มาเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับผ่าถุงใต้ตา+ตัดปีกจมูกค่ะ

หลังจากทนไม่ไหวกับถุงใต้ตาที่รบกวนหนังหน้า และเริ่มชัด+ใหญ่ขึ้น ตั้งแต่เข้าเลข3 มาได้ซักหน่อย
พยายามหาครีมต่างๆ ที่โฆษณาว่าดีอย่างงั้น อย่างงี้  สุดท้ายมันก็ไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากเสียเงินไปเปล่าๆ
ก็ปลง อยุ่กับสภาพนั้นมาหลายปี จนเพิ่งมาเร็วๆนี้  ที่หลายคนเริ่มทัก เราเลยต้องนำเรื่องนี้มาคิดใหม่
ก็เลยเริ่มหาข้อมุล เกี่ยวกับการผ่า/สถานที่/เริ่มอ่านรีวิวของคนอื่นบ้าง
ไปอ่านเจอเคส ประเภทผ่าด้านใน ก็สนใจ เพราะใจจริงเราก็ไม่อยากผ่า แบบด้านนอก
เรากลัวความเสี่ยงในเรื่องหนังตาปลิ้น/ตาไม่หลับสนิท ฯลฯ
คิดอยู่ไม่นาน เราก้ตัดสินใจ โทรไป รพ.แถวจรัญฯ เพราะมองว่า หมอน่าจะเชียวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้
เราก็ถาม จนท. ที่รับสายเลยว่า ไปพบแพทย์แล้วสามารถทำได้เลยมั้ย ต้องนัดก่อนหรือเปล่า
(เราไม่อยากเสียเวลาไปกลับหลายรอบ เพราะไหนๆ ก้ตั้งใจทำแล้ว)
จนท.บอกทำได้เลย และต้องการพบคุณหมอท่านใดเป็นพิเศษมั้ย?
เราก้บอก หมอท่านใดก็ได้ และ นัดวันที่เวลากะ จนท.เลย
จนท.ก็บอกวิธีเตรียมตัว ต้องมีคนมาด้วย ประมาณนี้

พอถึงวันนัด (1 พค.56)
เราให้แฟนพามา โดยมาถึงที่ รพ. ประมาณเกือบ 10 โมงเช้า พอติดต่อ จนท.เสร็จ เค้าก็พาเราขึ้นไปที่ชั้น 4
ซึ่งเป็นเกี่ยวกับ พวกศัลยกรรม  เห็นแล้วทึ่ง ที่คนเยอะมาก (เราลืมไปว่าวันที่ 1คือวันหยุดวันแรงงาน คนเลยเยอะกว่าวันปกติ)
หลังจากซักประวัติ รอเรียกเจอหมอ ประมาณ 1 ชม.  เราก้ถึงได้คิวเข้าไป
เราก็ถามคุณหมอก่อนเลยว่า อย่างเราอ่ะ ไม่ผ่าด้านนอกได้มั้ย  
หมอก็บอกว่าไม่ได้ เพราะของเราถุงใต้ตาป่องพอควร ต้องตัดเก็บเนื้อด้วย
เราก็ถามหมออีก ว่ามันจะปลิ้น และตาหลับไม่สนิทมั้ย(ข้อมูลมาจากอ่านของชาวบ้านมาล้วนๆ)
หมอก็บอก ไม่ปลิ้นสิ  กรณีที่คนนั้นไปทำมาแล้วตาปลิ้น อาจจะเกิดจากหมอที่ทำ เค้าดึงรั้งเนื้อมากเกินไป
และก็คำถามสุดท้ายที่เราถามคือ แผลมันจะหายยากมั้ย และใช้เวลานานเท่าไหร่
หมอก็บอกแล้วแต่คนนะ แต่รอยจะค่อยๆจางไป อยุ่ที่ประมาณ 2-6 เดือน
หมอก็บอก ไปคิดดูก่อนก็ได้นะ
เราบอกหมอทันที เลยค่ะ ว่าเราจะทำวันนี้
หมอถาม งดข้าวงดน้ำมาแล้วใช่มั้ย  เราก็บอกค่ะ เมื่อวาน จนท.บอกเราแล้ว
หลังจากนั้น พยาบาล ก้พาออกมา และให้เราไปรอจ่ายเงิน
เราก็เพิ่งเคยเห็น รพ.ที่เก็บเงินก่อน ก็ที่นี่แหละ  ปกติที่อื่นจะจ่ายก่อนรับยา^^
แปีบเดียวก็เรียกจ่ายเงิน จากนั้นพยาบาล ก็เรียกไปรอหน้าห้องผ่าตัด
15 นาทีต่อมา ก็มีพยาบาลมาเรียก ให้เข้าไปรอในห้องเตรียมตัว เราเข้าไปตอนเที่ยง
แต่ไปนั่งรอคิว ข้างใน  จนถึง 15.00น ถึงได้เป็นคิวเรา
ข้างในคนนั่งรอกันเยอะมาก ส่วนมากจะนั่งหลับรอกัน แต่เรานี่หิวจนหลับไม่ลง เล่นอดข้าวอดน้ำ ตามที่ จนท. บอก ตั้งแต่หลังเที่ยงคืน
ตอนถึงคิวเรา จนท.มารับ และก็พานั่งรถเข็นไปห้องผ่าตัด
พอให้เรานอน  ก็ถามชื่ออะไร/มาทำอะไร/กับหมออะไร
ขออนุญาติมัดมือกับ เตียงทั้ง 2 ข้าง  ทำความสะอาดหน้า แล้วก็ฉีดยาเข้าที่หลังมือ
แป๊บเดียว เราก็ไม่รู้เรื่องแล้ว มารู้สึกตัวอีกที ได้ยินเสียงคนร้องเพลง ก็ยังหลับตาอยู่แต่ฟัง โอ้ว..หมอฮัมเพลง ให้รักมันโตในใจ
บร๊ะเจ้า..วัยรุ่นมากกก แล้วก็ได้ยินเสียงหมอถามว่า รุ็สึกตัวแล้วใช่มั้ย? อย่าเพิ่งลืมตานะ
เรา ก็ ค่ะ(ในใจ) เพราะยังรู้สึกง่วงๆ มึนๆ อยู่ ได้กลิ่นเหมือนอะไรไหม้ๆ แล้วเหมือนหมอน่าจะกำลังเย็บปิดแผล
กลิ่นไหม้นั้น มารู้ทีหลังตอนถามพยาบาล เค้าบอกเป็นเลเซอร์ห้ามเลือด
พอเสร็จ พยาบาลก็พยุงให้ลุกขึ้น แล้วพานั่งรถเข็นมาที่ห้องพักฟื้น เอาโคลแพคให้ประคบ ตอนมาถึงห้องนี้ เราเริ่มเจ็บหน่วงๆตา
เลยบอกพยาบาล ๆ ก็เอาพารามาให้กิน
นอนอยู่ประมาณ 15-20 นาที  เค้าก็ตามญาติให้มารับ

เอารูปก่อนทำให้ดู อันนี้ยังไม่ยิ้มนะคะ แล้วก็ไม่ใช่เพิ่งตื่นด้วย
บ้านเราเป็นกรรมพันธ์ บวกกับใส่แว่นตอนเรียน และคอนแทค ที่นิสัยเสียชอบแหกตาหยิบแบบไม่ระวัง
ยิ่งพออ้วนขึ้น ยิ่งไปกันใหญ่ อิอิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่