เนื้อหาข่าว
วัน นี้(15พ.ค. )กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ ขสมก.ดำเนินการตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางที่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถธรรมดาอีก 1.50 บาท ตลอดสายในทุกเส้นทาง เฉพาะช่วงเวลาการเดินรถตอนกลางคืนระหว่าง เวลา 23.00 - 05.00 น. โดยรถโดยสารธรรมดา (ครีมแดง) จากอัตราค่าโดยสาร 6.50 บาท ปรับเป็น 8 บาท และรถโดยสารธรรมดา (ครีมขาว) จาก 7.50 บาท ปรับเป็น 9 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ส่วนรถโดยสารปรับอากาศยังเก็บค่าโดยสารในอัตราเดิม เพื่อให้เกิดความสะดวกปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ ช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทาง และเป็นการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้น
http://www.dailynews.co.th/bkk/204756
จากเนื้อหาข่าว หลายๆ คนที่นั่งรถเมล์ อาจจะตกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าจะขึ้นค่ารถเพิ่มอีกทำไม และทำไมต้องขึ้น แค่นี้ยังไม่ทำให้ ปชช. ลำบากพออีกหรอ
เนื่องจากผมทำเว็บไซต์เกี่ยวกับรถเมล์ ขสมก. และรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผมจะขออธิบายให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันครับ
ผมเชื่อว่าหลายคนที่นั่งรถเมล์บ่อยๆ คงเข้าใจว่า ค่าโดยสารของรถเมล์นั้น จะเก็บราคาที่เท่ากัน ตลอดเวลา ไม่ว่านั่งรถเมล์เวลาไหน ก็น่าจะเก็บค่ารถในราคาที่เท่ากัน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเก็บค่ารถ ไม่ได้เก็บเท่ากันตลอดเวลา 24 ชม. นะครับ เขาจะแบ่งเป็นช่วงเวลาในการเก็บค่าโดยสาร
โดยเวลา
ช่วงที่ให้บริการปกติ (ตั้งแต่เวลา 05.00 - 23.00 น.) จะเก็บค่าโดยสารตามปกติ ตามที่ทุกๆ ท่านเคยจ่ายนั่นแหละครับ
แต่
ช่วงเวลากลางคืน (ตั้งแต่เวลา 23.00 - 05.00 น.) หรือภาษารถเมล์ เรียกว่า
"กะสว่าง" จะเก็บค่าโดยสารอีกราคานึง
โดยจะเก็บค่ารถเพิ่มจากราคาเดิม 1.50 บาท (เช่น ค่ารถ 6.50 + 1.50 = 8 บาท)
ค่ารถที่เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
จะเก็บเฉพาะรถเมล์ร้อน ทุกประเภทเท่านั้น สำหรับรถโดยสารปรับอากาศ ยังเก็บค่ารถตามปกติ ไม่มีการบวกเพิ่มครับ
และราคาที่เพิ่มขึ้น 1.50 บาท นั้น ไม่ได้เก็บเพิ่มเฉพาะ รถเมล์ ขสมก. อย่างเดียว ในส่วนของรถร่วมบริการ ก็อนุุญาตให้เก็บเพิ่ม 1.50 บาท ด้วยเช่นกัน
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเก็บค่าโดยสารเพิ่มในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากว่า ช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงนอกเวลาให้บริการปกติ การที่จัดหาพนักงาน มาให้บริการในช่วงเวลากลางคืนนั้น จะมีค่าใช้จ่ายในการจ้างงานเพิ่มขึ้น
(งานกะกลางคืน ค่าจ้างจะมากกว่า กะกลางวัน ซึ่งจะเป็นแบบนี้กับงานทุกประเภท)
แต่ทั้งนี้ จากข่าวที่ออกมา ทำให้ ปชช. ตกอก ตกใจ เป็นอย่างมาก ซึ่งผมจะขอชี้แจงว่า
การเพิ่มค่ารถเมล์ กะสว่าง อีก 1.50 บาท นั้น ขสมก. ดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสารนี้ มาก่อนจะมีประกาศ หรือมีข่าวนี้นานแล้ว และมีการจัดเก็บค่ารถในราคาดังกล่าว
"มานานกว่า 24 ปี แล้ว" ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ
แต่ที่ผมแปลกใจ คือ ทำไมต้องมาประกาศ ออกข่าวนี้ ทั้งๆ ที่ ขสมก. ก็เก็บราคานี้มานาน จนเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เพิ่งมาปรับราคาตอนนี้
ผมเชื่อว่า ปชช. ทั่วไป ไม่เคยนั่งรถเมล์ในช่วงกลางคืน จึงไม่รู้ว่า รถเมล์กะสว่าง เก็บราคานี้ พอมีข่าวออกไป ก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มค่ารถอีก 1.50 บาท จะไม่กระทบต่อค่ารถ ที่ให้บริการในเวลาปกติ (05.00 - 23.00 น.) ครับ (ราคาเดิม ไม่มีปรับเพิ่ม คนที่นั่งรถเมล์ไปทำงาน เช้า - เย็น สบายใจได้ครับ)
ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าโดยสารของรถเมล์ ขสมก. จาก 6.50 เป็น 8 บาท
วัน นี้(15พ.ค. )กลุ่มงานประชาสัมพันธ์ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) แจ้งว่า ตามที่คณะกรรมการบริหารกิจการองค์การ (บอร์ด) มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2556 เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ ขสมก.ดำเนินการตามมติคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางที่อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถธรรมดาอีก 1.50 บาท ตลอดสายในทุกเส้นทาง เฉพาะช่วงเวลาการเดินรถตอนกลางคืนระหว่าง เวลา 23.00 - 05.00 น. โดยรถโดยสารธรรมดา (ครีมแดง) จากอัตราค่าโดยสาร 6.50 บาท ปรับเป็น 8 บาท และรถโดยสารธรรมดา (ครีมขาว) จาก 7.50 บาท ปรับเป็น 9 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นี้ เป็นต้นไป ส่วนรถโดยสารปรับอากาศยังเก็บค่าโดยสารในอัตราเดิม เพื่อให้เกิดความสะดวกปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการ ช่วยให้ประชาชนมีทางเลือกในการเดินทาง และเป็นการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่เพิ่มขึ้น
http://www.dailynews.co.th/bkk/204756
จากเนื้อหาข่าว หลายๆ คนที่นั่งรถเมล์ อาจจะตกใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าจะขึ้นค่ารถเพิ่มอีกทำไม และทำไมต้องขึ้น แค่นี้ยังไม่ทำให้ ปชช. ลำบากพออีกหรอ
เนื่องจากผมทำเว็บไซต์เกี่ยวกับรถเมล์ ขสมก. และรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น ผมจะขออธิบายให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันครับ
ผมเชื่อว่าหลายคนที่นั่งรถเมล์บ่อยๆ คงเข้าใจว่า ค่าโดยสารของรถเมล์นั้น จะเก็บราคาที่เท่ากัน ตลอดเวลา ไม่ว่านั่งรถเมล์เวลาไหน ก็น่าจะเก็บค่ารถในราคาที่เท่ากัน
แต่ในความเป็นจริงแล้ว การเก็บค่ารถ ไม่ได้เก็บเท่ากันตลอดเวลา 24 ชม. นะครับ เขาจะแบ่งเป็นช่วงเวลาในการเก็บค่าโดยสาร
โดยเวลาช่วงที่ให้บริการปกติ (ตั้งแต่เวลา 05.00 - 23.00 น.) จะเก็บค่าโดยสารตามปกติ ตามที่ทุกๆ ท่านเคยจ่ายนั่นแหละครับ
แต่ช่วงเวลากลางคืน (ตั้งแต่เวลา 23.00 - 05.00 น.) หรือภาษารถเมล์ เรียกว่า "กะสว่าง" จะเก็บค่าโดยสารอีกราคานึง โดยจะเก็บค่ารถเพิ่มจากราคาเดิม 1.50 บาท (เช่น ค่ารถ 6.50 + 1.50 = 8 บาท)
ค่ารถที่เพิ่มขึ้น 1.50 บาท จะเก็บเฉพาะรถเมล์ร้อน ทุกประเภทเท่านั้น สำหรับรถโดยสารปรับอากาศ ยังเก็บค่ารถตามปกติ ไม่มีการบวกเพิ่มครับ
และราคาที่เพิ่มขึ้น 1.50 บาท นั้น ไม่ได้เก็บเพิ่มเฉพาะ รถเมล์ ขสมก. อย่างเดียว ในส่วนของรถร่วมบริการ ก็อนุุญาตให้เก็บเพิ่ม 1.50 บาท ด้วยเช่นกัน
ส่วนสาเหตุที่ต้องมีการเก็บค่าโดยสารเพิ่มในช่วงเวลากลางคืน เนื่องจากว่า ช่วงเวลาดังกล่าว เป็นช่วงนอกเวลาให้บริการปกติ การที่จัดหาพนักงาน มาให้บริการในช่วงเวลากลางคืนนั้น จะมีค่าใช้จ่ายในการจ้างงานเพิ่มขึ้น
(งานกะกลางคืน ค่าจ้างจะมากกว่า กะกลางวัน ซึ่งจะเป็นแบบนี้กับงานทุกประเภท)
แต่ทั้งนี้ จากข่าวที่ออกมา ทำให้ ปชช. ตกอก ตกใจ เป็นอย่างมาก ซึ่งผมจะขอชี้แจงว่า
การเพิ่มค่ารถเมล์ กะสว่าง อีก 1.50 บาท นั้น ขสมก. ดำเนินการจัดเก็บค่าโดยสารนี้ มาก่อนจะมีประกาศ หรือมีข่าวนี้นานแล้ว และมีการจัดเก็บค่ารถในราคาดังกล่าว "มานานกว่า 24 ปี แล้ว" ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ
แต่ที่ผมแปลกใจ คือ ทำไมต้องมาประกาศ ออกข่าวนี้ ทั้งๆ ที่ ขสมก. ก็เก็บราคานี้มานาน จนเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เพิ่งมาปรับราคาตอนนี้
ผมเชื่อว่า ปชช. ทั่วไป ไม่เคยนั่งรถเมล์ในช่วงกลางคืน จึงไม่รู้ว่า รถเมล์กะสว่าง เก็บราคานี้ พอมีข่าวออกไป ก็ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มค่ารถอีก 1.50 บาท จะไม่กระทบต่อค่ารถ ที่ให้บริการในเวลาปกติ (05.00 - 23.00 น.) ครับ (ราคาเดิม ไม่มีปรับเพิ่ม คนที่นั่งรถเมล์ไปทำงาน เช้า - เย็น สบายใจได้ครับ)