ฟ้าผ่า!พี่เบ็คประกาศแขวนสตั๊ดยุติตำนาน 2 ทศวรรษบนผืนหญ้า
ปิดตำนานแบบไม่ทันตั้งตัวไปอีกหนึ่งเมื่อเดวิด เบ็คแฮมมิดฟิลด์พ่อลูกสี่ของปารีส แซงต์ แชร์กแมงได้ประกาศรีไทร์อย่างเป็นทางการแล้วยุติเส้นทางอาชีพค้าแข้งไว้เพียงเท่านี้
นับตั้งแต่ประเดิมสนามให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อสองทศวรรษก่อน ดาวเตะวัย 38 ปีก็กลายเป็นสตาร์ดาวเด่นในวงการฟุตบอลมาอย่างนาวนาน เป็นกัปตันทีมชาติ ติดธง"สิงโตคำราม"ไป 115 นัดและคว้าแชมป์ลีกได้อีก 4 ประเทศต่างกันไป
แม้ทางเปแอสเชจะพร้อมขยายสัญญาเขาเพิ่มออกไปอีกปี แต่ล่าสุดหลังมีข่าวหลุดรอดออกมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทางเบ็คแฮมก็ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาจะโบกมือลาจากเส้นทางค้าแข้งในสิ้นฤดูกาลนี้
"ผมขอบคุณเปแอสเชที่ให้โอกาสกับผมได้เล่นต่อไปแต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเวลาเหมาะสมที่ผมจะจบอาชีพค้าแข้งของผมแล้ว การยังเล่นในระดับสูงสุด"เบ็คแฮมเปิดใจ
"ถ้าคุณบอกผมว่าในตอนเป็นเด็กว่าผมจะได้เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมขวัญใจในวัยเด็กและคว้าแชมป์ให้ เป็นกัปตันอย่างภาคภูมิและลงสนามให้กับประเทศของผมเกินกว่า 100 นัดและยังเล่นให้กับทีมที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งหลาย ผมคงบอกคุณว่ามันเป็นเรื่องแฟนตาซีแล้ว ผมโชคดีที่ผมทำได้ตามความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง"
"ทุกวันนี้ หนึ่งในความสำเร็จที่ผมภูมิใจที่สุดคือการได้เป็นกัปตันทีมชาติของผมเอง"
"ผมรู้ว่าทุกครั้งที่ผมสวมใส่เสื้อสิงโตคำราม ผมไม่ได้ยืนอยู่ในแถวที่เต็มไปด้วยนักเตะยอดเยี่ยมเท่านั้น ผมยังเป็นตัวแทนแฟนๆทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใยทีมประเทศพวกเขา"
เบ็คแฮมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัยและแชมเปี้ยนส์ลีกอีกสมัยกับ"ปิศาจแดง" เกล็น ฮอดเดิลเป็นคนมอบโอกาสให้เขาประเดิมทีมชาติในปี 1996 และมีเหตุการณ์ใบแดงอันโด่งดังในฟุตบอลโลกปี 1998 ก่อนกลายเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ที่ติดทีมชาติมากที่สุดคือ 115 นัด
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนอังกฤษในทั้งและนอกสนามเลย ผมอยากขอบคุณเพื่อนร่วมทีมผมทุกคน ผู้จัดการยอดเยี่ยมๆที่ผมได้เรียนรู้มาด้วยความปิติยินดี ผมยังอยากขอบคุณแฟนๆที่สนับสนุนผมและมอบความแข็งแกร่งให้ผมจนประสบความสำเร็จ"
เบ็คแฮมย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปอยู่กับเรอัล มาดริดในซัมเมอร์ปี 2003 และคว้าแชมป์ลาลีก้าได้สำเร็จก่อนย้ายไปอยู่กับแอลเอ กาแลคซี่ที่ๆเขาคว้าแชมป์เอ็มแอลเอส คัพได้ด้วย
นอกจากนี้ยังเคยถูกยืมตัวไปค้าแข้งในอิตาลีกับเอซี มิลานอยู่สองครั้ง ก่อนมาอยู่กับเปแอสเชสโมสรสุดท้ายของเขาและเพิ่งคว้าแชมป์ลีกเอิงไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เบ็คแฮมบอกเพิ่มเติมว่า "ไม่มีอะไรจะเข้ามาแทนที่การได้เล่นฟุตบอลที่ผมรักได้แน่นอน ยังไงก็ตามผมรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่และตื่นเต้นกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าจริงๆ"
"ผมโชคดีที่ได้รับโอกาสมากมายมาตลอดเส้นทางอาชีพค้าแข้งของผมและตอนนี้ผมก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องมอบคืนไปแล้ว"
credit : www.soccersuck.com
ถึงวันอำลา!เบ็คส์ประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่น
เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ซูเปอร์สตาร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรอภิมหาเศรษฐีแห่งศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ประกาศยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า ตัวเองจะแขวนสตั๊ดหลังจากจบฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่เพิ่งช่วยให้ "เปแอสเช" กลับมาคว้าแชมป์ลีกเมืองน้ำหอมเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี
อดีตดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และ ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว "บีบีซี" ว่า "ผมต้องขอขอบคุณ เปแอสเช ที่ให้โอกาสผมในการค้าแข้งต่อ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่จะยุติอาชีพของตัวเองในการเล่นระดับสูงสุด"
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ วัย 38 ปี สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักเตะผู้ดีคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ใน 4 ประเทศ หลังจากที่เคยชูถ้วย พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา และเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ มาแล้ว รวมทั้งยังเคยได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) เมื่อปี 1997 อีกด้วย
ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ "หนุ่มเบ็คส์" เกิดขึ้นตอนอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1993-2003 โดยสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ส่วนในระดับชาติก้าวขึ้นไปติดทัพ "สิงโตคำราม" ครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 1996
credit : www.siamsport.co.th
[บทความผีแดง 2013-05-17] Byebye Beckham & เกียรติประวัติ & 13ลูกยิง+10เหตุการณ์ลืมไม่ลง & ขบวนคนดังยกย่องเบ็คส์
ปิดตำนานแบบไม่ทันตั้งตัวไปอีกหนึ่งเมื่อเดวิด เบ็คแฮมมิดฟิลด์พ่อลูกสี่ของปารีส แซงต์ แชร์กแมงได้ประกาศรีไทร์อย่างเป็นทางการแล้วยุติเส้นทางอาชีพค้าแข้งไว้เพียงเท่านี้
นับตั้งแต่ประเดิมสนามให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเมื่อสองทศวรรษก่อน ดาวเตะวัย 38 ปีก็กลายเป็นสตาร์ดาวเด่นในวงการฟุตบอลมาอย่างนาวนาน เป็นกัปตันทีมชาติ ติดธง"สิงโตคำราม"ไป 115 นัดและคว้าแชมป์ลีกได้อีก 4 ประเทศต่างกันไป
แม้ทางเปแอสเชจะพร้อมขยายสัญญาเขาเพิ่มออกไปอีกปี แต่ล่าสุดหลังมีข่าวหลุดรอดออกมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทางเบ็คแฮมก็ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาจะโบกมือลาจากเส้นทางค้าแข้งในสิ้นฤดูกาลนี้
"ผมขอบคุณเปแอสเชที่ให้โอกาสกับผมได้เล่นต่อไปแต่ผมรู้สึกว่ามันเป็นเวลาเหมาะสมที่ผมจะจบอาชีพค้าแข้งของผมแล้ว การยังเล่นในระดับสูงสุด"เบ็คแฮมเปิดใจ
"ถ้าคุณบอกผมว่าในตอนเป็นเด็กว่าผมจะได้เล่นให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทีมขวัญใจในวัยเด็กและคว้าแชมป์ให้ เป็นกัปตันอย่างภาคภูมิและลงสนามให้กับประเทศของผมเกินกว่า 100 นัดและยังเล่นให้กับทีมที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งหลาย ผมคงบอกคุณว่ามันเป็นเรื่องแฟนตาซีแล้ว ผมโชคดีที่ผมทำได้ตามความฝันเหล่านั้นให้เป็นจริง"
"ทุกวันนี้ หนึ่งในความสำเร็จที่ผมภูมิใจที่สุดคือการได้เป็นกัปตันทีมชาติของผมเอง"
"ผมรู้ว่าทุกครั้งที่ผมสวมใส่เสื้อสิงโตคำราม ผมไม่ได้ยืนอยู่ในแถวที่เต็มไปด้วยนักเตะยอดเยี่ยมเท่านั้น ผมยังเป็นตัวแทนแฟนๆทุกคนที่เป็นห่วงเป็นใยทีมประเทศพวกเขา"
เบ็คแฮมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 6 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัยและแชมเปี้ยนส์ลีกอีกสมัยกับ"ปิศาจแดง" เกล็น ฮอดเดิลเป็นคนมอบโอกาสให้เขาประเดิมทีมชาติในปี 1996 และมีเหตุการณ์ใบแดงอันโด่งดังในฟุตบอลโลกปี 1998 ก่อนกลายเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ที่ติดทีมชาติมากที่สุดคือ 115 นัด
"ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นตัวแทนอังกฤษในทั้งและนอกสนามเลย ผมอยากขอบคุณเพื่อนร่วมทีมผมทุกคน ผู้จัดการยอดเยี่ยมๆที่ผมได้เรียนรู้มาด้วยความปิติยินดี ผมยังอยากขอบคุณแฟนๆที่สนับสนุนผมและมอบความแข็งแกร่งให้ผมจนประสบความสำเร็จ"
เบ็คแฮมย้ายออกจากโอลด์ แทรฟฟอร์ดไปอยู่กับเรอัล มาดริดในซัมเมอร์ปี 2003 และคว้าแชมป์ลาลีก้าได้สำเร็จก่อนย้ายไปอยู่กับแอลเอ กาแลคซี่ที่ๆเขาคว้าแชมป์เอ็มแอลเอส คัพได้ด้วย
นอกจากนี้ยังเคยถูกยืมตัวไปค้าแข้งในอิตาลีกับเอซี มิลานอยู่สองครั้ง ก่อนมาอยู่กับเปแอสเชสโมสรสุดท้ายของเขาและเพิ่งคว้าแชมป์ลีกเอิงไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เบ็คแฮมบอกเพิ่มเติมว่า "ไม่มีอะไรจะเข้ามาแทนที่การได้เล่นฟุตบอลที่ผมรักได้แน่นอน ยังไงก็ตามผมรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นการผจญภัยครั้งใหม่และตื่นเต้นกับสิ่งที่รออยู่ข้างหน้าจริงๆ"
"ผมโชคดีที่ได้รับโอกาสมากมายมาตลอดเส้นทางอาชีพค้าแข้งของผมและตอนนี้ผมก็รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่ผมจะต้องมอบคืนไปแล้ว"
credit : www.soccersuck.com
ถึงวันอำลา!เบ็คส์ประกาศแขวนสตั๊ดหลังจบซีซั่น
เดวิด เบ็คแฮม มิดฟิลด์ซูเปอร์สตาร์ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรอภิมหาเศรษฐีแห่งศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ประกาศยืนยันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมาว่า ตัวเองจะแขวนสตั๊ดหลังจากจบฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่เพิ่งช่วยให้ "เปแอสเช" กลับมาคว้าแชมป์ลีกเมืองน้ำหอมเป็นครั้งแรกในรอบ 19 ปี
อดีตดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และ ลอสแองเจลิส แกแล็กซี่ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว "บีบีซี" ว่า "ผมต้องขอขอบคุณ เปแอสเช ที่ให้โอกาสผมในการค้าแข้งต่อ แต่ตอนนี้ผมรู้สึกว่า มันถึงเวลาเหมาะสมแล้วที่จะยุติอาชีพของตัวเองในการเล่นระดับสูงสุด"
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ วัย 38 ปี สร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักเตะผู้ดีคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้ใน 4 ประเทศ หลังจากที่เคยชูถ้วย พรีเมียร์ลีก, ลา ลีกา และเมเจอร์ลีก ซอคเก้อร์ สหรัฐฯ มาแล้ว รวมทั้งยังเคยได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) เมื่อปี 1997 อีกด้วย
ช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ "หนุ่มเบ็คส์" เกิดขึ้นตอนอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 1993-2003 โดยสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 6 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย ส่วนในระดับชาติก้าวขึ้นไปติดทัพ "สิงโตคำราม" ครั้งแรกเมื่อเดือนกันยายน ปี 1996
credit : www.siamsport.co.th