียดด้วย
- เครื่องเสียง > Captiva เครื่องเสียงคุณภาพดีกว่าครับ
- Navigator > Captiva ทำงานเร็วกว่าครับ
- วัสดุภายใน > ใกล้เคียงกัน แต่ต่างที่งานประกอบ CRV ละเอียดกว่า ..แต่ Captiva มีบางตำแหน่งใช้วัสดุดีกว่า เช่น หนังกรุประตู
- ที่วางแก้วและช่องใส่ของ > ผมชอบ CRV มากกว่า เช่น กลางใส่แก้วน้ำ 3 ใบ, ที่วางแขนใส่กระเป๋า CD ได้, (แต่ Captiva มีช่องใส่ของขนาดใหญ่ใต้แก้วน้ำกลาง)
- ไฟหน้าอัตโนมัติ > CRV ฉลาดกว่า เปิด-ปิด ใกล้เคียงสถานะการจริง ...Captiva ค่อนข้างไว(ศูนย์แจ้งปรับค่าไม่ได้) เช่น ลอดใต้ทางด่วน หรือ แสงตอนเย็นๆ ก็เปิดแล้ว(ปิดไม่ได้ต้องเป็น Auto ทิ้งไว้)
- Option และ อุปกรณ์เสริม > CRV มีมากกว่าเช่น push start, เปิดประตู, ที่นั่งไฟฟ้าข้างคนขับ, จอสถานะ, USB, เกียร์ paddle ship เป็นต้น (Captiva มี P ไฟฟ้า)
- ศูนย์บริการ > Honda เหนือกว่าค่อนข้างมากทั้งจำนวนและคุณภาพ ..Chev ช่างเก่งๆอาจจะน้อย เฉพาะปัญหาของผมกว่าจะแก้ไขได้ และแก้แล้วไม่จบ
- อัตราสิ้นเปลือง > CRV ผมใช้ในกรุงเทพประมาณ 9-10 กิโลลิตร เติม E85 ลิตรล่ะ 21 บาท ..Captiva ใช้ในกรุงเทพประมาณ 9-10 กิโลลิตร เติม ดีเซลลิตรล่ะ 29 บาท
- ราคาขายต่อ > CRV อาจจะดีกว่า แต่ไม่ต่างกันมากครับ หรือหากต่างก็เพียงเล้กน้อย
- เสียงเครื่อง > CRV เงียบกว่าเพราะเบนซิน ..แต่ Captiva ก็ถือว่าเงียบเมื่อเทียบกับดีเซลคันอื่น
- บำรุงรักษา > CRV ถูกกว่าหลายรายการครับ (แต่ไม่มาก)
- ที่นั่ง > ที่นั่งคนขับและข้างคนขับ - CRV นั่งสบายกว่าครับ, สำหรับแถวสอง - ผมชอบ Captiva มากกว่า, ส่วนแถว 3 Captiva มีใช้เมื่อจำเป็น
- ราคา > CRV ถูกกว่าประมาณ 2 แสนบาท-
- เจ้าหน้าที่และระบบการทำงานศูนย์ > ที่ผมเจอ Honda เป็นระบบและพูดจาน่าฟังกว่าครับ
=======================================================
**ถ้าให้สรุป
# CRV > หากต้องการความสบายใจในการใช้งาน ทั้งศูนย์และ QC , การประหยัดน้ำมัน, อัตราเร่ง, เสียงเงียบ(เบนซิน), Option ที่มากกว่าในราคาที่ถูกกว่า
# Captiva > หากต้องการสมรรถนะช่วงล่าง และ 7 ที่นั่ง (หากไม่เน้น 2 อย่างนี้ CRV น่าสนใจกว่า)
=======================================================
หวังว่าข้อมูลนี้ น่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังเทียบทั้งสองคันนี้ครับ
ปล. ข้อมุลทั้งหมด จากความเห็นส่วนตัว ที่เคยใช้ทั้งสองคัน ถูกผิดประการใดไม่แน่ใจครับ